อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 7 วันที่ 29 ก.ย.61
จนดึกเมื่อพฤกษ์ดับตะเกียง แม้จะนอนในระยะห่างกันแต่วีนัสก็ใจเต้นแรง พฤกษ์ลูบผมเบาๆเหมือนกล่อม จนวีนัสหลับไปแล้ว แต่พฤกษ์ยังไม่อาจข่มตาหลับได้ ตัดสินใจนอนหันหลังข่มใจให้หลับรุ่งเช้าวีนัสตื่นจะลุกขึ้น จึงรู้ว่าตัวเองนอนในอ้อมกอดพฤกษ์ทั้งคืน พฤกษ์รู้สึกตัวลืมตามอง วีนัสรีบขยับตัวลุกขึ้นเขินๆ พฤกษ์จึงลุกตาม
เมื่อพากันออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่เนิน วีนัสบอกว่าโชคดีที่เราหลงทางเลยได้ชมธรรมชาติที่สวยงาม พฤกษ์บอกว่าเธอมองทุกอย่างในแง่ดีตลอด
“แล้วจะมองในแง่ร้ายให้ชีวิตมีแต่พลังด้านลบทำไมล่ะคะ สำหรับฉัน ฉันใช้หัวใจ ใช้ความรู้สึกตัดสินมากกว่าเหตุผล อาจารย์มีปัญหาอะไรฉันเต็มใจช่วยนะคะ ขอแค่อาจารย์เปิดใจพูดความจริง”
วีนัสพูด ยิ้มจริงใจ แต่รอยยิ้มพฤกษ์กลับหายไปทันทีเพราะรู้ว่าวีนัสกำลังหมายถึงพ่อตัวเอง
บุษกรทุกข์ใจอย่างสาหัสเมื่อไม่รู้ว่าพฤกษ์ไปไหนอยู่ที่ไหนโทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ จึงคาดคั้นถามไตรทศกับไอลดา พอไตรทศบอกว่าอยู่เมืองกาญจน์ก็ถามว่าเมืองกาญจน์แค่นี้ทำไมติดต่อไม่ได้
ไตรทศบอกว่าอาจติดอยู่ในป่า บุษกรตกใจถามว่า
“พฤกษ์ไปทำอะไรในป่า พฤกษ์ไม่ได้ไปหาพ่อเหรอ แม่คิดว่าพฤกษ์แอบไปหาพ่อกับเมียใหม่ถึงให้หนูวีนัสช่วยตามไป” ไอลดาบอกว่าแม่เข้าใจผิดแล้ว พ่อไม่ได้มีเมียใหม่ พ่อรักแม่คนเดียว “โกหก...แม่เห็นกับตา พ่อพาเมียใหม่มาคุยกับพฤกษ์ที่หน้าบ้าน”
ไตรทศกับไอลดามองหน้ากันอย่างหนักใจว่าเรื่องชักจะไปกันใหญ่แล้ว
ขณะเดียวกันวีนัสก็พยายามหว่านล้อมแสดงความจริงใจกับพฤกษ์กระทั่งกดดันถามว่าเขากลัวอะไรถึงได้เดินหนีคำถามตนทุกครั้ง พฤกษ์ชะงักเมื่อถูกจับพิรุธได้ วีนัสเดินเข้าไปหว่านล้อมว่า
“ทุกคนมีความกลัวทั้งนั้นแหละค่ะ อย่างฉันกลัวจะไม่ได้ทำอย่างที่ฝัน แต่ความกลัวมันจะหายไปถ้าเรามีเพื่อนสักคนที่ไว้ใจได้” เห็นพฤกษ์หันมอง ก็ขอร้อง “ถือว่าฉันเป็นเพื่อนคนนึงได้ไหมคะ อาจจะไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุด แต่ฉันสัญญา ฉันจะฟังปัญหาของอาจารย์ทุกเรื่อง”
“ทำไมถึงอยากฟังปัญหาของผม ทำไมถึงสนใจเรื่องของผม ทั้งที่ผมไล่คุณถึงขนาดนี้”
เจอคำถามและสายตาที่จ้องมา วีนัสก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ตัดสินใจแสดงความจริงใจว่า
“ฉันรู้ว่าฉันวุ่นวาย...นั่นก็เพราะอาจารย์คือลูกชายคุณป้าบุษกรที่ฉันนับถือ เพราะอาจารย์เป็นคนดี และฉันพร้อมที่จะใช้สองมือนี้ส่งกำลังใจให้อาจารย์เสมอนะคะ”
คำพูดที่จริงจังจริงใจของวีนัสกระทบใจพฤกษ์จนเขากุมมือเธอบอกว่า
“คนดีอยากได้กำลังใจ”
วินาทีที่เปิดใจให้กัน หนุ่มสาวก็มองหน้ากันอย่างไร้กำแพงกั้น...
แล้วจู่ๆพฤกษ์ก็โทร.หาแม่ บุษกรดีใจมากถามว่าลูกอยู่ไหน เป็นยังไงบ้าง พฤกษ์บอกว่าตนไม่เป็นอะไร โทรศัพท์เพิ่งมีสัญญาณและวันนี้ก็จะรีบกลับมาหาแม่แล้ว พฤกษ์โทร.หาแม่แล้วบอกให้วีนัสโทร.ไปที่บ้าน
วีนัสโทร.หาคณิตา คณิตาบอกยายพิกุลทันทีว่าวีนัสปลอดภัยกำลังจะกลับแล้ว ขณะที่ทุกคนที่บ้านร่มไม้ฯดีใจโล่งใจเมื่อได้ข่าววีนัสนั้น ต้นก็เข้ามาหาปู่ชาญชัย โตมรเห็นแล้วงึมงำ
“เสร็จจากหลานสาวคนโน้น...ก็มาหาหลานชายคนนี้...คนนี้น่าจะหนักหน่อย”
ทุกคนมองชาญชัยอย่างเห็นใจ
เมื่อพฤกษ์ทำลายกำแพงกั้นกับวีนัสแล้ว เขามีมุมที่อ่อนโยนน่ารักอย่างที่วีนัสไม่เคยเห็นมาก่อน เขาถามเธอว่าขับรถกลับไหวไหม แล้วคุกเข่าจับข้อเท้าจนวีนัสตกใจ ถามว่าเจ็บไหม วีนัสบอกว่าหายแล้ว
“ผมไม่เชื่อหรอก มันอาจจะบวม...” วีนัสจะขยับตัวออก แต่ถูกพฤกษ์โอบไหล่จากด้านหลังพูดอ่อนโยนจากใจว่า “คุณมีมือคอยให้กำลังใจผม ผมก็มีอ้อมแขนคอยพยุงคุณ”
พฤกษ์ประคองวีนัสขึ้นยืนพร้อมกันและพากันเดินลงจากเนิน นาทีนี้เหมือนโลกทั้งโลกมีแต่เขาและเธอ
ooooooo
ชาญชัยพาต้นไปนั่งใต้ต้นหูกระจงคุยกันประสาปู่กับหลาน ต้นมองปู่อย่างสำนึกผิด ชาญชัยอบรมว่า
“อยากลอง อยากรู้ อยากเท่ปู่ไม่เคยว่า แต่ต้องเลือกที่จะรู้จะลอง จะเท่กับสิ่งดีๆ” ต้นยกมือไหว้ขอโทษปู่อีกครั้งบอกว่าตนสำนึกผิดแล้ว ชาญชัยพูดปลงๆว่า “ปู่ไม่รู้ว่าเราสองคนจะมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหน”
“อย่าพูดแบบนี้สิครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณปู่เสียใจอีก”
“ไม่ต้องสัญญา แล้วก็ไม่ต้องเป็นคนดีเพื่อปู่หรือเพื่อคนอื่น แต่จงเป็นคนดีเพื่อตัวเอง เพราะพอเราเป็นคนดี เราก็จะไม่สร้างปัญหาเดือดร้อนให้คนอื่น”
ต้นยิ้มกราบตักปู่อย่างตื้นตัน ชาญชัยโอบต้นดีใจที่ได้หลานชายคนเดิมกลับมา
ที่รีสอร์ตเมืองกาญจน์ หลังจากแยกย้ายกันเตรียมเดินทางกลับ วีนัสไปเรียกพฤกษ์ที่ห้องปรากฏว่าเขาไม่อยู่ เพราะไปพบมงคลเอาเอกสารให้เพื่อโอนที่ดิน แต่สินีเมียสาวของมงคลขัดเสียงกระด้างว่า
“ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันไม่ให้!!” สินีด่าพฤกษ์ว่าหน้าที่การงานก็ดียังจะงกเอาสมบัติปู่อีก มงคลบอกว่าตนเป็นคนบอกให้พฤกษ์มาเอง “งั้นคุณก็เลือกเอา
ว่าจะเซ็นโอนที่ให้หลานหรือจะเซ็นใบหย่ากับฉัน!!”
พฤกษ์เห็นเหตุการณ์ร้ายแรงจึงบอกมงคลว่าตนไม่เอาที่ดินของปู่ก็ได้ และขอโทษสินีที่ทำให้อาทะเลาะกัน สินีลากมงคลเดินผ่านวีนัสที่ตามมาพอดี วีนัสจะวิ่งตามมงคลไป พฤกษ์คว้ามือไว้
“ฉันจะไปถามพ่ออาจารย์ให้รู้เรื่อง” วีนัสเสียงแข็ง
“หยุด เขาไม่ใช่พ่อ นั่นอาผม!!!”
วีนัสมองพฤกษ์เหวอ ใบ้กินสนิท ยอมรับว่าตนคิดว่าเขามาพบพ่อ ที่แท้เป็นอา พฤกษ์ยอมรับว่าตนมีปัญหาที่ดินนิดหน่อยเลยต้องมาเคลียร์ พฤกษ์มองวีนัสที่จ้องอย่างอยากรู้ บอกว่าตนไม่มีความลับอะไรกับเธอแล้ว แต่วีนัสก็ยังมีข้อสงสัยในใจ...
วีนัสสอบถามใบเฟิร์นที่รู้จักมงคลกับสินีดี
พอรู้ที่อยู่ก็ไปหาที่บ้านบอกว่าคุณป้าบุษกรอยากเจอคุณลุง คิดถึงคุณลุงมาก ตนคิดว่าคุณอาคงพอจะบอกคุณลุงให้ได้ว่าคุณป้ารออยู่
สินีโวยว่ามงคลซุกเมียไว้อีกคนหรือ มงคลบอกว่าวีนัสมาหาเรื่องพี่บุษกร
“อะไรกันนักหนา ไม่จบไม่สิ้นเสียทีคนบ้านนี้ ญาติก็มีอยู่คนเดียว ตายก็ตายไปแล้ว”
วีนัสแทบช็อกเมื่อรู้ว่าสามีป้าบุษกรตายไปนานแล้ว!! กลับมาถึงรีสอร์ตก็ต่อว่าพฤกษ์รุนแรงว่าไหนบอกว่าไม่มีความลับกับตนแล้ว ทำไมถึงปล่อยให้คุณป้ามี
ความหวังว่าจะได้เจอสามี ความหวังที่ไม่มีวันมาถึงเพราะพ่ออาจารย์ตายไปแล้ว!!
พฤกษ์ตกใจถามว่าคุณรู้! วีนัสบอกว่าตนรู้จากอาของเขานั่นแหละ ย้ำว่าอาจารย์ต้องบอกความจริงกับคุณป้า พฤกษ์สวนทันทีว่า “ไม่...ผมบอกไม่ได้”
“ทำไมบอกไม่ได้ อาจารย์ใจร้ายกับฉัน ฉันทนได้ แต่นั่นแม่อาจารย์นะ”
“คุณคิดว่าผมไม่ทรมานใจเลยใช่ไหมที่ต้องปิดบังแม่ คุณคิดว่าผมใจร้ายกระทั่งกับแม่ตัวเอง”
พฤกษ์พรั่งพรูความอัดอั้นออกมาจนวีนัสพูดไม่ออก
“ตั้งแต่วันที่แม่เส้นเลือดในสมองแตก ทุกวันที่ผมเห็นแม่ ผมรู้ว่ากำลังใจสำคัญที่สุดของแม่คือพ่อ แววตาแม่รอคอยพ่อ คำแรกที่แม่ถามถึงคือพ่อ ถ้าผมแลกชีวิตได้ ผมจะแลกให้พ่ออยู่...เพื่อแม่”
พฤกษ์น้ำตาไหลพรากอย่างไม่อาจอดกลั้นได้ วีนัสบอกว่าคุณป้าต้องทำใจได้ ความรักของอาจารย์จะทำให้คุณป้าอยู่ได้
“คุณไม่รู้จักแม่เท่าผม ถ้าแม่รู้ความจริงว่าไม่มีพ่อแล้ว ถ้าแม่เสียใจรับไม่ได้จนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ...
ผมก็ต้องเสียแม่ไปอีกคน”
เสียงพฤกษ์ขาดหายไปพูดไม่ออกและตัวสั่นด้วยความกลัว วีนัสตัดสินใจเดินเข้ามากอดเขาเอ่ยอย่างสะเทือนใจว่า
“ฉันขอโทษค่ะอาจารย์ ฉันขอโทษ...ฉันเข้าใจแล้ว”
“แม่จะต้องรู้เรื่องพ่อจากผมคนเดียว วีนัส...
อย่าพูดเรื่องพ่อผม เรื่องพ่อตายแม่ผมจะรู้ไม่ได้ คุณต้องสัญญานะ...นะครับ...ถ้าคุณเป็นเพื่อนผมอย่างที่คุณพูด คุณต้องสัญญา”
“ค่ะ...ฉันสัญญา ฉันจะไม่บอกความจริงกับคุณป้า”
พฤกษ์โผกอดวีนัสแน่น ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มซบอยู่ที่ไหล่เล็กๆของวีนัสอย่างเป็นที่พึ่งทางใจ
ooooooo
ทันทีที่พฤกษ์กลับถึงบ้าน บุษกรถามทันทีว่าไปเมืองกาญจน์เรื่องพ่อใช่ไหม เขาปดว่าไม่ใช่ ตนไปธุระของมหาวิทยาลัย บุษกรถามอีกว่าพ่อมีเมียใหม่แล้วหนีแม่ไปอยู่เมืองกาญจน์ใช่ไหม พฤกษ์ยืนยันไม่ใช่อีก
“ถ้าพฤกษ์ยืนยันว่าไม่ใช่ แม่ก็จะไม่ถามอีก ไม่คิดถึง ไม่พูดถึงพ่ออีก” พูดแล้วเห็นพฤกษ์เงียบ บุษกรข่มความสะเทือนใจ เจ็บปวด พูดเด็ดขาดว่า “ในเมื่อไม่มีคำตอบว่าพ่อหายไปไหน ต่อไปก็จะไม่มีพ่ออยู่ในชีวิตแม่เหมือนกัน”
พฤกษ์สบตาไอลดากับไตรทศเครียด เพราะความรู้สึกของแม่ยิ่งแย่ไปกว่าเดิม
ไอลดาบอกพฤกษ์ว่าปิดไม่ไหวแล้ว ให้บอก
ความจริงกับแม่ พฤกษ์ตอบเครียดว่าตนไม่ยอมเอาชีวิตแม่เป็นเดิมพัน ไตรทศเห็นด้วยเพราะเพียงพฤกษ์หายไปหลายวันแม่ยังเครียดจนเกือบช็อกตลอดเวลา ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ารู้ว่าพ่อตายแล้วแม่จะเป็นยังไง
“สักวันแม่ก็ต้องรู้ความจริง แกควรจะรีบหาวิธีให้แม่ทำใจได้แล้ว” ไอลดายืนยันความคิดของตน
ตกกลางคืนบุษกรรื้อภาพถ่ายของเดชาออกมาดูด้วยความผิดหวัง พฤกษ์เข้ามาเห็นแม่นั่งที่เตียงถือกรอบรูปพ่อดูอยู่ พฤกษ์จะรับไปเก็บให้ แม่กลับโยนกรอบรูปลงในกล่องที่มีรูปพ่อไม่มีรูปแม่ติดอยู่เลย บอกพฤกษ์ให้เอาไปทิ้งให้แม่ด้วย
พอพฤกษ์ถือกล่องออกไป บุษกรก็น้ำตาไหลพราก กลืนสะอื้นไว้ในอกไม่ให้เสียงลอดออกมา
ฝ่ายพฤกษ์พอออกมาก็หยิบรูปพ่อขึ้นดูน้ำตาร่วงด้วยความกดดันที่ตนทำให้แม่เข้าใจพ่อผิด
ฝ่ายวีนัส กลับถึงบ้านร่มไม้ชายคาก็ถูกยายพิกุลกับบรรดายายๆตาๆซักถามกันวุ่น เธอขอโทษทุกคนบอกแค่ว่าไปทำธุระกับอาจารย์พฤกษ์ พอดีเกิดเรื่องนิดหน่อย
วีนัสเครียดที่ต้องปิดบังเรื่องพ่อของพฤกษ์ คณิตาถามว่าเครียดเรื่องพ่อของอาจารย์พฤกษ์ใช่ไหม วีนัสขอร้องว่าอย่าถามเลยตนพูดไม่ได้จริงๆ
“ก็ตามใจ แต่รู้ใช่ไหม ความลับคือความทุกข์ เก็บความทุกข์ไว้ในใจนานๆมันบั่นทอนชีวิตมากนะ”
พูดแล้วคณิตาก็ไปไหว้พระสวดมนต์ ปล่อยให้วีนัสนั่งอึดอัดอยู่ตรงนั้น
วันต่อมา วีนัสปรารภกับชาญชัยว่าตนรู้เรื่องความลับของพ่ออาจารย์พฤกษ์แต่ไม่รู้จะบอกคุณป้าบุษกรยังไงดี ชาญชัยถามว่าความลับที่รู้มาร้ายแรงมากใช่ไหม วีนัสบอกว่าตนรู้สึกว่าร้ายแรง
“งั้นลองชั่งน้ำหนักดูว่าคุณบุษกรควรรู้เรื่องหรือเปล่า ถ้าจำเป็นต้องรู้ก็รีบบอกซะจะได้ช่วยกันแก้ปัญหา เพราะบางเรื่องถ้าปล่อยไว้ มีแต่จะทำให้แย่กว่าเดิม”
พอดีบุษกรโทร.มา วีนัสเห็นชื่อแล้วตกใจ บุษกรถามว่าสามีป้าอยู่กับเมียน้อยใช่ไหม พฤกษ์ไปเจอสามีป้าอยู่กับเมียใหม่ใช่ไหม วีนัสพูดไม่ออก บุษกรพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า
“ขอบใจมากหนูวีนัส ป้าเข้าใจแล้ว”
วีนัสยิ่งเครียด อยู่ในภาวะน้ำท่วมปาก พูดอะไรไม่ได้
อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 7 วันที่ 29 ก.ย.61
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทประพันธ์โดย ธุวดาราละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทโทรทัศน์โดย เป่ากุ้ย
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ กำกับการแสดงโดย ภูธเนศ หงษ์มานพ
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ฝึกสอนการแสดงโดย อริศรา วงศ์ชาลี
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ผลิตโดย บริษัท เป่าจินจง จำกัด
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ควบคุมการผลิตโดย นพพล โกมารชุน
ที่มา ไทยรัฐ