อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 5 วันที่ 25 ก.ย.61

อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 5 วันที่ 25 ก.ย.61

เพราะเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายของแม่ที่บ้านร่มไม้ฯ คืนนี้พฤกษ์จึงแอบเข้าไปดันกล้องวงจรปิดขึ้นจับภาพมุมสูงที่มีแต่ความมืด แล้วแอบเข้าไปในห้องบุษกรลักพาตัวแม่ออกจากบ้านร่มไม้ฯไปกลางดึก

รุ่งเช้าเมื่อทุกคนมาออกกำลังแกว่งแขนตามปกติปรากฏว่าไม่มีบุษกร อ้อยหน้าตาตื่นมาบอกว่าป้าบุษกรหายไปอีกแล้ว ยายอี๊ดบอกว่าต้องรีบบอกพฤกษ์เดี๋ยวนี้ แต่วีนัสบอกว่า

“อย่าเพิ่งบอกอาจารย์ค่ะ วงจรปิด...เปิดวงจรปิดก่อนค่ะ”



จากการเปิดกล้องวงจรปิดปรากฏว่าภาพหายไปช่วงหนึ่ง วีนัสถามว่าพอมีภาพช่วงไหนใช้ได้บ้างไหม ธงชัยกลับไปเช็กที่หน้าจอคอมพิวเตอร์คลิกกล้องวงจรปิดแต่ละตัวจึงเห็นมีด้ามไม้กวาดโผล่มาดันตัวกล้องให้ทิศทางเปลี่ยนไป

วีนัสถามว่ามีกล้องตัวอื่นจับภาพได้ไหม ธงชัยคลิกไปอีกร้องบอกอย่างตื่นเต้นว่านี่ไงคนที่มาเอาตัวคุณป้าบุษกรไป วีนัสตกใจมากเมื่อเห็นภาพคนในกล้อง!

พฤกษ์มาขโมยแม่จากบ้านร่มไม้ชายคาไปอยู่ที่บ้านสูงวัยริมทะเล บุษกรถามว่าพาแม่มาที่นี่ทำไม พฤกษ์บอกว่าอยากให้แม่ได้อากาศบริสุทธิ์ จะได้สดชื่นแข็งแรง บุษกรนึกไม่ถึงว่าพฤกษ์จะทำอย่างนี้ ถามว่า

“แล้วทำไมไม่บอกแม่สักคำ”

วีนัส ธนพัตกับคณิตา ไปที่โรงพยาบาลทันที เล่าให้ไตรทศกับไอลดาฟัง แล้วบ่นว่า

“อาจารย์ทำไม่ถูกนะคะ แอบพาคุณป้าออกไปได้ยังไง ฉันโทร.ไป อาจารย์ก็ปิดเครื่องใส่”

คณิตาถามว่าไตรทศกับไอลดาพอนึกออกไหมว่าพฤกษ์จะพาคุณป้าไปไหนบ้าง ไอลดาบอกว่าพฤกษ์เป็นคนปากหนัก คิดเองทำเองอยู่คนเดียวไม่บอกใครหรอก แต่ตนก็มีวิธีตามหาตัวพฤกษ์ได้ ว่าแล้วหยิบมือถือส่งข้อความไปหาพฤกษ์ทันที

ส่งข้อความแล้วแต่พฤกษ์ยังไม่เปิดอ่าน วีนัสจึงจะลองไปดูที่บ้าน ไอลดาบอกไตรทศว่า

“เหตุผลเดียวที่แม่หายไป เพราะพฤกษ์มันไม่มีเงินจ่ายให้บ้านร่มไม้ฯ”

ooooooo

บุษกรบอกพฤกษ์ว่าแม่อยากกลับบ้านร่มไม้ฯ พฤกษ์หว่านล้อมให้แม่ลองอยู่ที่นี่สักพักเพราะแม่ชอบทะเล น่าจะชอบที่นี่ บุษกรถามตรงๆว่าลูกมีปัญหาอะไร ถ้าลูกไม่พูดความจริงแม่ก็จะไม่อยู่ที่นี่

“ผมแค่อยากให้แม่เปลี่ยนบรรยากาศ” พฤกษ์ยังคงปิดบัง บุษกรผิดหวังเข็นวีลแชร์ออกไป พฤกษ์ตามไปจับไว้ คุกเข่าขอร้อง “แม่อยู่ที่นี่สักพักนะครับ...แล้วผมจะพาแม่กลับ”

“ปัญหาเรื่องเงินใช่ไหม พฤกษ์ต้องส่งกล้วยไม้ ทั้งๆที่พฤกษ์บอกมาตลอดว่าไม่อยากทำสวนกล้วยไม้แบบพ่อ” บุษกรถามตรงๆ เห็นพฤกษ์นิ่งจึงบอก “พฤกษ์ แม่มีเงินเก็บนะลูก”

พฤกษ์บอกว่าตนไม่ใช้เงินแม่ ตนเลี้ยงแม่ได้ บุษกรให้พาแม่กลับไปอยู่บ้านเราก็ได้

“ผมเป็นห่วงแม่ ช่วงนี้ผมต้องทำงานหลายอย่าง อยู่ที่นี่แม่ยังมีคนดูแล”

“พ่อทิ้งแม่ไปคนนึงแล้ว พฤกษ์ยังจะทิ้งแม่อีกเหรอ” บุษกรถามเสียงเครือ พฤกษ์กุมมือแม่บอกว่าตนไม่ทิ้งแม่  แต่จะดูแลแม่ให้ดีที่สุดเท่าที่สองมือจะทำได้ บุษกรเสียงเศร้าว่า

“แม่เป็นภาระให้พฤกษ์”

“ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นนะครับแม่...” พฤกษ์กอดแม่ยอมรับว่า “ผมทำทุกอย่างเพราะผมรักแม่...แม่ยกโทษให้ผมนะครับ ผมขอเก็บเงินอีกสักพัก มีมากพอเมื่อไหร่จะพาแม่กลับไปหาเพื่อนๆที่บ้านร่มไม้ฯ”

บุษกรกอดพฤกษ์ให้กำลังใจทั้งที่เศร้าไม่น้อยกว่ากันเลย

ooooooo

บรรดา สว.ในบ้านร่มไม้ชายคาวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานาว่าพฤกษ์คิดยังไงถึงได้พาแม่หนีไป นิ่มนวลรีบโพล่งว่า คิดผิดน่ะสิเพราะบุษกรอยู่ที่นี่กับพวกเรามีความสุขจะตาย

เย็นแล้วไอลดาจึงโทร.ติดต่อพฤกษ์ได้ ถามทันทีว่าอ่านข้อความที่ตนส่งให้แล้วใช่ไหม พฤกษ์ขู่ว่าถ้าจะด่าตนวาง ไตรทศพูดแทรกว่าห้ามวางเพราะไอ้ไอบอกว่าต้องเอายาให้แม่ พฤกษ์บอกว่าตนเอามาครบแล้ว

“มันไม่พอหรอก ฉันขอดูการ์ดคนไข้แล้ว แม่ต้องมียาอีกตัว พูดเลยนะ ฉันไม่ได้ห่วงแก ฉันห่วงแม่!!”

ไอลดาปดหวังได้พบพฤกษ์ แต่พฤกษ์ฟังแล้ว

คิดหนัก

วันต่อมาเมื่อพฤกษ์กลับไปเอาเสื้อผ้าของใช้ให้แม่พอจะกลับก็เจอไตรทศกับไอลดาพุ่งเข้ามาถาม

“แกเอาแม่ไปไว้ไหน”

“พวกแกไม่ต้องรู้ เอายามา”

ไตรทศบอกว่าไม่มียามีแต่หมัดที่จะง้างปากเขา พฤกษ์มองไตรทศที่กำหมัดแน่นอย่างไม่สะทกสะท้าน

“ไอ้พฤกษ์ สิ่งที่แกกำลังทำมันเห็นแก่ตัว มันไม่ใช่ ความรัก ถ้าแกรักแม่แกต้องคิดถึงใจแม่ คิดถึงความสุขของแม่ คิดถึงรอยยิ้มของแม่มากกว่าชีวิตเฮงซวยของแก!!!” ไอลดาแรงใส่ไม่ยั้ง

“แกถามแม่สักคำไหมว่าแม่อยากอยู่ที่ไหน อยากอยู่กับใคร ทำไมแกไม่ปรึกษาฉัน ไม่ปรึกษาไอ้ไอสักคำ นี่เพื่อนนะโว้ย ไม่ใช่เสาหิน”

พฤกษ์บอกว่าเพราะเป็นเพื่อนตนจึงไม่อยากให้ต้องลำบาก ทุกปัญหาตนจัดการเองได้ ไอลดาด่าว่าจัดการด้วยวิธีโง่ๆเอาแต่ใจตัวเองน่ะสิ

“แกจะด่าฉันยังไงก็ได้ แต่นี่...วิธีของฉัน...แม่ฉัน พวกแกกลับไปได้แล้ว”

“ฉันถามอีกคำเดียว แม่อยู่ไหน” ไตรทศฉุนขาดกระชากคอเสื้อพฤกษ์เงื้อหมัดใส่

พอดีวีนัส คณิตากับธนพัตมาถึง ทุกคนตกใจเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ไอลดาดึงมือไตรทศออกจากพฤกษ์ วีนัสเดินเข้ามาจ้องหน้าพฤกษ์ ทั้งสองจ้องหน้ากันใกล้มาก!

คืนนี้...บุษกรนอนบนเตียงที่มีผู้สูงอายุนอนเรียงกันเต็มไปหมด เสียงคุยโทรศัพท์ เสียงคุยกัน เสียงกรน แว่วมาจากเตียงคนนั้นคนโน้นคนนี้จนบุษกรนอนไม่หลับ พอพลิกตัวตะแคงก็เห็นเดชามานั่งที่ขอบเตียง บุษกรน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความดีใจ เดชาปลอบอย่างอ่อนโยนว่า

“นอนได้แล้วแม่...พ่ออยู่ตรงนี้”

บุษกรจึงหลับไปทั้งน้ำตา

เช้าวันใหม่ถึงเวลาอาหาร บุษกรกินข้าวต้มได้ไม่กี่คำก็เขี่ยไปมากินไม่ลง ขอเจ้าหน้าที่ออกไปเดินเล่นรับลมข้างนอก บอกเจ้าหน้าที่ว่าให้กลับไปทำงานเถิด ตนขอนั่งเล่นตรงนี้ไม่ไปไหนไกลหรอก

พอเจ้าหน้าที่ไป บุษกรนั่งเหม่อมองไปในทะเล คิดถึงเดชาจับใจ ครู่หนึ่งค่อยๆถอดรองเท้า ลุกขึ้นยืนแล้วก้าวไปบนพื้นทราย คิดถึงอดีตที่เคยมีความสุขกับเดชาแล้วยิ่งเศร้า ก้าวเดินออกไปทีละก้าว น้ำตาไหลพึมพำ

“ถ้าพ่อยังอยู่...แม่ก็คงไม่ต้องมาที่นี่คนเดียว...”

ooooooo

วีนัสจ้องหน้าพฤกษ์ครู่หนึ่งจึงถามว่าอาจารย์ไม่พอใจอะไรบอกดีๆก็ได้ ทำไมต้องพาคุณป้าออกมากลางดึก ธนพัตก็ว่าพาคุณป้าเปลี่ยนที่อยู่เรื่อยการรักษาไม่ต่อเนื่อง อย่างนี้เมื่อไหร่คุณป้าจะหาย คณิตาย้ำว่าจิตใจดูแลรักษายากกว่าร่างกาย

“คุณป้ามีหัวใจ ไม่ใช่สิ่งของที่คุณจะจับไปวางตรงไหนก็ได้...ตามใจคุณ” วีนัสพูดทิ้งท้ายอย่างมีอารมณ์

“แม่ชอบทะเลมาก แม่จะมีความสุขถ้าได้อยู่ใกล้ทะเล” พฤกษ์ตะแบงไม่ยอมรับความจริง

แต่ด้วยการกดดันของทุกคน พฤกษ์จึงยอมพาไปหาบุษกร โดยนั่งเบียดเสียดกันไปในรถของไตรทศ ทุกคนเร่งให้ขับเร็วๆ ไตรทศเลยเหยียบคันเร่งเสียจนทุกคนนั่งจิกเบาะเกร็งไปตามกัน

ขณะไตรทศตะบึงรถมาที่ชายทะเลนั้น...บุษกรที่มองทะเลอย่างเศร้าหมอง คิดถึงเดชาจับใจก็ค่อยๆก้าวลงทะเล...ในสายตาเห็นเดชานั่งอยู่บนเรือยื่นมือมารับ

ที่ชายหาดเวลานี้เหลือแต่รอยเท้าและรองเท้าที่บุษกรถอดไว้ข้างวีลแชร์...

พอมาถึงบ้านพักสูงวัยริมทะเล พฤกษ์ลงจากรถวิ่งเข้าไปถามหาแม่ ทุกคนวิ่งตามไปทันที

พอเจ้าหน้าที่พาไปที่ริมทะเล เห็นแต่รองเท้ากับวีลแชร์ ต่างตกใจว่าบุษกรหายไปไหน พฤกษ์โวยวายเจ้าหน้าที่ที่ทิ้งแม่ตนไว้คนเดียวจนหายไป ไอลดาคาดว่าแม่คงเดินเล่นอยู่แถวนี้ บอกให้แยกย้ายกันหา วีนัสให้พฤกษ์ไปกับตน พฤกษ์สะบัดไปไม่สนใจเดินลุยลงทะเลไปเลย

“อาจารย์เป็นบ้าอะไร” วีนัสตกใจ พฤกษ์บอกว่าแม่อาจจะจมน้ำ “คิดให้มันดีกว่านี้หน่อยได้ไหม”

“ผมไม่ได้โลกสวยอย่างคุณ นั่นรองเท้าแม่... วีลแชร์แม่ คุณเห็นไหม มันหันมาทางนี้ แม่รักทะเล...ทะเลที่มีพ่อ”

“คุณป้ารักทุกอย่างที่เกี่ยวกับพ่ออาจารย์ แล้วทำไมอาจารย์ไม่พาพ่อมาหาแม่” วีนัสตามไปยื้อถาม

เป็นคำถามที่บาดใจพฤกษ์อย่างแรง เขาปัดจนวีนัสเซล้มไป คลื่นซัดน้ำเข้าหน้า พอเธอเงยขึ้น พฤกษ์มองอย่างรู้สึกผิดรีบยื่นมือไปดึงเธอขึ้นมา

“รู้ไหมความรักของอาจารย์กำลังทำร้ายคุณป้า” วีนัสพูดต่อทันที ถูกพฤกษ์ตวาดให้หยุดเสียทีเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย “ฉันรู้...ฉันรู้ว่าฉันรักคุณป้า เพื่อนคุณทุกคนรักคุณป้า ถึงไม่มากเท่าที่คุณรักแต่คุณก็ไม่ควรปัดความรักความหวังดีของคนอื่น”

พฤกษ์หันมองตาขวาง วีนัสพูดทั้งโมโหและน้อยใจว่า

“ถึงคุณจะไล่อีกกี่ครั้งฉันก็ไม่หยุด จนกว่าคุณป้าจะได้มาเจอคนที่ท่านรัก...คนนั้นคือ...พ่อคุณ”

ooooooo

พฤกษ์มองวีนัสนิ่ง วีนัสถามว่าทำไมอาจารย์ถึงต้องกีดกันไม่ให้คุณป้าเจอคนที่ท่านรักที่สุด แต่วีนัสยิ่งถามเกี่ยวกับเรื่องพ่อพฤกษ์ก็ยิ่งไม่พอใจ สั่งให้หยุดพูด แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ วีนัสเสียงเข้มว่า

“ฉันไม่หยุด คุณใจร้ายมากอาจารย์พฤกษ์ คุณมันคนไม่มีหัวใจ”

“ผมมีหัวใจ แล้วหัวใจผมก็แคร์คนที่ผมรักเท่านั้น”

ทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร พฤกษ์เดินลุยน้ำไปอีก วีนัสวิ่งลุยตามตะโกนว่าเขาต้องพาคุณป้าไปเจอสามี คุณต้องพาคุณป้ากลับบ้านร่มไม้ฯ พฤกษ์ไม่สนใจลุยน้ำหนี วีนัสไล่ตามแต่คลื่นซัดและ

ลมแรงทำให้เธอล้มลง เสียงร้องทำให้พฤกษ์หันมอง  วีนัส เงยหน้าดูว่าเขาจะช่วยดึงขึ้นอีกหรือไม่

ทันใดนั้นวีนัสเห็นเรือลำหนึ่งกำลังแล่นเข้ามา เธอเขม้นมองสงสัย ทำให้พฤกษ์หันมองพลันก็ร้องดีใจสุดชีวิต

“แม่...”

“คุณป้า...”

พฤกษ์ไม่สนใจวีนัส เขาวิ่งไปหาแม่ที่เรือ วีนัสลุกวิ่งตามไป พฤกษ์ถามว่าแม่ไปไหนมา บุษกรบอกว่าไปนั่งเรือเล่น สีหน้ายังคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้...ที่ลมพัดผ้าคลุมปลิวไปตกที่เรือ  เมื่อตามไปเก็บเจอเจ้าของเรือ จึงขอเช่าเรือออกทะเล

“ทำไมแม่ไม่รอผม”

“พฤกษ์...แม่ไปกับพ่อ...แม่คิดถึงตอนที่เราเคยมาด้วยกัน...สามคน...พ่อพาแม่นั่งเรือเล่นไปไกลๆ”

วีนัสจูงมือบุษกรชวนไปคุยกันบนหาดดีกว่า บุษกรค่อยๆเดิน วีนัสชมว่าคุณป้าเก่ง เดินคล่องแล้ว บอกให้เดินช้าๆ จับมือบุษกรอย่างระมัดระวัง พฤกษ์เข้าประคองแม่อีกข้างหนึ่ง

พฤกษ์มองภาพวีนัสกับบุษกรด้วยสายตาอ่อนโยน บุษกรเดินมาด้วยหัวใจอบอุ่น

เมื่อกลับมาถึงบ้านสูงวัยริมทะเล บุษกรขอโทษทุกคนที่ตนทำให้เป็นห่วงกันหมด แต่ทุกคนก็พูดให้เห็นว่าไม่มีอะไร  พวกตนตั้งใจมาหาแม่อยู่แล้ว คณิตาอาสาจะไปหาอะไรมาให้คุณแม่กินเป็นพิเศษ ทุกคนพยายามยิ้มแย้มทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย

“ขอบใจนะ ขอบใจทุกคน แม่สบายดี...แม่อยู่ที่นี่ได้”

แต่พฤกษ์ฟังแล้วรู้สึกผิด รู้ดีว่าที่แม่ยอมอยู่ที่นี่เพราะปัญหาเรื่องเงิน วีนัสเห็นบรรยากาศเริ่มเศร้าก็ทำเสียงร่าเริงบอกว่าในรถมีหนังสือกับของใช้คุณป้า ชวนเพื่อนไปเอากันเพราะอยากให้พฤกษ์ได้อยู่คุยกับแม่ตามลำพัง พอทุกคนไปกันหมด บุษกรก็บอกพฤกษ์ว่า

“ไม่ต้องห่วงลูก แม่อยู่ที่นี่ได้” หันมองทะเล

บอกว่า “แม่มีพ่ออยู่ด้วย”

พฤกษ์รู้ว่าแม่ยอมอยู่ที่นี่เพื่อตน บอกแม่อย่างไม่สบายใจว่า  ถ้าแม่อยากกลับไปบ้านร่มไม้ฯตนจะพาแม่ออกจากที่นี่ไปวันนี้เลย เรื่องค่าใช้จ่ายตนจะคุยกับวีนัสเอง

อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 5 วันที่ 25 ก.ย.61

ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทประพันธ์โดย ธุวดารา
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทโทรทัศน์โดย เป่ากุ้ย
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ กำกับการแสดงโดย ภูธเนศ หงษ์มานพ
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ฝึกสอนการแสดงโดย อริศรา วงศ์ชาลี
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ผลิตโดย บริษัท เป่าจินจง จำกัด
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ควบคุมการผลิตโดย นพพล โกมารชุน
ที่มา ไทยรัฐ