อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 17 วันที่ 22 ก.ค. 56

อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 17 วันที่ 22 ก.ค. 56

หนึ่งเดือนผ่านไป ผู้คนยังคงพูดถึงพรายพิฆาตและนักสู้มหากาฬอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าพวกเขาจะเงียบหายไปแล้วก็ตาม...

บางกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่าจุดประสงค์ของพรายพิฆาตคือการสร้างโลกใหม่ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการสูญเสียแต่มันไม่ใช่การกระทำที่ชั่วร้าย สังคมไทยยังมีความหวัง ยังมีคนดีๆอีกมากที่พร้อมจะดูแลโลกนี้ให้ดีขึ้น เพียงแต่ว่าเรายังขาดฮีโร่ที่จะเป็นศูนย์รวมจิตใจ แต่ไม่ใช่นักสู้มหากาฬที่ฆ่าคนตายเป็นเบือ เพราะมันผิดกฎหมาย

สารวัตรสิงหาเห็นด้วยว่านักสู้มหากาฬไม่ใช่ฮีโร่และจ้องจะจับเขาดำเนินคดีหากรวบรวมพยานหลักฐานได้ ณัฐชาฟังแล้วไม่พอใจแต่ไม่แสดงอาการ เธอตัดสินใจขอลาออกจากอาชีพตำรวจแต่ผู้กำกับเมธาไม่อนุมัติ ให้ได้แค่ลาพักผ่อน


วันเดียวกันที่บริษัทบลูฟินิกซ์ซึ่งเปิดดำเนินกิจการอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง ฤทธิ์หรือโทมัสถูกนักข่าวรุมล้อมสัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่ได้เป็นเจ้าของบริษัทนี้โดยสมบูรณ์

“ต้องขอบคุณมาดามหลิว คุณอาผู้ล่วงลับของผมครับที่ท่านวางใจให้ผมรับตำแหน่ง”

“แล้วที่บริษัทต้องปิดกิจการก่อนหน้านี้เพราะลือว่ามีปัญหากับพรายพิฆาต คุณโทมัสมีความเห็นยังไงครับ”

“บริษัทของเราขายเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์นะครับ เราไม่เคยอยากมีปัญหากับใคร”

“แล้วที่ลือกันว่าคุณคือนักสู้มหากาฬล่ะคะ เป็นความจริงรึเปล่า”

ฤทธิ์ชะงักนิดหนึ่งก่อนหันไปมองหน้านักข่าวสาวคนนั้นพร้อมกับส่งตาหวานให้เธอ “นักสู้มหากาฬผมไม่รู้จักครับคุณนักข่าว ชีวิตผมเป็นได้อย่างเดียวก็คือนักรักมหาเสน่ห์...แล้วเจอกันครับทุกคน ขอบคุณที่ให้ความสนใจ ผมขออย่างเดียวถ้ารูปถ่ายไม่หล่ออย่าเอาออกสื่อนะครับ”

ฤทธิ์ยิ้มให้นักข่าวอย่างเป็นกันเองก่อนจะปลีกตัวเข้าไปในอาคารเพื่อประเมินร่างกายของตัวเองด้วยคอมพิวเตอร์จำลองความทรงจำของมาดามหลิวโดยใช้เลเซอร์สแกนร่างกายและสรุปผลได้ว่าสมบูรณ์หกสิบสามเปอร์เซ็นต์ ไวรัสยังมีอยู่ในกระแสเลือดและกล้ามเนื้อบางส่วน นั่นแสดงว่าเวลาที่เหลืออยู่ของเขากำลังนับถอยหลัง

“คุณมีเวลาอีกแค่เดือนเดียว ฉันเสียใจด้วย”

“ไม่จำเป็น เพราะคุณไม่ใช่มาดามหลิว แต่เป็นแค่คอมพิวเตอร์ที่มีความทรงจำของเธอ”

“คุณพูดประชดฉัน ตอนอยู่ข้างนอกคุณเสแสร้งทำตัวมีความสุขแปลว่า...คุณกลัว”

“ผมเป็นทหาร ผมไม่กลัวตาย แต่ผมเป็นห่วงคนที่ผมรักว่าพวกเขาจะเป็นยังไงบ้าง”

“ข้อมูลอย่างเดียวที่ฉันมีคือใช้เวลาที่เหลือให้เต็มที่ให้ความทรงจำดีๆได้คงอยู่ต่อไป”

ฤทธิ์คิดหนัก นึกถึงณัฐชาขึ้นมาจับจิต...ขณะนั้นณัฐชากำลังติดต่อประชาสัมพันธ์อยู่ชั้นล่างเพื่อขอพบโทมัส แต่แล้วหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าเหมือนโซเฟียราวกับคนเดียวกันก็ปรากฏตัวจนหมวดสาวตะลึง

“ดิฉันลิซ่าค่ะ เป็นทนายและตัวแทนของมาดามหลิว ยินดีที่ได้รู้จัก”

หลังจากทักทายกันแล้วถึงรู้ว่าลิซ่าเกิดจากการโคลนนิ่งรุ่นเดียวกับโซเฟียและปกติเธอดูงานให้มาดามหลิวที่ต่างประเทศจึงไม่ค่อยได้กลับมาเมืองไทย...แล้ว

ลิซ่าก็นำพาณัฐชาไปพบฤทธิ์ที่กำลังรอเธออยู่ ชายหนุ่มเตรียมสัมภาระเพื่อพาเธอไปต่างจังหวัดโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาถ้าจะออกเดินทางกันทันทีเลย เพราะถึงยังไงณัฐชาก็หยุดงานยาวอยู่แล้ว

ทั้งคู่ไปพักที่รีสอร์ตและเที่ยวเล่นกันอย่างสนุกสนาน ทุกนาทีผ่านไปอย่างมีความสุข...สุขที่ได้อยู่เคียงข้างกันตลอดเวลาไม่ว่ายามหลับหรือยามตื่น แต่อยู่ๆฤทธิ์ก็ถามเธอขึ้นว่า

“ถ้าเลือกได้ คุณจะอยากเป็นอมตะรึเปล่า”

“เหมือนกรณ์กับพรายพิฆาตงั้นเหรอ”

“นั่นไม่ใช่ชีวิตคน ฉันพอใจจะเป็นแบบนี้มากกว่า”

“ถึงแม้ว่ามันจะต้องลงเอยด้วยการพลัดพราก?”

ณัฐชาใจหายวาบ สวมกอดเขาแน่น รำพึงว่ามันยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่เหรอ?

“ยัง...ยังไม่ใช่ตอนนี้” ฤทธิ์ตอบเสียงแผ่ว...พอเห็นเธอหันไปง่วนกับโทรศัพท์มือถือจึงปลีกตัวเข้ามาในห้องน้ำพร้อมเข็มฉีดยา เขาปลดกระดุมเสื้อออกเพื่อดูร่องรอยของไวรัสที่กำลังแผ่ซ่านทั่วบริเวณแผงอกแล้วทิ่มเข็มฉีดยาระงับอาการปวดลงไป

ณัฐชาเช็กเว็บไซต์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือและเจอภาพข่าวของไอริณได้เล่นหนังที่เมืองนอก เธอดีใจมากร้องเรียกโทมัสให้มาดูด้วยกัน ฤทธิ์รับปากเดี๋ยวออกไป เนื่องจากเขาต้องรอให้ยาออกฤทธิ์เสียก่อนร่องรอยของไวรัสถึงจะค่อยๆจางหาย

คืนนั้น หลังจากณัฐชาหลับแล้ว ฤทธิ์สังเกตเห็นแสงสว่างบางอย่างภายนอก เขาลุกออกจากห้องเดินไปหน้ารีสอร์ตและพบกายทิพย์ของลูกสาวพ่อค้ายาเสพติด

“พรายพิฆาต...”

“ท่าทางคุณไม่ตื่นเต้นเลยนะ ที่ต้องตาย”

“ผมตายมาสองครั้งแล้ว มีครั้งที่สามก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน”

“ฉันรู้ว่าห้องแล็บของมาดามหลิวผลิตวัคซีนเพื่อช่วยชีวิตคุณ แต่เชื่อเถอะไม่มีอะไรหยุดไวรัสได้ นอกจากพลังของฉัน”

“ถ้าจะยื่นเงื่อนไขเดิมอีกล่ะก็ คุณก็น่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว”

“ฉันรู้ แต่ฉันแค่ไม่อยากเชื่อว่าจะเอาชนะคุณไม่ได้”

“ถึงตายผมก็ไม่ยอมก้มหัวให้คุณ”

“คุณนี่แปลกจริงๆ คิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่หรือไง”

“เรื่องนั้นผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่าโลกนี้ต้องมีใครสักคนที่ยืนหยัดต่อสู้กับคุณ”

“พูดดีไปเถอะ ฉันเห็นนิมิตภาพการตายของคุณกับคนที่คุณรัก ฉันจะคอยดูว่าถึงตอนนั้นเมื่อไหร่คุณจะปากแข็งอีกรึเปล่า...สมุนที่เหลือของกรณ์กำลังจะมาที่นี่”

ฤทธิ์ใจหายวาบ วิ่งกลับห้องพักโดยไม่สนใจกายทิพย์ของพรายพิฆาตที่เลือนหายไป...เขาเข้ามาปลุก

ณัฐชาบอกว่าเราต้องไปจากที่นี่ แต่ไม่ทันเสียแล้ว สมุนของกรณ์สี่คนบุกเข้ามายิงฤทธิ์ล้มลง ณัฐชาตั้งหลักยิงตอบโต้ก่อนจะถลามาประคองฤทธิ์ที่เลือดเต็มตัวไปหมด

พรายพิฆาตอยู่ในเงามืดเฝ้ามองภาพนั้นอย่างขุ่นมัว “ฉันกำลังเฝ้าดูจุดจบของผู้ชายคนนั้น คนที่บอกว่าจะไม่ก้มหัวให้กับความชั่วช้าใดๆ ฉันไม่เคยเชื่อว่าโลกนี้จะมีวีรบุรุษ เพราะเมื่อถึงจุดนึงมนุษย์ทุกคนจะต้องเห็นแก่ตัว แม้แต่ฤทธิ์ ราวี หรือนักสู้มหากาฬก็จะต้องวิงวอนฉัน ขอให้ฉันช่วยคนที่ตัวเองรัก เขาต้องยอมสยบให้ฉัน”

แล้วกายทิพย์ของพรายพิฆาตก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าฤทธิ์ที่เห็นเพียงคนเดียว ขณะที่สมุนของกรณ์เดินกุมแผลโซซัดโซเซมาเพื่อจ่อยิงฤทธิ์กับณัฐชา...ทั้งคู่กอดกันแน่นราวกับจะไม่พรากจากกันไม่ว่าจะเป็นหรือตาย พรายพิฆาตเห็นแล้วไม่สบอารมณ์ คำรามลั่นเมื่อเห็นทั้งคู่ถูกสมุนกรณ์ยิงต่อหน้าต่อตา

“ไอ้โง่...แกทำอะไรลงไป” ขาดคำก็ยกฝ่ามือปล่อยพลังระเบิดร่างสมุนของกรณ์จนแหลกกระจาย ก่อนหันมาดูฤทธิ์ที่กำลังจะขาดใจโดยมีณัฐชาในอ้อมแขน “ทำไมถึงไม่ยอมแพ้ ทำไมถึงไม่ยอมสยบให้พรายพิฆาต ทำไมไม่ยอมรับว่าโลกนี้หมดสิ้นความหวัง ทำไมไม่ยอมเชื่อฉันว่าโลกใบนี้สมควรถูกทำลาย...ทำไม!!!”

เสียงของพรายพิฆาตกึกก้องไปทั่วผืนป่า ก่อนจะแผ่วลงมาอย่างทำใจยอมรับ

“ฉันไม่เคยเชื่อมาก่อนว่าโลกนี้จะมีวีรบุรุษที่แท้จริง จนกระทั่งวันหนึ่ง...วันที่ฉันเริ่มรู้สึกว่าบางทีโลกนี้อาจจะมีความหวังเหลืออยู่ หากแต่มันถูกซ่อนไว้ในหัวใจของใครบางคน”

เช้าวันใหม่ ฤทธิ์ลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ภายในห้องพักของรีสอร์ต โดยมีณัฐชานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง

“เรายังไม่ตาย...” ฤทธิ์พึมพำอย่างเหลือเชื่อ

“พรายพิฆาตช่วยเราเอาไว้...แต่เพื่ออะไร”

ฤทธิ์ส่ายหน้าไม่อยากคิดถึงเรื่องนั้นในตอนนี้ เขาดึงณัฐชาเข้ามากอดทั้งน้ำตาซึมๆ ทำเอาณัฐชาตกใจถามเขาว่าร้องไห้เหรอ?

“ผมไม่เคยกลัวตายณัฐชา แต่สิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดก็คือต้องไปจากคุณ”

ณัฐชาแค่นึกตามก็ร้องไห้ออกมา...หนุ่มสาวสวมกอดกันกลมด้วยความรัก ท่ามกลางเสียงพูดของพรายพิฆาตที่ทั้งคู่ไม่ได้ยิน

“เวลายังคงนับถอยหลังต่อไป โลกใบนี้จะไม่ถูกทำลาย ตราบเท่าที่มันยังมีความรักและความหวังเหลืออยู่ ตราบเท่าที่หัวใจของผู้คนยังเปี่ยมเมตตาและศรัทธาต่อสิ่งที่ดีงาม แล้วสักวัน...ฉันจะกลับมา!!”

ooooooo

อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 17 วันที่ 22 ก.ค. 56

บทประพันธ์โดย : ณพุทธ สุศรีฯ
บทโทรทัศน์โดย : ณพุทธ สุศรีฯ
กำกับการแสดงโดย : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ผลิตโดย : บริษัท มุมใหม่ จำกัด
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ