อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 15 วันที่ 16 ก.ค. 56

อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 15 วันที่ 16 ก.ค. 56

“ฐานที่มั่นสุดท้ายของพรายพิฆาต”

ณัฐชามองไปยังเบื้องหน้า ท้องถนนมีแต่ความมืดและแสงไฟจากรถ...ส่วนในตู้คอนเทนเนอร์ด้านหลัง

ฤทธิ์ลืมตาขึ้นอย่างงงๆ ถามพรายพิฆาตในร่างไอริณที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ว่าตนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

“ไว้ฉันค่อยอธิบายทีหลัง ตอนนี้ต้องรีบรักษาคุณก่อน” ไอริณยื่นสองมือมาจะแตะที่ขมับของเขา


ฤทธิ์ผงะ รีบคว้ามือเธอไว้ ถามว่าจะทำอะไร?

“การกลายพันธุ์ของคุณไม่สมบูรณ์ ฉันจะใช้พลังของฉันจัดระบบต่างๆให้เข้าที่ ก่อนที่คุณจะกลายเป็นบ้าและเป็นอสูรกายไปตลอดชีวิต”

“แต่เราเป็นศัตรูกัน ผมจะไว้ใจคุณได้ยังไง”

“ต้องพิสูจน์ยังไง นายถึงจะยอมเชื่อใจฉัน”

“บอกผมมาก่อน ตัวจริงของคุณเป็นใครกันแน่”

ไอริณมองฤทธิ์อย่างไม่พอใจนัก แต่ก็ไม่เปลี่ยนใจที่จะมุ่งหน้าไปยังฐานที่มั่นสุดท้ายของพรายพิฆาต ณัฐชากับฤทธิ์ลงจากรถมาเจอกัน เธอดีใจที่เขาปลอดภัย แต่พอเขาถามถึงโซเฟีย เธอก็หน้าเศร้าสลดแทนคำตอบ...แค่นั้นฤทธิ์ก็พอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แล้วทั้งคู่ก็ตามไอริณกับราเมศเข้ามาภายในอาคารซึ่งมีนักรบพรายพิฆาตยืนยามอยู่ไม่กี่คน

“ขอเตือนไว้ก่อน ถ้าคุณเห็นตัวจริงของฉันเมื่อไหร่ คุณอาจสะเทือนใจก็ได้นะ” ไอริณหันมาบอกฤทธิ์

“ผมรับไหว พาผมไปเถอะ”

“ร่างที่แท้จริงของฉันอยู่ในห้องโน้น” ไอริณชี้มือไปทางห้องสุดปลายทาง ฤทธิ์มองระแวดระวังก่อนบอกณัฐชาให้รออยู่ตรงนี้ ตนจะเข้าไปเอง

ฤทธิ์เดินเข้ามาในห้องและพบว่านอกจากนักรบพรายพิฆาตแล้วยังมีหมอที่กำลังดูแลคนไข้คนหนึ่งอยู่ คนไข้รายนั้นนอนบนเตียงซึ่งมีกระโจมปลอดเชื้อคลุมไว้

“ทุกคนออกไปก่อน”

ทุกคนทำตามคำสั่งของไอริณ ในห้องจึงเหลือเพียงเธอกับฤทธิ์แค่สองคน ฤทธิ์เดินมาใกล้เตียงเห็นใบหน้าคนไข้ชัดเจนก็ผงะ จำได้ว่าเธอคือเด็กหญิงลูกสาวของพ่อค้ายาเสพติดที่เขาพลั้งมือยิงตายโดยไม่เจตนา

“ไม่แก่ ไม่ตาย จิตวิญญาณของฉันยังคงอยู่ในร่างนี้”

“ไม่จริง...เป็นไปไม่ได้”

“ผู้หมวดฤทธิ์ ราวี...ฉันคือพรายพิฆาต และคนที่สร้างฉันขึ้นมาก็คือคุณ ฉันกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราตั้งแต่วันนั้น จิตของฉันถูกขังอยู่ในร่างกายที่ต้องการเป็นอิสระ อิสระจากความแค้นที่คุณมอบให้ฉัน...มันเป็นอยู่หลายปีกว่าฉันจะเริ่มจับทางได้ว่าทุกอย่างในโลกนี้เกิดขึ้นจากพลังงาน ร่างกายก็เป็นแค่แหล่งเก็บกักพลังงานเท่านั้น”

ไอริณชูฝ่ามือและใช้พลังดึงสิ่งของใกล้ตัวขึ้นมาลอยหมุนติ้วอยู่เหนือฝ่ามือ

“นี่ต่างหากคือตัวตนที่แท้จริงของเรา และจากนั้นฉันก็เริ่มใช้พลังช่วยเหลือคนที่ควรช่วยอย่างราเมศ ฉันสร้างศรัทธา สร้างความฝันของโลกใหม่ที่ปราศจากสงครามและสร้างองค์กรพรายพิฆาตขึ้นมา”

“เธอน่าจะฆ่าฉันแต่แรก”

“ฉันเคยคิด...แต่ต้องเปลี่ยนใจเมื่อส่งราเมศไปหาคุณ...สภาพคุณตอนนั้นก็เหมือนคนที่ตายไปแล้ว และญาณทิพย์ของฉันมองเห็นอนาคตของคุณ ฉันเห็นคุณกลายเป็นนักสู้มหากาฬ และต่อสู้เพื่อฉันจนถึงวาระสุดท้าย”

“เพราะแบบนี้ตลอดเวลาที่เราสู้กัน คุณถึงได้พยายามเรียกผมให้มาเข้าพวกกับคุณ”

“ถูกต้อง และในที่สุด...คำทำนายก็เป็นจริง คุณต้องต่อสู้และกำจัดพวกของกรณ์เพื่อฉัน”

ราเมศกับณัฐชายืนมองจากหน้าประตูห้อง ไอริณเหลือบมองแล้วออกมาบอกราเมศให้พาณัฐชาไปพักก่อน ตนจะรีบรักษาอาการของฤทธิ์

“ถ้าพวกแกหักหลังล่ะก็ ฉันเอาตายแน่” ณัฐชากล่าวด้วยสีหน้าขึงขัง

ราเมศยิ้มอย่างใจเย็นก่อนจะเดินนำณัฐชาออกไป ไอริณเดินกลับมาหาฤทธิ์ที่ยืนอยู่ข้างเตียงร่างของพรายพิฆาตตัวจริง

“มีข้อหนึ่งที่คุณทายผิด ผมไม่ได้สู้เพื่อคุณ แต่เพื่อโลกใบนี้ต่างหาก โลกใบเดิมที่คุณบอกว่ามันเลวร้าย ไม่มีความหวัง โลกที่พรายพิฆาตอยากจะทำลาย แต่ผมจะกอบกู้มัน”

“ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันจะเปลี่ยนแปลงได้”

“นั่นคือเงื่อนไขของผม ข้อแรก คุณต้องคืนไอริณให้ผมหลังจากผมฆ่ากรณ์ได้สำเร็จ และข้อสอง ผมขอเวลาให้กับโลกนี้ ขอเวลาให้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ปรับปรุงตัวของมัน ขอแค่สามปี”

“ไม่นานไปหน่อยเหรอ”

“จะแคร์ทำไม ในเมื่อคุณคิดว่าตัวเองคือพระเจ้า คิดว่าตัวเองเป็นอมตะ”

“ก็ได้...นี่คือสัญญาระหว่างเรา พรายพิฆาตจะหยุดมือจากการสร้างโลกใหม่ จนกว่าสามปีจะผ่านไป”

ไอริณกับฤทธิ์สบตากันอย่างจริงจัง...หลังจากนั้นฤทธิ์นอนลงบนเตียงถัดไปจากร่างเดิมของพรายพิฆาต ยอมให้ไอริณรักษา และหวังว่าตนจะกลับมามีพลังเหนือมนุษย์อีกครั้ง

ooooooo

ด้านกรณ์ที่โดนระเบิดพร้อมโซเฟีย...ด้วยร่างกายที่ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา กรณ์ไม่ถึงตายแต่ก็น่าเป็นห่วง เอมี่หาทางช่วยด้วยการนำเลือดมนุษย์มาให้เขาดื่มกิน กรณ์จำใจทั้งที่ขยะแขยง แต่ผ่านไปพักเดียวพลังของเขาก็กลับมาดังเดิม

หลังจากนั้น กรณ์ เอมี่ และยักษ์ก็ตามไปสมทบวัฒน์ที่เจอศพลุงโจในสภาพโดนยิงหัวแบะหมดทางชุบชีวิต

“คราวนี้พวกมันทำเราแสบมาก”

“พรายพิฆาตร่วมมือกับนักสู้มหากาฬ แถมมีตำรวจหนุนหลัง พวกเราต้านไม่อยู่แน่”

“ถ้าเดาไม่ผิด พรายพิฆาตคงต้องการใช้นักสู้มหากาฬมารับมือกับพวกเรา”

“แต่สภาพของมันยังไม่เข้าที่ เราต้องรีบฉวยโอกาสเก็บมันซะ”

“มันหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว จะหาตัวได้ยังไง”

“ฉันมีวิธี”

วิธีของกรณ์ก็คือส่งสมุนไปป่วนที่กองปราบและฆ่าตำรวจตายหลายนาย ก่อนประกาศให้รู้ว่ายุคโบราณของพรายพิฆาตได้จบสิ้นลงแล้ว ต่อไปจะเป็นยุคใหม่ของพวกเรา...วิธีสร้างสถานการณ์เลวร้ายครั้งนี้ กรณ์หวังให้นักสู้มหากาฬโผล่หัวออกจากแหล่งกบดาน

เมื่อราเมศรู้ข่าวนี้ก็รีบบอกณัฐชาพร้อมกับวิเคราะห์ว่า “ตามแผนเดิมของพรายพิฆาต ถ้าจะทำลายความมั่นคงของประเทศ ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการยุติกฎหมาย”

“โดยการฆ่าผู้รักษากฎหมาย?”

ราเมศพยักหน้าและกำชับณัฐชาว่า อย่าให้โทมัสรู้เรื่องนี้ ตราบใดที่เขายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่...

เวลานั้นภายในห้อง ไอริณหยุดชะงักการรักษาเมื่อเห็นนิมิตภาพของสมุนกรณ์ฆ่าตำรวจ...ฤทธิ์ลืมตาขึ้นด้วยความแปลกใจ ถามว่ามีอะไร?

“วันนี้พอแค่นี้ พรุ่งนี้ค่อยรักษาต่อ”

“ผมรู้สึกดีขึ้นมาก คุณทำได้ยังไง”

“ก็แค่จัดระบบในร่างกายของคุณซะใหม่ ไม่ต้องขอบใจฉันหรอก เพราะถึงยังไงคุณก็ต้องทำงานตอบแทนฉันอยู่ดี”

“ในเมื่อพลังคุณมีมากขนาดนี้ ทำไมถึงไม่จัดการกรณ์ซะเอง”

“ฉันก็อยากทำอยู่เหมือนกัน แต่ฉันเคยเห็นนิมิตภาพว่าตัวฉันถูกกรณ์ฆ่าตาย”

“เพราะแบบนี้คุณถึงเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับเขา”

ไอริณไม่ตอบอะไรอีก ได้แต่เหลือบไปมองร่างแท้จริงของตนเองที่ยังนอนนิ่งบนเตียง...

ฤทธิ์กลับออกมาจากห้องเห็นณัฐชาเตรียมตัวเดินทาง หญิงสาวสังเกตสีหน้าเขาดูดีขึ้น แสดงว่า การรักษาเริ่มได้ผล

“ฉันคงต้องกลับไปก่อน คุณอยู่ทางนี้ดูแลตัวเองด้วยนะ”

“คุณเองก็เหมือนกัน ระวังตัวด้วย”

“แต่ก่อนไม่เห็นคุณเป็นห่วงฉันเลยนี่” เธอกระเซ้ายิ้มๆ

“ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว คนที่ผมรู้จักก็เหลือน้อยเต็มทีแล้ว ที่สำคัญความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ทุกครั้งที่เราต้องแยกกัน ผมไม่เคยรู้สึกดี ผมกลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้าคุณอีก...”

ณัฐชารีบเอานิ้วแตะริมฝีปากฤทธิ์ไว้ก่อนที่เขาจะพูดอะไรที่เป็นลางร้ายออกมา...แล้วตัดสินใจจูบเขาอย่างนุ่มนวลพร้อมพูดติดตลกว่า “เผื่อว่าโลกจะแตกวันพรุ่งนี้”

ฤทธิ์สวมกอดและจูบตอบเธอด้วยความรัก ณัฐชาเขินอายเมื่อเหลือบไปเห็นราเมศยืนรออยู่ที่รถ เธอผละออกจากอ้อมกอดของฤทธิ์

“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะรีบกลับ”

“ถ้าผิดคำพูดล่ะก็ ผมไปหาคุณแน่”

ณัฐชายิ้มรับก่อนจะเดินไปที่รถ ราเมศเปิดประตูให้เธอแล้วส่งสายตาบอกสมุนคนหนึ่งให้ทำหน้าที่โชเฟอร์...ฤทธิ์มองตามจนรถลับตา โดยไม่รู้ตัวว่าพรายพิฆาตในร่างของไอริณเดินออกมาดูเขาด้วยแววตาที่เย็นชา แยกไม่ออกว่ากำลังประสงค์ดีหรือร้ายอยู่กันแน่

แล้วพรายพิฆาตก็กลับเข้ามาดูร่างเดิมบนเตียง ก่อนจะมองเงาสะท้อนตัวเองในร่างไอริณผ่านกระจก ยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าอย่างพอใจ

“น่าเสียดายนะไอริณ ฉันชอบร่างของเธอซะด้วยสิ ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากอยู่ในร่างนี้ตลอดไป”

ooooooo

สารวัตรสิงหาเคร่งเครียดหลังเกิดเหตุการณ์สมุนของกรณ์อุกอาจฆ่าตำรวจตายหลายนาย เขาไม่เข้าใจว่าพรายพิฆาตมีแผนอะไรกันแน่ หรือว่ามันจะประกาศสงคราม ขณะที่จ่าไมตรีกับหมู่ปรีดาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้ามันเอาจริงพวกเราลำบากแน่นอน มันอยู่ที่ลับแต่เราอยู่ที่แจ้ง เป็นเป้านิ่งให้พวกมันเต็มๆ

“ที่สำคัญ ขนาดตำรวจด้วยกันเรายังไม่รู้เลยครับว่ามีใครใช้ยาเสพติดหรือเป็นสาวกของพวกมันบ้าง”

ฟังจ่ากับหมู่แล้วสารวัตรสิงหายิ่งหวาดหวั่น พลันเหลือบไปเห็นผู้กำกับเมธาในชุดเครื่องแบบเต็มยศท่าทางกำลังรีบร้อน

“ผู้การจะไปไหนเหรอครับ”

“ท่านนายกฯสั่งให้ผมแถลงข่าวชี้แจงสถานการณ์ภายในสามชั่วโมง คุณมีอะไรคืบหน้ารึยัง”

“พรายพิฆาตยังไม่ติดต่อมาเลยครับ”

คำตอบนั้นทำเอาเมธาหน้าตึง ผละไปอีกห้องซึ่งมีนักข่าวมากหน้าหลายตา แล้วเริ่มแถลงข่าวเหตุการณ์ตำรวจถูกองค์กรลึกลับพรายพิฆาตบุกถล่ม แต่ยังไม่ทันจบก็เกิดเหตุให้ตระหนกไปตามกัน เมื่อจู่ๆไฟในห้องดับและปรากฏภาพเสมือนจริงของกรณ์บนจอด้านหลังโต๊ะแถลงข่าว

“ทุกท่านไม่ต้องตกใจ ผมคือพรายพิฆาตรุ่นที่สอง ผู้นำโลกใหม่ของพวกคุณ โลกที่ไร้ซึ่งเชื้อชาติ ศาสนา และความแตกต่าง ภายใน 24 ชั่วโมงนี้ผมขอยื่นคำขาดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนวางอาวุธและยอมจำนนต่อพวกเรา รวมทั้งจับตัวนักสู้มหากาฬส่งมอบให้พวกเราโดยเร็วที่สุด เพราะมันคืออุปสรรคต่อการสร้างโลกใหม่ที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆนี้ หากทุกอย่างไม่เป็นไปตามคำขอ เราจะถล่มที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลอง”

ขาดคำภาพของกรณ์ก็หายไป ตำรวจและนักข่าวพากันฮือฮา เมธาคิดว่างานนี้พวกตนเจอศึกใหญ่แน่ จึงกำชับสิงหาเตรียมคนของเราไว้ให้พร้อม

เวลาเดียวกันนั้น ณัฐชามาถึงหน้ากองปราบแล้ว ราเมศที่มาส่งรีบสำทับเธอว่าตอนนี้เราอยู่เรือลำเดียวกัน แต่ท่าทีเธอไม่สนใจแถมยังตอบกลับให้เขาไม่พอใจเสียด้วย “แต่ไม่ได้แปลว่าเราต้องเป็นเพื่อนกัน” ราเมศมองตามตาขวาง พึมพำว่าแน่นอน เสร็จงานนี้เมื่อไหร่เราได้เห็นดีกันแน่!

ด้านฤทธิ์ที่ยังอยู่ในรังของพรายพิฆาต เขาใช้เวลาว่างเดินสำรวจบริเวณภายนอกจนมาเจอรถบรรทุกของโซเฟียซึ่งมีสมุนพรายพิฆาตเฝ้าเวรยามอยู่ พวกมันจับตามองเขาอย่างไม่ละสายตาแต่ไม่ได้ทักท้วงอะไร ฤทธิ์จึงขึ้นไปบนท้ายรถบรรทุก ระหว่างนั้นกล้องวงจรปิดจับภาพเขา คอมพิวเตอร์ที่พ่วงต่ออยู่ระบุว่าเขาคือฤทธิ์ ราวี...เท่านั้นเองภาพเสมือนจริงของมาดามหลิวก็ถูกฉายออกมา

“มาดาม” ฤทธิ์ครางออกมาด้วยความประหลาดใจ

“นี่เป็นระบบจำลองที่ถูกสร้างให้เสมือนจริง ไม่ใช่ฉัน”

“โซเฟียตายแล้ว...”

“ฉันรู้ มันน่าเศร้า แต่ทุกคนต้องตายทั้งนั้น แม้แต่พรายพิฆาตหรือว่าเธอ”

“พรายพิฆาตให้ผมฆ่ากรณ์ เพื่อแลกกับชีวิตของไอริณและการยุติความเคลื่อนไหวสามปี”

“อย่าเชื่อใจพรายพิฆาต ถ้าพวกมันเป็นคนซื่อตรงคงไม่อยู่รอดมาจนป่านนี้ ถ้าฉันเดาไม่ผิด เมื่อเธอฆ่ากรณ์ได้เมื่อไหร่พวกมันจะฆ่าเธอทันที”

ฤทธิ์ได้ฟังก็เริ่มหวั่นใจ...เป็นเวลาเดียวกันที่กองปราบ ณัฐชากำลังเผชิญหน้ากับเมธาและสิงหา เพียงแค่เธอก้าวย่างเข้ามาก็โดนเมธาต่อว่าอย่างหัวเสีย

อ่านละคร นักสู้มหากาฬ ตอนที่ 15 วันที่ 16 ก.ค. 56

บทประพันธ์โดย : ณพุทธ สุศรีฯ
บทโทรทัศน์โดย : ณพุทธ สุศรีฯ
กำกับการแสดงโดย : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ผลิตโดย : บริษัท มุมใหม่ จำกัด
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ