อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 1 วันที่ 15 ก.ย.61

อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 1 วันที่ 15 ก.ย.61

ภายในหลุมหลบภัยแคบๆ บรรยากาศอับชื้น...

หญิงสาวรูปร่างบอบบาง ใบหน้าเปรอะเปื้อนฝุ่น

ผมเผ้ามีคราบเลือดตกสะเก็ดเกรอะกรัง นอนหายใจรวยรินเหมือนคนจะสิ้นใจ

หญิงสาวกวาดตามองรอบตัวช้าๆ พลันแววตาสิ้นหวังก็ฉายแววอาฆาตแค้น...พยาบาท เธอค่อยๆ

พนมมือพร้อมเปล่งวาจาอธิษฐานด้วยเสียงแผ่วเบา



“ชาตินี้ลูกเกิดมาโง่เขลาจนต้องมาตายอนาถแบบนี้ ถ้าชาติหน้ามีจริงลูกขออธิษฐานให้ลูกมีพลัง

มีอำนาจที่แข็งกล้าเหนือใคร...ชาตินี้เขาพรากชีวิตลูกไปแต่ชาติหน้าลูกสาบานว่าจะขอเอาคืน!”

ขาดคำลมหายใจเฮือกสุดท้ายก็เตรียมออกจากร่าง แต่ก่อนที่ดวงตาจะปิด...ภาพสุดท้ายในชีวิตของเธอก็ปรากฏภาพเบลอๆเหมือนใบหน้าผู้ชายคนหนึ่ง...ใครบางคนที่เธอคุ้นเคย...

ภาพความฝันน่ากลัวนั้นหายไปแล้ว นัทธมนสะดุ้งตื่นพร้อมสัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือนรอบตัว!

นัทธมนแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเมื่อตื่นมาเจอข้าวของในห้องนอนลอยคว้างก่อนร่วงสู่พื้นอึดใจต่อมา หญิงสาวตกใจมากและตัดสินใจไปนอนห้องพระเพราะคิดว่าตัวเองถูกผีหลอก!

ความฝันแปลกประหลาดและข้าวของลอยคว้างกลางห้องทำให้นัทธมนตื่นไปโรงเรียนแต่เช้า หญิงสาวเป็นนักศึกษาปีสุดท้ายของโรงเรียนเลขานุการและมีเพื่อนสนิทสองคนคือถุงแป้งและขวัญแข

นัทธมนไม่กล้าเล่าเรื่องความฝันแปลกประหลาดให้เพื่อนรักทั้งสองฟังแต่อดทนถึงเวลาเย็นเมื่อมนทิรา แม่แท้ๆกลับจากขายขนมที่ต่างจังหวัด มนทิราช็อกมากเพราะไม่เคยเห็นลูกสาวมีอาการแบบนี้นานแล้ว

“นี่นัทลืมไปหมดแล้วใช่ไหมลูก”

“ลืม...เรื่องอะไรเหรอคะ”

“แม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ตั้งแต่นัทยังแบเบาะ...นัทมีพลังพิเศษแบบนี้อยู่ในตัวตั้งแต่เกิดแล้วน่ะ”

คำบอกเล่าของแม่ทำให้นัทธมนอึ้งไปอึดใจ ก่อนซักไซ้จนรู้เรื่องราวในอดีตว่าเธอเคยแสดงพลังพิเศษนี้จนพ่อแม่แตกตื่นต้องไปพึ่งพระธุดงค์ให้ช่วยคลายข้อสงสัย มนทิราลำบากใจมากแต่ก็ยอมเล่าถึงสิ่งที่พระธุดงค์บอก

“มันไม่ใช่เรื่องผีสางอะไรหรอกโยม  แต่มันเป็นเรื่องกรรมของแม่หนูเขาเองน่ะ”

“เด็กเพิ่งเกิดมาไม่กี่วันจะมีกรรมอะไรกันคะ”

“ก็กรรมเก่าจากชาติภพก่อนไง”

นิกรพ่อแท้ๆของนัทธมนอดไม่ได้โพล่งถาม “กรรมเก่า...ชาติก่อนลูกผมเป็นคนไม่ดีหรือไงครับ”

พระธุดงค์ส่ายหน้า อธิบายอย่างใจเย็น “ถึงจะเป็นคนดีสะสมบุญไว้  แต่หากยามตายกลับละกิเลสไม่ได้ ตัดรักตัดแค้นไม่ขาด ยิ่งถ้ามีแรงจิตตั้งมั่นก็อาจจะถูกพลังอำนาจครอบงำได้”

“ถ้าพลังนี้เกิดจากกรรมเก่า...งั้นพอจะมีวิธีทำให้กรรมเก่านี้หายไปไหมคะ”

“ไม่มีหรอกโยม...กรรมเป็นผลจากการกระทำ มันสูญหายไปไม่ได้หรอก”

“แล้วมันจะเป็นอันตรายกับเขาไหม จะต้องทำยังไงเขาถึงจะมีชีวิตปกติเหมือนเด็กทั่วไป”

“โยมทั้งสองก็ต้องอบรมให้เขารู้จักการอภัย ละความโกรธเกลียดชัง ถ้าปล่อยวางได้ชีวิตจึงจะพบความสุขสงบ”

ooooooo

มนทิรากับนิกร พ่อแม่ของนัทธมนพยายามทำตามคำแนะนำของพระธุดงค์รูปนั้นตั้งแต่นั้นมา ทั้งสองอบรมสั่งสอนให้นัทธมนเป็นคนมีเมตตา รู้จักปล่อยวางและให้อภัยมาตลอด และผลการกระทำนั้นก็ทำให้นัทธมนไม่ได้แสดงพลังพิเศษอีกยกเว้นครั้งเดียวตอนเด็กๆที่มีเรื่องทะเลาะกับเพื่อน

นัทธมนนั่งฟังแม่เล่าเรื่องเก่าๆด้วยความอดทน พยักหน้ารับรู้เพราะเห็นจริงตามแม่ทุกอย่าง

“ตั้งแต่นัทจำความได้ก็เห็นแม่ย้ำแต่เรื่องไม่ให้โกรธแค้นใคร ให้รู้จักอภัย”

“ใช่...แม่ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งไอ้พลังน่ากลัวนี่จะกลับมาอีก”

“ถ้าเป็นเรื่องกรรมเก่าจริง ในฝันร้ายนั่นก็อาจเป็นชาติก่อนของนัทที่ถูกใครหักหลังหรือทำร้ายอย่างงั้นเหรอคะ”

“อะไรก็ช่างเถอะ แต่แม่อยากให้ลูกปล่อยวาง อย่าไปโกรธไปแค้นเลยนะ”

“แม่...นัทจะไปโกรธแค้นใครล่ะคะ ไม่มีใครมาทำอะไรสักหน่อย...แต่ถ้ามีใครทำอะไรก่อนนัทไม่ปล่อยหรอกค่ะ”

“อ้าว...ทำไมคิดอย่างงั้นล่ะลูก”

“มันก็ยุติธรรมไม่ใช่เหรอคะ ถ้าใครมาทำร้ายนัทก่อนนัทก็ไม่ยอมให้มันลอยนวลไปหรอกค่ะ”

“ไม่ได้นะลูก เวรไม่ระงับด้วยการจองเวรหรอก เลิกเลยนะไอ้ความคิดพยาบาทจะแก้แค้นเนี่ย...แม่ไม่สบายใจ”

“แม่สบายใจเถอะค่ะ นัทไม่ได้มีเรื่อง ไม่ได้มีศัตรู นัทจะไปโกรธไปแค้นใครล่ะคะ”

รับปากแม่แล้วนัทธมนก็อดคิดถึงภาพชายหนุ่มในฝันไม่ได้...หรือกรรมเก่าของเธอจะคือเขาคนนี้...

กฤตย์ สถาปนิกหนุ่มใหญ่รูปงามกำลังเคร่งเครียดตามหาเลขานุการช่วยแบ่งเบาภาระ พิษณุ หนุ่มผู้ช่วยจอมทะเล้นพยายามสรรหาผู้สมัครคุณสมบัติดีๆแต่ยังไม่มีใครเข้าตาเจ้านายหนุ่ม

พิษณุอ่อนใจมากเพราะปริมาณงานล้นมือแทบรับไม่ไหว กฤตย์รับปากจะหาเลขาฯให้ได้ในเร็ววัน

แต่เวลานี้คงต้องออกจากออฟฟิศเพราะมีนัดเลี้ยงฉลองเรียนจบให้ถุงแป้งหลานสาวคนโต

กลิกาหรือถุงแป้ง หลานสาวคนสวยของกฤตย์เป็นลูกสาวของเกตุมณีและปิติ พี่สาวแท้ๆและพี่เขยของเขา กฤตย์รักและดูแลหลานสาวคนนี้มาตลอดแต่เพราะระยะหลังงานยุ่งจึงไม่ค่อยมีเวลา เมื่อหลานสาวเรียนจบจากโรงเรียนเลขานุการจึงอยากพาไปเลี้ยงชดเชยและถือโอกาสฉลองวันเกิดให้เจ้าตัว

นัทธมนอึดอัดอยากเล่าเรื่องฝันประหลาดให้ถุงแป้งกับขวัญแขสองเพื่อนรักฟังแต่จำต้องพักไว้เมื่อถุงแป้งบอกว่ามีนัดเลี้ยงฉลองกับกฤตย์น้าชายคนโปรด

“น้ากฤตย์ไหน...เรียนกันมาจนจะจบไม่เห็นเธอเคยพูดถึงเลย”

“น้าชายฉันเอง เป็นเจ้าของบริษัทสถาปนิก งานยุ่งจะตาย นานๆถึงจะว่างฉันเลยไม่กล้าปฏิเสธ”

ถุงแป้งบอกเหตุผลเสียงอ่อยก่อนหาทางชดเชยให้สองเพื่อนรักด้วยการชวนปาร์ตี้บาร์บีคิวที่บ้านช่วงสุดสัปดาห์ นัทธมนกับขวัญแขตอบรับทันทีเพราะไม่เคยไปบ้านถุงแป้ง สามเพื่อนรักคงแยกย้ายอย่างสงบหลังจากนั้นหากนัทธมนจะไม่ตาไวเห็นกฤตย์...น้าชายของถุงแป้ง... แล้วรู้สึกคุ้นตาอย่างประหลาด

ooooooo

กฤตย์พาถุงแป้งไปเลี้ยงฉลองเรียนจบกับฉลองวันเกิดตามที่ตั้งใจ และถือโอกาสแนะนำหลานสาวให้เรียนต่อทันที เมื่อแกมแก้ว น้องสาวของกฤตย์น้าสาวของถุงแป้ง รู้เรื่องก็อดอิจฉาไม่ได้เพราะลินจันทร์ ลูกสาวคนเดียวของเธอกับไพโรจน์อดีตสามีเป็นเด็กมีปัญหาไม่ยอมพูดยอมจากับใคร

ถุงแป้งไม่อยากถูกแกมแก้วน้าสาวแดกดันจึงขอตัวไปพัก กฤตย์มองตามด้วยความอ่อนใจก่อนตามแกมแก้วไปหาลินจันทร์หลานสาวอีกคน ลินจันทร์สะดุ้งเมื่อเจอหน้ากฤตย์แต่เพียงแวบเดียวก็เปลี่ยนเป็นนิ่งเฉย

แกมแก้วมองท่าทีหวาดระแวงของลูกสาวด้วยแววตาเหนื่อยหน่าย อดไม่ได้ดุเสียงเข้ม “ยัยลิน...เขาทักทายแล้วแกยังไม่รีบไหว้อีก อยากทำตัวเป็นหมาหัวเน่ารึไง พ่อแกมันก็ทิ้งไปมีครอบครัวใหม่แล้วแกยังทำตัวแบบนี้อีกเรอะ”

กฤตย์นิ่วหน้า ปรามน้องสาวเสียงอ่อน “แก้ว...ไม่เอาน่า”

“ก็จริงนี่คะ...ลูกสาวแก้วเป็นบ้าใบ้ พูดจาฉอเลาะประจบใครไม่เป็น ไม่เหมือนยัยถุงแป้งลูกสาวพี่เกตุ”

“แก้ว...ทั้งถุงแป้งทั้งลินจันทร์ก็หลานพี่ พี่รักเท่ากันนั่นแหละ พี่ขอนะ...อย่าพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าลินจันทร์เลย”

“โอ๊ย...ไม่ต้องไปสนใจหรอกค่ะ มันก็นั่งใบ้ไม่โต้ตอบอยู่อย่างงี้นี่แหละ”

“ถึงไม่พูดแต่เขาก็ฟังได้ยินนะแก้ว”

ลินจันทร์หน้าเสียผละหนี แกมแก้วมองตามด้วยความขัดใจ

“นึกจะไปก็ไปไม่รู้จักร่ำลา เป็นใบ้แล้วยังไม่รู้จักกาลเทศะ”

กฤตย์ต้องปรามน้องสาวเป็นครั้งที่สอง “แก้ว...เลิกพูดในแง่ลบ เลิกทับถมเขาซะที ที่ลินจันทร์ไม่พูดไม่ใช่เพราะเป็นใบ้หรือพิการทางการได้ยินอะไร คุณหมอที่ดูอาการยังเคยบอกว่ามันเป็นปม เป็นเรื่องของจิตใจ”

“พี่พูดงี้จะโทษว่าเป็นความผิดแก้วอย่างงั้นเหรอคะ แล้วพ่อมันที่ทิ้งไปไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยอย่างงั้นเหรอ”

“พี่ไม่ได้โทษใคร พี่ไม่เห็นประโยชน์อะไรกับการหาคนผิด สิ่งสำคัญตอนนี้ที่ต้องทำคือแก้วต้องดูแลลินจันทร์ให้ดีๆต่างหาก...เผื่อมันจะเป็นทางช่วยเยียวยาจิตใจให้เขากลับมาพูดคุยเหมือนปกติได้”

“ค่ะ...ขอบคุณพี่กฤตย์ที่แนะนำนะคะ”

ท่าทางแกมแก้วเหมือนยอมรับฟัง กฤตย์ยิ้มออกแต่เพียงอึดใจก็หน้าตึง

“แต่แก้วก็เลี้ยงมันจนรอดมาถึงวันนี้ได้...ไม่ต้องให้ใครมาสอนหรอกค่ะ!”

ooooooo

ภาพด้านหลังของกฤตย์...น้าชายของถุงแป้งเพื่อนรักหลอกหลอนนัทธมนจนฝันร้าย ภาพความฝันในหลุมหลบภัยอับๆ ลมหายใจแผ่วเบาของหญิงสาวหน้าตาเหมือนเธอทำให้สะดุ้งตื่นอีกครั้ง!

นัทธมนประสาทเสียมาก เช้าวันต่อมาจึงโทร.เรียกติสรณ์หรือเต้ย เพื่อนหนุ่มคนสนิทตั้งแต่เด็กมาระบายความอึดอัดใจ เรื่องราวความฝันประหลาดถูกถ่ายทอดอย่างหมดเปลือก เต้ยนั่งฟังด้วยสีหน้างงๆเพราะเรื่องมันไม่น่าเชื่อ

“เธอกำลังจะบอกว่าเธอฝันเห็นใครก็ไม่รู้ แต่คนคนนั้นดันมีตัวตนจริงขึ้นมาเนี่ยนะ”

“ใช่! เขาคือน้ากฤตย์ น้าชายของเพื่อนฉันเอง”

“เธอเคยเจอหรือเคยเห็นรูปเขามาก่อนก็เลยเก็บไปฝันหรือเปล่า”

“ฉันสาบานได้ว่าเห็นหน้าเขาครั้งแรกในความฝัน จริงๆ”

“มันจะเป็นไปได้ยังไง”

“นี่นายหาว่าฉันโกหกเหรอเต้ย”

“เปล่า...แต่ปกติคนเราต้องเห็นหน้าค่าตากันก่อนถึงเก็บไปฝันได้เพราะความฝันมันคือความคิดในหัวของเราไง”

“หรือนี่มันไม่ใช่ความฝัน”

“อ้าว! ถ้าไม่ใช่ความฝันแล้วมันจะเป็นอะไรได้”

“ก็เป็นความจริงไง”

เต้ยทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ นัทธมนต้องย้ำความคิดตัวเอง

“ทำไมล่ะ...มันอาจเป็นความจริงจากในอดีต เป็นเรื่องจริงของฉันเมื่อชาติที่แล้วก็ได้”

“เดี๋ยวๆ...อะไรของเธอเนี่ย มันจะไปกันใหญ่แล้ว”

“นี่นายกำลังคิดว่าฉันเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม”

“เปล่า...ไม่ได้คิดแบบนั้น เรารู้ดีหรอกน่าว่าเธอไม่ธรรมดา”

“หมายความว่าไงไอ้คำว่าไม่ธรรมดาของเธอน่ะ”

“ก็ตอนเด็กๆเธอมีพลังจิต พลังพิเศษอะไรไม่ใช่เหรอ”

“นายไปรู้มาจากไหน”

“ก็เจอกับตัวเองนี่แหละ เธอคงลืมไปแล้วล่ะสิ แต่เรานี่จำแม่นเลย ตอนนั้นที่เรียนประถมด้วยกันไง...”

นัทธมนทำหน้าไม่ถูกเมื่อเต้ยเล่าเรื่องวัยเด็กที่ถูกเธอใช้พลังจิตกำราบโทษฐานชอบแกล้งเธอ เหตุการณ์พิลึกในวันนั้นทำให้เต้ยเลิกเกเรและกลายเป็นเพื่อนสนิทของเธอถึงปัจจุบัน

“จริงเหรอ...เด็กๆฉันร้ายขนาดนั้นเลย”

“ก็ใช่น่ะสิ นี่เธอจำไม่ได้เลยจริงๆเหรอ”

“จำได้แต่ว่าช่วงเด็กๆแม่ฉันย้ำทุกวันเลยว่าห้ามโกรธแค้น ห้ามทำร้ายใครอีกเด็ดขาด”

“แต่จะว่าไปเราก็ควรจะโดนสั่งสอนแบบนั้นอยู่เหมือนกันนะ”

“อันนั้นก็จริง นายถึงไม่กล้ารังแกใครอีก แล้วโตขึ้นมาเป็นผู้ชายเรียบร้อยขวัญใจสาวๆแบบนี้ไง”

“เรียบร้อยน่ะใกล้เคียงอยู่นะ แต่ขวัญใจสาวๆนี่ตรงกันข้ามเลย ไม่งั้นป่านนี้คงเคยมีแฟนกับเขาบ้างแล้ว”

“ก็นายมัวแต่หงิมๆไม่พยายามจีบเองนี่ แต่ไม่ต้องห่วงฉันมีเพื่อนดีๆโสดๆเยอะ...เดี๋ยวแนะนำให้”

“ไม่ต้องหรอก เรารู้ตัวเองดีน่าว่าเราชอบผู้หญิงแบบไหน”

เต้ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แววตาเปล่งประกายบางอย่างที่นัทธมนไม่เคยเห็น เขาแอบชอบเธอมานานแต่ไม่กล้าสารภาพเพราะรู้ดีว่าเธอไม่ชอบผู้ชายแบบตน

นัทธมนไม่ได้รู้สึกรู้สากับท่าทีแปลกๆของเพื่อนหนุ่ม หมกมุ่นกับเรื่องผู้ชายประหลาดในฝันของเธอ

“ฉันต้องสืบให้รู้ให้ได้ว่าน้ากฤตย์มีความเกี่ยวข้องกับอดีตของฉันยังไง”

“แล้วเธอไม่ถามหลานเขาเลยล่ะ ก็เป็นเพื่อนเธอไม่ใช่เหรอ”

“เป็นเพื่อนนี่แหละยิ่งถามไม่ได้ เพราะฉันก็ยังไม่รู้ว่าน้าเขาเป็นคนดี คนร้ายหรือว่าทำอะไรแย่ๆกับฉันไว้บ้าง”

“งั้นก็ไม่ยากนี่ ในเมื่อเขาเป็นน้าของเพื่อนเธออยู่แล้ว  เธอก็พยายามหาเรื่องแวะไปเยี่ยมเยียนทำความรู้จักเขาไว้”

“ก็ใช่ไง...วันอาทิตย์เนี้ยมีปาร์ตี้เล็กๆย้อนหลังวันเกิดที่บ้านเขา นายไปกับฉันด้วยได้ไหม...”

ooooooo

เต้ยตกลงไปปาร์ตี้บาร์บีคิวที่บ้านถุงแป้งโดยนัดเจอกันที่นั่น นัทธมนถึงก่อน สายตาสำรวจทั่วบ้านด้วยความคุ้นเคยอย่างประหลาด นัทธมนไม่เคยมาบ้านถุงแป้งแต่กลับไม่รู้สึกแปลกตา พลันเธอก็เข่าอ่อนฟุบหน้าหมดสติที่หน้าบ้าน!

นัทธมนรู้สึกตัวอีกครั้ง เห็นตัวเองนอนบนพื้นบ้านถุงแป้งเหมือนก่อนหมดสติ แต่แล้วก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็นผู้หญิงหน้าตาเหมือนตัวเองเดินถือหนังสือความรักของเจน แอร์ เดินผ่านหน้า...

วรดานั่นเองผู้หญิงที่หน้าเหมือนเธอและเป็นคนเดียวกับที่เธอฝันเห็นในหลุมหลบภัยอับๆ นัทธมนอยากตามไปถามให้รู้เรื่องแต่ไม่ทันอ้าปากภาพเหมือนฝันนั้นก็หายวับพร้อมเสียงเรียกชื่อเธอจากถุงแป้งและขวัญแข

นัทธมนสั่นหน้าเรียกสติตัวเองจากภาพฝัน

เต้ยมาถึงบ้านถุงแป้งพอดีถลามาหาด้วยความเป็นห่วง นัทธมนจึงถือโอกาสแนะนำเขาให้สองสาวเพื่อนรักรู้จักกันอย่างเป็นทางการ

ถุงแป้งถูกชะตากับเต้ยแต่เขาไม่ได้สนใจเธอมากไปกว่าเพื่อนสนิทของนัทธมน แถมทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างดีด้วยการเลียบๆเคียงๆถามถึงกฤตย์

กฤตย์ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นหัวข้อสนทนาของเพื่อนๆ หลานสาว สถาปนิกหนุ่มนอนซมเพราะพิษไข้ แต่เสียง

พูดคุยและหัวเราะก็เรียกให้ลุกมาดูทางหน้าต่างห้อง พลันภาพหนึ่งในเพื่อนสาวของถุงแป้งก็ทำให้เขาชะงัก!

นัทธมนนั่นเองที่ทำให้กฤตย์เหมือนตกในภวังค์ ใบหน้าสวยหวานของเธอเหมือนกับวรดา...หญิงสาวที่เขาตกหลุมรักเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อนไม่มีผิด และแล้วภาพในอดีต...วันแรกที่เขาได้เจอวรดาก็ผุดในหัว...

วันนั้นเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน...กฤตย์จำได้ว่าตัวเองไปทานข้าวบ้านพลโทประพจน์ เพื่อนบ้านของครอบครัวกับแกมแก้วผู้เป็นน้องสาว เวลานั้นแกมแก้วแอบชอบปิติ นายทหารคนสนิทของประพจน์ ผาณิต ลูกสาวคนเล็กของประพจน์กับผกาจึงช่วยสนับสนุนทุกทางแลกกับการที่แกมแก้วต้องช่วยเธอให้สมหวังกับกฤตย์

ผาณิตแสดงออกอย่างเปิดเผยว่ามีใจให้กฤตย์ แต่นอกจากเขาจะไม่สนใจยังแทบไม่เคยเปิดโอกาสให้เข้าใกล้ กฤตย์อึดอัดกับท่าทางของผาณิตต้องขอตัวไปเดินเล่น...และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอวรดา

วรดาไม่รู้ตัวว่าถูกจับจ้องโดยใครบางคน เธอเพลิดเพลินกับหนังสือความรักของเจน แอร์...หนังสือเล่มโปรด กฤตย์ลอบมองใบหน้าหวานด้วยความชอบใจจนกระทั่งเสียงเหยียบใบไม้ของเขาทำให้เธอรู้สึกตัว!

ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มแปลกหน้าทำให้วรดาหัวใจกระตุกก่อนกลบเกลื่อนความอายด้วยการขอตัวดื้อๆ

กฤตย์ร้องห้าม “เดี๋ยวสิ...นั่งก่อน เราแค่อยากขออาศัย ไม่ได้คิดจะแย่งที่ของเธอ”

“มิได้ค่ะ ฉันตั้งใจว่าจะไปแล้วพอดี เชิญคุณตามสบายเถอะค่ะ”

“จะนั่งอยู่ต่ออีกเดี๋ยวไม่ได้เหรอ เรามีเรื่องจะถามอะไรเธอสักหน่อย...อย่าหาว่าล่วงเกินนะ ดอกไม้อะไรน่ะที่เธอใช้พันผมอยู่ กลิ่นหอมหวานเหลือเกิน”

วรดาเริ่มระแวงตอบเสียงแข็งว่าดอกปีบ กฤตย์เดาว่าเธออาจเป็นวรดาลูกสาวคนโตของประพจน์จึงพยายามผูกมิตร วรดาไม่มีทางเลือกต้องนั่งตอบคำถามเขาด้วยท่าทางเกร็งๆ

“อ่านเรื่องอะไรอยู่หรือ”

“เจน แอร์  ค่ะ...ความรักของเจน แอร์ เป็นนวนิยายคลาสสิกที่แปลมา”

“เรารู้จัก...สมัยเรียนภาษาอังกฤษครูก็บังคับให้อ่านแต่เป็นแค่ฉบับย่อๆนะ เธอชอบเรื่องนี้เหรอ”

อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 1 วันที่ 15 ก.ย.61

ละครเรื่อง บทประพันธ์โดย: กิ่งฉัตร
ละครเรื่อง บทโทรทัศน์โดย ทองเอก-ญาลิล-ณกดแก้ว
ละครเรื่อง กำกับการแสดงโดย ผิน เกรียงไกรสกุล
ละครเรื่อง ผลิตโดย บริษัท กัทส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง นักแสดงนำ เจษฎาภรณ์ ผลดี,นิษฐา จิรยั่งยืน
ที่มา ไทยรัฐ