อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 11 วันที่ 5 ก.ย.61
“ฉันรู้ว่าหนูคงไม่มีทางอภัยให้แม่อย่างฉัน ในสิ่งที่อดีตฉันได้เคยกระทำ แม้แต่ความตายฉันยังมิรู้ว่าเพียงพอไหมที่จะชดใช้ความผิดบาปที่แม่คนหนึ่งได้ฆ่าและสาปแช่งลูกตัวเอง แต่หากความตายมันพอจะแลกกับอะไรได้บ้างฉันขอให้ทุกคำสาป ทุกบ่วงกรรมที่ร้อยรัดเราไว้ทุกคนสิ้นสุดลงเสียทีเถิด” ยุพดีเดินเข้าไปโอบฝนกับเดือนที่ไม่ได้รับรู้อะไรด้วย “แม่ต้องไปแล้ว ฝนฝากน้องด้วยนะลูก รักน้องให้มากๆนะ”ผีหยดยังคงยืนนิ่งไม่แม้แต่คุกเข่าขอขมาลาโทษ วิษณุเตือนเธอนี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ยุพดีมองผีหยดเป็นครั้งสุดท้ายยิ้มให้ไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน ผีหยดแพ้ความอ่อนโยนของแม่ แต่ความแค้นทำให้ไม่ยอมรับ
“หากแม้นมีสักชาติที่เราจะได้กลับมาเป็นแม่ลูกกัน ฉันจะไม่มีทางทำให้หนูเกลียดฉัน...ฉันสัญญา”
ผีหยดในร่างรินกำลังจะคุกเข่าแต่วิญญาณยุพดีหายไปเสียก่อน ขาที่ย่อลงกลายเป็นร่างรินล้มฟุบไปตรงนั้นปาลรีบประคองไว้ พยาบาลกันญาติทั้งหมดออกไปข้างนอกเหลือเพียงผีหยดกับร่างไร้วิญญาณของยุพดี เธอร้องไห้ตัวโยนมองศพแม่ แต่ไม่มีคำขอขมาใดๆออกมา
ooooooo
กิฟท์สะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก เหงื่อท่วมตัวหายใจหอบ มองไปรอบๆถึงได้รู้ว่าตัวเองฝันไป ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงฝันเห็นหยาด เธอพยายามตั้งสติสะบัดหัวไล่ความคิดเรื่องนี้ออกไป แต่แล้วเหลือบไปเห็นกำไลโบราณวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง หยิบขึ้นมาดู ค่อยๆหมุนไปรอบๆ
พลันกิฟท์ระลึกชาติได้ เห็นตัวเองกลายเป็นคุณกำไลมองกำไลวงนั้นในมือตัวเองอย่างพึงพอใจ หยาดเอาถาดใส่ของว่างมาวางให้ เธอหันมาถามความเห็นจากบ่าวคนสนิทว่าควรจะรับหมั้นคุณพระวนาเทพดีไหม
“ดีสิเจ้าคะ คุณกำไลของบ่าวมีความรักอยู่ในแววตา บ่าวไม่เคยเห็นแววตาของคุณกำไลงดงามเท่าเวลาที่เจอคุณพระมาก่อน” หยาดสนับสนุนเจ้านายเต็มที่
นอกจากนี้ กิฟท์ยังระลึกชาติเห็นตัวเองตอนถูกหยาดวางยาพิษ คุณพระวนาเทพเข้ามาประคองเธอไว้สีหน้าหมดหวังที่เห็นลูกสาวทั้งสองคนสิ้นใจส่วนเธอใกล้เสียชีวิตเต็มที เธอกล่าวลาเขา วาสนาของเราสองคนผูกพันกันมาแค่นี้ เขาคร่ำครวญว่าอย่าเพิ่งจากเขาไป เธอถอดกำไลที่เขาให้ยัดใส่มือเขา
“น้องทรมานมานานเหลือเกินกับวาจาที่พี่เคยให้สัญญาจะรักเพียงน้องคนเดียวไม่เหลียวแลหญิงอื่น แต่คุณพี่ก็ผิดสัญญาซ้ำแล้วซ้ำเล่า นับจากนี้ขอให้เราสิ้นสุดต่อกันอย่าเหลือแม้แต่รอยอาลัย น้องจักไม่จดจำชีวิตและความรักที่เคยมอบให้คุณพี่อีก แม้ชาติหน้า
มีจริง น้องขอเกิดมาไม่รู้จักความรัก ไม่มอบความรักให้ใครมากกว่าตัวเองเพราะน้องได้รับรู้ความเจ็บปวดของมันในชาตินี้อย่างแสนสาหัสแล้ว”
“กำไลพี่ขอโทษ พี่ผิดเอง แม้นเจ้าจักให้พี่ทำอันใดพี่จักยอมทุกอย่างให้สมกับที่ทำเจ้าเจ็บ”
“ขอให้เราสิ้นรักสิ้นสุขสิ้นทุกข์ สิ้นวาสนาต่อกันเสียที หากชาติหน้ามีจริง น้องขอให้พี่ไม่สามารถที่จะรักหญิงใดอีกเลย” พูดได้แค่นั้นคุณกำไลกระอักเลือด สิ้นใจ
กิฟท์ตื่นจากภวังค์ มองกำไลโบราณในมือ รีบโยนทิ้งไปไกลๆตัวสีหน้าหวาดหวั่น
ooooooo
วิษณุโทษว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับคนรอบข้างเป็นความผิดของตัวเอง แม้กระทั้งการตายของยุพดี เขาเข้าไปขอโทษฝนกับเดือนอย่างรู้สึกผิด ฝนไม่เข้าใจเขาจะขอโทษทำไมการตายของแม่ไม่เกี่ยวกับเขาสักหน่อย
“เกี่ยวสิฝน ถ้าแม่ไม่ไปกองถ่ายของณุก็คงไม่เกิดอุบัติเหตุ”
ฝนขอร้องวิษณุอย่าพูดแบบนี้และไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สบายใจอยู่ดี
อีกมุมไม่ห่างกันนัก รินที่มีปาลคอยดูแลไม่ห่างค่อยๆฟื้นคืนสติ มองไปรอบๆเห็นตัวเองอยู่ในโรงพยาบาล จัดแจงจะลุกขึ้น ปาลดึงมือไว้ถามว่าจะไปไหน เธออยากรู้ว่าผีหยดได้กราบขอขมาแม่แล้วใช่ไหม เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ผีหยดสารภาพผิดไม่ทันยุพดีสิ้นใจเสียก่อน รินรับไม่ได้ทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง
“ไม่จริง คุณโกหก ฉันอุตส่าห์ทำทุกอย่างยอมให้หยดสิงร่าง หวังว่าทุกอย่างมันจะจบ พี่ณุจะได้เลิกทรมาน เดือนก็จะได้ไม่ต้องเสียแม่ไป แล้วเรื่องที่บางบาปทั้งหมด มันก็จะได้จบสักทีแล้วทำไมทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ล่ะคุณ” รินน้ำตาซึมผิดหวังกับตัวเอง ผิดหวังกับผลลัพธ์ที่ไม่เป็นดั่งใจ ปาลกอดเธอไว้ให้สงบสติอารมณ์
“ใจเย็นๆนะริน ผมรู้ว่าคุณปรารถนาดี แต่บางเรื่องมันก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าคนคนนั้นเขาไม่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และถ้าผมขออะไรคุณได้อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะ ถ้าคุณอยากทำอะไรเพื่อคนอื่น ขอให้คนอื่นนั้นเป็นผมบ้างนะริน ผมไม่รู้จะทำยังไงถ้าครั้งนี้ไม่ได้คุณคืนมา ผมขอนะรินอย่าทำแบบนี้อีก”
“ฉันเหนื่อยจังเลยคุณ”
ปาลเสนอจะพาเธอกลับบ้าน แล้วขยับลุกขึ้น เธอดึงเขาให้ลงนั่งอย่างเดิม อย่าเพิ่งไปได้ไหม แค่อยู่ตรงนี้ด้วยกันก่อน แล้วโผกอดเขาไว้แน่นอย่างต้องการที่พึ่ง มีเสียงมือถือของเธอดังขึ้น แม่ของเธอโทร.มาบอกว่าตอนนี้ท่านอยู่กับแม่ปุกที่บ้านให้เธอรีบมาหา ไม่นานนัก รินกับปาลมายืนอยู่ตรงหน้าแม่ของรินกับแม่ปุก รินต่อว่าแม่ตัวเองทำไมไม่ไปรอเธอที่คอนโดฯมาที่นี่ทำไมเกรงใจแม่ปุก
“เกรงใจอะไรลูก ไม่เอาๆคนกันเองทั้งนั้น”
“ก็เราน่ะทำให้แม่ร้อนใจจนต้องมาปรับทุกข์กับแม่ปุกเขาน่ะสิ นี่พ่อเราเขาก็จะปิดรีสอร์ตมาด้วย น่าจะมาพรุ่งนี้แหละ” แม่ของรินบ่นเป็นชุด รินบ่นบ้างว่านี่มันไปกันใหญ่แล้ว ขอให้แม่บอกพ่อว่าไม่ต้องมา
เธอไม่ได้เป็นอะไร ไม่เชื่อให้ถามปาลดูก็ได้ เขารับลูกอย่างไม่ค่อยจะเต็มปากนักว่าเธอไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ แม่ของรินต่อว่าว่ายังจะมาช่วยกันปกปิดอีก ถ้าไม่มีอะไรอย่างที่ว่าไหนอธิบายรอยเลือดหยดพวกนี้ให้ฟังหน่อย
ทีแรกปาลกับรินไม่มีใครปริปากพูดอะไร แต่พอถูกแม่ๆของตัวเองคาดคั้นหนักเข้า ทั้งคู่จึงยอมเปิดปากเล่าถึงละครที่พวกตนทำดันไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีตของวิษณุ และเรื่องที่รินยอมให้ผีหยดสิงร่าง ปาลเล่าเสร็จยกมือไหว้ขอโทษท่าน
ทั้งสองที่ไม่ได้บอกอะไรก่อนหน้านี้ แม่ปุกไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องแบบนี้มีจริงนึกว่ามีแค่ในละคร แม่ของรินทั้งกลัวทั้งโกรธ จับไหล่รินบีบพลางต่อว่า ว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมถึงไม่เล่าให้ฟัง
“ถ้ารินเป็นอะไรขึ้นแม่จะทำยังไง ทำไมถึงได้ทำอะไรบ้าระห่ำขนาดนี้”
“รินไม่นึกว่าทุกอย่างมันจะเป็นแบบนี้” รินโผกอดแม่ไว้แน่นร้องไห้ พานให้แม่ของเธอร้องไห้ไปด้วย แม่ปุกช่วยแก้ต่างให้ ที่รินทำไปทั้งหมดคงเป็นเพราะไม่อยากให้แม่เป็นกังวล ขนาดปาลอยู่ใกล้ๆรับรู้เรื่องทั้งหมด รินยังไม่ยอมบอกอะไรเลย แม่ของรินห้ามลูกทำแบบนี้อีก รินรับคำหนักแน่นจะไม่ทำอะไรให้แม่เป็นห่วงอีก
“คืนนี้ไม่ต้องกลับคอนโดฯหรอกนะ นอนที่นี่กันก่อนแล้วกัน” แม่ปุกยื่นข้อเสนอที่ห้ามปฏิเสธ...
รินอยากรู้ว่าตอนถูกสิงทำอะไรไว้บ้าง ปาลจึงพาไปดูที่ห้องพระ เธอเห็นข้าวของระเนระนาดถึงกับน้ำตาคลอขอโทษด้วยที่ทำร้ายเขา ปาลเคยบอกหลายครั้งแล้วว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขา ผีหยดต่างหากที่ทำ
“ฉันนี่มันแย่จริงๆคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงจะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ เห็นไหมมันไม่มีอะไรดีขึ้นสักอย่าง ทำไปทำไมก็ไม่รู้” รินทิ้งตัวลงนั่งท้อแท้ไปหมด ปาลต้องดึงเธอมากอดอย่างเป็นกำลังใจให้
ooooooo
ที่ห้องใต้ดินเรือนวนาเทพ ผีหยดนั่งคุดคู้อยู่ข้างหีบเหล็ก เห็นผีหยาดจะออกไปข้างนอกร้องถามว่าจะไปไหน เธอตอบโดยไม่มองหน้าเพราะยังเคืองพี่สาวไม่หายว่าจะไปงานศพแม่ แล้วหายวับไป ผีหยดมองตัวเองในกระจกเงาเห็นแผลถูกแทงที่ท้องถึงกับสะอื้นออกมา
“ยิ้มสิอีหยด มันตายสมใจมึงแล้วมีความสุขสิอีหยด” ผีหยดประชดประชันตัวเอง...
วิษณุมางานสวดศพยุพดีในเย็นวันเดียวกัน เจอกิฟท์มาร่วมงานเช่นกัน เธอชวนเขามาหามุมเงียบๆคุยกัน แล้วหยิบกำไลโบราณวงนั้นขึ้นมาถือไว้
“ตั้งแต่ที่พี่ณุให้กำไลวงนี้มา กิฟท์ก็ฝันเรื่องเดิมๆทุกวัน มีเสียงผู้หญิงร้องไห้เรียกกิฟท์ บอกว่าเธอชื่อหยาดและเรียกกิฟท์ว่าคุณกำไล กิฟท์ไม่อยากจะเชื่อเรื่องทั้งหมดนี้เลย”
วิษณุมองอย่างเข้าใจ เขาเองกว่าจะยอมรับความจริงทั้งหมดได้ไม่ง่ายเลย กิฟท์เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมตัวเองถึงได้มาเล่นละครกับเขา
“พี่ขอโทษนะกิฟท์กับเรื่องในอดีต พี่เองยิ่งได้รู้ความจริงพวกนั้น พี่ก็ยิ่งรังเกียจตัวเองในสิ่งที่พี่ทำร้ายกิฟท์และผู้หญิงคนอื่นๆ”
อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 11 วันที่ 5 ก.ย.61
ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตรละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ