อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 12 วันที่ 9 ก.ค. 56

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 12 วันที่ 9 ก.ค. 56

“อย่านะ ถ้ารักย่าอย่าให้มันมาเหยียบที่โดมทองนี่เด็ดขาด” ท่านผู้หญิงสรรักษ์โวยลั่น อดิศวร์ขอร้องให้ท่านเปิดใจรับวิรงรองด้วย ท่านทำไม่ได้ เพราะนังนั่นทำลายหัวใจท่านยับเยิน เขาก็รู้แก่ใจดี ท่านจะไม่มีวันยอมรับเธอเด็ดขาด จะขอจองล้างจองผลาญทุกชาติไป...

แสงแขรอจังหวะที่ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน แอบเข้าไปในห้องพักของวิรงรอง เอาชุดนอนของเธอมาสวม ขณะกำลังส่องกระจกดูตัวเอง อดิศวร์ไม่คิดว่าจะมีใครอยู่เปิดประตูผลัวะเข้ามา ต่างฝ่ายต่างตกใจ ชายหนุ่มตั้งสติได้ก่อนสั่งให้เธอเปลี่ยนชุดแล้วกลับไปห้องตัวเองเดี๋ยวนี้ แสงแขไม่ยอมทำตามกลับโผกอดเขาไว้แน่นพร่ำพรรณนาว่ารักเขามากแค่ไหน อดิศวร์พยายามดึงแขนเธอออก แต่เธอยื้อไว้พลางร้องไห้สะอึกสะอื้น


“ทำไมคุณลบไม่รัก ไม่เห็นใจแขบ้าง นังวิรงรองไม่ได้รักคุณลบ มันหวังสมบัติต่างหาก”

อดิศวร์หมดความอดทน ลากตัวแสงแขที่ยังคงคร่ำครวญน้ำตานองหน้าออกจากห้องวิรงรองจนได้ สั่งให้หยุดร้องไห้ แล้วกลับไปห้องตัวเอง คิดทบทวนทุก–อย่างให้ดีๆ เราสองคนเป็นพี่น้องกันไม่ใช่อย่างที่คุณย่าอยากให้เป็น แสงแขฝืนใจพยักหน้ารับ เดินคอตกออกไป อดิศวร์ได้แต่มองตามอย่างเวทนา

เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้แสงแขเคียดแค้นและชิงชังวิรงรองเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ...

ดึกคืนเดียวกัน อดิศวร์ฝันเห็นท่านเจ้าคุณสรรักษ์เดินมาหยุดฟังคุณพลับพลึงร้องเพลงนางครวญ สายตาที่ท่านมองเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก แต่แล้วก็มีมือๆหนึ่งมากระชากตัวคุณพลับพลึงอย่างแรง เธอกรีดร้องก่อนร่างจะหายวับไป ท่านเจ้าคุณสรรักษ์ร้องเรียก “พลับพลึง” ลั่น อดิศวร์ตกใจตื่นเหงื่อท่วมตัว พึมพำกับตัวเอง

“คงจะฟังแต่เรื่องพวกนี้มากเกินไปแล้ว”

ooooooo

ในระหว่างที่วิรงรองกำลังเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าอย่างเพลิดเพลิน ภูไทมาเห็นพอดี ฉุกคิดถึงคำยุยงของพันธ์สูรย์ที่ว่าถ้าเขารักวิรงรองจริงก็ให้รีบแต่งงานกับเธอ อย่าปล่อยให้เธอกลับโดมทองอีก เขาตัดสินใจเดินเข้าไปหา เปิดเผยความในใจที่มีต่อเธออย่างไม่อ้อมค้อม วิรงรองถึงกับอึ้ง ทำตัวไม่ถูก

“พี่รู้ว่าน้องวิยังมีพันธะอยู่กับอดิศวร์ พี่จะรอจนกว่าน้องวิจะถอนหมั้นจากเขา”

ขณะที่สีหน้าและแววตาของภูไทเต็มไปด้วยความจริงจังและจริงใจ แต่สีหน้าของวิรงรองกลับเป็นตรงกันข้าม ทั้งอึดอัดและไม่สบายใจอย่างยิ่ง...

ด้านพันธ์สูรย์เห็นท่าทางหนักอกหนักใจของภูไท แล้วพอจะเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น เตือนว่าทีหน้าทีหลังอย่าจริงจังจนเครียดขนาดนี้ ภูไทว่าประชด ลืมไปว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรัก

“ของผมมันคนละกรณีกับของเจ้า...แต่ลงท้ายอาจจะแห้วเหมือนกัน” พันธ์สูรย์ว่าแล้วหัวเราะชอบใจ....

วิรงรองถึงกับบ่นอุบเมื่อลานนามาแจ้งว่าอดิศวร์มารับกลับโดมทอง เธอเตือนเพื่อนรักคิดทบทวนให้รอบคอบเสียก่อน เพราะถ้ากลับไปก็เท่ากับยอมรับว่าเป็นคู่หมั้นของเขา วิรงรองเดินไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้ามาเก็บข้าวของแทนคำตอบ แล้วขอร้องลานนาอย่าเพิ่งโกรธเกลียดเพื่อนคนนี้

“วิมีบางสิ่งบางอย่างรอการคลี่คลายอยู่ที่นั่น ถึงวิไม่กลับไป สิ่งนั้นก็จะตามมาคอยรบกวนให้วิหาความสุขไม่ได้อยู่ดี วิยังไม่ได้เล่าให้ฟังใช่ไหมว่า วิเคยฝันถึงโดมทองตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ แล้วภาพในฝันก็เหมือนจริงไม่มีผิดเพี้ยน ต่างกันแต่ว่าโดมทองในฝันนั่นเป็นคฤหาสน์ร้าง”

“อย่ากลับไปเลยวิ เราไม่ได้ห้ามเพราะไม่เชื่อ แต่ห้ามเพราะเราเชื่อ เชื่อว่ามีสิ่งชั่วร้ายอยู่ที่นั่น”...

วันนี้เป็นวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ อดิศวร์คิดจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง ระหว่างขับรถพาวิรงรองกลับโดมทองเขาตัดสินใจชวนเธอออกมาเฝ้าดูคนที่เธอเคยบอกว่า

หน้าตาเหมือนเขาขับรถม้ามาหยุดใต้หน้าต่างห้องใต้โดม จะได้เห็นกันไปเลยว่าคนคนนั้นไม่ใช่เขา อดิศวร์จะรออยู่หน้าห้องวิรงรองตอนห้าทุ่มคืนนี้ เธอไม่รีรอตอบ

ตกลงทันทีแล้วเอนหลังพิงพนักที่นั่ง อย่างโล่งใจ...

ห้าทุ่มตรง วิรงรองพร้อมด้วยกระบอกไฟฉาย ในมือออกมาพบอดิศวร์หน้าห้องตามนัด เขาบอกให้เธอ ทิ้งไฟฉายของเธอไว้บนโต๊ะแถวนั้น แล้วเปิดไฟฉายในมือตัวเอง ก่อนจะจูงมือเธอลงไปข้างล่าง ขณะจะถึงประตูทางออก วิรงรองเหลือบไปเห็นผีพิศยืนมองอยู่ที่มุมสลัวมุมหนึ่งของบ้าน ถึงกับสะดุ้งโหยง กระตุกมืออดิศวร์ไว้

“ดูตรงมุมนั่นสิคะ” เธอชี้มือประกอบคำพูด อดิศวร์ กราดไฟฉายไปยังจุดที่เธอชี้ เห็นแต่ความว่างเปล่า

“ไม่เห็นมีอะไรนี่...เธอเห็นใครวิรงรอง”

“ผู้หญิงแก่ๆแต่งตัวโบราณ ยืนจ้องดิฉันเขม็ง

เลยค่ะ ดิฉันเคยเห็นแกมาหลายครั้งแล้ว”

อดิศวร์ไม่ต้องการเสียเวลากับผีกระจิบกระจอก จะทำให้พลาดผีตนสำคัญแล้วเดินนำวิรงรองออกไป

ข้างนอก ทันทีที่ทั้งคู่คล้อยหลัง ผีพิศปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จ้องตามตาไม่กะพริบ...

ครู่ต่อมา วิรงรองกับอดิศวร์มาหลบหลังพุ่มไม้ในจุดที่จะมองเห็นทั้งรถม้าและห้องใต้โดม แสงจันทร์นวล ส่องสว่างไปทั่วบริเวณทำให้มองเห็นได้ในระยะไกลพอสมควร ทั้งคู่ซุ่มดูอยู่เป็นนานสองนานแต่ไม่มีวี่แววของรถม้าหรือแม้แต่เสียงเพลงนางครวญ วิรงรองรอจนเผลอหลับเอนหัวพิงไหล่อดิศวร์ไว้

ผ่านไปจนถึงตีหนึ่ง อดิศวร์เริ่มเหน็บกิน จึงขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้เลือดไหลเวียน ทำให้วิรงรองรู้สึกตัวตื่นรีบนั่งตัวตรง ถามว่ากี่โมงแล้ว พอรู้ว่าหนึ่งนาฬิกาของวันใหม่ รีบชะเง้อคอมองบ่นพึมพำ

“ตายจริง ทำไมยังไม่มาอีก”...

ในขณะที่วิรงรองกับอดิศวร์ซุ่มรออยู่ด้วยความอดทน ภายในโรงเก็บรถม้า มีเสียงโครมครามคล้ายใคร บางคนพยายามจะบังคับรถม้าให้ออกมา แต่ออกไม่ได้ติดผ้ายันต์ที่ท่านคุณหญิงสรรักษ์สั่งให้แสงแขเอาไปติดไว้

ooooooo

ตีสองแล้ว ทุกอย่างยังคงเงียบเชียบ อดิศวร์เริ่มบ่นว่าป่านนี้ยังไม่เห็นวี่แววอะไรสักอย่าง วิรงรองเองก็ชักจะหงุดหงิด เพราะยิ่งไม่มีวี่แววอะไรก็แสดงว่าเรื่องที่เธอเล่าไม่เป็นความจริงและเขาอาจจะหาว่าเธอโกหก วิรงรองตัดสินใจจะไปดูที่โรงเก็บรถม้าให้รู้ดำรู้แดงไปเลย แล้วเดินนำอดิศวร์ออกไปอย่างรวดเร็ว...

ทันทีที่อดิศวร์กับวิรงรองมาใกล้โรงเก็บรถม้า ประตูที่สั่นอยู่เมื่อครู่กลับนิ่งสนิท ยิ่งทั้งคู่มาหยุดยืนหน้าประตูคร่ำครึนั่น ทุกอย่างแถวนั้นกลับเงียบสนิท ชวนขนหัวลุก

“เธอจะบอกว่าผีรถม้าอยู่ในนั้นหรือ”

“ดิฉันกำลังจะบอกว่าคุณคือผู้ชายคนที่ดิฉันเห็น ตอนแรกดิฉันก็คิดอย่างนี้ แต่ต่อมามีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้ดิฉันเริ่มเชื่อว่าเป็นวิญญาณคุณปู่ของคุณ แต่ตอนนี้ดิฉันกลับมาคิดทบทวนใหม่ เชื่อว่าเป็นคุณแน่ๆ”

“แล้วรูปที่เหมือนฉันนั่นล่ะ”

วิรงรองสรุปว่าเป็นรูปที่อดิศวร์เป็นแบบให้ช่างวาดขึ้นมาเอง และท่านผู้หญิงสรรักษ์ก็เชื่อว่านั่นเป็นรูปของเขา อดิศวร์งงถ้าเป็นอย่างที่เธอว่า เขามีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้น เธอกลับย้อนถามเขาด้วยคำถามเดียวกันและมีเพียงเขาเท่านั้นที่ให้คำตอบได้ ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างเอือม–

ระอา ก่อนจะเดินย้อนกลับทางเก่า วิรงรองรีบสาวเท้าตาม โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาของใครคนหนึ่งกำลังมองตาม...

วิรงรองเชื่อว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโดมทองเป็นฝีมือของอดิศวร์ คาดคั้นให้เขาตอบมาให้ได้ว่าทำแบบนี้ทำไม หรือต้องการให้พิชญ์เห็นว่าเธอบ้าจะได้เกลียดชังเธอ เขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ คนอย่างเธอไม่มีวันแย่งสามีใครแน่ อดิศวร์หาว่าเธออ่านนิยายฆาตกรรมอำพรางหนักไปเลยเก็บเอามาคิดเป็นตุเป็นตะ

“ตีสามแล้ว กลับไปนอนสงบสติอารมณ์น่าจะมีประโยชน์กว่า” อดิศวร์พูดจบจ้ำพรวดๆเข้าบ้าน โดยมีวิรงรองตามไปติดๆอย่างขัดอกขัดใจ...

เลยตีสามมามากแล้ว แต่วิรงรองยังคงนอนไม่หลับ เดินกลับไปกลับมาอย่างหงุดหงิดและสับสน เฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้น

“ถ้าหากเป็นคนละคนจริง แล้วทำไมคืนนี้ คืนที่คุณอดิศวร์อยู่ด้วย เขาคนนั้นถึงไม่ปรากฏตัว” ยิ่งคิดยิ่งปวดสมอง วิรงรองต้องยกมือขึ้นกุมขมับ...

ทางฝ่ายอดิศวร์เองก็ข่มตาหลับไม่ลงเช่นกัน ครุ่นคิดถึงแต่ห้องใต้โดม ทำไมคุณย่าถึงได้กำชับนักกำ–ชับหนาไม่ให้ใครขึ้นไปยุ่มย่าม และทำไมท่านถึงจงเกลียดจงชังคุณพลับพลึงมากมายนัก ซ้ำยังฝันร้ายถึงเธอบ่อยๆ อดิศวร์จะต้องรู้ความจริงให้ได้ ตัดสินใจไปหยิบคีมสำหรับตัดเหล็กพร้อมกับไฟฉายตรงไปยังทางขึ้นห้องใต้โดม ขณะกำลังจะใช้คีมตัดกุญแจ มีเสียงท่านผู้หญิงสรรักษ์ดังขึ้นจากมุมมืด “ลบจะทำอะไรหรือลูก”

อดิศวร์สะดุ้งโหยงกราดไฟฉายไปตามเสียง เห็นคุณย่านั่งอยู่บนเก้าอี้โยกใส่เสื้อนอนตัวโคร่งสีขาวดูราวกับปีศาจมากกว่าคน เขารีบเดินเข้าไปถามว่ามานั่งตรงนี้ทำไมและมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ท่านอ้างว่าชอบมานั่งตรงนี้

“หมายความว่าคุณย่ามานั่งที่นี่บ่อยๆ”

ท่านผู้หญิงสรรักษ์พยักหน้ารับ แล้วสั่งให้อดิศวร์พากลับห้อง ครู่ต่อมา เขาพยุงคุณย่ามาที่เตียง อดบ่นไม่ได้ว่าอุไรก็นอนอยู่ด้วยทำไมถึงไม่รู้ว่าคุณย่าเดินออกไปข้างนอก ขยับจะเรียกแต่ท่านผู้หญิงสรรักษ์ห้ามไว้

“ไม่ต้องปลุกมัน ให้มันนอนเถอะ พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้า ลบเองก็ไปนอนซะ ย่าก็จะนอนเหมือนกัน ง่วง”

อดิศวร์ดึงผ้ามาห่มให้คุณย่าแล้วขยับจะออกไป แต่ท่าน เรียกไว้ ย้ำเตือนว่าถ้ารักท่านอะไรที่ท่านห้ามอย่าได้ทำเป็นอันขาด แล้ววันเมื่อถึงเวลา ท่านจะเล่าให้ฟังเอง

ooooooo

อ่านละคร โดมทอง ตอนที่ 12 วันที่ 9 ก.ค. 56

ละครเรื่อง โดมทอง บทประพันธ์โดย วราภา
ละครเรื่อง โดมทอง บทโทรทัศน์โดย : ภาวิต
ละครเรื่อง โดมทอง กำกับการแสดงโดย : นนทนันท์ ธัญญาสิริทรัพย์
ละครเรื่อง โดมทอง ควบคุมการผลิตโดย : สยม สังวริบุตร
ละครเรื่อง โดมทอง แนวละคร : ชีวิต ลึกลับ ตื่นเต้น
ละครเรื่อง โดมทอง ออกอากาศทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ