อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 4 วันที่ 25 ก.ย.61

อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 4 วันที่ 25 ก.ย.61

นัทธมนดึงตัวเองจากอดีต ความดีของกฤตย์ที่มีต่อวรดาทำให้เธออบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก หญิงสาวสะระตะเรื่องเขา เรื่องพลังพิเศษของตัวเองที่ควบคุมไม่ได้ รวมทั้งคำพูดเตือนสติของเต้ยกับแม่แล้วคิดได้ว่าจะลองปล่อยวางและเลิกคิดสืบเรื่องกฤตย์กับวรดาสักพัก...เผื่อว่าชีวิตเธอจะดีขึ้น

กฤตย์ทึ่งมากกับความเปลี่ยนแปลงของนัทธมน เลขาฯสาวกระตือรือร้นมากและทำงานได้อย่างเรียบร้อยและไม่มีที่ติ นอกจากนี้สถานการณ์ระหว่างเธอกับเพื่อนร่วมงานก็ดีขึ้นจนน่าแปลกใจ ไม่มีใครตั้งแง่กับเธอเหมือนช่วงแรกๆที่มาทำงาน เว้นก็แต่บงกชที่เป็นสายให้ปณิตาและยังหมั่นไส้นัทธมนเพราะสวยกว่า



นัทธมนไม่ได้พักกลางวันพร้อมคนอื่นเพราะติดพันงานจึงได้เจอปิติพ่อของถุงแป้งซึ่งเพิ่งตีรถถึงกรุงเทพฯโดยบังเอิญ ปิติถึงกับตะลึงตาค้างเพราะใบหน้าของนัทธมนเพื่อนรักของลูกสาวเหมือนวรดาราวกับเป็นคนเดียวกัน!

ปิติตกในภวังค์อดีตเมื่อได้เจอนัทธมน...เขายังจำวันแรกที่มาบ้านประพจน์ในฐานะคนสนิทที่ต้องช่วยงานและวันแรกที่เจอกับวรดา รวมไปถึงผาณิตกับแกมแก้ว... สามสาวที่ทำให้ชีวิตเขาไม่เหมือนเดิม

แกมแก้วตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น ปิติก็ชอบใจในความสวยของเธอแต่ความงามภายนอกก็สู้ความงามจากภายในของวรดาไม่ได้และเขาก็ปักใจแอบรักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

นัทธมนเห็นปิติตะลึงเมื่อเห็นเธอแถมพึมพำชื่อวรดาก็อดไม่ได้แกล้งถาม

“คุณน้ารู้จักคนชื่อวรดาด้วยเหรอคะ”

“ใช่...แต่น้าต้องขอโทษที่เพ้อเจ้อไป วรดาเขาไม่อยู่นานแล้ว แต่คุณ...หน้าเหมือนเขามากๆ”

“มีคนเคยพูดเหมือนคุณน้าจนนัทนึกอยากรู้จักคนชื่อวรดา ถ้าจะรบกวนถาม...คุณน้าจะรังเกียจไหมคะ”

คำถามของนัทธมนทำให้ปิติชะงักก่อนตั้งสติได้พาเธอไปนั่งคุยในสวน

“นัทจะอยากรู้เรื่องของวรดาไปทำไมเหรอ”

“ก็...ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่โดนทักบ่อยๆ ว่าหน้าเหมือนวรดาก็เลยชักอยากจะรู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่”

“วรดาเป็นลูกสาวคนโตของท่านประพจน์กับคุณน้าวารี บ้านเขาอยู่ติดกันนี่เอง...หลังที่เป็นออฟฟิศของกฤตย์”

“แล้ว...วรดาเนี่ยนิสัยใจคอเขาเป็นยังไงเหรอคะ”

“เขาก็เป็นคนอ่อนหวานเรียบร้อยนะ แต่ก็ดูเหมือนจะโชคร้าย...”

“โชคร้ายยังไงเหรอคะ”

“ดูเหมือนคนในบ้านทั้งคุณหญิงผกาทั้งคุณผาณิตจะไม่ถูกชะตากับเขาสักเท่าไหร่”

“เพราะอะไรเหรอคะ”

“น้าไม่รู้แต่พี่น้องคนละแม่ต้องอยู่ร่วมชายคา

คงมีเรื่องกระทบเป็นธรรมดา...น้าว่าเราเลิกคุยเรื่องพวกเขาดีกว่า”

“อ้าว...ทำไมล่ะคะ”

“เพราะทุกคนที่น้าเอ่ยชื่อมาต่างก็เสียชีวิตไปหมดแล้วน่ะ”

“งั้นนัทขอถามอีกคำเดียว คนที่ชื่อวรดาเนี่ยเขาเป็นอะไรตายเหรอคะ...”

กฤตย์กลับจากพักกลางวันพร้อมเกตุมณีและถุงแป้งซึ่งเพิ่งกลับจากช็อปปิ้ง ทั้งหมดตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าปิติมาถึงแล้ว แต่ที่ทำให้กฤตย์กับเกตุมณีพูดไม่ออกก็เมื่อเห็นว่าปิตินั่งคุยกับใครในสวน...

นัทธมนไม่ได้สนใจว่าใครจะจับจ้อง พยายามตะล่อมถามเรื่องสาเหตุการตายของวรดา ปิติอ้ำๆอึ้งๆ

บอกว่าไม่รู้เพราะเป็นคนนอกครอบครัว และคนที่น่าจะรู้ก็เป็นคนในบ้านที่เสียชีวิตเกือบหมดแล้ว

“แต่ก็ยังเหลือคนใช้บางคนที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เหรอคะ”

“อืม...มีคนนึงชื่อสายสร้อยก็น่าจะยังอยู่นะ”

“แล้วตอนนี้สายสร้อยเขาอยู่ที่ไหนเหรอคะ”

“น้าจะไปรู้ได้ยังไง เรื่องก็ผ่านมาตั้งยี่สิบปีแล้ว ปล่อยให้เป็นอดีตเถอะ น้าถามจริงๆนัทจะอยากรู้ไปเพื่ออะไร”

“ก็...ถามไปอย่างงั้นเองค่ะ เป็นใครก็คงอยากรู้เรื่องราวของคนที่หน้าเหมือนเรา...ถูกไหมคะ”

“ก็ใช่...แต่น้าขอเตือนด้วยความหวังดี ถ้านัทยังขุดคุ้ยเรื่องนี้นัทนั่นแหละจะเดือดร้อนจะทำงานที่นี่ต่อไปไม่ได้”

“ทำไมล่ะคะ หรือว่าคนที่ทำให้วรดาตายก็ทำงานอยู่ที่นี่”

“น้าไม่ได้พูดแบบนั้น แค่จะบอกว่ามันเป็น

เรื่องเศร้าที่ทุกคนอยากลืม เราจะฟื้นฝอยหาตะเข็บไปเพื่ออะไร”

“เพื่อความจริงไงคะ อย่างที่เขาบอกว่าความจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย”

“แล้วเขาบอกรึเปล่าว่าคนพูดความจริงน่ะตายกันมาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว”

น้ำเสียงปิติเริ่มเคร่งเครียด นัทธมนหน้าเจื่อน โชคดีที่ถุงแป้งโผล่มาทักทายพ่อแท้ๆบรรยากาศจึงเย็นลง กฤตย์เฝ้ามองอย่างจับสังเกต ต่างจากเกตุมณีที่ออกอาการเหวี่ยงสามีอย่างเห็นได้ชัด เรื่องราวที่เขาแอบรักวรดายังเป็นเหมือนหอกทิ่มแทงใจเธอจนถึงวันนี้ กฤตย์ก็หึงนัทธมนโดยไม่รู้ตัวแต่แสดงออกมากไม่ได้นอกจากพาเธอไปคุยงานข้างนอก

สีหนาทเจ้าของโรงแรมและไร่สักขนาดใหญ่ทางเหนือเป็นคนที่กฤตย์นัดคุยงานด้วย เขากับกฤตย์เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนเมืองนอกและวันนี้เขาก็นัดพบอีกฝ่ายเพื่อถามความคืบหน้าเรื่องออกแบบโรงแรมที่หลวงพระบาง

กฤตย์กับนัทธมนนั่งบนรถด้วยความกระวนกระวายใจเพราะรถติดมาก สุดท้ายสถาปนิกหนุ่มจึงตัดสินใจพึ่งบริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างแต่เขาจะขับเองเลยยอมถอดนาฬิกามูลค่าหลายแสนไว้เป็นประกันกับเจ้าของ นัทธมนมองด้วยความอึ้ง อยากเตือนให้เขาระวังตัวมากกว่านี้แต่เขาคงไม่เชื่อ

มอเตอร์ไซค์รับจ้างพาสองเจ้านายเลขาฯไปถึงที่หมาย อึดใจต่อมาสีหนาทรออยู่แล้วพร้อมคำรณผู้ช่วยหนุ่ม ไม่ได้โกรธกฤตย์เพราะกำลังตาวาวเมื่อเห็นสาวสวยแปลกหน้า

“กฤตย์จะไม่แนะนำสุภาพสตรีที่สวยน่ารักคนนี้ให้พี่รู้จักหน่อยเหรอ”

“อ้อ...นี่นัทธมนเลขาฯผมเองครับพี่สิงห์”

นัทธมนยกมือไหว้ตามมารยาทและตามประสาเลขาฯที่ดี

“ผมชื่อสีหนาท เรียกผมว่าสิงห์ก็ได้ ส่วนนี่คำรณผู้ช่วยผม...ว่าแต่จะให้ผมเรียกคุณว่าอะไรดี”

“เรียกนัทก็ได้ค่ะคุณสิงห์”

“พาเลขาฯคนนี้ไปด้วยใช่ไหม”

“แน่นอนครับ ขาดไม่ได้เลยคนนี้ เขาช่วยงานผมได้เยอะเลย”

“ดีเลย...ไว้เจอกันที่นั่น เราจะได้มีเวลาคุยกันเยอะกว่านี้”

สีหนาทตัดบทแถมโยนระเบิดตูมใหญ่เรื่อง

ทริปดูงานที่หลวงพระบาง นัทธมนนิ่วหน้า กฤตย์ต้องอธิบายว่าเขากับเธอต้องบินไปหลวงพระบางพรุ่งนี้เพื่อดูความคืบหน้าโรงแรมของสีหนาท

นัทธมนไม่ปฏิเสธเพราะเป็นงาน กฤตย์สังเกตเธอเงียบๆ พอใจความตั้งใจแต่แอบหึงเธอกับสีหนาทโดยไม่รู้ตัว เลขาฯสาวโดนเขาเหวี่ยงงอนๆก็งงแต่พยายามไม่คิดมาก รู้ตัวอีกทีเขาก็พาเธอมาคืนมอเตอร์ไซค์ แลกกับนาฬิกาแล้ว

เจ้าของมอเตอร์ไซค์รออยู่แล้ว นัทธมนซึ่งระแวงตั้งแต่ต้นถึงกับพูดไม่ออก กฤตย์พอเดาอาการเธอได้ ไม่ได้อยากตำหนิแต่อยากเตือนให้เธอเปิดใจให้กว้าง

“คุณอย่าอคติฝังใจจนไม่ไว้ใจใคร มองทุกอย่างในแง่ร้ายไว้ก่อน”

“แล้วผิดตรงไหนคะ คนเรามันก็ไว้ใจไม่ได้อยู่แล้ว”

“นั่นไง...คุณควรจะหัดวางอคติแล้วหัดไว้ใจคนอื่น มองคนอื่นในแง่ดีบ้าง”

“ไม่ล่ะค่ะ...ดิฉันเห็นตัวอย่างมาแล้ว คนที่ไว้ใจคนอื่น มองคนอื่นในแง่ดี สุดท้ายก็ต้องโดนหลอกให้ไปตาย”

อ่านละคร ด้วยแรงอธิษฐาน ตอนที่ 4 วันที่ 25 ก.ย.61

ละครเรื่อง บทประพันธ์โดย: กิ่งฉัตร
ละครเรื่อง บทโทรทัศน์โดย ทองเอก-ญาลิล-ณกดแก้ว
ละครเรื่อง กำกับการแสดงโดย ผิน เกรียงไกรสกุล
ละครเรื่อง ผลิตโดย บริษัท กัทส์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง นักแสดงนำ เจษฎาภรณ์ ผลดี,นิษฐา จิรยั่งยืน
ที่มา ไทยรัฐ