อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 10 วันที่ 4 ก.ย.61

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 10 วันที่ 4 ก.ย.61

“ผมคิดว่าตอนนี้ทางเดียวที่จะทำให้ผีหยดยอมแพ้เรื่องทั้งหมด คือการรู้ความจริงเรื่องของพี่ที่ไม่สามารถรักผู้หญิงคนไหนได้” วิษณุอ่านไลน์จบพอดีตอนที่ต้นเปิดประตูห้องพักฟื้นเข้ามาพร้อมกับข้าวต้มร้อนๆ

“ผมออกไปซื้อข้าวต้มปลาร้านที่พี่ชอบมาให้”

วิษณุขอบใจเขามาก พรุ่งนี้ให้เขาชวนกิฟท์มาที่นี่หน่อย ตนมีเรื่องที่ต้องจัดการให้จบๆ พรุ่งนี้กิฟท์จะได้รู้เรื่องราวชีวิตของเธอ และพรุ่งนี้ทุกคนจะได้รู้ทุกอย่างและเข้าใจในเหตุผลของเขาทั้งหมด...



ไม่นานนักยานอนหลับก็ออกฤทธิ์ รินหลับไม่รู้เรื่อง ปาลเห็นเธอหลับสนิท คลายเชือกที่มัดมือออกเห็นรอยเชือกรัดก็สงสารจับใจ แล้วนึกถึงเรื่องเมื่อวานตอนไปส่งเธอที่ห้องพัก เธอโผกอดเขาแถมพูดจาแปลกๆ ปาลเพิ่งถึงบางอ้อ ที่แท้เธอตั้งใจจะลาเขาเพราะตัดสินใจให้ผีหยดยืมร่างนี่เอง

“คุณเคยบอกว่าเวลาผมยิ้มแล้วเรื่องแย่ๆก็จะหมดไป ตอนนี้ผมยิ้มให้คุณแล้วนะริน กลับมาหาผมนะริน” ปาลมองรินอย่างหมดหวัง กอดร่างเธอที่นอนนิ่งไว้แน่นราวกับกลัวจะหายไป...

ที่ห้องโถงชั้นล่าง แม่ปุกเข็นกระเป๋าเดินทางเข้ามาในบ้านอย่างอารมณ์ดี เดินเลยเข้าไปในครัวจะรินน้ำดื่มแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นเลือดหยดเป็นทาง เป็นห่วงลูกชายขึ้นมาทันที วิ่งพรวดขึ้นไปที่ห้องนอนของเขาเห็นเขานอนกอดรินอยู่บนเตียงก็งงมากว่าเกิดอะไรขึ้น ปาลรู้สึกตัวตื่นพอดี เห็นแม่มองอยู่ก็ตกใจ ครู่ต่อมา ปาลตามแม่ลงมาที่ห้องครัว แม่ปุกไม่รอช้าถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่อยากให้แม่กังวลใจก็เลยแต่งเรื่องว่า

“ไม่มีอะไรครับแม่ คือผมชวนรินเขากินข้าวน่ะครับ เห็นแม่บอกจะกลับมะรืน ผมเลยไม่ได้แจ้งก่อน”

แม่ปุกชี้ไปที่รอยเลือดบนพื้นนั่นคืออะไร ปาลโกหกว่า รินทำมีดบาดตอนทำกับข้าวก็เลยเพลียๆเขาจึงบอกให้นอนพักก่อน จัมโบ้ที่หมอบอยู่ข้างๆวิ่งขึ้นบันไดไปนั่งอยู่หน้าห้องปาลก่อนจะหอนโหยหวนชวนขนลุกแถมตะกุยประตูอีกต่างหาก ปาลขอตัวไปดูมันก่อน แล้ววิ่งปรู๊ดขึ้นบ้าน แม่ปุกมองตามรู้ทันว่าลูกโกหก

ooooooo

แม่ปุกโทร.ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้แม่รินฟังแต่เช้ารวมทั้งที่เจอรอยเลือดหยดทั่วครัว แม่รินเป็นกังวลจะขึ้นมากรุงเทพฯวันนี้เดี๋ยวนี้เลย แต่แม่ปุกห้ามไว้ เตือนว่าอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป รับปากจะดูแลรินให้เอง

“ถ้าปาลทำอะไรหนูรินก็ดีจะได้รีบๆจับแต่งเลยไง...แค่นี้ก่อนนะลงมากันแล้ว”

ปาลลากรินลงมาด้วยโดยทั้งคู่ยังอยู่ในชุดเมื่อวาน กลัวแม่จะจับได้ว่านั่นไม่ใช่ริน “แม่ครับเดี๋ยวผมจะพารินเขาไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลหน่อย อยากรบกวนยืมชุดแม่ให้รินได้ไหมครับ พอดีรินเขาไม่ได้เอาชุดมา”

ทันทีเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ทั้งปาลและรินรีบร้อนออกจากบ้านโดยมีแม่ปุกมองตามสงสัย...

กิฟท์กับต้นมาถึงโรงพยาบาลก่อนเวลานัดเล็กน้อยทำให้กิฟท์มีเวลาแวะถ่ายรูปกับบรรดาแฟนคลับโดยควงแขนกับต้นแสดงตัวเป็นแฟนกันอย่างเปิดเผย เขาเห็นว่าใกล้เวลานัดจึงสะกิดให้เธอรีบขึ้นไปหาวิษณุ...

ทันทีที่เจอหน้ากิฟท์ วิษณุเอากำไลวงนั้นที่ได้มาจากห้องใต้ดินเรือนวนาเทพคืนให้ บอกว่ากำไลวงนี้เป็นของเธอมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ตั้งแต่เธอเป็นคุณกำไล เขาหรือคุณพระวนาเทพในชาตินั้นเป็นคนมอบให้ หวังให้เธอรับรักเขา กิฟท์เป็นสาวสมัยใหม่ไม่เชื่อเรื่องพรรค์นี้ แถมไม่พอใจที่เขาพยายามทำให้เธอเชื่อตาม

“คราวก่อนพี่ณุก็เอาหนังสือโบราณอะไรมาให้กิฟท์อ่าน รอบนี้ให้ฝ่ายพร็อพทำกำไลเพื่อจะกล่อมให้กิฟท์เชื่อให้ได้ว่ากิฟท์คือคุณกำไลกลับชาติมาเกิด ลงทุนนะคะใช้ของที่เข้าฉากก็ได้”

“กิฟท์พูดกับพี่ณุดีๆได้ไหม” ต้นเอ็ด กิฟท์โวยวายนี่มันบ้ามากไปแล้ว พี่ณุอยากจะเชื่อว่าตัวเองเป็นคุณพระวนาเทพก็เชิญเชื่อไป เธอไม่สนุกด้วย ชวนต้นกลับ โยนกำไลลงพื้นแล้วลุกขึ้น กำไลเจ้ากรรมกลิ้งไปหยุดหน้าประตูห้อง วิษณุเห็นเธอจะไปโพล่งขึ้นว่าผู้ชายในรูปคือเขาเอง

“ต้นบอกพี่เรื่องข้อตกลงนั่นแล้ว”

นางเอกสาวมองคู่จิ้นของตัวเองไม่ค่อยจะพอใจนัก ปาลผลักประตูเข้ามากับผีหยดในร่างริน ฝากวิษณุดูแลเธอด้วย ส่วนเขาขอตัวไปคุยกับหมอก่อนแล้วถอยหลังออกไป ผีหยดเห็นกำไลวงนั้นที่ตกพื้นเก็บขึ้นมาสีหน้าไม่พอใจ เอามันยัดใส่มือกิฟท์ “นังกำไล ใครใช้ให้เอ็งมาเฝ้าคุณพระ”

“เดี๋ยว...รินเรียกกิฟท์ว่าอะไรนะ” กิฟท์มองรินสีหน้าหวั่นๆ ผีหยดในร่างรินไม่สนใจอะไรเธออีก เอาดอกไม้ที่เพิ่งซื้อมอบให้วิษณุ ออกตัวว่าพยายามหาดอกรักแต่ไม่มีหวังว่าคุณพระคงไม่โกรธเธอ

“อย่าคิดมากเลยหยด”

ต้นงงทำไมพี่ณุเรียกรินว่าหยด วิษณุเล่าให้ฟังว่าหยดคือพี่สาวของหยาด นางบาปที่วางยาทุกคนไม่ใช่หยาดแต่เป็นหยด ตอนที่เขาให้กำไลวงนั้นกับกิฟท์หรือคุณกำไลในชาติที่แล้ว เขาเคยสัญญาว่าจะรักเธอคนเดียวแต่เขาผิดคำพูดไม่ต่างจากคำสัญญาที่ให้ไว้กับหยด หลังจากที่หยดยืมมือหยาดวางยาคุณกำไลกับลูกๆ เธอได้สาปแช่งเขาไว้ว่าขอให้พี่ไม่สามารถรักหญิงอื่นได้อีก ชาตินี้เขาถึงต้องเป็นแบบนี้

“นี่พี่ณุจะบอกกิฟท์ว่าพี่ณุไม่รักผู้หญิงแต่รักพี่ต้นเพราะกรรมในอดีตน่ะเหรอคะ”

วิษณุไม่ตอบหันไปจับมือผีหยด “หยดฟังฉันดีๆนะ ฉันไม่ได้รักผู้หญิง ต่อให้เธอจะยึดร่างของรินไว้ ฉันก็ไม่มีทางที่จะรักรินได้ อย่ายึดถือสัญญาอะไรที่เราเคยมีต่อกันไว้อีกเลยนะหยด ถ้าเธอต้องการที่จะแก้ไขอะไร ฉันอยากขอให้เธอทำเพื่อตัวเอง กราบขอโทษแม่เยื้อน แล้วคืนรินมาเถิดนะ เธอจะได้ไปเริ่มต้นชีวิตและความรักใหม่ในภพหน้า” วิษณุเห็นผีหยดเอาแต่เงียบ ถามว่าต้องทำอย่างไรเธอถึงจะยกโทษให้ ปาลพรวดพราดเข้ามา

“พี่ณุครับเดือนโทร.มาแจ้งว่าหมอให้โทร.ตามญาติไปลาครับ”

“หยด แม่เยื้อนต้องไปแล้ว เราไปลาแม่เยื้อน กันนะ” วิษณุมองผีหยดอย่างรอคำตอบ

ooooooo

พาไลนั่งทำสปาเห็น IG คู่ของกิฟท์ต้น อัปรูปคู่กัน พร้อมติดแฮชแท็ก

“ขอบคุณความอิจฉาของคุณ เพราะมันยิ่งช่วยทดสอบว่าความรักของเราสองคน จริงแท้ต่อกันแค่ไหน”

ผู้จัดการสาวชอบกินไก่วัดโมโหปามือถือทิ้ง ช่างนวดตกใจรีบเก็บคืนให้...

ต้นพากิฟท์มาที่ห้องพักของตัวเอง เธอนั่งมองกำไลโบราณวงนั้นก่อนจะโยนลงพื้น ยังมึนกับเรื่องที่ได้ฟังจากวิษณุไม่หาย นี่ถ้าเดือนรู้ว่าพี่ณุไม่ชอบผู้หญิงคงช็อกเข้าโรงพยาบาลตามแม่ไปอีกคนแน่ๆ

“เขาอาจจะรู้แล้วก็ได้ ก็พี่สาวเขาเคยยกเลิกงานแต่งกับพี่ณุ”

มีเสียงประตูเปิด พาไลเดินเข้ามาเจอกิฟท์ก็ชักสีหน้าใส่ กิฟท์หมั่นไส้เข้าไปกอดแขนต้นแกล้งให้พาไลอิจฉาเล่น เห็นอีกฝ่ายอกจะแตกด้วยความแค้นก็สะใจ ขอตัวกลับก่อน แล้วเดินเชิดไปที่ประตู เท้าสะดุดกับกำไลที่ตัวเองโยนทิ้ง ก้มเก็บใส่กระเป๋าไป ต้นรอจนประตูห้องปิด เดินไปหยิบเงินปึกหนึ่งโยนให้พาไล

“ส่วนแบ่งจ๊อบสุดท้าย แล้วผมขอว่าเราจบกันได้แล้ว”

พาไลตัดพ้อทำไมทำแบบนี้ ต้นโมโหยังมีหน้ามาถามอีกทำเขาขนาดนี้ เธอขอให้เขาเลิกเป็นแฟนหลอกๆกับกิฟท์แล้วมาเป็นแฟนเธอแทน เพราะเธอคือคนที่หวังดีกับเขามาตลอด ต้นไม่เชื่อว่าเธอหวังดี เธอแค่อยากได้ตัวเขาเท่านั้นแล้วไล่ตะเพิดไปให้พ้นอย่ากลับมาที่นี่อีกไม่อย่างนั้นจะแจ้งตำรวจจับ

“คอยดูแล้วกันว่าพี่จะทำชีวิตต้นให้มันตกต่ำลงได้แค่ไหน” พูดจบพาไลเดินกระแทกไหล่ต้นออกไป...

ปาลเข็นรถเข็นที่วิษณุนั่งเข้ามาหาฝนกับเดือนที่ร้องไห้ฟูมฟายเสียใจกับการจากไปไม่มีวันกลับของยุพดี แม้วิญญาณยุพดีหรือแม่เยื้อนในชาติปางก่อนจะออกจากร่างแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล ยังคงยืนมองร่างตัวเองอยู่กับผีหยาด มีเพียงวิษณุคนเดียวเท่านั้นที่เห็นทั้งคู่ ผีหยดที่เดินตามมาเห็นแม่ที่ตัวเองสาปแช่งตายสมใจกลับไม่ได้รู้สึกยินดีแม้แต่น้อย วิญญาณยุพดีบอกกับผีหยดว่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

“ฉันรู้ว่าหนูคงไม่มีทางอภัยให้แม่อย่างฉัน ในสิ่งที่อดีตฉันได้เคยกระทำ แม้แต่ความตายฉันยังมิรู้ว่าเพียงพอไหมที่จะชดใช้ความผิดบาปที่แม่คนหนึ่งได้ฆ่าและสาปแช่งลูกตัวเอง แต่หากความตายมันพอจะแลกกับอะไรได้บ้างฉันขอให้ทุกคำสาป ทุกบ่วงกรรมที่ร้อยรัดเราไว้ทุกคนสิ้นสุดลงเสียทีเถิด” ยุพดีเดินเข้าไปโอบฝนกับเดือนที่ไม่ได้รับรู้อะไรด้วย “แม่ต้องไปแล้ว ฝนฝากน้องด้วยนะลูก รักน้องให้มากๆนะ”

อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 10 วันที่ 4 ก.ย.61

ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตร
ละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ