อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 12 วันที่ 9 ก.ย.61

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 12 วันที่ 9 ก.ย.61

ผีหยดถึงกับอึ้งเมื่อรู้ความจริงที่เกิดขึ้น หลวงพ่อรู้ว่าเธอไม่ยินดีที่มีท่านเป็นพ่อ แต่หากท่านไม่รับเป็นพ่อคงรักษาชีวิตเธอไว้ไม่ได้

“ที่โยมหยดคิดว่านางเยื้อนไม่เคยรัก โปรดเชื่ออาตมาเถิดว่าไม่มีแม่คนไหนรักลูกเท่านางเยื้อน

อีกแล้ว ยิ่งห่วงโยมหยดมากเท่าใดกลับยิ่งตั้งข้อแม้ ยิ่งรักมากเท่าใดกลับยิ่งทำเสมือนไม่แยแส”

หลวงพ่อเล่าเพิ่มเติมว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งหยดลงไปเล่นน้ำแล้วว่ายไปเด็ดดอกบัว แต่โดนน้ำวนดูดจมหายมีคนช่วยไว้ได้พาขึ้นมาบนท่าน้ำ นายแม่มาเห็นเข้า



พอรู้ว่าเป็นหยดลูกแม่เยื้อนสั่งให้บ่าวเอาไปโยนทิ้งน้ำ โชคดีที่แม่เยื้อนตามมาขวางไว้ทัน สั่งห้ามใครแตะต้องลูกของตน นายแม่ถึงได้ล่าถอยไป

ครั้นหยดฟื้นคืนสติ แม่เยื้อนทั้งหยิกทั้งเฆี่ยน

ฐานสั่งห้ามไม่ให้ไปเล่นน้ำที่ท่ายังฝ่าฝืนคำสั่ง เธอแค่อยากไปเก็บบัวให้แม่ แม่เยื้อนตวาดแว้ดว่าไม่ต้อง ตนไม่ได้อยากได้ดอกบัวจากเธอ

“ใช่สิ ลูกอย่างฉันมันไม่มีดีเท่าอีหยาดของแม่หรอก คนอย่างฉันมันคงต่ำตมเสียยิ่งกว่าบัวใต้น้ำ เฆี่ยนฉันสิ ฆ่าฉันเลยสิ เอาให้ตายสาใจแม่ไปเลย” หยดมองแม่ด้วยความแค้นโดยไม่รู้ว่าท่านพยายามปกป้องไม่ให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่จะโดนนายแม่เอาไปทิ้งน้ำอีก...

ยิ่งได้ฟังความจริงจากปากของหลวงพ่อหรือชดในชาติปางก่อน ผีหยดยิ่งเสียใจร้องไห้ตัวโยน หลวงพ่อมองอย่างสงสารก่อนจะขอตัวกลับก่อน หมดหน้าที่ของท่านแล้ว เธอร้องเรียกไว้ อยากรู้ว่าแม่ตายอย่างไร

“แม่เอ็งสิ้นใจตายที่ห้องใต้ดินนั่นแล”...

ขณะที่ผีหยดได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับแม่เยื้อน วิษณุที่กำลังตัดต่อเทปละครสี่ตอนแรกตามคำสั่งช่อง เริ่มหงุดหงิดต้องกดปุ่มพอสค้างไว้แล้วเดินออกไปสงบสติอารมณ์นอกห้องเจอต้นกำลังยืนมองรูปตัวเองในบทคุณพระวนาเทพก็คลายความหงุดหงิดลง เดินไปตัดพ้อจะมาทำไมไม่บอก

“บอก...ก็กลัวพี่ไม่ให้มา พี่เก็บตัวเลยตั้งแต่แม่เดือนเสีย”

“พี่ไม่ค่อยอยากเจอใคร มีเรื่องต้องคิดเยอะ งานก็ยุ่งๆด้วย”

ต้นขอรูปใบนี้ของตัวเองได้ไหมจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเขาได้แสดงเป็นพี่ณุในอดีต วิษณุตัดพ้ออีกครั้งนี่เขาคงคิดว่าตนบ้าใช่ไหม ต้นไม่เคยคิดอย่างนั้น ยิ่งได้เจอเรื่องที่เกิดขึ้นกับกิฟท์วันปิดกล้อง

“ผมก็ไม่มีคำถามอะไรอีก หรือจริงๆต่อให้พี่ณุจะบ้า ผมก็จะบ้าไปกับพี่นี่แหละ”

วิษณุมองต้นรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ขอบคุณเขามากที่มักจะคอยเป็นกำลังใจให้กันเสมอ เขาเล่าให้ฟังว่าตอนนี้เขากับกิฟท์เป็นอิสระต่อกันแล้ว เหลือแค่โฆษณาสุดท้ายที่เธอดีลไว้ก่อนนี้ แล้วเธอก็คงประกาศเลิกเป็นแฟนกับเขาออกสื่อ วิษณุเชื่อว่าสักวันกิฟท์จะต้องได้เจอกับความรักที่ดี

“ครับ ถึงวันนั้นคนก็คงจะพากันลือเรื่องผมแทน” ต้นเห็นวิษณุนิ่งเงียบไป ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า

“พี่ทำให้ต้นลำบากไปด้วยอีกคน” วิษณุรู้สึกผิดที่ทำให้ต้นต้องเปิดเผยว่าเป็นเกย์ต่อหน้าคนอื่น

“เปล่าเลยครับพี่ ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยให้ใจอะไรกับความรัก แต่กับความรู้สึกที่ผมให้พี่มันกลับเป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมรู้ว่าความรักที่ดีมันเป็นอย่างไร” ต้นมองวิษณุอย่างรักหมดใจ นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด คนอย่างเขาไม่สมควรจะรักใครและไม่สมควรที่จะได้ความรักจากใครอีกด้วย ต้นแนะให้เขาลองให้อภัยตัวเองดูบ้าง

“เพราะบางทีสิ่งที่พี่ทำมันอาจจะผิดจนเกินอภัย”

ooooooo

ตกดึกคืนเดียวกัน ผีหยดร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ใช้มือขุดดินข้างศพของตัวกับของหยาด เสียงหลวงพ่อยังคงดังก้องในหูผีหยด

“หลังจากคืนเดือนดับ แม่ของโยมถูกขังลืมในห้องใต้ดิน แม้จะโดนทรมานเช่นไรก็ไม่ยอมปริปากอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวว่าผู้ใดคือคนที่วางยาพิษ ผู้คนในเรือนนั้นต่างพากันเสียสติไปตามๆกัน”

หลวงพ่อยังเล่าอีกว่าตั้งแต่ที่คุณกำไลพร้อมลูกๆโดนวางยา คุณพระวนาเทพก็ไม่ออกว่าราชการอีกเลย นายแม่ก็เฝ้าคร่ำครวญถึงคุณกำไลกับหลานๆ

ที่ต้องมาตายในคราวเดียวกัน ข้าวปลาไม่แตะ ครั้นมีคนบอกว่าคุณกำไลกับลูกๆเสียชีวิตไปแล้ว ท่านก็ร้องไห้ฟูมฟายราวกับคนบ้าว่าลูกของท่านยังไม่ตาย...

ชดเอาอาหารมาให้แม่เยื้อนที่ถูกทรมานจนผ่ายผอมกินโดยผ่านซอกประตูห้องใต้ดินแต่เธอก็ไม่ยอมแตะต้องอาหาร ได้แต่บอกให้เขาปล่อยให้เธอตายไปดีกว่า...

แต่ดูเหมือนมีอยู่หนึ่งคนที่ไม่รู้สึกรู้สมกับการตายของคุณกำไลกับลูกๆนั่นก็คือเจ้าสัว แถมยังพานางบัวเมียทาสคนใหม่เข้ามาอยู่ในบ้านอีกด้วย สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้นายแม่

ในเมื่อเล่นงานเจ้าสัวกับเมียใหม่ไม่ได้ นายแม่ใช้แม่เยื้อนซึ่งบอบช้ำหนักเป็นที่ระบายอารมณ์สั่งให้บ่าวเอาน้ำสาดหน้าแล้วจิกหัวขึ้นมาด่า

“เอ็งกับอีบัวนั่นไม่ต่างกันสักนิด อีพวกบัวใต้น้ำทาสต่ำตมอย่างพวกเอ็งดีแต่คิดหาทางใฝ่สูง หาทางจะกดหัวข้าลง รู้ไว้ไม่มีทางค้ำหัวข้าได้ สาดน้ำใส่มันอีก”

บ่าวเอาน้ำสาดแม่เยื้อนตามคำสั่ง เธอลืมตาแทบไม่ไหว พึมพำเบาๆ

“มิเคย...เปลี่ยน...บางอย่าง...มิเคยเปลี่ยน”

แม่เยื้อนนึกถึงครั้งแรกที่ถูกเรียกตัวไปรับใช้เจ้าสัวโดยที่ตัวเองไม่เต็มใจ นายแม่ยังคงใช้เธอเป็นที่ระบายอารมณ์แค้น เข้าไปบีบหน้า

“ข้าจะเอาคืนให้หมดทุกความเจ็บช้ำที่เอ็งทำไว้กับข้าและลูกข้า พูดความจริงมาใครที่เป็นคนฆ่าลูกข้ากันแน่”

“คุณเจ้าขา อภัยให้ฉันและลูกของฉันเถิด ไหนๆมันก็ตายไปแล้วอย่าจงเกลียดจงชังกันอีกเลย”

“เอ็งสั่งสอนข้ารึ ต่อให้มันตายไปแล้วข้าก็จะหาวิธีจองจำมัน แผดเผามัน ใคร...มันคือใคร อีหยดหรืออีหยาดกันแน่” นายแม่เห็นแม่เยื้อนปิดปากแน่นไม่พูดอะไร “ดี...ดีเหลือเกิน ในเมื่อเอ็งไม่พูด ข้าก็จะถือว่าเอ็งผิด ลงโทษสถานเบาให้เอ็งก็แล้วกัน...จับมันฝังทั้งเป็น มันต้องทรมานที่สุด เจ็บช้ำที่สุด เจ็บให้เท่าที่ข้าเจ็บ อย่าให้มีผู้ใดล่วงรู้เรื่องนี้ และถ้าใครปากดีก็ฝังมันลงไปพร้อมกันให้หมด” นายแม่หัวเราะราวกับคนบ้า...

ผีหยดขุดหลุมข้างศพตัวเองและหยาดลงไปกระทั่งเจอโครงกระดูกของแม่ ก้มลงกอดร้องไห้โฮ

มีเสียงหลวงพ่อดังขึ้น “โยม เราสูญเสียกันมามากเหลือเกิน โยมจะคิดเห็นหนทางอย่างไรเพื่อหลุดพ้นจากบ่วงกรรมนี้ก็สุดแท้แต่หัวใจของโยมเถิดนะ”

ooooooo

ทั้งต้นและวิษณุต่างนิ่งกันไปพักหนึ่ง ก่อนที่ฝ่ายหลังจะพูดขึ้นอีกครั้งทำลายความเงียบ

“ต้นรู้ไหม พี่ฝันร้ายทุกคืน พี่ยังคงเห็นภาพหยาด กำไล ตอนสิ้นใจทุกคืน”

“พี่ณุครับ ผมจองทริปยุโรปไว้แล้วนะ เราไปเที่ยวสักพัก พี่ณุจะได้ลืมเรื่องทั้งหมดนี้นะครับ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นครับพี่” ต้นมองวิษณุด้วยสายตาเปี่ยมรัก

แต่เขากลับมีสีหน้าเลื่อนลอยไม่รับรู้ไม่รู้สึกอะไร ทำให้ต้นอดเป็นกังวลไม่ได้...

วิษณุหลับไปด้วยความอ่อนเพลียเมื่อตอนรุ่งสางนี่เอง เสียงเคาะประตูห้องรัวๆปลุกให้เขาลุกขึ้นมองไปที่ประตู อึดใจบอลเปิดประตูเข้ามาถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เขากลับย้อนถามว่ามีอะไร

“คือวันนี้เรามีประชุมคิวสุดท้ายอ่ะพี่ นัดสิบเอ็ดโมง ผมก็เลย...”

ผู้กำกับหนุ่มเหลือบมองนาฬิกาติดผนังเห็นบอกเวลาเที่ยงตรง “โทษทีบอล เดี๋ยวพี่ลงไป”

บอลรับคำถอยออกจากห้องปิดประตูตามหลัง วิษณุปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอีก ต้องเอามือนวดขมับตัวเองเบาๆ ก่อนจะคว้ายามากิน แล้วเดินออกจากห้อง...

ที่ห้องประชุมชั้นล่างของบริษัทเบญจกายแปลง ทุกคนที่นั่งรอการมาถึงของวิษณุถึงกับถอนใจโล่งอกเมื่อบอลเข้ามาบอกว่าเขากำลังลงมาแล้ว ไม่ทันขาดคำคนที่ทุกคนรอคอยเปิดประตูห้องประชุมเข้ามา พร้อมกับขอโทษทุกคนด้วย แล้วหยิบบทและเบรกดาวน์ขึ้นมาดู รินเริ่มการประชุมทันที

“โอเคค่ะทุกคน พรุ่งนี้ก็เป็นคิวสุดท้ายแล้ว เราจะถ่ายฉากจบพระวนาเทพ เดี๋ยวอ่านพร้อมกันเลยนะคะ”

ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาอ่านบทที่ต้องถ่ายเพิ่ม พร้อมกับปรึกษากันไปด้วยว่าจะโยกบทไหนขึ้นมาถ่ายก่อนเป็นฉากแรก บอลอยากให้เอาฉากคุณพระวนาเทพหมดอาลัยตายอยากในชีวิตขึ้นมาถ่ายก่อน แต่คอสตูม

ขอให้เอาฉากในวัดขึ้นมาถ่ายก่อนเนื่องจากวิกหัวโล้นสำหรับบทพระสงฆ์ได้คิวแค่ช่วงเช้า

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 12 วันที่ 9 ก.ย.61

ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตร
ละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ