อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 1 วันที่ 16 ก.ย.61
ณ ย่านคนทำงานกลางเมือง ผาณิตา หรือน้ำตาล สาวสวยสุดเปรี้ยว รองผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัทเหมทองกรุ๊ป จำกัด เจ้าของแบรนด์รองเท้ามนตรากำลังทดสอบคุณภาพรองเท้าคอลเลกชันใหม่รองเท้าส้นสูงสีแดงสดออกแบบได้อย่างงดงาม สะดุดตา ผาณิตาเดินบนฟุตปาทอย่างมาดมั่น ค่อนข้างพอใจกับคุณภาพรองเท้ารุ่นนี้ แต่จู่ๆรองเท้าก็พลิกสาวมั่นล้มแปะกับพื้น!
ผาณิตามองรองเท้าเจ้าปัญหาเซ็งๆ กำลังเอื้อมไปหยิบแต่ถูกใครบางคนตัดหน้า เหมันต์ ชายหนุ่มแปลกหน้าท่าทางเป็นมิตรนั่นเองที่เก็บรองเท้าให้ก่อนช่วยพยุงเธอจากพื้น
รองผู้จัดการสาวมองชายหนุ่มแปลกหน้าหัวจดเท้า ก่อนเบี่ยงตัวออกแบบคนถือตัว เหมันต์ชะงัก ไม่ถือสาแถมคว้ารองเท้าสีแดงเจ้าปัญหามาดูใกล้ๆแล้วเสนอตัวช่วยซ่อม ผาณิตาไม่ไว้ใจจะแย่งคืนแต่เขายื้อไว้
“เอารองเท้าฉันคืนมา ฉันไม่ได้จ้างให้นายซ่อม อย่ามามัดมือชก”
เหมันต์ไม่ตอบโต้แต่เดินถือรองเท้ามาที่ซอกตึกในมุมลับตา เผยให้เห็นเป็นร้านซ่อมรองเท้าข้างทาง
“นั่งรอก่อนนะครับ ข้างหลังมีผ้าเช็ดเท้า”
“ฉันบอกว่าไม่ซ่อมๆ รองเท้าแพงๆอย่างงี้ ฝีมือระดับข้างถนนซ่อมไม่ได้หรอก”
“ผมขอเวลาแค่สิบนาทีครับ”
ผาณิตาหัวเสีย อยากจะกรี๊ดแต่ท่าทางคล่องแคล่วของชายหนุ่มแปลกหน้ากลับดึงดูดอย่างประหลาด เหมันต์ไม่ยี่หระแววตาเอาเรื่องของเธอตั้งหน้าตั้งตาเย็บรองเท้าพลางชวนคุย
“คุณภาพรองเท้าเดี๋ยวนี้ต่างจากสมัยก่อนมากนะครับ คนทำทุ่มเงินไปกับเครื่องจักรจะได้ผลิตได้มากขายได้เร็วแต่ความทนทานมันหายไปทั้งๆที่รองเท้ายังใหม่เอี่ยมอยู่แท้ๆ...ไม่คุ้มราคาเลย”
คำพูดวิจารณ์รองเท้าคอลเลกชันใหม่ที่เธอภูมิใจแบบตรงไปตรงมาทำให้ผาณิตาหน้าตึงแต่เหมันต์ไม่ทันสังเกตมัวสนใจพิจารณารองเท้าคู่สวย
“รองเท้าคู่นี้มีปัญหาตรงพื้นรองเท้าด้านนอกใช้วัสดุที่มีความลื่นเกินไปทำให้ไม่เกาะติดกับตัวรองเท้า คนซื้อไป เดินสองสามทีรับรองพื้นหลุดแบบคู่นี้แน่”
ไม่กี่อึดใจต่อมาเหมันต์ก็ซ่อมรองเท้าเสร็จ เขาขอให้เธอลองสวมอีกครั้ง ผาณิตาคิดว่าเขาซ่อมด้วยวิธีพื้นๆคือใช้กาวแต่กลับต้องอึ้งเมื่อเขาบอกว่าซ่อมด้วยวิธีการเย็บมือและที่สำคัญ...เขาซ่อมให้ฟรี!
ผาณิตาเกือบหลุดปากขอบคุณแต่ไม่ทันอ้าปากก็ได้วี้ดแตกใส่มือถือแทน เมื่อทิมเลขาหนุ่มโทร.ตามไปประชุมบริษัทเหมทองกรุ๊ปซึ่งมีประธานบริษัทคือเหมทอง บุญญาฉัตรพงษ์ ปู่ของเธอเป็นผู้ร่วมประชุมหลัก
เหมันต์ไม่ได้เป็นแค่ช่างซ่อมรองเท้าแต่เป็นพนักงานรับส่งเอกสารของบริษัทซิ่งสายฟ้าด้วย เขาเห็นหญิงสาวแปลกหน้าที่เขาเพิ่งซ่อมรองเท้าให้หารถรับจ้างเลยอาสาไปส่ง น้ำตาลไม่มีทางเลือกต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์ของเขาไปถึงหน้าบริษัท ทิมมารอรับด้านหน้าและรับหน้าที่ จ่ายเงินค่าจ้างให้เขาแทนเจ้านายสาว
ooooooo
ภายในห้องประชุมบริษัทเหมทอง เหมทองหรือเหม บุญญาฉัตรพงษ์ ประธานใหญ่กำลังหงุดหงิดเพราะไม่ครบองค์ประชุมแถมพนักงานรับผิดชอบเอกสารก็ทำงานพลาดเตรียมเอกสารไม่ครบ
เหมทองไม่อยากเสียเวลาสั่งประกิตหรือเสี่ยหนึ่ง ลูกชายบุญธรรมคนแรก ผู้จัดการฝ่ายการตลาดให้เริ่มต้นเสนอแผนการใหม่แต่คนรับคำสั่งอึกๆอักๆเพราะแผนงานทุกอย่างอยู่กับผาณิตาหรือน้ำตาลผู้เป็นลูกสาว
ทัศนัยหรือเสี่ยสาม ลูกชายบุญธรรมคนที่สามของเหมทอง ผู้จัดการฝ่ายจัดจำหน่ายอดแขวะความไม่เอาไหนของประกิตไม่ได้ ปราการหรือเสี่ยสอง ลูกชายบุญธรรมคนที่สองของเหมทอง ผู้จัดการฝ่ายผลิต ต้องช่วยแก้ต่างแทนน้ำตาลหลานสาวว่าเป็นคนขยันและทำงานเก่ง
เหมทองรู้จักและรู้ทันนิสัยลูกชายบุญธรรมทุกคนจึงปรามทัศนัยที่ก่อกวน
“ฉันได้รับรายงานว่าฝ่ายจัดจำหน่ายของแกโอนเงินเข้าบริษัทช้ากว่ากำหนดใช่หรือเปล่า”
ทัศนัยหน้าเสีย ท่าทางพิรุธจนเหมทองโมโห ทุบโต๊ะประชุมเสียงดัง
“ทำธุรกิจไม่ซื่อตรงเรื่องการเงินก็เท่ากับพัง ผิดพลาดเรื่องงานฉันพอรับได้ แต่ถ้าตุกติกเรื่องเงินฉันไม่เลี้ยง”
“ผมจะตรวจสอบด่วนครับ ไอ้ลูกน้องผมนี่มันใช้ไม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดอีก”
บรรยากาศในห้องประชุมมาคุจนน่ากลัว โชคดีที่ผาณิตามาถึงทันเวลาและเสนอแผนการตลาดได้ดี
เหมทองจึงอารมณ์เย็นลง กระนั้นผลทดสอบคุณภาพรองเท้ารุ่นใหม่ก็ทำให้สมาชิกห้องประชุมลุ้นตัวโก่ง
ผาณิตาคิดถึงคำวิจารณ์ของชายหนุ่มแปลกหน้าแวบเดียวก่อนตัดสินใจเอาใจปราการด้วยการโกหกว่ารองเท้ารุ่นใหม่ผ่านการทดสอบ
เหมทองพอใจมากสั่งปราการหรือเสี่ยสอง ผู้จัดการฝ่ายผลิตเริ่มต้นผลิตรองเท้ารุ่นใหม่ทันที ผาณิตาอาสาวางแผนการตลาดด้วยทำให้บรรยากาศในห้องประชุมคลี่คลาย แต่คงไม่ใช่สำหรับทัศนัยซึ่งถูกเหมทองเรียกไปคุยแบบส่วนตัวหลังจบการประชุม
ทัศนัยหรือเสี่ยสามหายใจไม่ทั่วท้องเมื่ออยู่ตามลำพังกับเหมทองพ่อบุญธรรม กมลผู้ช่วยหนุ่มของเหมทองเป็นคนเปิดประเด็นด้วยการโชว์รูปรองเท้าเลียนแบบแบรนด์มนตราซึ่งวางขายแบกะดินในตลาดนัด
“มันคืออะไรเหรอครับคุณพ่อ หน้าตาคล้ายๆรองเท้าเรา”
ท่าทางไขสือของทัศนัยทำให้เหมทองโกรธจัดเอ็ดไม่ไว้หน้า “อย่ามาทำตีหน้าเซ่อ ฉันสั่งให้แกไปจัดการตั้งแต่เดือนที่แล้ว ทำไมมันยังทำออกมาได้อีกและยังออกมามากกว่าเดิมด้วย”
“นี่ผมให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการไปแล้วนะครับ ไม่รู้มันมัวไปทำอะไรอยู่ ผมขอไปเฉ่งมันหน่อย”
“ไม่ใช่เพราะแกมีเอี่ยวกับพวกมันด้วยเรอะ ถึงไม่อยากให้โรงงานเถื่อนพวกนี้ถูกปิด”
“ผมไม่มีทางหักหลังบริษัทตัวเองหรอกครับตัดหัวผมวางได้เลย คุณพ่อพูดแบบนี้ผมเสียใจนะครับ”
“หัวขี้เลื่อยอย่างแก...มีสิบหัวยังสู้หัวยัยน้ำตาลหัวเดียวไม่ได้เลย แถมมีลูกก็ยังเลี้ยงให้โง่เหมือนแกอีก”
ทัศนัยเสียหน้าแต่ต้องข่มอารมณ์ เหมทองไม่ยี่หระอาการลูกชายบุญธรรม ประกาศกร้าว
“ฉันให้เวลาแกอาทิตย์เดียว ฉันต้องไม่เห็นรองเท้าที่แบบเหมือนของเราไปวางขายที่อื่นอีก”
“ขอบคุณครับคุณพ่อ ผมจะไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวัง”
รับปากแล้วขอตัวทันที เหมทองมองตามด้วยแววตาดุดันก่อนสั่งกมลให้คนสะกดรอยลูกชายบุญธรรมคนที่สาม ผู้ช่วยหนุ่มซึ่งรับหน้าที่เป็นทนายความประจำครอบครัวก้มหน้ารับคำสั่ง...ดูท่าทัศนัยจะรอดยาก!
ooooooo
ผาณิตาหรือน้ำตาล รองผู้จัดการฝ่ายการตลาดสาวสุดมั่น ถอนใจโล่งอกที่การประชุมผ่านพ้นด้วยดี หญิงสาวนั่งมองรองเท้าสีแดงรุ่นใหม่ที่มีรอยเย็บจากฝีมือช่างซ่อมข้างทางด้วยแววตาครุ่นคิด คำพูดวิจารณ์ของเขาลอยวนเวียนในหัวจนเธอเริ่มรู้สึกผิดที่โกหก แต่ไม่ทันสะระตะความคิดตัวเองปราการก็แวะมาหา
“อาจะเข้ามาขอบคุณที่ตาลช่วยรับรองรองเท้าคอลเลกชันใหม่ให้”
“ตาลมีหน้าที่เสนอข้อมูลตามความเป็นจริงค่ะ ไม่ต้องขอบคุณตาลหรอกค่ะ”
“นั่นแหละ...สำหรับคุณพ่อใครรับรองก็ไม่หนักแน่นเท่าตาลหรอก ถ้าลูกอากลับมาคงต้องขอให้เทรนน้องด้วย”
“ไม่มีปัญหาค่ะ ช่วยงานกันหลายๆคนยิ่งดี”
“ขอบใจนะ...หลานอาช่างมีน้ำใจจริงๆ”
ปราการหรือเสี่ยสองยิ้มให้หลานสาวก่อนขอตัว จังหวะเดียวกับที่ผกา แม่จอมจู้จี้ของผาณิตาเปิดประตูเข้ามา ผกาไม่ชอบหน้าปราการนักแต่ต้องข่มใจไม่ให้พูดอะไรจนกระทั่งอยู่ตามลำพังกับลูกสาว
“นายสองมันมาอ่อยเหยื่อตีสนิทอะไรแก”
“เปล่าค่ะ...เขามาขอบคุณที่ตาลช่วยเชียร์สินค้าลอตใหม่ให้”
“แล้วแกไปช่วยมันทำไม ไม่รู้เหรอว่ามันเตรียมเลื่อยขาเก้าอี้แกกับพ่ออยู่”
“เก้าอี้ตาลทำด้วยเหล็กค่ะ เลื่อยไม่ขาดง่ายๆหรอก ดีไม่ดีเลื่อยจะหักด้วยซ้ำ”
ผกาเชื่อมั่นฝีมือลูกสาวเพราะเสี้ยมมาตั้งแต่เด็ก “แม่ก็คิดว่าแกไม่ใช่หมูแต่ก็ต้องระวัง ที่นี่เสือสิงห์กระทิงแรดมันเยอะ แต่ละคนเขี้ยวตำทะลุดินกันทั้งนั้น มีแต่พ่อแกนี่แหละที่ไม่เคยทันชาวบ้าน”
ประกิตหรือเสี่ยหนึ่ง สามีผกา พ่อแท้ๆของผาณิตา ได้ยินเสียงภรรยาแว่วๆจากห้องลูกสาวจึงตัดสินใจไม่เข้าไป เขาส่งสัญญาณมือบอกลูกสาวว่าจะไปข้างนอก ผาณิตาอ่อนใจรู้ดีว่าพ่อไปหาเมียน้อย ไม่ได้ไปทำงานอย่างที่แอบอ้าง แต่เพราะรักพ่อเลยยอมหาข้อแก้ตัวกับแม่ให้
ผกาไม่ติดใจเรื่องสามีติดงานด่วนแต่ไม่วายทิ้งท้ายให้ลูกสาวทำงานให้ดี ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดคงไม่ไกลเกินเอื้อม ผาณิตาเหนื่อยหน่ายใจแต่เพราะถูกแม่ตั้งความหวังตั้งแต่เด็กเลยขัดไม่ได้
หญิงสาวรอจนแม่ออกจากห้องจึงก้มมองรองเท้าสีแดงเจ้าปัญหาอีกครั้งก่อนโยนทิ้งถังขยะอย่างไม่ไยดี...
ooooooo
เหมันต์มัวซ่อมรองเท้าให้หญิงสาวแปลกหน้าแถมพาเธอไปส่งถึงหน้าบริษัทจึงไปทำงานสาย เรวัติผู้จัดการบริษัทซิ่งสายฟ้าเอ็ดด้วยความอ่อนใจเพราะรู้จักนิสัยความมีน้ำใจผิดที่ผิดเวลาของเหมันต์ดี
กระนั้นเหมันต์ก็ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีเหมือนเคย ชายหนุ่มเป็นคนขยันขันแข็ง มัธยัสถ์และมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมงานเสมอ แม้จะเรียนจบแค่ชั้นมัธยมต้นแต่เพราะเป็นคนหนักเอาเบาสู้เลยไม่เคยอดตาย
เหมันต์ต้องรับภาระดูแลชาญ พ่อซึ่งอดีตเคยเป็นนักมวยอนาคตไกลแต่ต้องพิการนั่งรถเข็นตลอดชีวิตเพราะถูกคนชนแล้วหนี ภาระค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายในบ้านเช่าหลังเล็กๆจึงตกเป็นหน้าที่ของเหมันต์ซึ่งตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อ
นอกจากชาญพ่อผู้พิการ เหมันต์ยังมีหริทธ์ น้องชายอีกคนต้องดูแล เขายอมสละไม่เรียนต่อแต่ทำงานทุกอย่างเพื่อส่งเสียให้น้องชายเรียนจนจบมหา’ลัย
หริทธ์เป็นนักเรียนวิทยาลัยอาชีวะ นิสัยห่ามๆตามวัย แต่ความจริงเป็นคนมีน้ำใจและจิตใจดีเหมือนเหมันต์ เขาไปรับชาญผู้เป็นพ่อจากร้านซ่อมรองเท้าแต่ดันเกิดเรื่องวิวาทเพราะถูกนักเรียนโรงเรียนคู่ปรับไล่ตี
ชาญเห็นลูกชายคนเล็กถูกไล่ตีก็คว้าไม้เท้าของตัวเองช่วยยันพลางสั่งสอนเสียงเข้ม
“พ่อแม่ส่งมาเรียนหนังสือไม่ใช่ให้มาเป็นนักเลง ถ้าคันไม้คันมืออยากชกต่อยไปชกบนเวทีมวยโน่น ตัวต่อตัวตามกติกา...แบบนั้นมันถึงเรียกว่าลูกผู้ชายตัวจริง”
พูดจบก็ลดไม้เท้าที่ยัน เหล่านักเรียนอันธพาลหน้าหงอ ชาญจึงเอ็ดทิ้งท้าย
“ใครอยากชกกับน้าก็เรียงหน้ามาทีละคนได้เลย ...ถ้าไม่อยากแพ้คนพิการก็กลับบ้านไปซะ!”
หริทธ์ภูมิใจในตัวพ่อมาก โดยไม่รู้เลยว่าชาญซ่อนความลับบางอย่างไว้ ทั้งเรื่องที่ทั้งสองไม่ใช่ลูกแท้ๆ และเขากำลังป่วยหนักเพราะโรคไตเรื้อรัง
เหมันต์ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านตามปกติแต่ดันโชคร้ายกลายเป็นพยานอุบัติเหตุของคนเมาแล้วขับ!
ผู้ก่อเหตุคือทศนาถ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของทัศนัยหรือเสี่ยสาม ชายหนุ่มรูปงามแต่เกกมะเหรกเกเร ไม่เอาการเอางาน วันนี้ที่เกิดเหตุก็เมาเหล้าและขับรถชนข้างทางจนธิดาคู่ขาตายคาที่
เหมันต์เป็นพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและเป็นคนโทร.ตามกู้ภัยมาช่วย ทีมกู้ภัยมาถึงในเวลาไม่นานโดยมีเอมสาวห้าวเพื่อนบ้านของเหมันต์ร่วมทีมด้วย ทั้งหมดช่วยกันพาทศนาถไปโรงพยาบาลเพื่อทำแผล ทศนาถอยู่ในสภาวะหวาดกลัวเพราะช็อกจากอุบัติเหตุแต่เมื่อตั้งสติได้ก็ปฏิเสธเสียงแข็งจะร่วมรถกับศพของธิดา
ท่าทางแปลกๆของทศนาถทำให้เอมมองตามด้วยความสงสัยและอดนินทากับเหมันต์ไม่ได้
“อะไรวะ...ถึงไม่ใช่แฟน แค่เป็นเพื่อนกันมันก็ไม่น่าปฏิเสธเสียงแข็งอย่างนี้”
เหมันต์ไม่สนเรื่องคนอื่น แซวเพื่อนสาวข้างบ้านยิ้มๆ “ไหนบอกตั้งแต่มาเป็นจิตอาสาใจเย็นขึ้นเยอะไง”
“พี่อ่ะ...เออๆ...ใจเย็นก็ใจเย็น อภัยได้ อภัยท่องไว้ๆ”
“พี่กลับก่อนได้ไหมกลัวพ่อเป็นห่วง”
“ไปเถอะ...ถ้าตำรวจเขาต้องการอะไรเพิ่มเอมจะให้เบอร์พี่ไว้แล้วกัน”
ooooooo
คืนเดียวกันที่บ้านเหมทอง สมาชิกทุกคนรวมตัวที่โต๊ะอาหาร ยังไม่มีใครรู้เรื่องอุบัติเหตุของทศนาถ สมร ภรรยาของทัศนัยรับหน้าที่เตรียมอาหารเหมือนเคย เมื่อเหมทองมาถึงจึงเริ่มเสิร์ฟทันที
เหมทองไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่าเปิดฉากถามความคืบหน้าของรองเท้ารุ่นใหม่แบรนด์มนตรา ปราการหรือเสี่ยสองรายงานเรื่องกำหนดการผลิตที่ตรงเวลา ประธานใหญ่บริษัทเหมทองพยักหน้าพอใจก่อนโพล่งถามเรื่องลาวัลย์ลูกสาวคนเดียวของปราการที่ไปเรียนหนังสือเมืองนอก
ปราการอึกๆอักๆบอกว่าลูกสาวจะเรียนจบในอีกสามปี เหมทองไม่เชื่อตวาดไม่ไว้หน้า “เปลี่ยนโรงเรียนเป็นว่าเล่นเมื่อไหร่จะจบ แกมันเก่งเรื่องงาน แต่เรื่องเลี้ยงลูกกลับไม่ได้ความ แล้วแกจะไปปกครองใครได้”
“ขอโทษครับคุณพ่อ เที่ยวนี้ลาวัลย์จะต้องคว้าปริญญามาให้คุณพ่อได้แน่นอนครับ”
ดุลูกชายบุญธรรมคนที่สองจบเหมทองก็หันไปเอาเรื่องประกิตหรือเสี่ยหนึ่ง
“ส่วนแก...เที่ยวนอกบ้านให้มันน้อยๆลงหน่อย เอาเวลาไปหาความรู้พัฒนาสมองให้มันมีรอยหยักมากกว่านี้ ไม่ใช่นั่งหายใจไปวันๆให้เมียจูงจมูกไปซ้ายทีขวาที”
ทัศนัยหรือเสี่ยสามอดขำไม่ได้ เหมทองหันไปเอ็ด “แกก็เหมือนกัน สั่งสอนลูกให้มันเป็นผู้เป็นคนหน่อย ตามใจมันจนเสียคน พ่อเป็นยังไงลูกก็เป็นอย่างนั้น...แล้วนี่มันไปไหน”
“ทศนาถมันต้องไปตรวจสินค้าตามสาขาครับ เดี๋ยวนี้ทศมันปรับปรุงตัวแล้วนะครับ บางทีก็ห่วงงานจนลืมกินข้าวกินปลาเพราะมันบอกว่ามีปู่เป็นไอดอล”
ผาณิตาหรือน้ำตาลเห็นบรรยากาศไม่ดี เสตักอาหารให้เหมทอง
“ของโปรดคุณปู่ค่ะ”
เหมทองตักอาหารคืนให้หลานสาว โพล่งไม่ไว้หน้า “ฉันไม่ได้เลือกทายาทจากการประจบเอาใจแต่เลือกจากความสามารถ ถ้าใครเก่งพอจะเป็นผู้หญิงผู้ชายก็ไม่สำคัญ”
จบคำเหมทองทุกคนบนโต๊ะอาหารก็เงียบกริบ เหมทองไม่สนใจกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยก่อนจะหน้าตื่นวิ่งขึ้นชั้นบนเมื่อสร้อยคนใช้เก่าแก่บอกว่ามนตราภรรยาของเขาอาละวาดหนักใครก็เอาไม่อยู่
เหมทองร้อนใจเป็นห่วงภรรยา มนตราคู่ทุกข์คู่ยากของเขามีอาการทางจิตสติเลอะเลือนมานานหลายปี
เขามอบหมายให้สร้อยคนใช้เก่าแก่ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดแต่อาการเธอก็ทรงๆทรุดๆ บางวันก็ยอมอยู่ในห้องอย่างสงบแต่บางวันก็คลุ้มคลั่งพร่ำเพ้อถึงเรื่องเก่าๆอย่างเช่นวันนี้...
ooooooo
ระหว่างที่เหมทองไปดูอาการมนตรา เหล่าลูกหลานต้องป่วนเพราะประกิตอยู่ไม่ติดบ้านจะไปหาเมียน้อย ผาณิตาต้องช่วยแก้ต่างกับแม่ให้พ่อเหมือนเคย แถมต้องโผล่ไปช่วยทศนาถลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของทัศนัยที่เพิ่งโทร.ฟ้องพ่อว่าขับรถชนจนมีคนตาย!
ทัศนัยหรือเสี่ยสาม พร้อมด้วยผาณิตาหรือน้ำตาลรุดไปสถานีตำรวจ ทศนาถกำลังถูกแม่ธิดาทุบตีที่ทำให้ลูกสาวตาย ดาบหลง เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานีพยายามไกล่เกลี่ยแต่แทบไม่มีผลกระทั่งทัศนัยกับผาณิตามาถึงจึงช่วยกันกล่อมให้แม่ของธิดายอมความ
ทศนาถกลัวความผิดจึงให้การเท็จว่าธิดาเป็นคนขับ แม่ของธิดาไม่เชื่อเพราะได้ยินจากพยานและเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่าเขาเป็นคนขับ ทัศนัยเห็นท่าไม่ดีลากตัวลูกชายไปคุยอีกทางโดยมีผาณิตาตามไปด้วย
ทัศนัยเอ็ดลูกชายที่โกหก ทศนาถหน้าเสียแต่เมื่อเห็นผาณิตาก็อ้อนเพราะรู้ดีว่าเธอแอบชอบตน
“ผู้หญิงที่ไปกับพี่ตาย พี่เลยบอกตำรวจไปว่าเขาเมาแล้วขับ พี่คิดว่าธิดาตายแล้วถ้าโยนให้เขาคงไม่เป็นอะไร”
คำพูดไร้สามัญสำนึกของทศนาถทำให้ผาณิตาพูดไม่ออก ทัศนัยก็อ่อนใจกับการแก้ปัญหาโง่ๆของลูกชาย แต่ไม่วายขอร้องหลานสาวให้ช่วยเคลียร์
“น้ำตาล...เธอเป็นคนฉลาดหาวิธีช่วยอาสักครั้งนะ อาสัญญาจะช่วยสนับสนุนให้พ่อเธอขึ้นเป็นผู้อำนวยการใหญ่ที่ว่างอยู่ ตำแหน่งนี้เธอกำลังเล็งให้พี่หนึ่งอยู่ไม่ใช่เหรอ”
ข้อเสนอของทัศนัยยวนใจไม่น้อยแต่คงไม่เท่าความรักของเธอที่มีต่อทศนาถ “เราสองคนโตมาด้วยกัน ตาลเองก็รักพี่ทศเหมือนพี่ชาย ตาลไม่ยอมให้พี่ทศโดนจับหรอกค่ะ พยานที่เห็นพี่อยู่ไหนคะ เราต้องรีบไปหาเขาก่อนตำรวจ”
“พี่ก็ไม่รู้แต่พี่จำได้ว่ามันรู้จักกับผู้หญิงที่เป็นพวกกู้ภัยด้วย”
ทัศนัยสั่งลูกน้องไปหาที่อยู่ของพยานปากสำคัญเพื่อช่วยลูกชายคนเดียว เหมันต์ไม่รู้ตัวว่าจะกลายเป็นเครื่องมือของทศนาถ กลับบ้านไปช่วยพ่อกับน้องชายทำงานบ้าน
อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 1 วันที่ 16 ก.ย.61
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทประพันธ์โดย รจเรขละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทโทรทัศน์โดย กฤติญา สัมฤทธิ์ประสงค์
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ กำกับการแสดงโดย อนุวัฒน์ ถนอมรอด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ผลิตโดย บริษัท ดีวัน ทีวี จำกัด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ