อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 11 วันที่ 7 ก.ย.61
“ต้น แต่ชีวิตพี่เป็นของต้นนะ หัวใจและร่างกายของพี่มันให้ต้นไปหมดแล้ว”“พี่พาไล พี่บ้าไปแล้วรึไง” ต้นพยายามดึงกิฟท์ออกจากพาไลที่ยังยื้อไว้ไม่ยอมปล่อย ยิ่งเห็นเขาออกโรงปกป้องกิฟท์พาไลก็ยิ่งคลุ้มคลั่ง ปาข้าวของใกล้มือทิ้งกระจัดกระจาย ปากก็พร่ำพรรณนาว่ารักเขามากแค่ไหน ถ้าไม่มีกิฟท์ป่านนี้เขาจะต้องเป็นของตนแต่ผู้เดียว แล้วคว้ากรรไกรที่วางอยู่เอาจ่อคอหอยกิฟท์ที่พยายามดิ้นหนี พร้อมกับร้องเรียกให้คนมาช่วย
“ปล่อยคุณกำไลเดี๋ยวนี้” เสียงผีหยาดประกาศกร้าวกิฟท์มองไปเหนือตัวพาไล เห็นผีหยาดใบหน้าเละยืนอยู่ด้านหลัง ค่อยๆสาวเท้าเข้าหาพาไล ก่อนจะจับมือยัยโรคจิตข้างที่ถือกรรไกรหักอย่างแรง กรรไกรกระเด็น พาไลหันมาเห็นผีหยาดหน้าเละถึงกับตาเหลือกถอยกรูดอย่างขวัญเสีย ละล่ำละลักถามว่าเป็นใคร
“ข้าคืออีหยาด ทาสรับใช้ของคุณกำไล ไม่ว่าอ้ายหรืออีผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องคุณกำไล” ผีหยาดพูดจบขย้ำคอพาไลด้วยแรงมหาศาล เธอกรีดร้องด้วยความตกใจ กิฟท์ตะลึงไม่คิดว่าผีหยาดจะช่วยชีวิตตัวเองเอาไว้ ต้นไม่เห็นผีหยาดได้แต่มองอาการที่พาไลดิ้นพลาดๆ พลางร้องเรียกให้เขาช่วยเธอด้วย
รินที่ยังคงคุยอยู่กับปาลที่โต๊ะกินข้าว ได้ยินเสียงพาไลกรีดร้อง พากันตกใจรีบวิ่งไปยังต้นเสียง
ooooooo
พาไลยังคงถูกผีหยาดบีบคอ ควานหาตัวช่วยคว้าได้กรรไกรเล่มเดิมที่กระเด็นตกพื้น เงื้อจะแทงผีหยาด
“ต่อให้มีดสักสิบสักแสนเล่มก็ไม่ทำให้อีหยาดเจ็บแม้เพียงนิดเท่าที่เอ็งคิดทำร้ายคุณกำไลดอก”
ปาล รินและวิษณุวิ่งมาถึงห้องแต่งตัว ปาลเห็นพาไลนอนดิ้นมือข้างที่ถือกรรไกรแทงใส่อากาศอยู่ก็งงว่าเป็นอะไร ต้นเล่าให้ฟังว่าเธอพยายามจะฆ่ากิฟท์ วิษณุเห็นผีหยาดในสภาพผีหน้าเละครั้งแรกก็ตะลึงครั้นตั้งสติได้ขอร้องให้ผีหยาดปล่อยพาไลไป ผีหยาดตกใจที่ได้ยินเสียงคุณพระคลายมือออกจากคอพาไล กลับไปเป็นผีหยาดผู้อ่อนหวานอย่างเดิม พาไลถึงกับทรุดฮวบปล่อยกรรไกรในมือ แต่ยังมีแรงชี้กราดไปทั่ว
“พวกแก พรากต้นไปจากฉัน”
“พอเถอะพี่พาไล เลิกโทษคนอื่นได้แล้ว ผมไม่นึกว่าพี่จะโหดร้ายถึงกับคิดจะฆ่าแกงคนอื่น”
พาไลคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก คว้ากรรไกรมาถือไว้ ปาลกับวิษณุพุ่งไปล็อกตัวเธอไว้ทัน พาไลทั้งดิ้นทั้งร้องให้ปล่อย ขอให้ต้นเห็นใจกันบ้าง ที่เธอทำไปทั้งหมดก็เพื่อเขาเพราะถ้าไม่มีพวกมันเขาจะได้รักเธอ
“ถ้าไม่มีริน ต้นก็จะไม่มองข้ามพี่ ถ้าต้นไม่ให้ความสนใจมันพี่ก็คงไม่ต้องทำร้ายมัน”
นี่เท่ากับเป็นคำสารภาพว่าเหตุร้ายที่เกิดกับริน ไม่ว่าจะตกนั่งร้าน หรือที่มีคนเอาน้ำตาลใส่ในถังน้ำมันรถของรินจนเกือบทำให้รถประสบอุบัติเหตุร้ายแรงล้วนมาจากฝีมือยัยผู้จัดการสติแตกคนนี้นี่เอง
“แล้วถ้าไม่มีอีนังกิฟท์ที่คอยมาหลอกลวงหลอกให้ไปเซ็นสัญญาเป็นแฟนหลอกๆด้วยต้นก็จะเลือกพี่”
“เมื่อไหร่พี่จะเลิกหลอกตัวเองสักที ผมกับผู้หญิงคนไหนก็เป็นไปไม่ได้พี่ก็รู้”
“รู้เรื่องที่ต้นเป็นเกย์น่ะเหรอ”
“ใช่ ต่อให้ผมต้องบอกใครๆว่าผมเป็นเกย์เพื่อที่จะหยุดพี่ ผมก็จะทำ พี่เลิกคิดเลิกฝันสักทีว่าพี่กับผมจะเป็นแฟนกัน มันเป็นไปไม่ได้ และรู้ไว้นะว่ากิฟท์เขายกเลิกข้อตกลงกับผมแล้ว เขารู้แล้วว่าความรักมันไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวแบบที่พี่เป็นอยู่”
พาไลไม่เลิกบ้าพยายามโผเข้าหาต้น “ไม่จริงพี่รักต้น พี่รักต้นจริงๆนะ ต้นอย่าพูดแบบนี้สิ ให้โอกาสพี่นะต้น พี่รอต้นได้นะพี่จะรอ”
ตำรวจวิ่งเข้ามาล็อกตัวพาไลไว้ “มีคนแจ้งว่ามีผู้หญิงคลุ้มคลั่งพยายามฆ่าคนอื่น คนนี้ใช่ไหมครับ”
“ใช่ครับ ผมโทร.แจ้งเอง” ต้นว่าพลางชูมือถือให้ตำรวจดู “หลักฐานทั้งหมดอยู่ในคลิปเสียงแล้วครับขอโทษนะครับพี่ แต่ผมคิดว่าพี่ต้องทบทวนและตั้งสติหน่อย”
“ฉันรักแก ทุ่มเทให้แก ทำทุกอย่างเพื่อแกมาโดยตลอด แกทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง ได้ยังไงต้น ขอให้ชีวิตในวงการมันพังพินาศไม่มีชิ้นดี ไอ้สารเลวแกทรยศความรักฉัน” พาไลตะโกนด่าอย่างคลุ้มคลั่ง
รินได้แต่ยืนอึ้งยังตกใจไม่หายที่ตัวเองเป็นเป้าให้พาไลโจมตีโชคดีที่ไม่ได้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น บ่นกับปาลว่าไม่เคยไปทำอะไรให้ใครแม้แต่น้อยทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้
“คุณก็แค่มองโลกในแง่ดี แล้วก็นึกว่าทุกคนจะจิตใจดีเหมือนคุณ”
“ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าโลกมันไม่ได้เป็นแบบนั้น ขอโทษนะที่ทำร้ายความหวังดีของคุณตลอดเลย”
“ไม่เป็นไร ผมโกรธคุณไม่ลงหรอก”
ooooooo
กิฟท์จะเดินไปขึ้นรถ ยังช็อกไม่หายกับเรื่องที่เกิดขึ้น มองไปที่ต้นไม้ในตำนานต้นนั้นเห็นร่างของผีหยาดอยู่ใต้ต้นไม้มองมาทางตัวเอง เธอตัดสินใจเดินไปหา ผีหยาดเห็นเธอก็รีบก้มลงกราบ
“เมื่อครู่บ่าวมิได้ตั้งใจอยากทำร้ายใคร หากแต่ต้องการปกป้องคุณกำไลนะเจ้าคะ”
“ฉันไม่ได้จะตำหนิอะไรเธอสักหน่อย ฉันแค่จะมาขอบใจที่ช่วยชีวิตฉันไว้”
“ช่วยชีวิตหรือเจ้าคะ บ่าวทำลายชีวิตคุณกำไล คุณวาดคุณแดงและคุณน้อยต่างหาก” ผีหยาดสะอื้นตัวโยน กิฟท์ข่มความกลัวเดินไปแตะมือผีหยาด
“หยาด ฉันรู้ความจริงหมดแล้วนะ เธอแค่ถูกหลอกใช้โดยพี่สาวเธอเท่านั้นแหละหยาด ฉันเองก็ไม่ต่างกัน ฉันก็ยัดเยียดความผิดให้เธอ ยกเธอให้คุณพระแล้วยังมีน้ำหน้าไปชังเธอ เธอต่างหากที่ต้องอภัยให้ฉันนะหยาด”
“ไม่เจ้าค่ะ คุณกำไลอย่ากล่าวเยี่ยงนั้น ต่อให้คุณกำไลสั่งให้บ่าวไปฆ่าไปแกงใคร บ่าวก็ทำได้ทั้งนั้น เพื่อปกป้องคุณกำไล” คำพูดของผีหยาดทำเอากิฟท์น้ำตาซึมซาบซึ้งใจในความจงรักภักดีของเธอ
“ขอบใจนะหยาด ฉันไม่เคยเจอใครที่ทำเพื่อคนอื่นได้มากเท่าเธอมาก่อน ส่วนเรื่องความผิดบาปที่ติดอยู่ในใจเธอ ถ้ามันคือสิ่งที่ผูกพันเธอไว้ไม่ให้ไปไหน ฉันให้อภัยเธอนะ”
ผีหยาดเงยหน้ามองกิฟท์ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง นี่เธอให้อภัยคนบาปอย่างตนได้จริงหรือ กิฟท์พยักหน้าทำไมจะไม่ได้ในเมื่อผีหยาดไม่ใช่นางบาป ผีหยาดน้ำตาไหลพราก รู้สึกเหมือนห่วงโซ่ที่พันธนาการร้อยตัวเองไว้ถูกปลดออกจนสิ้น กิฟท์ลูบหัวเธอด้วยความสงสาร เธอก้มกราบเท้ากิฟท์อีกครั้ง น้ำตาไหลลงดินร้องไห้ให้หมดทุกข์หมดโศกกันแล้วในชาตินี้...
ขณะที่กิฟท์กับผีหยาดต่างให้อภัยต่อผิดบาปที่ทั้งคู่มีต่อกัน วิษณุเข้าไปในห้องใต้ดิน ทิ้งให้คนอื่นเก็บข้าวของเตรียมยกกองกลับ เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นกำแพงด้านหนึ่งมีรอยขีดเต็มไปหมด เอามือไล่แตะแต่ละรอย ราวกับจะรับรู้ถึงความทุกข์ทรมานของผีหยด แล้วเอ่ยขึ้นโดยมองไม่เห็นว่าผีหยดยืนมองตัวเองอยู่
“แม่หยด ฉันมาลา ละครของฉันปิดเรื่องลงแล้ว คงไม่มีใครกลับมาที่นี่อีก เรื่องในอดีตถึงปัจจุบันที่ฉันสร้างความเจ็บช้ำให้เธอ ฉันขอโทษเธอนะหยด แต่ถ้าเธอจะไม่ยกโทษให้ฉันก็เข้าใจ เพราะฉันก็ยังยกโทษให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน”
ผีหยดน้ำตาคลอเบ้าทุกอย่างกำลังจะจบมีแต่ตัวเธอเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ที่นี่ วิษณุเห็นพระเครื่องตกอยู่ที่พื้น ก้มเก็บขึ้นมาก่อนจะออกจากห้อง ต้องชะงักเมื่อเปิดประตูออกมาเจอผีหยาดก้มกราบแทบเท้าตัวเอง
“คุณพระเจ้าขา ขอบคุณนะเจ้าคะ คุณกำไลอภัยให้บ่าวแล้ว”
“ขอให้เธอได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี ความผิดใดๆที่ฉันเคยทำไว้กับเธอในทุกๆชาติ ฉัน...” พูดได้แค่นั้นเหมือนมีอะไรมาจุกคอหอยทำให้วิษณุพูดต่อไปไม่ได้ ผีหยาดก้มกราบเขาอีกครั้ง
“ไม่มีความผิดใดที่คุณพระติดค้างบ่าวดอกเจ้าค่ะ”
“ขอบใจนะหยาด ขอบใจที่พาฉันกลับมาที่นี่” วิษณุเหลียวมองไปรอบๆแล้วเดินจากไป ผีหยดได้แต่มองตามตาละห้อย ผีหยาดเงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอบอกว่าถึงเวลาที่ตนจะต้องไปแล้ว หยดเสียงอ่อยจะไปจริงๆหรือ
“จ้ะ อภัยให้ฉันเถิดหนา ทุกครั้งที่เห็นหน้าพี่ฉันเห็นแต่รอยน้ำตาของแม่ หัวใจฉันบอบช้ำเสียจนไม่อาจทนอยู่เผชิญหน้าพี่ต่อไปได้อีก ฉันหวังว่าจะมีสักวัน ที่พี่จะหลุดพ้นจากความทุกข์ที่พี่สุมมันไว้ในใจของพี่เอง ลาก่อนนะพี่หยด” หยาดพูดจบลุกขึ้นหันหลังให้ ก่อนที่ทั้งร่างจะทอแสงสีทองสลายหายไป ผีหยดปล่อยโฮทรุดลงนั่งกับพื้นร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด
ooooooo
อ่านละคร นางบาป ตอนที่ 11 วันที่ 7 ก.ย.61
ละครนางบาป บทประพันธ์โดย กิ่งฉัตรละครนางบาป บทโทรทัศน์โดย จันมณี,ชื่นใจมาลี, ภัณฑ์ณัฐ วงศ์วัชรกมล
ละครนางบาป กำกับการแสดงโดย วีระชัย รุ่งเรือง
ละครนางบาป ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ละครนางบาป ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ