อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 11 วันที่ 8 ก.ค. 56

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 11 วันที่ 8 ก.ค. 56

ครู่ต่อมา อดิศวร์เข็นรถพาท่านผู้หญิงสรรักษ์กลับถึงห้องแล้วช่วยประคองไปที่เตียง มีอุษาตามมาช่วยดูแล ท่านผู้หญิงสรรักษ์ยังไม่ยอมรามือจะหาคนรับผิดชอบเรื่องหน้าต่างห้องใต้โดมเปิดให้ได้ สั่งให้หลานชายสุดที่รักไปตามนังพลับพลึงมา ท่านรู้ว่าต้องเป็นฝีมือนังนั่นที่คิดจะกลั่นแกล้งให้ท่านกลัว อดิศวร์อยากรู้ว่าห้องนั้นมีอะไรกันแน่ถึงทำให้คุณย่ากลัวได้ขนาดนี้ ท่านไล่ให้ไปถามนังพลับพลึงที่เขาพามาเอาเอง

อดิศวร์นิ่งคิดอยู่อึดใจ ก่อนจะตัดสินใจพูด “ผมว่าจะทำบุญบ้าน ระยะหลังๆมานี้ คุณย่าดูออดๆแอดๆ บางครั้งก็หงุดหงิด ถ้าได้ทำบุญบ้านอะไรๆอาจจะดีขึ้น คุณย่าจะว่าอย่างไรครับ”


“ก็ดีเหมือนกัน ผีมันกลัวพระ มันจะได้เตลิดไปไกลๆ” ท่นผู้หญิงสรรักษ์ยิ้มเหี้ยม

ooooooo

อดิศวร์จัดงานทำบุญบ้านขึ้นอย่างรวดเร็วทันใจ หลังจากถวายภัตตาหารเพลและพระสงฆ์สวดมนต์ให้พรเรียบร้อย ท่านเจ้าอาวาสจะพรมน้ำมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลให้ทั่วทั้งบ้าน อดิศวร์สบช่องขออนุญาตคุณย่าให้ท่านเจ้าขึ้นไปพรมน้ำมนต์บนห้องใต้โดมด้วยเลย ท่านร้องห้ามเสียงหลงอ้างว่าห้องนั้นมีแต่ความชั่วร้าย

“ถ้าโยมคิดอย่างนั้นก็ยิ่งต้องทำให้ความชั่วร้ายหายไป” ท่านเจ้าอาวาสแนะนำ

ท่านผู้หญิงสรรักษ์ยืนกรานห้ามใครเปิดห้องนั้นเด็ดขาด รีบตัดบทสั่งให้อดิศวร์ไปตามนายสมมาพาพระกลับวัด แล้วยกมือไหว้ขอประทานโทษท่านเจ้าอาวาสที่ไม่อาจทำตามคำแนะนำได้...

ขณะวิรงรองนั่งน้อยใจอยู่ในห้องเพียงลำพังที่เจ้าของบ้านไม่ยอมให้ไปร่วมงานบุญ อุไรยกถาดใส่อาหารขึ้นมาให้ เธอถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ขอบใจอุไรมากที่ยังมีแก่ใจคิดถึง เธอทั้งๆ คนอื่นเห็นเธอไม่มีตัวตน อุไรแก้ตัวแทนอดิศวร์ที่ไม่ได้ชวนวิรงรองลงไปร่วมงานทำบุญเพราะท่านผู้หญิงสรรักษ์อยู่ในงาน

“ในเมื่อท่านผู้หญิงรังเกียจวิ คุณอดิศวร์ก็ไม่ควรทำอย่างนี้” วิรงรองตัดพ้อทั้งน้ำตา

“คุณลบรักคุณวิค่ะ”

วิรงรองมั่นใจว่าอดิศวร์ประกาศหมั้นกับเธอก็เพราะกลัวเธอจะไปแย่งสามีหลานสาวของเขาต่างหาก อุไรปลอบว่าอย่าคิดมาก ตนอยู่โดมทองมานานมากพอที่จะรู้ดีว่าอดิศวร์ไม่เคยรักใคร่ไยดีผู้หญิงคนไหนมาก่อนขนาดแสงแขที่แสดงออกอย่างเปิดเผยตลอดเวลาว่ารัก เขา เขาก็ไม่เคยมีท่าทีด้วย แสงแขถึงได้อิจฉาวิรงรอง

“ป้าอุไรยังไม่รู้ลึก รู้จริงเท่าวิหรอก”

อุไรไม่มีเวลามาเถียงด้วย เพราะต้องลงไปช่วยดูแลเก็บข้าวของข้างล่าง บอกวิรงรองให้กินอาหารได้แล้ว เธอว่างเมื่อไหร่ค่อยมาเถียงกันต่อ ระหว่างอุไรเดินมาถึงโถงบันไดด้านบน เจออดิศวร์เดินสวนขึ้นมา ตรงไปทางห้องวิรงรอง เธอเหลียวตามพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อดิศวร์หันขวับมามอง อุไรหุบยิ้มแทบไม่ทัน...

ครู่ต่อมา อดิศวร์แจ้งกับวิรงรองว่าพรุ่งนี้เราสองคนจะไปพบแม่ของเธอที่กรุงเทพฯด้วยกัน เขาจะไปสู่ขอเธออย่างเป็นทางการ ไม่เช่นนั้นจะดูเหมือนเราหนีตามกัน วิรงรองยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้อยากจะหมั้นกับเขา

“อยากหรือไม่อยากก็หมั้นกันแล้ว...6 โมงเช้า เตรียมตัวให้พร้อม” อดิศวร์พูดจบผละจากไป...

บุญที่ทำในตอนเช้าไม่ได้ช่วยให้บาปในใจท่าน ผู้หญิงสรรักษ์บรรเทา ตกดึกท่านฝันว่าเดินตามเสียงเพลงนางครวญมาถึงหน้าประตูโถงใหญ่ เสียงเพลงหยุดเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะแทนที่ ท่านผลักประตูเข้ามาเห็นพวกวงมโหรีซึ่งหน้าตาซีดเซียวกำลังหยอกล้อกับคุณพลับพลึง ทุกคนหยุดกึกเหลียวมองท่านเป็นตาเดียวกัน ท่านผู้หญิงสรรักษ์ไม่พอใจไล่ตะเพิดทุกคนไปจากบ้านของตน คุณพลับพลึงอ้างว่าท่านพวกนี้เข้ามาเอง

“นังพลับพลึง นึกหรือว่าฉันจะกลัวพวกแก” ท่าน ผู้หญิงไม่พูดเปล่าชี้หน้าจะเอาเรื่อง คุณพลับพลึงแสยะยิ้ม เนื้อหนังที่เคยเป็นใบหน้าค่อยๆ ยุบลงเหลือแต่เนื้อเน่าเฟะหนอนไต่ยั้วเยี้ย ผู้ร่วมวงคนอื่นๆ ก็เช่นกัน คุณพลับพลึงยื่นมือที่เต็มไปด้วยหนอนออกมาชวนท่านผู้หญิงสรรักษ์มาอยู่ด้วยกัน ท่านกรีดร้องลั่น ปัดมือวุ่นวาย อุษานอนหน้าเตียงตกใจตื่นรีบลุกขึ้นมาเขย่าแขนคุณย่าให้รู้สึกตัว ถามว่าเป็นอะไรไป

“อีนังพลับพลึงกับพวกของมัน...อุตส่าห์เอาพระมาสวดไล่แล้วยังไม่ยอมไปอีก”

อุษาปลอบว่าไม่มีใคร คุณย่าฝันร้ายไปเท่านั้น ท่านยืนยันว่ามี พวกนั้นอยู่ที่ห้องโถงใหญ่แล้วลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉงด้วยพลังแค้น อุษาเห็นท่าไม่ดีบอกให้ท่านนั่งรถเข็นเธอจะพาไปเอง ไม่นานนัก ท่านผู้หญิงสรรักษ์กับอุษามาถึงห้องโถงใหญ่ ท่านเห็นรูปนังผีพลับพลึงแขวนอยู่อีกด้านหนึ่งของรูปท่านเจ้าคุณสรรักษ์ ใบหน้าของเธอเหมือนจะยิ้มเยาะมาให้ จึงสั่งให้อุษาปลดรูปนังผีนั่นลงมา แล้วฟาดกับที่วางรถเข็นกระจกแตกกระจาย ท่านผู้หญิงสรรักษ์ยังไม่หนำใจ กระชากรูปออกมาฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“นังพลับพลึงแกไม่มีวันชนะฉัน” ท่านผู้หญิงสรรักษ์หัวเราะราวกับคนบ้าแข่งกับเสียงฝนตกฟ้าร้องด้านนอก แล้วหันมองรูปท่านเจ้าคุณ “รูปนังพลับพลึงไม่มีแล้ว มีแต่รูปคุณพี่กับดิฉัน เราจะอยู่คู่กันตลอดไป”

ooooooo

ความหวังที่จะได้กลับบ้านของวิรงรองเป็นอันต้องพังทลาย เพราะอดิศวร์ต้องอยู่ดูแลท่านผู้หญิงสรรักษ์ที่อาละวาดหนักจนล้มป่วย วิรงรองถามอุไร ซึ่งเป็นคนมาแจ้งข่าวเลื่อนการเดินทางว่าท่านเป็นอะไร มากไหม

“ท่านนอนซึม ไม่ยอมกินอาหารไม่พูดไม่จาค่ะ...เมื่อคืนท่านฉีกรูปคุณพลับพลึงเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเลยค่ะ กระจกแตกกระจาย คุณอุษาต้องตามป้าอุไรไปช่วยเก็บกวาด ป้าอุไรไปล่ะค่ะ” อุไรพูดจบออกจากห้อง ทิ้งให้วิรงรองมึนงงอยู่คนเดียว ทำไมท่านผู้หญิงต้องทำถึงขนาดนั้น...

ทางด้านท่านผู้หญิงสรรักษ์เอาแต่นอนจ้องเพดานห้อง โดยมีอดิศวร์คอยปลอบโยนอยู่ไม่ห่าง ในที่สุดท่านก็ยอมเปิดปากพูดหลังจากนิ่งเงียบอยู่เป็นนาน สั่งห้ามหลานชายสุดรักสุดหวงแต่งงานกับวิรงรองเด็ดขาด เขาก็เห็นรูปนังพลับพลึงแล้ว เหมือนแม่นั่นราวกับคนคนเดียวกัน อดิศวร์ทักท้วงก็แค่เรื่องบังเอิญ

“ไม่ใช่ ย่ารู้ว่ามันเป็นคนคนเดียวกัน ถ้าลบแต่งงานกับนังนั่นวันไหนก็เท่ากับย่าต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ซึ่งย่าจะยอมไม่ได้เด็ดขาด รับปากกับย่าสิลบ” ท่านผู้หญิงสรรักษ์บีบน้ำตาสะอึกสะอื้น

อดิศวร์ทักท้วงว่า ทุกคนในงานได้ยินกันทั่วแล้วว่าเขาประกาศหมั้นกับวิรงรอง ท่านผู้หญิงสรรักษ์ไม่สนใจจะถอนหมั้นเสียอย่างใครจะทำไม อดิศวร์ขอร้องให้ท่านฟังเหตุฟังผลบ้าง แต่ท่านไม่ยอมฟัง ถ้าเขายังดื้อดึงจะแต่งงานกับนังอัปมงคลนั่นให้ได้ ท่านมีแต่คำสาปแช่งเท่านั้นที่จะให้แทนคำอวยพร อดิศวร์ถึงกับอึ้ง

ส่วนแสงแขแอบมีความหวังที่จะได้ครอบครองชายในฝันของตัวเองอีกครั้ง จึงไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยตามไปหาเรื่องวิรงรอง ซึ่งกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนข้างคฤหาสน์ โทษว่าเป็นเพราะอดิศวร์ประกาศหมั้นกับวิรงรอง ทำให้คุณย่าเสียใจมากถึงขั้นล้มเจ็บ งานแต่งงานจะมีได้ก็คงต้องรอจนท่านตายไปเสียก่อน และตนคิดว่าคงจะอีกนาน เพราะคนแก่ร้ายกาจอย่างคุณย่าตายยาก คงจะพะงาบๆอยู่ขัดขวางความสุขของลูกหลานไปเรื่อยๆ

“คุณใจร้ายมากที่พูดถึงท่านแบบนั้น ทั้งๆที่ท่านเมตตาคุณ” วิรงรองมองอย่างตำหนิ

“ยัยแม่มดนั่นน่ะหรือ จะรู้จักเมตตาใครเป็น ท่านยังบอกคุณลบอีกนะว่า วันไหนที่คุณลบแต่งงานกับเธอ ท่านจะให้คำสาปแช่งแทนคำอวยพร ถ้าฉันเป็นเธอน่ะหรือ เผ่นไปจากโดมทองนานแล้ว”

วิรงรองไม่กลัวคำสาปแช่ง ถ้าอดิศวร์รักเธอจริง ซึ่งเธอมั่นใจว่าเป็นเช่นนั้น เขาคงต้องหาทางแต่งงานกับเธอก่อนที่ท่านผู้หญิงสรรักษ์จะมีอันเป็นไปแน่นอน แสงแขจ้องมองวิรงรองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ...

หลังจากปะทะคารมกับแสงแข วิรงรองกลับเข้าตัวตึกอย่างเหน็ดเหนื่อยใจ เจออดิศวร์ดักรออยู่ เธอระบายความอัดอั้นใส่เขาเป็นชุดแล้วตบท้ายว่า อยากจะกลับบ้าน ถ้าเขาต้องอยู่ดูแลท่านผู้หญิงสรรักษ์ เธอจะขอกลับคนเดียว อดิศวร์ยอมไม่ได้ ขืนทำอย่างนั้นแม่ของเธอจะว่าเอาได้ว่าปล่อยให้เธอไปคนเดียว แสงแขเข้ามาเห็นทั้งคู่กำลังถกเถียงกัน พยายามเข้าไปเสนอหน้า แต่ไม่มีใครสนใจ ยังคงโต้เถียงกันต่อไป

“อ๋อ ท่านไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ เพราะตอนมา ดิฉันก็มาคนเดียวแถมยังนั่งรถไฟมาเสียอีก”

“ใจเย็นๆสิจ๊ะวิรงรอง คุณลบเป็นห่วงเธอมากนะ ฉันน่ะรู้ใจคุณลบดี” แสงแขหาทางพูดแทรกจนได้

“งั้นก็เชิญคนรู้ใจกับคนรู้ใจคุยกันไปเถอะค่ะ”

วิรงรองแดกดันจบเดินหนี อดิศวร์อึ้งไปอึดใจ แล้วเดินตามโดยไม่สนใจเสียงร้องเรียกให้อยู่ก่อนของแสงแข ทำให้เธอน้อยใจมาก เก็บเอาความเสียใจไประบายให้พี่สาวฟังทั้งน้ำตา อุษาได้แต่บอกให้เธอทำใจยอมรับความจริงว่าอดิศวร์ไม่ได้รักเธอ เรื่องความรักไม่มีใครบังคับใจใครได้

“การยอมรับความจริงอาจจะทำให้เธอเจ็บปวดในตอนแรก แต่มันจะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งดีกว่าที่เธอจะหลอกตัวเองว่ายังมีหวังในตัวคุณลบ แล้วต้องทุกข์ทรมานไปจนตลอดชีวิต...เชื่อพี่นะ แสงแข” อุษาว่าแล้วดึงตัวน้องสาวที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นมากอดปลอบใจ เธอกลับผลักอุษาออก

“ไม่...แขไม่เชื่อ พี่อุษาก็เข้าข้างนังวิรงรองเหมือนกันนั่นแหละ คุณลบต้องเป็นของแข” แสงแขตวาดลั่น...

ครู่ต่อมา อดิศวร์ตามวิรงรองไปที่ห้อง เห็นเธอกำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเดินทาง ขอร้องให้เธอรอจนกว่าคุณย่าของเขาจะแข็งแรงอีกสักหน่อย แล้วเราสองคนค่อยไปกรุงเทพฯด้วยกัน เมื่อคืนเขาโทร.ไปเรียนเรื่องหมั้นให้แม่ของวิรงรองทราบแล้ว และบอกท่านด้วยว่าประมาณอาทิตย์หน้า เขาจะพาเธอไปสู่ขอให้เป็นเรื่องเป็นราวกับท่านอีกที ขอให้เธออดทนอีกไม่กี่วันเอง วิรงรองยังไม่คลาย ความหงุดหงิดแต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร

ooooooo

ขณะที่อดิศวร์พยายามรั้งวิรงรองให้อยู่โดมทองต่อไป คุณหญิงวัชรีปรับเปลี่ยนแผนการใหม่ แทนที่จะใช้ไม้แข็งดึงดันไม่ยอมให้พิชญ์หย่ากับพิณทอง เธอกลับยุส่งให้รีบหย่ากันให้รู้แล้วรู้รอด อ้างว่าถ้าเขาไม่รักพิณทองก็ควรจะปล่อยเธอไป คนไม่รักกัน ทำอย่างไรก็คงไม่รัก

“อีกอย่างหนึ่งหนูพิณยังสาวยังสวยมาก เธอจะได้มีโอกาสเจอกับผู้ชายดีๆแล้วก็รักเธอ พิชญ์เองก็จะ ได้เริ่มต้นกับผู้หญิงคนใหม่ ซึ่งแม่สบายใจแล้วว่าไม่ใช่แม่วิรงรองแน่เพราะเธอหมั้นและกำลังจะแต่งงานกับคุณลบ แม่จะไม่รั้งให้พิชญ์อยู่กับหนูพิณอีกต่อไป พิชญ์ไม่ควรทิ้งเวลาให้นานไปนะลูกเพราะมันไม่ยุติธรรมสำหรับผู้หญิงดีๆอย่างพิณทอง”คุณหญิงวัชรีว่าพลางลอบมองลูกชายที่นิ่งอึ้งอย่างพอใจ...

ทางด้านคุณหญิงแก้วก็ไม่ยอมน้อยหน้า วางแผนหา ผู้หญิงคนใหม่ให้อดิศวร์ แทนวิรงรองที่ตัวเองเกลียดชัง ขณะคุยโทรศัพท์อวดสรรพคุณญาติผู้น้องให้เพื่อนฟังเผื่อจะสนใจอยากได้ลูกเขยหล่อร่ำรวย โดยไม่รู้ว่าพิณทอง ซึ่งกลับมาจากที่ทำงานยืนฟังอยู่ตั้งแต่แรก ทันทีที่แม่วางสายเธอร้องทักว่าจะแนะนำผู้หญิงให้อดิศวร์อีกทำไม ในเมื่อเขาหมั้นกับวิรงรองแล้ว

“แต่งแล้วยังหย่ากันได้เลย นับประสาอะไรกับอีแค่หมั้น...ว่าแต่เราเถอะ เมื่อไหร่ถึงจะกลับไปอยู่กับตาพิชญ์เสียที อย่าทำเป็นเล่นตัวไปนะลูก...ผู้ชายที่เพียบ พร้อมอย่างพิชญ์ใครๆก็อยากได้”

พิณทองไม่อยากพูดเรื่องนี้ รีบตัดบทขอตัวไปพักผ่อนก่อน แล้วเดินหนีขึ้นห้อง ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างอ่อนแรง เสียงมือถือของเธอดังขึ้น พิณทองปล่อยให้ดังอยู่อย่างนั้นจนสายตัด แต่ดูเหมือนคนโทร.จะไม่ยอมแพ้ เสียงสายเรียกเข้ายังคงดังต่อเนื่อง เธอหยิบมันขึ้นมาดูเห็นเป็นชื่อพิชญ์ กดปิดเครื่องหน้าตาเฉย...

ฝ่ายพิชญ์วางมือถือลงอย่างหงุดหงิดที่พิณทองเล่นตัว นั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงโทร.เข้าเบอร์บ้านเธอแทนคุณหญิงแก้วรับสาย แกล้งถามเสียงหมางเมินว่ามีธุระอะไร เขาเพิ่งโทร.เข้ามือถือพิณทองแต่เธอไม่รับสาย

“โอ๊ย จะรับได้ยังไงล่ะในเมื่อพิณรันทดห่อเหี่ยว ใจจนไม่สบายตั้งแต่พิชญ์ทิ้งเธอไป”

“ผมไม่ได้ทิ้งนะครับ พิณเป็นคนไปเอง”

คุณหญิงแก้วตัดพ้อต่อว่าแทนลูกสาวว่าถ้าชีวิตมีความสุข พิณทองคงไม่คิดจะหนีไปไหน แต่ผู้ชายที่เธอ แต่งงานด้วยกลับยังมีท่าทีอาลัยอาวรณ์คนรักเก่า ผู้หญิงที่ไหนจะทนได้ ตนสงสารลูกใจจะขาด ทั้งซูบผอมทั้งตรอมใจต้องกินน้ำตาต่างข้าว พิชญ์หลงเล่ห์กลคุณหญิงแก้ว รับปากว่าหลังเลิกงานแล้วจะไปหาพิณทองที่บ้าน

“จะมาหรือไม่มาก็ตามใจพิชญ์ เอาล่ะนะ น้าต้องขึ้นไปดูหนูพิณหน่อย เมื่อกี้เดินโซซัดโซเซขึ้นไปข้างบน” คุณหญิงแก้วพูดจบวางสาย ยิ้มพอใจที่ทำให้ลูกเขยใจอ่อนยอมมาหาลูกสาวของเธอถึงบ้าน แล้วรีบโทร.ไปรายงานความคืบหน้าให้คุณหญิงวัชรีทราบ

ooooooo

ตกค่ำ พิชญ์มาหาพิณทองที่บ้าน พยายามง้อให้เธอออกไปกินมื้อค่ำข้างนอกด้วยกันแต่เธอยังคง ใจแข็งแถมไล่เขาทางอ้อม อ้างว่าทำงานค้างอยู่ไม่มี เวลาพูดเรื่องไร้สาระกับใคร พิชญ์ถึงกับถอนใจหนักใจ...

ทันทีที่พิชญ์กลับถึงบ้าน คุณหญิงวัชรีซักว่าไปหาพิณทองมาเป็นอย่างไรบ้าง เขารู้ว่าแม่กับน้าแก้วพยายามจะให้เราสองคนกลับมาคืนดีกัน แต่พิชญ์ไม่คิดว่าจะมีประโยชน์ พิณทองใจแข็งมากและเขาเองก็เหนื่อยหน่ายเกินกว่าจะตามง้อ คุณหญิงวัชรีไม่ต่อว่าลูกสักคำ ถ้าเขาอยากจะหย่าก็ตามใจ เธอเองก็เหนื่อยเหมือนกัน แล้วเตือนให้เขาเลิกหวังลมๆแล้งๆเรื่องกลับไปคืนดีกับวิรงรองเพราะอดิศวร์ไม่มีทางถอนหมั้นแน่

“แกคอยนับวันรองานแต่งงานคุณลบกับแม่นั่นได้เลย” คุณหญิงวัชรีพูดจบ เดินสะบัดหน้าขึ้นบ้าน...

คุณหญิงแก้วมาแนวคล้ายกัน เข้ามาขอโทษพิณทองที่ความหวังดีของตนกับคุณหญิงวัชรีที่จะให้ลูกทั้งสองคนคืนดีกันกลายเป็นความประสงค์ร้ายและเพื่อเป็นการไถ่โทษ ลูกจะหย่ากับพิชญ์เมื่อไหร่ก็ได้ตามใจ

“แม่ขอสัญญาว่า ต่อไปนี้ แม่จะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของลูกอีกแล้ว”

แทนที่จะตื่นเต้นดีใจที่แม่อนุญาตให้หย่า พิณทองดูเหมือนจะสับสนกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของท่าน คุณหญิงแก้วสังเกตเห็นอาการของลูกสาวเช่นกัน รีบโทร.แจ้งเรื่องนี้ให้คุณหญิงวัชรีรับทราบ...

ดูเหมือนแผนการใหม่ของสองคุณหญิงเพื่อนซี้จะได้ผลในระดับหนึ่ง ทั้งพิณทองและพิชญ์ต่างไม่เป็นอันหลับอันนอนเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องหย่า แม้ทั้งคู่จะแต่งงาน กันได้ไม่นาน แต่เยื่อใยต่อกันก็ยังพอมีอยู่...

ไม่ได้มีพิณทองกับพิชญ์เท่านั้นที่ไม่ยอมหลับยอมนอน วิรงรองก็เช่นกัน หลังจากโทร.นัดแนะให้ลานนามารอรับหน้าประตูรั้วของคฤหาสน์โดมทองที่เดิม วิรงรองในชุดรัดกุมค่อยๆย่องลงมาที่โถงกลางบ้าน กวาดตามองหาหน้าต่างบานเหมาะๆสำหรับปีนหนี ขณะเธอกำลังเหยียบขอบหน้าต่างจะปีนออกไป เสียงอดิศวร์ตะโกนลั่นว่า “ขโมย” พร้อมกับไฟสว่างพรึบทั้งห้องโถง วิรงรองสะดุ้งเฮือกเกือบร่วงตกลงไป

“เอ๊ะ...นั่นปีนขึ้นไปห้อยโหนอยู่บนนั้นทำไมน่ะ...ลงมาเดี๋ยวนี้”

“ไม่...ดิฉันจะไปจากที่นี่ ไม่อยากอยู่อีกแล้ว” วิรงรองยังยืนค้างอยู่ท่าเดิม อดิศวร์บอกให้ลงมาก่อน อีกสักครู่จะไปส่งให้เอง แล้วยื่นมือให้จับ หญิงสาวหัวดื้อจะลงเองแต่เซเสียหลัก โชคดีที่อดิศวร์รับไว้ทัน เธออยู่ในอ้อมแขนเขาอึดใจหนึ่ง ก่อนจะผละออก อดิศวร์ถามว่าจะไปไหน จะไปบ้านภูไทหรือเปล่าจะไปส่งให้

“ไม่ต้องค่ะ ดิฉันไปเองได้ ลานนารออยู่ที่ประตู”

“อ๋อมิน่า ว่าแต่คนที่รออยู่น่ะลานนาหรือเจ้าภูไทกันแน่” อดิศวร์แดกดันจบคว้าแขนวิรงรองพาออกทางประตูบ้าน เธอพยายามขืนตัวจะขอไปเอง แต่เขาไม่ยอม ดึงดันจะไปส่งให้ถึงมือลานนา แล้วดึงเธอไปด้วยจนได้

ooooooo

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 11 วันที่ 8 ก.ค. 56

ละครเรื่อง โดมทอง บทประพันธ์โดย วราภา
ละครเรื่อง โดมทอง บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
ละครเรื่อง โดมทอง กำกับการแสดงโดย : นนทนันท์ ธัญญาสิริทรัพย์
ละครเรื่อง โดมทอง ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง โดมทอง แนวละคร : ชีวิต ลึกลับ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง โดมทอง ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ