อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 17 วันที่ 26 ก.ค. 56

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 17 วันที่ 26 ก.ค. 56

“ไม่ต้อง คืนนี้คุณย่าจะอยู่ที่โดมทองของท่านเป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้ก็ต้องย้ายท่านไปที่วัดแล้ว พี่จะอยู่กับท่านเอง...พี่จะเอางานมาทำในนี้ อุษาอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าก่อนนะ เดี๋ยวพี่มา”

อุไรมองตามเจ้านายหนุ่มออกจากห้อง แล้วเหลือบมองไปยังร่างไร้วิญญาณของท่านผู้หญิงที่นอนห่มผ้าอยู่บนเตียงราวกับนอนหลับ พลันท่านลืมตาโพลงขึ้นมา อุไรตกใจแทบสิ้นสติโดดกอดอุษาหลับตาปี๋ ละล่ำละลักว่าท่านผู้หญิงลืมตามองเธอ อุษารำคาญดันตัวอุไรให้เข้าไปดูท่านใกล้ๆ ไม่เห็นจะมีอะไรผิดปกติ เธอกลัวจัดไม่กล้าดู พนมมือสวดมนต์สารพัดบทสวดที่จะนึกขึ้นได้ อุษาได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาใจ...


แสงแขกับโอบโดนผีคุณพลับพลึงหลอกหลอนตามคำเชื้อเชิญของท่านผู้หญิงสรรักษ์โดยมาปรากฏตัวอยู่บนหัวเตียง จ้องมองแสงแขเขม็ง เธอจะลุกหนีก็ลุกไม่ขึ้น จะร้องก็ร้องไม่ออก ได้แต่นอนตะลึงอยู่อย่างนั้น

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น อดิศวร์โทร.บอกข่าวร้ายให้พิณทอง รับรู้ เธอแสดงความเสียใจกับเขาด้วย

“แล้วพิณจะเรียนคุณพ่อคุณแม่ให้...เย็นนี้หรืออาจจะเป็นพรุ่งนี้ ครอบครัวพิณจะไปโดมทอง...ค่ะ...สวัสดีค่ะ พิณเป็นกำลังใจให้นะคะ” พิณทองวางสายแล้วหันไปแจ้งเรื่องนี้ให้พิชญ์กับคุณหญิงวัชรีที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารอยู่ด้วยรับทราบ...

ฝ่ายแสงแขอุตส่าห์แย่งถาดใส่อาหารเช้าที่อุษาเตรียมให้อดิศวร์ไปจากมือแล้วเอาไปให้เขาด้วยตัวเอง แต่เขากลับไม่อยากกิน เพราะกำลังเร่งรีบจะต้องนำคุณย่าไปไว้วัด เธอพยายามตื๊อให้เขากินอะไรก่อน แต่ไม่สำเร็จ ได้แต่มองตามอดิศวร์เดินจากไปอย่างหงุดหงิด ถือถาดใส่อาหารเช้ากลับมาที่ห้องตัวเอง

สักพัก โอบตามเข้ามาในห้อง ถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลว่า ถ้าวิรงรองเกิดเปิดโปงพวกเราขึ้นมาจะทำอย่างไรกันดี แถมยังมีผีคุณพลับพลึงตามมาหลอกพวกเราอีก แสงแขสั่งให้เธอหุบปาก

“แกอย่าเที่ยวพูดไปนะ เดี๋ยวคนจะสงสัยว่าคุณย่าน้อยมาหลอกเราทำไม”

“คุณแขขา นี่แสดงว่าผีคุณพลับพลึงเป็นพวกเดียวกับแม่วิรงรองใช่ไหมคะ...ตายแล้วเรามิถูกหักคอตายหรือคะ ท่านผู้หญิงที่ว่าแน่ๆยังไม่รอด แล้วอย่างคุณแขกับโอบจะเหลือหรือ”

แสงแขสั่งห้ามโอบโวยวาย แล้วไล่ให้เอาชุดดำของเธอไปรีดให้หน่อย อีกสักครู่เธอต้องตามไปที่วัด ไม่อย่างนั้นจะมีคนสงสัย โอบกลัวจัดขอตามไปด้วย

ooooooo

กว่าพิชญ์จะมีโอกาสได้ขออนุญาตปรางคุยกับวิรงรองตามลำพัง ก็เป็นวันที่เขากับพิณทอง และพ่อแม่ของเธอกำลังจะกลับกรุงเทพฯ เขาแสดงความยินดีกับเธอด้วยที่จะแต่งงานกับอดิศวร์ในอีกสามเดือนข้างหน้า เธอเตือนเขาห้ามลืมมาร่วมงานเด็ดขาด

“ผมต้องมากับพิณอยู่แล้ว ผมไปล่ะ ป่านนี้ทุกคนคงพร้อมแล้ว”

วิรงรองตามไปส่งพิชญ์กับครอบครัวที่รถจนแล่นลับสายตา อดิศวร์โอบไหล่เธอเข้ามาใกล้อย่างรักใคร่ แล้วพากันเดินเข้าบ้าน แสงแขซึ่งแอบมองมาจากระเบียงชั้นบน เห็นภาพบาดตาถึงกับกัดปากแน่นน้ำตาไหลพราก จ้ำพรวดๆเข้าไปในห้องของท่านผู้หญิงสรรักษ์ด้วยความหงุดหงิด

“คุณย่าไม่แน่จริง นังวิรงรองมันกำลังจะแต่งงานกับคุณลบเท่ากับคุณย่าแพ้ซ้ำซาก แพ้คุณย่าน้อยพลับพลึงแล้วก็มาแพ้วิรงรอง สมน้ำหน้า...อยากไม่มีน้ำยา คนที่คุณย่ารักถึงได้ถูกแย่งไปหมด แต่แขไม่ใช่พวกขี้แพ้ แขจะไม่มีวันยอมให้คนที่แขรักถูกแย่งไปเด็ดขาด”

มีเสียงใครบางคนหัวเราะเบาๆดังขึ้นจากมุมมืดของห้อง แสงแขประกาศก้องว่า ทำแบบนี้แล้วคิดว่าตนจะกลัวหรือ ตอนคุณย่ามีชีวิตอยู่ยังไม่กลัว นับประสาอะไรจะกลัวซากของท่าน และยืนยันจะต้องแต่งงานกับอดิศวร์ให้ได้ เสียงหัวดังขึ้นอีก แทนที่จะกลัวแสงแขกลับหัวเราะแข่งด้วยเสียงลั่นไปหมด ทันทีที่เธอออกจากห้อง เงารางๆของท่านผู้หญิงสรรักษ์ปรากฏขึ้นตรงมุมมืดนั้น...

ฝ่ายโอบแปลกใจเมื่อเห็นแสงแขออกมาจากห้องท่านผู้หญิงสรรักษ์ ถามว่าเข้าไปในนั้นไม่กลัวผีหรือ เธอท้าทาย ต่อให้ยกมาเป็นกองทัพผีก็ไม่กลัว โอบมองซ้ายมองขวาก่อนจะกระซิบ

“คุณแขคะ แล้วแม่วิรงรองทำไมไม่พูด...”

“แกอยากให้มันพูดหรือ” แสงแขไม่รอคำตอบ เดินยิ้มแสยะออกไป โอบรีบตาม ขณะที่สองนายบ่าวกำลังจะไปที่ห้องของแสงแขเจอวิรงรองเดินสวนมาพอดี นัยน์เธอจับต้องที่ทั้งคู่เขม็ง โอบหลบสายตาอย่างมีพิรุธ

“ระยะหลังๆมานี่ เราไม่ค่อยได้พบกันเลยนะคะคุณแสงแข”

“แกหาว่าฉันหลบหน้าแกหรือ” แสงแขแหวใส่ทันที วิรงรองทักท้วงว่ายังไม่ได้พูดสักคำว่าหลบหน้า

“ไม่มีจริงๆด้วยค่ะ” โอบพูดไม่ทันคิด แสงแข มองเธออย่างไม่พอใจ แล้วหันไปท้าทายวิรงรองถ้าอยากจะฟ้องอดิศวร์หรือแจ้งตำรวจก็เชิญตามสบาย ตนไม่กลัวเพราะชีวิตตนไม่เหลืออะไรอีกแล้วสะบัดหน้าเดินจากไปอย่างไม่ยี่หระ โดยมีโอบตามไปติดๆ ทันทีที่ถึงห้องตัวเอง แสงแขตบหน้าโอบที่ตามเข้ามาจนเซถลา ชี้หน้าอย่างเกรี้ยวกราดว่าคิดจะทรยศตนใช่ไหม แล้วคว้าคอเธอดันไปติดผนังห้อง

“โอบกลัวแล้วค่ะ...คุณแขขา...โอบกลัวแล้ว...โอบจะไม่ทรยศคุณแข อย่าทำอะไรโอบเลยค่ะ” โอบหายใจติดๆขัดๆ แสงแขจ้องหน้าเธออย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อก่อนจะปล่อยมือ...

ตกดึก แสงแขฝันว่าได้ยินเสียงใครบางคนเรียกชื่อ ตนเองดังฝ่าความเงียบสงัด หญิงสาวงัวเงียลืมตาขึ้นมองตามเสียงเห็นผีท่านผู้หญิงสรรักษ์ยืนหน้าตาถมึงทึงอยู่ในมุมสลัวของห้อง ร้องบอกด้วยเสียงดังลั่น

“ฆ่ามัน อย่าปล่อยให้มันแย่งตาลบไปได้ ฆ่ามัน”

แสงแขสะดุ้งตื่น เอื้อมมือไปเปิดโคมไฟหัวเตียง กวาดตามองไปรอบๆอย่างหวาดหวั่นแต่ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ เธอถอนใจโล่งอกที่เป็นเพียงแค่ความฝัน แล้วขยับตัวพิงพนักหัวเตียง พลันมีเสียงท่านผู้หญิงสรรักษ์ดังขึ้นอีกครั้ง คำพูดเหมือนในฝันไม่มีตกหล่น แววตาของแสงแขเป็นประกายเหี้ยมขึ้นทันทีราวกับถูกสะกด

ooooooo

โอบเหมือนวัวสันหลังหวะ พอถูกวิรงรองแกล้งทักเข้าหน่อยก็วิ่งหน้าตื่นไปหาแสงแข ถามอย่างร้อนรนว่าทำไมป่านนี้วิรงรองถึงยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แสงแขแหวใส่ทันทีว่าอยากจะเข้าคุกใช่ไหมถึงได้อยากให้นังนั่นพูด โอบปฏิเสธเสียงสั่นว่าเปล่า

“เปล่าก็อย่าทำบ้าบอแบบนี้อีก ไสหัวไป...แล้วถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉัน” แสงแขดันโอบออกจากห้องปิดประตูใส่หน้า ครุ่นคิดหาทางตัดไฟแต่ต้นลมก่อนที่วิรงรองจะปูดว่าเธออยู่เบื้องหลังแผนอุ้มครั้งนั้น...

คืนนี้เป็นคืนวันเพ็ญ โดมทองสว่างนวลด้วยแสงจันทร์ แต่ยังคงมีหมอกบางๆปกคลุมไปทั่ว วิรงรองกับอดิศวร์นั่งอยู่ที่โต๊ะสนามหน้าคฤหาสน์ ทอดสายตาไปยังห้องใต้โดมเหมือนรอคอยอะไรบางอย่าง หลังจากนั่งเงียบๆกันมาพักใหญ่ อดิศวร์ฟันธงว่าคุณปู่กับคุณย่าน้อยคงไม่มาปรากฏตัวอีกแล้ว เพราะในที่สุดพวกท่านก็ได้อยู่ด้วยกันเหมือนกับเราสองคนที่กำลังจะแต่งงานกัน

“วกเข้ามาจนได้ ไม่เห็นจะเหมือน” วิรงรองมองค้อนอย่างน่าเอ็นดู

“ก็เหมือนตรงที่เราได้อยู่ด้วยกันในที่สุดไง”

พลันมีเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น ท่านเจ้าคุณสรรักษ์บังคับรถม้าตรงเข้ามาโดยมีคุณพลับพลึงนั่งอยู่เคียงข้างแล้วเคลื่อนผ่านหน้ากับอดิศวร์กับวิรงรองหายเข้าไปในสายหมอก หญิงสาวเอนตัวซบหน้าอกอดิศวร์ยิ้มอย่างมีความสุขในที่สุดท่านทั้งสองก็สมหวัง หลังจากเฝ้ารอกันและกันมาเนิ่นนาน

ooooooo

เช้าตรู่วันถัดมา วิรงรองต้องแปลกใจที่เห็นแสงแขกำลังทำซุปอยู่ในครัว แถมบอกว่าทำให้ท่านผู้หญิงสรรักษ์ เธอไม่อยากยุ่งด้วยหันหลังจะไป แสงแขปรี่เข้าไปกระชากแขนไว้ ตะคอกใส่ว่าอย่านึกว่าตนจะสำนึก บุญคุณที่เธอไม่เล่าให้ใครฟังเรื่องที่ตนร่วมมือกับคุณย่าหลอกเธอขึ้นไปขังไว้บนยอดโดม วิรงรองสะบัดแขนออก

“ฉันก็ไม่ได้หวังว่าคุณจะมาสำนึกอะไรหรอก แต่ที่ตัดสินใจไม่พูดก็เพราะเห็นว่าเกิดเรื่องร้ายๆในโดมทองมามากพอแล้ว อีกอทย่าง คุณเป็นน้องของพี่อุษา ฉันไม่อยากให้พี่อุษาเสียใจ ส่วนคุณจะนึกอย่างไรก็ช่างคุณ” วิรงรองพูดจบ ผละจากไป แสงแขเข่นเขี้ยวด้วยความแค้น ประกาศลั่นถ้าโลกนี้มีตนก็ต้องไม่มีคนชื่อวิรงรอง...

ด้านวิรงรองเดินมาเจออุษาพอดี จึงเล่าเรื่องที่แสงแขบอกว่ากำลังทำซุปให้ท่านผู้หญิงสรรักษ์ที่ตายไปแล้วฟัง และแนะให้ลองปรึกษากับอดิศวร์หาทางพาแสงแขไปรักษา อุษาขอร้องวิรงรองอย่าบอกเรื่องนี้กับเขา เธอไม่อยากสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้เขาอีก และที่สำคัญเธอปรึกษาเรื่องนี้กับพันธ์สูรย์แล้ว

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 17 วันที่ 26 ก.ค. 56

ละครเรื่อง โดมทอง บทประพันธ์โดย วราภา
ละครเรื่อง โดมทอง บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
ละครเรื่อง โดมทอง กำกับการแสดงโดย : นนทนันท์ ธัญญาสิริทรัพย์
ละครเรื่อง โดมทอง ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง โดมทอง แนวละคร : ชีวิต ลึกลับ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง โดมทอง ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ