อ่านละคร ดวงใจในไฟหนาว ตอนที่ 12 วันที่ 10 ก.ย.61
“คุณกับผมไปกันไม่ได้หรอก คุณกลับไปเถอะ อย่าทำให้พ่อคุณไม่สบายใจเลย...”เยี่ยมยุทธได้รับผลตรวจดีเอ็นเอจากเส้นผมปิ่นมุกวันต่อมา ผิดหวังมากเมื่อผลเป็นลบ ปิ่นมุกไม่ใช่ขวัญน้องสาวคนเดียวของเขา แต่กระนั้นเขาก็ไม่มีเวลาท้อ บึ่งรถไปหาปิ่นมุกทันทีเพราะอยากรู้ที่มาของสร้อยเจ้าปัญหา
ปิ่นมุกบำบัดกับเปลวอย่างต่อเนื่อง บทเรียนครั้งที่แล้วที่จิตแพทย์หนุ่มสอนให้เธอปล่อยวางและตั้งสติช่วยให้เธอสงบมากขึ้น และวันนี้เธอก็ขอให้เขาช่วยสอนวิธีรับมืออาการรู้สึกผิด
“ฉันอยากรู้ว่าจะจัดการกับความรู้สึกผิดที่ทำให้คนดีๆคนหนึ่งตายได้ยังไง ฉันไม่เคยบอกใครเลยว่าฉันรู้สึกผิดกับครูอารี แต่ฉันรู้สึกผิดจริงๆ...รู้สึกมาตลอด”
เปลวพยักหน้ารับรู้ก่อนอธิบายอย่างใจเย็น “ฟังนะครับ...ความรู้สึกผิดเป็นสัญญาณของความเป็นมนุษย์ คุณควรดีใจที่คุณยังรักษามันได้ คุณยังเป็นคนที่มีหัวใจนะครับ...ดีออกครับ”
“นี่ฉันควรดีใจหรือคะเนี่ย”
“คุณเป็นเหยื่อในโลกโซเชียล เวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราต้องออกมาขอโทษครับ มีทางเดียวที่เราจะเดินผ่านมันไปได้คือยอมรับความผิดนั้น”
“ทุกวันนี้ฉันไม่ออกไปไหนเพราะมันเหมือนมีดวงตามากมายจ้องจับผิดฉัน ฉันไม่มีที่ยืนอีกแล้วในสังคม”
“อย่าหนีความทุกข์ด้วยการไปกินเหล้า ไปเที่ยว อย่าหนีมันด้วยการหลอกตัวเองด้วยเหตุผลข้างๆคูๆ ถ้าเรารู้สึกผิด ก็ปล่อยมันออกมาให้คนอื่นได้รับรู้ เผชิญหน้ากับความรู้สึกนี้ตรงไปตรงมา จากนั้นก็ให้อภัยตัวเองแล้วเดินหน้าต่อไป”
ooooooo
เยี่ยมยุทธถามปิ่นมุกเรื่องที่มาของสร้อยเจ้าปัญหาซึ่งทำให้เขาเข้าใจว่าเธอคือน้องสาวแท้ๆ ไฮโซสาวจำไม่ได้ว่าได้สร้อยมาจากไหน แต่รับปากว่าจะค้นหาความจริงให้
ดาวเหนือแทบลืมเรื่องปิ่นมุกไปแล้ว เรื่องดาวเด่นทำให้เธอเครียดมากและมีท่าทีเบื่อหน่ายต่อทุกสิ่ง แฟรงค์เห็นลูกสาวบุญธรรมทำหน้าซังกะตายเลยแกล้งส่งภาพและข้อความไปยั่วประสาทเยี่ยมยุทธ
“แกแพ้ฉัน...ฉันจะดินเนอร์กับดาวเหนือคืนนี้ จากนั้นก็จุดจุดจุด”
เยี่ยมยุทธวิ่งหน้าตื่นมาหาดาวเหนือที่คอนโดทันที แล้วก็ต้องเซอร์ไพรส์เมื่อเห็นดาวเหนือรออยู่แล้วพร้อมมื้อค่ำใต้แสงเทียนซึ่งดูก็รู้ว่าเขาถูกหลอก
“เขายั่วโมโหผมให้มาหาคุณเหรอ เขาทำแบบนั้นทำไม”
“ก็ฉันบอกรักคุณไปแล้วแต่คุณก็ยังสนใจปิ่นมุกมากกว่า”
“ผมไม่ได้สนปิ่นมุกมากกว่าคุณ คุณคิดไปเอง นี่นายแฟรงค์เขาทำเพื่อเราจริงหรือ”
“เขาคือแดดดี๊จริงๆ เขาทำทุกอย่างนี่เพื่อให้เราได้คุยกัน”
แฟรงค์ปลงแล้วเรื่องดาวเหนือ เขาปรารถนาดีกับเธอจากใจจริงจึงช่วยให้ได้ปรับความเข้าใจกับเยี่ยมยุทธ เยี่ยมยุทธตระหนักเรื่องนี้ดีและตัดสินใจเปิดอกกับเธอเรื่องปิ่นมุก แต่ไม่ทันเริ่มปิ่นมุกก็โทร.บอกว่าได้สร้อยเจ้าปัญหามาจากดาวเหนือสมัยเล่นด้วยกันตอนเด็กๆ
ความจริงจากปิ่นมุกแทบทำให้เยี่ยมยุทธล้มทั้งยืน เขาแอบขโมยเส้นผมดาวเหนือจากหวีของเธอไปตรวจดีเอ็นเอเพื่อความแน่ใจ...แม้จะมั่นใจไปกว่าครึ่งว่าเธอคือขวัญน้องสาวแท้ๆของเขา
นอกจากรักษาบำบัดปิ่นมุก เปลวยังแวะมาหาสุนทรที่มูลนิธิเสมอ และวันนี้จิตแพทย์หนุ่มก็ได้ยินเรื่องราวบางอย่างจากปากคนไข้หนุ่มใหญ่เกี่ยวกับช้างสีชมพู
“ช้างสีชมพู ช้างสีชมพูเขาไม่ตาย แม่พาเขาออกมา”
“ช้างสีชมพูคืออะไรหรือครับ บอกหมอได้ไหม”
“ผมผิดเอง ผมเลว ผมชั่ว ผมไม่น่าเกิดมาเป็นคนเลย”
“ฟังนะครับ...คนเรามีทั้งตัวมืดที่เป็นคนเลว มี ตัวสว่างที่เป็นคนดี ในตัวเราคนเดียวกันนี่แหละ...เรามีทั้งตัวมืดตัวสว่างเป็นร้อยๆตัวเลยในชีวิตประจำวัน เราเลือกสลับไปมาตลอดเวลาครับ”
สุนทรนิ่งฟังด้วยท่าทีสงบลง เช่นเดียวกับดาวเหนือที่ขอแฟรงค์กลับมาทำงานมูลนิธิเป็นวันแรก บทสนทนาระหว่างเปลวกับสุนทรเรียกความสนใจเธอแต่ยังไม่อยากปรากฏตัวให้ทั้งสองเห็น
เปลวค่อยๆพูดกับสุนทรอย่างใจเย็น “เวลาเราทำผิดมันเป็นเพราะตอนนั้นเราใช้ตัวมืดในตัวเราตัวหนึ่งจากหลายร้อยตัวแค่นั้นเอง”
“ในตัวเรามีตัวสว่างหรือครับ”
“มีสิครับ...อย่างเช่นตอนนี้ไง ตอนที่เราไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร...คนบางคนทำผิดครั้งเดียว ปล่อยให้ตัวมืดออกมาครั้งเดียวแต่ถูกสังคมตัดสินไปแล้วว่าเลว พวกเขาเหมารวมว่าเลว แต่ที่แย่กว่าคือตอนเราตัดสินตัวเองครับ”
ถ้อยคำของเปลวช่วยเรียกสติของสุนทรเช่นเดียวกับช่วยเตือนสติดาวเหนือให้ยอมอภัยให้ตัวเอง
“ธรรมชาติคนเรามักยึดติดตัวมืดไม่ยอมปล่อย ยิ่งยึดติดก็ยิ่งหมองเศร้า เหมือนขยายความมืดให้มัน ปกคลุมตัวเราและคนรอบข้าง ไอ้ที่แย่คือหลายๆคนถลำลึกสร้างตัวมืดเพิ่มขึ้น...เพิ่มขึ้น”
ดาวเหนือยืนร้องไห้ให้ความผิดเก่าของตัวเอง เพราะความอยากเอาชนะทำให้ดาวเด่นเกือบพิการตลอดชีวิตและปิ่นมุกหวิดฆ่าตัวตายเพราะคลั่งที่ถูกเธอแย่งเยี่ยมยุทธ คำพูดของเปลวยังลอยเข้าหูเรื่อยๆ
“ชีวิตเราเกิดมาเพื่อมีความสุขและสร้างความสว่างให้คนที่เรารัก เรายังมีตัวสว่างอีกหลายสิบหลายร้อย เราต้องให้คุณค่ากับตัวสว่างพวกนี้ ขยายพวกมันให้โตและ สร้างให้มันมีมากแทนที่ตัวมืด...ความหมายของการมีชีวิตมีแค่นี้ครับ”
ooooooo
จินดาตัดสินใจเปิดตัวธนูแฟนหนุ่มกับพีระ หวังให้พ่อเปิดใจยอมรับความต้องการของเธอ แต่ต้องผิดหวังเพราะนอกจากค้านหัวชนฝา พีระยังออกอาการคลั่งและใช้กำลังกับธนู
ธนูทั้งโกรธทั้งตกใจ แต่ไม่ทันตอบโต้จินดาก็โวยวายอย่างเหลืออดเพราะไม่เคยเห็นพ่อเลือดร้อน
พีระไม่สะทกสะท้านสายตาหวาดระแวงของลูกสาวเอ่ยเสียงเย็น
“หนูยังไม่เคยเห็นหลายอย่าง พ่อทำทุกอย่างได้เพื่อคนที่พ่อรัก พ่อรักหนู พ่อต้องปกป้องหนูจากคนพวกนี้”
สีหน้าและแววตาโหดเหี้ยมของพีระทำให้จินดาผงะ ธนูเห็นดังนั้นก็ฮึดสู้
“ผมเคยนับถือคุณ ไม่นึกเลยว่าคุณจะเป็นคนก้าวร้าวแบบนี้ คุณทำให้ผมเกิดแรงฮึด ผมจะไม่ยอมแพ้ ผมกับจินดา...เราจะคบกันให้ได้ คุณจินดา...ผมรักคุณ! ต่อไปนี้ผมคือแฟนของคุณ!”
คำประกาศกร้าวของธนูทำให้พีระเต้นผางแหวลั่น
“คนพวกนี้มันมีแต่ตัว มันหวังคบหนูเพราะอยากเป็นหนูตกถังข้าวสาร พ่อยอมไม่ได้”
จินดาร่ำไห้ด้วยหัวใจแตกสลาย ผิดหวังที่พ่อไม่เข้าใจ “ไม่ใช่ค่ะ...พ่อตัดสินเขาไม่ได้ พ่อไม่รู้จักเขา พ่อทำร้ายเขาไม่ได้ พ่อทำให้หนูกลัว พ่อคนที่หนูรู้จักไม่ใช่แบบนี้ พ่อคนที่อบอุ่นอ่อนโยนคนนั้นหายไปไหนคะ!”
ดาวเหนือนิ่วหน้าด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินเรื่องราวของพีระจากจินดา
“คนใจเย็นอย่างคุณพีระเนี่ยนะ...นึกภาพไม่ออกเลยแฮะ”
“ฉันช็อกไปเลย ภาพพ่อวันนั้นคาใจฉันจนนอนไม่หลับ อะไรทำให้พ่อเป็นคนเจ้าอารมณ์ขาดสติได้แบบนั้น”
“อาจเป็นตัวตนของเขาจริงๆแต่ซ่อนไว้ไม่แสดง ออกมา เอ่อ...ขอโทษนะคะ...ท่านคงรักและหวงคุณจินดามาก”
“ท่านไม่เปิดโอกาสให้ฉันหรือธนูพูดเลย ความรักคับแคบแบบนี้ฉันไม่ต้องการ”
“แล้วคุณธนูเป็นยังไงบ้าง”
ชื่อของธนูทำให้จินดายิ้มหน้าบาน “เขาคง ไม่ชอบใจเหมือนกัน เขาฮึดขึ้นมา...น่ารักชะมัด เขาบอกรักฉันต่อหน้าพ่อเลยอ่ะ ช่วงนี้เขาแอบส่งไลน์หา เราสองคนยืนยันจะคบกันต่อ”
“คุณธนูนี่น่ารักจริงๆ”
“ดาวเหนือ...พ่อกลายเป็นคนที่ฉันไม่รู้จัก เขาจะทำยังไงกับเราสองคน ฉันเดาไม่ออกเลย...”
ooooooo
อ่านละคร ดวงใจในไฟหนาว ตอนที่ 12 วันที่ 10 ก.ย.61
ละครเรื่อง ดวงใจในไฟหนาว บทประพันธ์โดย นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ละครเรื่อง ดวงใจในไฟหนาว บทโทรทัศน์โดย นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
ละครเรื่อง ดวงใจในไฟหนาว กำกับการแสดงโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ละครเรื่อง ดวงใจในไฟหนาว ผลิตโดย บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ติดตามชม ละครเรื่อง ดวงใจในไฟหนาว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ