อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 6 วันที่ 26 ก.ย.61
พฤกษ์รู้ว่าแม่ยอมอยู่ที่นี่เพื่อตน บอกแม่อย่างไม่สบายใจว่า ถ้าแม่อยากกลับไปบ้านร่มไม้ฯตนจะพาแม่ออกจากที่นี่ไปวันนี้เลย เรื่องค่าใช้จ่ายตนจะคุยกับวีนัสเอง“อย่าลูก แค่หนูวีนัสเขาดีกับแม่ถึงขนาดนี้มันก็มากเกินไปสำหรับคนที่เพิ่งรู้จักกันแล้ว หนูวีนัสเขาเต็มใจดูแลแม่ ดูแลทุกคนที่บ้านร่มไม้ฯจากใจจริงไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน เราก็ยิ่งต้องเกรงใจ” พฤกษ์พยายามจะแย้งอีก บุษกรถามว่า “พฤกษ์กลัวอะไรลูก...ถึงพ่อจะทิ้งแม่ไป... แต่แม่ไม่มีวันลืมพ่อ...ลูกทำดีที่สุดแล้ว ลูกทำเพราะรักแม่...ลูกจะให้แม่อยู่ตรงไหนแม่ก็อยู่ได้ลูก”
พฤกษ์นึกถึงที่พ่อบอกว่าแม่เขาจะเข้าใจลูกทุกอย่าง ลูกทำเพราะความรัก ก็ยิ่งสะเทือนใจ น้ำตาคลอ...
เมื่อพฤกษ์พาบุษกรไปห้องอาหาร เห็นสายตาบรรดาเพื่อนๆมองอย่างอยากรู้ว่าเขาตัดสินใจอย่างไร ooooooo
วันนี้อานัสพาเนมมาที่บ้าน เนมมาเห็นบ้านใหญ่โตหรูหราก็ยิ่งมุ่งมั่นที่จะจับอานัสให้อยู่ ต้นเห็นก็รีบหลบกลัวมีเรื่องแต่อินทิราให้สาวใช้แอบถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานเพื่อประจานที่อานัสมั่วกับผู้หญิงระดับล่าง
อินทิราเห็นเนมอ่อยอานัสก็ด่าว่าอ่อยแรงขนาดนี้คงหวังไว้เยอะล่ะสิ ถูกอานัสออกรับแทนว่าเนมสวยเลือกได้ไม่เหมือนอาอิน ให้ฟรีแถมเงินยังไม่มีคนเอา
อินทิราด่าอานัสกับเนมว่าเหมือนผีเน่ากับโลงผุ เอาความสวยมาจับไฮโซ หยามว่าเธอกับคนที่นี่มันคนละชั้น ด่าอานัสว่า
“บ้านนี้จะฉิบหายเพราะมีหลานบ้าผู้หญิงอย่างแก”
เนมเห็นใจอานัสถามว่าทำไมอาไม่เห็นเขาเป็นหลานเลยทั้งที่เขาดีกว่าต้นทุกอย่าง อานัสขอบใจที่เนมยืนข้างตนบอกว่า ตนไม่มีวันยอมแพ้ต้น หลานที่จะสืบทอดชื่อเสียง ทุกอย่างของตระกูลต้องเป็นตนคนเดียว!
อานัสส่งเนมกลับแล้ว ถูกพ่อกับแม่ดุด่าว่าจะพาใครเข้าบ้านให้ดูบ้านช่องนามสกุลบ้าง ผู้หญิงคนนั้นไม่มีอะไรดีเลยอย่าโง่ให้เอาชื่อเสียงตระกูลเราไปเพิ่มความดังให้ตัวเอง ถ้าคุณปู่รู้เรื่องนี้เขาจะยิ่งเป็นหมาหัวเน่า สุจิตราได้ยินเยาะเย้ยสิริมาว่าเตรียมตัวเป็นแม่ผัวดาราเกรดล่างแล้วหรือยัง ด่าอานัสว่าหล่อ รวย แต่โง่ไม่เหมือนลูกต้นของตน เรียนดี นิสัยดี อนาคตไกลกว่าเห็นๆ
เอกภพสั่งอานัสว่าให้รีบจัดการเรื่องผู้หญิงคนนี้เสีย จะไปมั่วที่ไหนก็ไป แต่อย่าจริงจัง อย่าเอาเข้าบ้านอย่าให้ตนต้องโดนอินทิราหัวเราะเยาะอีก สิริมาสำทับว่ารู้ว่าลูกต้องมีของเล่นแต่ให้รีบเบื่อและโยนทิ้งเหมือนคนก่อนๆด้วย ตำแหน่งลูกสะใภ้ตนไม่ได้มีไว้สำหรับผู้หญิงจนๆ โปรไฟล์พื้นๆ
อานัสฟังพ่อกับแม่แล้วน่ารำคาญ แต่เนมพอออกจากบ้านอานัสแล้วก็บอกกับตัวเองว่า
“พี่เอิร์ธต้องเป็นของฉัน บ้านหลังนั้นก็ต้องเป็นของฉัน”
คืนนี้อานัสเดินขึ้นบ้านมาเจอต้นถือแก้วนมมาก็หาเรื่องทันทีว่าต้นเป็นคนฟ้องพ่อกับแม่เรื่องตนพาเนมเข้ามา อิจฉาตนใช่ไหมที่มีผู้หญิง เพราะหน้าอย่างเขามันหาไม่ได้ ถามเยาะว่าหรือไม่ใช่ผู้ชายคว้าแก้วนมจากต้นไปวางกระแทกจนนมกระเด็นใส่หน้าต้น ทำให้ต้นทั้งโกรธทั้งเจ็บใจมาก
ต่อมาเมื่อต้นออกไปเจอกิฟท์ที่ตนแอบชอบอยู่ควงกับท็อปอย่างสวีตหวานไม่แคร์ใคร ซ้ำถูกปิงกับตั้วแซวว่าจีบติดหรือยัง กิฟท์เปลี่ยนแฟนใหม่สามคนแล้วนะ บอกว่าท่าทางต้นไม่ใช่สเปกเพราะกิฟท์ชอบแบบแมนๆ โหดๆ
ต้นฮึดขึ้นมา เมื่อเจอกิฟท์ในคอมมิวนิตี้มอลล์จึงเดินเข้าไปบอกกิฟท์ว่าตนชอบเธอ กิฟท์บอกว่าตนมีแฟนแล้ว ต้นจับมือกิฟท์บอกว่ามีได้ก็เลิกได้ ตนมีทุกอย่างให้เธอดีกว่าแฟนเธอด้วย
อานัสใส่แว่นดำสะกดรอยตามยกมือถือขึ้นถ่ายรูปทันที พอดีท็อปไปซื้อไอติมกลับมาเห็นต้นจับมือกิฟท์ก็ตรงเข้าผลักอกต่อยต้นทันที ตวาดว่าอย่ายุ่งกับแฟนกูแล้วกระชากกิฟท์ออกไป
ปิงกับตั้วที่คอยยั่วและยุต้นบอกว่าถ้าอยากแมนๆ เร้าใจกิฟท์ ตนมีตัวช่วยแล้วเหนี่ยวคอต้นไป
อานัสแอบดูและตามไปยิ้มร้ายสะใจเพราะถ่ายคลิปไว้หมดแล้ว
คืนนี้เมื่อต้นกลับถึงบ้านถูกอานัสตบหัวอย่างแรง พอร้องก็เย้ยว่าอ่อนอย่างนี้ผู้หญิงที่ไหนจะรัก ต้นบอกว่าตนมีแฟนแล้วพลางเดินหนี ถูกอานัสกระชากเป้จนหลุดของหล่น ต้นก้มเก็บของอานัสเห็นถุงใส่เกล็ดขาวใส
“ไอ้ต้น แกเล่นไอซ์” ต้นยกมือไหว้หวาดกลัวบอกว่าเพื่อนฝากไว้ไม่ใช่ของตนอ้อนวอนอย่าบอกใคร อานัสยิ้มร้ายอย่างเป็นต่อบอกว่า “ไม่ต้องกลัว เรื่องเล็กๆแค่นี้ ฉันไม่บอกใครหรอก”
ooooooo
เพื่อนๆพากันผิดหวังเมื่อพฤกษ์บอกว่าแม่อยากอยู่ที่นี่ไม่ยอมกลับไปบ้านร่มไม้ชายคา วีนัสรู้ว่าเป็นปัญหาค่าดูแลที่บ้านร่มไม้ฯ ตัดสินใจคุยกับพฤกษ์ว่าตนจะให้ผ่อนจ่ายค่าดูแลที่บ้านร่มไม้ฯ
พฤกษ์ย้อนถามว่าใครบอกว่าตนมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย วีนัสขอร้องให้พฤกษ์วางเรื่องศักดิ์ศรีลง ตนยินดีช่วยเขาทุกอย่างในฐานะเพื่อนคนหนึ่งได้ไหม พฤกษ์มองหน้าวีนัสขอบคุณแต่ตนกับแม่เราดูแลกันเองได้
วีนัสเดินกลับไปด้วยความผิดหวัง รุ่งขึ้นก็เอ่ยลาพฤกษ์บอกว่าตนรักและเคารพคุณป้าเหมือนญาติผู้ใหญ่แต่ก็เคารพการตัดสินใจของคุณป้า
พอวีนัสกลับไปบุษกรก็บอกให้พฤกษ์พากลับไปอยู่บ้าน เขาจะได้ไม่ต้องเทียวไปมาเพราะเราได้เจอกันทุกวัน บุษกรยิ้มประคองหน้าพฤกษ์หอมแก้มอย่างเข้าใจ พฤกษ์ยิ้มกอดแม่อย่างมีความสุขมาก
ooooooo
อานัสเอาคลิปที่แอบถ่ายต้นไว้ไปให้ชาญชัยดูบอกว่าปู่ควรยอมรับความจริงว่าต้นไม่ได้ดีไปกว่าตน บอกว่าต้นยังเล่นไอซ์ด้วย
“โกหก” ชาญชัยตวาด อานัสบอกว่าตนบอกเพราะหวังดีกับครอบครัว ชาญชัยถามว่า “หวังดีจริงหรืออยากตัดคู่แข่งทางมรดก”
อานัสหัวเราะเยาะแล้วเดินออกไป ชาญชัยเครียด ไม่อยากเชื่อว่าต้นติดยาโทรศัพท์หาต้นก็ไม่รับสายกดโทร.ใหม่ก็ไม่รับสายอีก เขาเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
พออานัสกลับไปก็เจอต้นกำลังเมายาไอซ์อยู่ในห้องนอน ต้นตกใจแต่อานัสยื่นยาให้บอกว่าเผื่อไม่พอ
“อย่าคิดมากของพวกนี้เล่นให้สมองมันเพลินๆ ลืมเรื่องงี่เง่า ไม่ติดหรอก รับรองฉันไม่บอกใคร ฉันเคยอายุเท่าแกมาก่อน...”
ต้นรับถุงยาไอซ์กำแน่นอย่างมีค่า อานัสยิ้มหยิบมือถือต้นกดปิดเครื่องบอกว่า
“ตามสบายเลยไอ้ต้น หลานรักของปู่”
อานัสแอบดูต้นเมายาและถ่ายคลิปไว้อย่างสะใจ
คืนนี้เมื่อวีนัสกลับถึงบ้านร่มไม้ฯ ชาญชัยถามว่าเราจะไม่ได้เจอคุณบุษกรอีกนานใช่ไหม วีนัสขอโทษที่ตนทำไม่สำเร็จทั้งที่พยายามเต็มที่แล้ว
“อย่าโทษตัวเอง คุณพฤกษ์เขาก็มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องในครอบครัว...อย่าเศร้าไปเลย ขนาดครอบครัวเราเองเรายังบังคับใครไม่ได้”
ทั้งสองต่างเงียบไป ชาญชัยกลุ้มใจเรื่องต้นในขณะที่วีนัสก็กลุ้มใจเรื่องบุษกร
ชาญชัยไปที่บ้าน พอดีเจออานัสกำลังเยาะเย้ยอินทิรากับสุจิตราแม่ของต้นที่ชื่นชมต้นว่าเป็นเด็กดีว่าดีขนาดพกไอซ์ติดตัว เลยโต้เถียงกัน อานัสบอกว่าถ้าไม่เชื่อก็เรียกมาซักหนักๆว่าช่วงนี้ทำไมหายหัวไป กลับบ้านดึกดื่น เอกภพท้าให้เรียกต้นมาถามให้รู้เรื่องเลย
สิริมาบอกว่าถ้าต้นติดยาจริงก็ต้องไล่ออกจากตระกูลไปเลย อินทิราสวนทันทีว่าไม่ใช่หน้าที่ของเธอ
“แล้วมันก็ไม่ใช่หน้าที่พวกแกด้วย” ชาญชัยโผล่มาโพล่งขึ้น ทุกคนตกใจนึกไม่ถึงว่าจู่ๆพ่อจะโผล่มา
ขณะที่ทางบ้านกำลังโทร.หา ตามหาต้นกันอยู่นั้น เจ้าตัวกำลังถูกวัยรุ่นหัวโจกขายยาอัดเพราะเอายามาให้แล้วเงินไม่พอจ่าย ต้นบอกว่างั้นตนไม่เอายาก็ได้
“สั่งแล้วจะเบี้ยวเหรอวะ...ไม่ได้เงิน งั้นกูเอาชีวิตมึงแล้วกัน”
ต้นตกใจสุดขีด!
เวลาเดียวกันชาญชัยบอกทุกคนในบ้านว่า
“แต่ก่อนฉันคิดแต่จะหาเงิน ไม่มีเวลาสั่งสอนพวกแก วันนี้ถึงต้องบากหน้าให้คนอื่นมารับรู้ความเสื่อมเสียโสมมของตระกูลเรา”
ชาญชัยหยิบโทรศัพท์กดหาใครบางคนหน้าเครียด เสียงปลายสายตอบรับอย่างเร่าร้อนว่า
“สวัสดีครับคุณตาชาญชัย...ครับ...ครับ ผมจะโทร.หาไอ้ทศ คุณตาไม่ต้องห่วงนะครับ เราจะช่วยน้องต้น”
อานัสถามว่าปู่โทร.หาคนนอก บอกคนนอกไม่อายเขาหรือ ชาญชัยบอกว่าตนยอมอายดีกว่าเสียหลาน
เอกวิทย์ถามว่าคุณพ่อโทร.บอกใคร เขาบอกว่าคนที่จะช่วยพาต้นกลับมาได้ สุจิตราถามว่าทำไมต้องให้คนอื่นมายุ่งเรื่องของครอบครัวเรา ลูกต้นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เอิร์ธใส่ร้าย
“ถ้าคิดว่าผมใส่ร้าย อยากดูไหมล่ะ คลิปหลานต้นแสนดีมันเล่นยาในบ้านหลังนี้” อานัสท้า
เอกยุทธด่าว่าตัวอานัสนั่นแหละสร้างปัญหาให้ปู่ตลอดมาแล้วพุ่งเข้าผลักอกอานัส เอกภพกับสิริมารีบเข้าไปดึงลูกชายออกมา เอกวิทย์เตือนทุกคนว่าให้เกรงใจคุณพ่อกันบ้าง
“ต่อไปนี้จะเป็นจะตาย ต้นจะอยู่ในความดูแลของฉัน พวกแกห้ามยุ่ง” ชาญชัยเสียงเข้ม
“แต่ต้นเป็นลูกหนู หนูก็ไม่ให้ใครมาก้าวก่ายอนาคตลูกหนูเหมือนกัน” สุจิตราประกาศ
“ถ้าเธอมีปัญญาเลี้ยงลูก เอาใจใส่ลูก มันจะไม่มีเรื่องทุเรศเกิดขึ้นในบ้านนี้ ถ้าคิดว่าต้นถูกใส่ร้ายก็เอาตัวต้นกลับมาคุยกันตอนนี้” ชาญชัยจ้องหน้าสุจิตรา
เอกวิทย์เห็นด้วยจะได้รู้กันไปเลยว่าความจริงคืออะไร
ooooooo
พฤกษ์โทร.บอกไตรทศแล้วถามได้เรื่องหรือยัง ไตรทศบอกว่าได้เรื่องน้องต้นแล้วและวิ่งออกไปเลย
เป็นเวลาที่ต้นถูกวัยรุ่นค้ายารุมซ้อมอย่างหนัก ต้นวิ่งตามปิงกับตั้วไปจนสุดซอยจะปีนรั้วหนี ปิงกระชากตัวลงมา ต้นร้องขอให้ช่วยตนด้วย ตั้วกับปิงเห็นพวกวัยรุ่นค้ายาวิ่งตามมาเห็นท่าไม่ดีเลยวิ่งหนีเอาตัวรอด ต้นจะวิ่งหนีก็ถูกมันเตะเข้าท้องจนกลิ้งไปกับพื้น
วัยรุ่นค้ายาสั่งต้นให้เอาเงินมา ต้นบอกว่าหมดแล้ว มันคุยกันว่ารวยๆแบบนี้ฆ่าก็ตายเปล่าจับตัวเรียกเงินจากพ่อแม่มันดีกว่า
ขณะที่ต้นกำลังถูกวัยรุ่นค้ายารุมนั้น ไตรทศกับพฤกษ์ก็มาถึง ทั้งสองเล่นงานวัยรุ่นค้ายาที่มีแต่ความห่ามระห่ำเหี้ยมอย่างคนมีวิชาจนมันสลบเหมือดไปทั้งสี่คน
ต้นยืนหน้าไตรทศกับพฤกษ์ทั้งบอบช้ำและละอาย ไตรทศบอกว่า
“ฉันเคยจับเด็กอย่างนายเข้าคุก แต่จับไปติดคุกก็ไม่สำนึก พ้นโทษเราก็ได้คนติดยาค้ายาเพิ่มขึ้นมาอีก สัญญาได้ไหมว่าจะใช้โอกาสนี้อย่ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก”
“ผมสาบานพี่ทศ ผมจะไม่ลองยาเสพติดแล้วครับ ผมจะเลิก”
“รักษาสัญญาด้วยนะต้น เพราะถ้าเราผิดสัญญาคนที่จะเสียใจที่สุดคือคุณตาชาญชัย” พฤกษ์ย้ำ
“ครับพี่พฤกษ์ ผมขอบคุณพี่สองคนมากที่มาช่วยผม เอ่อ...แล้วพี่รู้เรื่องผมได้ยังไง...” พอรู้ว่าปู่เป็นคนโทร.บอก ต้นรำพึงกังวล “คุณปู่รู้เรื่องแล้ว...คุณปู่ต้องโกรธมาก”
ไตรทศบอกว่ารู้ว่าต้นกลัวคุณตาชาญชัยมาก
แต่ถ้าไม่มีท่านวันนี้ต้นอาจจะตายไปแล้ว พฤกษ์บอกว่าถึงเวลาที่เราต้องกล้ายอมรับความจริงอย่างลูกผู้ชายแล้ว และพาต้นออกไปด้วยกัน
ที่บ้านชาญชัย พ่อแม่ของต้นกำลังระดมโทร.หาต้นแต่ก็ไม่มีใครรับสาย เลยคิดจะโทร.หาเพื่อนๆของต้นหรือโทร.ไปทางมหาวิทยาลัย
อานัสทำเป็นเห็นใจชาญชัยที่หลานรักดันมาดีแตกตอนนี้แล้วขอตัวไปตรวจงานที่โรงแรมบอกว่ามีสาระเป็นประโยชน์กว่าเยอะ แต่พอผลักประตูออกไปเจอพฤกษ์เดินเข้ามาพอดีตามด้วยไตรทศกับต้น
“ลูกต้น...หายไปไหนมา แม่โทร.หาทำไมไม่รับ”
อินทิราบอกต้นว่ารู้ไหมว่าถูกเอิร์ธใส่ร้าย มันหาว่าหลานเล่นไอซ์ ติดยา เอกยุทธถามว่าไม่จริงใช่ไหม
สุจิตราเสริมทันทีว่า
“ลูกไม่ได้ติดยา ไอ้เอิร์ธมันใส่ร้าย”
“ผมใช้ยาจริงๆครับ” ต้นรับเต็มปากเต็มคำทำเอาทุกคนตะลึงเว้นแต่อานัสที่ยิ้มเยาะอย่างสะใจ
สุจิตราเสียใจมากถามว่าทำไมทำอย่างนี้รู้ไหมว่าทำให้ตนขายหน้า อินทิราบอกให้ใจเย็นก่อน หลานอาจถูกหลอกก็ได้ แต่ต้นบอกว่าตนไม่ได้ถูกหลอก ตนอยากลองเอง เอกยุทธบอกให้ต้นหยุดพูด
“พูดไปต้น” ชาญชัยขัดขึ้น ต้นจึงเล่าต่อหน้าทุกคนตามความจริง...
ooooooo
ต้นบอกว่าตนลองตามเพื่อนเพราะอยากให้ทุกคนเห็นว่าตนเจ๋ง แต่ตนก็เกือบตายถ้าวันนี้พี่พฤกษ์กับพี่ทศไปช่วยไม่ทัน
ทุกคนมองไปที่พฤกษ์กับไตรทศ ชาญชัยจึงบอกว่าตนขอร้องให้ทั้งสองไปช่วยต้นเอง
“ทำไมต้องพฤกษ์ ทำไมต้องไว้ใจคนนอกขนาดนี้ครับคุณปู่” อานัสไม่พอใจ
“เพราะพวกแกมันคอยแต่จะชิงดีชิงเด่นกันเอง ฉันถึงหาความจริงใจจากพวกแกไม่ได้สักคน”
“ผมลองยาเสพติดจริง ไม่คิดว่าจะติด ตั้งใจจะลองแค่นิดเดียว แต่...แต่พี่เอิร์ธก็เอาไอซ์มาให้ผม”
ทุกคนหันมองอานัสเป็นตาเดียว อานัสหน้าเสียไม่รู้จะแก้สถานการณ์ยังไง เอกยุทธชี้หน้าด่าอานัสว่าหลอกต้น สุจิตราผสมโรงทันทีว่า “เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าไอ้เอิร์ธมันชั่ว ชั่วตัวพ่อก็มันนี่แหละ”
อานัสตั้งหลักได้ก็ด่าต้นว่าไม่มีหลักฐานอย่าโยนความผิดให้ตน ต้นโต้ว่าเขาทำอะไรย่อมรู้แก่ใจดี อานัสโต้ว่า “ฉันไม่เกี่ยว...ฉันมีหลักฐานมากกว่าคนพูดลอยๆอย่างแก” แล้วเปิดคลิปต้นเมายาให้ดูกัน ทุกคนดูคลิป เอกยุทธกับสุจิตราเถียงไม่ออก แต่อินทิรายังด่าอานัสว่าจงใจทำลายต้น อานัสสวนทันควันว่า “หลักฐานจะจะขนาดนี้ยังปกป้องกันอีก ยอมเสียหน้าไม่ได้เพราะหลานที่ปั้นมากับมือ เวลามันเลวมันก็เลวได้ถึงใจเลยใช่ไหมอาอิน”
“พอแล้วเอิร์ธ” ชาญชัยที่ยืนโงนเงนตวาด แล้วขอบคุณพฤกษ์กับไตรทศที่มาช่วยต้นว่า “มันเป็นบุญคุณที่ครอบครัวผมจะไม่มีวันลืม แต่ตอนนี้ขอให้ผมพูดกับหลาน...กับครอบครัวผมตามลำพังนะครับ”
“ครั้งนี้ผมช่วยเพราะต้นสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ผมไม่อยากให้อนาคตของเด็กคนนึงต้องมีประวัติ แต่ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำสอง ผมก็ต้องทำตามหน้าที่ตำรวจ”
เอกภพหน้าเสียสบตากับสิริมาเมื่อรู้ว่าไตรทศเป็นตำรวจ
เมื่อพฤกษ์กับไตรทศกลับไปแล้ว ชาญชัยถามอานัสว่าเขามีส่วนกับเรื่องต้นติดยาด้วยใช่ไหม อานัสหันขวับมองหน้าปู่ทันที โต้ว่าเพราะตนถูกตราหน้าว่าเลว ทุกคนเลยพร้อมจะเชื่อว่าตนเอายาให้ต้น แต่ความจริงคือต้นติดยาไม่ใช่ตน อานัสรวบรัดด่าแล้วเดินออกจากห้องไปเลย
เอกภพบอกเอกยุทธว่าจัดการลูกตัวเองด้วย อย่าให้มีเรื่องเดือดร้อนมาถึงพวกตนแล้วเดินออกไปอีกคน
เอกวิทย์จะพาต้นไปสถานบำบัด เอกยุทธไม่ให้ไป สุจิตราก็อ้างว่านี่เป็นเรื่องในครอบครัวตน แล้วลากต้นออกไปเคลียร์
ชาญชัยโงนเงนจะล้ม อินทิราจะเข้าประคอง เขาบอกไม่ต้องแล้วเรียกเอกวิทย์ให้พาไปที่ห้อง อินทิราไม่พอใจที่พ่อไม่สนใจความเป็นห่วงของตนเลย
เอกภพรีบเดินไปหาอานัสเตือนเสียงเข้มเบาว่า จำไว้อย่ามีเรื่องกับผู้ชายที่ชื่อพฤกษ์ อานัสถามว่าทำไมต้องกลัวมัน สิริมาย้ำว่า “เพราะเพื่อนมันเป็นตำรวจ”
“ถ้าแกไม่อยากโดนขุดคุ้ยเรื่องเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุทำให้คนตาย ก็สงบปากสงบคำกับผู้ชายสองคนนั้น อ้อ...ฉันเชื่อไอ้ต้น ฉันเชื่อว่าแกเป็นคนเอายาให้มัน ยังดีที่แกฉลาด ไม่ปล่อยให้มีหลักฐาน แต่คราวหน้าจำไว้ทำให้เนียนกว่านี้ อย่าให้ศัตรูมันแว้งกัดเราได้”
“แม่คงไม่ต้องตามเคลียร์นะว่าแกเอายามาจากไหน” สิริมาพูดแล้วเดินออกไป
อานัสยืนเซ็งที่โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
ooooooo
ไตรทศออกมาแล้วบ่นกับพฤกษ์ว่าสงสารตาชาญชัยที่ลูกหลานคิดแต่จะฟาดฟันกันเองจนหาความสุขไม่ได้ ถึงได้อยากอยู่บ้านร่มไม้ชายคา เราสองคนเลยโดนลูกของตาชาญชัยเกลียดไปด้วย
“ฉันไม่สนใจหรอก ฉันช่วยเพราะคุณตาชาญชัยคนเดียว ต่อไปก็ขอให้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเป็นบุญคุณกันอีก”
พอไตรทศไปส่งพฤกษ์ที่มหาวิทยาลัย พฤกษ์ส่งกุญแจรถของตนให้บอกว่าฝากขายรถด้วยเพราะหลานคุณตาชาญชัยคงไม่มีวันประนอมหนี้กับตนแน่ ไตรทศถามว่า “แล้วแกจะใช้รถอะไรส่งของวะ”
“ขนส่งมวลชนสิเพื่อน หรือไม่ก็รถแกไง” พฤกษ์ตอบหน้าตาเฉย เลยถูกไตรทศด่า ไอ้เวร...
พฤกษ์กลับถึงบ้านตอนเย็นก็เจอมงคล น้องชายพ่อกับสินีภรรยาสาวมารอพบแสดงความเสียใจที่พี่ชายเสียชีวิต ตนเพิ่งกลับจากทำงานต่างประเทศพอรู้ข่าวก็รีบมา ถามว่าพี่บุษกรเป็นอย่างไรบ้าง ขอเข้าไปหาหน่อย พฤกษ์บอกว่าแม่สบายดีแต่ไม่อยู่ วันหลังจะมาโทร.มาบอกก่อนดีกว่าจะสะดวกกว่า
“อาอยากจะคุยเรื่องที่ดิน มรดกของปู่ที่เมืองกาญจน์ ยังไงพฤกษ์ว่างก็คุยกับอาหน่อย รีบไปนะอาจะคอย” มงคลย้ำ
อ่านละคร ริมฝั่งน้ำ ตอนที่ 6 วันที่ 26 ก.ย.61
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทประพันธ์โดย ธุวดาราละครเรื่องริมฝั่งน้ำ บทโทรทัศน์โดย เป่ากุ้ย
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ กำกับการแสดงโดย ภูธเนศ หงษ์มานพ
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ฝึกสอนการแสดงโดย อริศรา วงศ์ชาลี
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ผลิตโดย บริษัท เป่าจินจง จำกัด
ละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ควบคุมการผลิตโดย นพพล โกมารชุน
ที่มา ไทยรัฐ