อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 9 วันที่ 20 พ.ย.61

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 9 วันที่ 20 พ.ย.61

คืนนี้...พิกุลกลับมาที่ห้องนอนบ้านจางวาง ยืนที่หน้ากระจก นึกถึงเหตุการณ์ที่บ้านนิราศอย่างเจ็บช้ำกราดเกรี้ยวจนกระจกแตกร้าว แล้วหยิบปี่จากกล่องขึ้นมาเป่าเพลงนางหงส์จนดังไปทั่วคุ้งน้ำ

ฝ่ายอัปสรอับอายขายหน้าและเสียใจที่ตัวเองเป็นคนดีให้พ่อไม่ได้และเจ็บปวดที่รักของตนไร้ค่าจึงผูกคอตาย พิกุลมาเจอก็วิญญาณออกจากร่างแล้วอัปสรหรือเอื้อยในอดีตชาติจำพิกุลไม่ได้ พิกุลบอกว่าเราเคยเป็นเพื่อนรักกัน มองไปที่ครัว อัปสรมองตามเห็นสุดกำลังเตรียมสำรับอยู่แต่ก็จำไม่ได้

สุดเห็นอัปสรก็เรียก “เอื้อย...เอื้อยลูกแม่” ร้องไห้ถามว่าทำไมคิดสั้นอย่างนี้



“หล่อนแลกชีวิตกับไอ้ผู้ชายเลวๆอย่างนั้นรึ พ่อของหล่อนจะเสียใจแค่ไหนถ้ามาเห็นหล่อนในสภาพนี้”

ทั้งสุดและพิกุลบอกให้เอื้อยรีบกลับเข้าร่างก่อนที่จะสายเกินไป

วิญญาณอัปสรจึงกลับเข้าร่างทันในขณะที่เปรื่องพยายามช่วยปั๊มหัวใจยื้อชีวิตลูกจนหมดแรง พิกุลยินดีจนน้ำตาคลอที่วิญญาณอัปสรกลับเข้าร่างทัน

จนรุ่งเช้า อัปสรเห็นรอยเชือกที่คอ เธอพยายามเอามือถูแต่ลบไม่ออก จึงใส่เสื้อปิดคอ ลงมาเจอสินธรมาหาเปรื่อง ถามว่าแกกลับจากวัดหรือยัง อัปสรบอกให้รอก่อนและขอบใจเรื่องเมื่อคืน สินธรบอกว่าเธอรอดมาได้เพราะตาเปรื่องไม่ถอดใจต่างหาก เตือนสติว่า

“ผู้ชายคนเดียวที่คุณต้องแคร์คือพ่อของคุณไม่ใช่คนอื่น”

แล้วฝากบอกตาเปรื่องว่าตนจะกลับกรุงเทพฯแล้ว อัปสรถามว่าเขาไปที่เรือนนั้นทำไม สินธรบอกว่าไปดูว่าลูกน้องกำนันมันไปวุ่นวายอะไรที่เรือนตนอีกหรือเปล่า อัปสรถามว่าเรือนของเขาแล้วทำไมเขาไม่อยู่ที่นั่น สินธรบอกว่าเรื่องมันยาวและเป็นเรื่องที่ตนต้องมาขอความช่วยเหลือจากพ่อเธอด้วย ก็พอดีเปรื่องกลับมาบอกสินธรว่า ดูท่ากำนันพงษ์ยังไม่หายแค้น แกยังเชื่อว่าผีทำให้ลูกแกตายถึงกับนิมนต์พระไปสวดไล่ผีที่เรือน

“ผีที่ไหนกัน สืบไปสืบมาฉันว่าไม่พ้นคนกันเอง อะไรที่มันข้องเกี่ยวกับกำนันมันน่าสงสัยไปทุกเรื่อง ตาเปรื่องว่าจริงไหม” ถูกอัปสรที่เห็นอะไรที่นั่นมากับตาติงสินธรว่า คุณไม่เห็นก็ใช่ว่าจะไม่มี เปรื่องถามทันทีว่า

“เอ็งเห็นอะไรนังสร”

อัปสรไม่รู้จะเล่าเรื่องที่ตนเห็นผีพิกุลกับสุดยังไงให้สินธรกับพ่อเชื่อ

ooooooo

กำนันพงษ์นิมนต์พระสามรูปมาสวดไล่ผี พระติงว่านั่นไม่ใช่กิจของสงฆ์ที่จะเบียดเบียนชีวิตคนอื่น ก้านชี้ที่หัวตัวเองฟ้องว่า ตนถูกเล่นงานขนาดนี้ถ้าท่านไม่เชื่อก็นิมนต์ปักกลดที่นี่สักคืนเถอะ

“ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ ไม่มีเหตุย่อมไม่มีผล” พระเอ่ยแล้วเห็นจางวางพ่วง เพียร สุดกับอ่ำ ท่านจึงแผ่เมตตาให้ บอกกำนันว่า “เลิกจองเวรกันเถิดโยม”

กำนันพงษ์ขัดใจนัก นิมนต์พระให้กลับวัดเสีย สั่งก้านให้ไปส่งท่านที พระกลับแล้วกำนันยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวเรือน ทั้งสบถทั้งด่าอาฆาต

“ไอ้อีผีห่าที่สิงเรือนกูอยู่ มึงรู้ไว้เถอะว่ากูไม่มีวันเลิกจองเวรพวกมึง หากกูขายเรือนนี้ไม่ได้ มึงอย่าหวังว่าจะอยู่เป็นสุข”

พิกุลยืนประจันหน้ากำนันมีจางวางพ่วง เพียร สุด และอ่ำยืนอยู่ข้างหลังสีหน้าอาฆาต

“ไอ้จีนพ้ง สันดานเอ็งมันเลวไม่เปลี่ยน เรือนนี้ไม่เคยเป็นของเอ็ง และไม่มีวันเป็นของเอ็ง เรือนนี้จะเป็นเรือนตายของข้ากับคุณหลวงเท่านั้น”

“มึงเก่งนักก็ปรากฏตัวให้กูเห็น กูจะแช่งมึงไม่ให้ได้ผุดได้เกิด คอยดู” กำนันท้าทายเหมือนรับรู้ความอาฆาตของพิกุล รอครู่หนึ่งไม่เห็นมีอะไรกำนันจึงกลับไป พิกุลจิกตาเอ่ยตามหลังว่า...

“ข้าไม่ทำก็เพราะยังไม่ถึงวันของเอ็ง...ไอ้จีนพ้ง”

ooooooo

แม้นิสาจะรู้ว่าคุณทิพย์เกสรไม่ชอบตน แต่ก็ยังดูแลและเอาใจนิราศหมายเอาชนะใจเขาให้ได้ วันนี้ก็เอาวิตามินมาให้กิน แอบชื่นใจที่นิราศกินวิตามินที่ตนจัดให้ เห็นเขาเปิดสมุดบันทึกหยิบดอกปีบมาดูก็คิดว่าเขาชอบดอกปีบ เธอคิดจะทำบางอย่างเพื่อเอาใจ

เย็นนี้จึงเอากระทงดอกปีบไว้ที่โต๊ะรับแขกรอนิราศกลับมาเห็น นึกถึงเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลที่ทิพย์เกสรบอกเอียดให้เฝ้าตนอีกคืน พูดเหน็บให้นิสาได้ยินว่า เพราะอยู่กับเอียดสบายใจกว่าสั่งอะไรก็ได้ไม่เหมือนสั่งคนอื่น ตนไม่ได้ใช้ใครก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ให้เกะกะสายตา

คิดแล้วนิสาเหมือนจะถอดใจ มองกระทงดอกปีบพึมพำน้ำตาไหลอย่างน้อยใจ...

“พี่นิราศคะ นิสาอาจคิดผิดไปเอง คิดว่าจะได้ดูแลคุณป้าดูแลพี่นิราศ แต่ที่นี่มันอาจไม่เหมาะกับนิสา”

ooooooo

สมคิดสืบเกี่ยวกับตัวสินธรได้ความมารายงานนิราศว่าสินธรเป็นนักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเรื่องสิ่งแวดล้อม เขาทำงานกับองค์กรต่างประเทศที่จะมาตั้งออฟฟิศที่กรุงเทพฯเร็วๆนี้

สมคิดบอกว่าตนติดต่อไปที่สำนักงานใหญ่ดักทางไว้แล้วว่าโรงงานของเราพร้อมรับการตรวจสอบว่าไม่ได้เอาเปรียบใคร ดูท่าว่าจะเจรจากันได้ นิราศบอกว่าถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องสนใจคนระดับสินธรแล้ว สมคิดถามว่าจะให้ตนคุยกับกำนันเรื่องเงินมัดจำอีกไหม

“ฉันไม่จำเป็นต้องต่อรองกับคนพรรค์นั้นแล้ว เพราะคนที่ฉันจะคุยด้วยไม่ใช่กำนัน แต่เป็นเจ้าของเรือนที่อยู่ที่เรือนนั้น”

“ครับ คุณนิราศ” สมคิดรับทราบทั้งที่ยังงง

ooooooo

สินธรกับอัปสรกลับมาที่เรือนจางวางพ่วงอีกครั้ง เจอลูกน้องกำนันที่มาเฝ้าไม่ให้ใครขึ้นเรือน สินธรจึงชวนกลับก่อนคืนนี้ตอนดึกๆค่อยมาดีกว่า พวกนั้นคงไม่เฝ้าทั้งคืน

อัปสรเห็นด้วยว่าตอนดึกค่อยกลับมาให้รู้ไปเลยว่าที่ตนเห็นเป็นผีหรือคนกันแน่

ส่วนผีจางวางพ่วง สุด กับอ่ำ เห็นสินธรกับอัปสรมาที่เรือน สุดดีใจที่เอื้อยปลอดภัย อ่ำรำพึงเศร้าว่าถ้าไม่ถูกสะกดไว้บนเรือน เราคงได้ไปเกิดร่วมชาติ ได้กลับไปเป็นพี่น้องร่วมวงกันอย่างเคยแล้ว

พิกุลพูดแทรกขึ้นว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความหลงของตน ทุกคนจึงต้องทุกข์ทรมานอย่างนี้ ตนเป็นคนผูกก็ขอให้เวรกรรมตกอยู่กับตนคนเดียวเถอะ เพียรถามว่าเลิกผูกอาฆาตพยาบาทคุณหลวงไม่ได้รึ มันมีแต่จะทำให้ตัวเองร้อนรุ่ม เมื่อถึงวันที่ต้องจากไปก็จะไปอย่างมีไฟสุมอกด้วย

“ไฟที่สุมอกฉัน จะมอดก็ต่อเมื่อฉันได้เห็นว่าเขาทรมานไม่ต่างจากฉันเท่านั้น...คนผิดต้องได้รับผิด สิ่งใดที่ทำไปแล้วก็เกินที่จะเปลี่ยนเป็นอื่นได้ มีแต่จะต้องได้รับผลของการกระทำเท่านั้น”

พิกุลจิกไม่ปล่อยแล้วลุกเดินไป ทุกคนได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง

สินธรกับอัปสรจะไปกินขนมจีนที่ร้านอิ่ม พออิ่มเห็นอัปสรก็ด่าทันทีว่า ลูกสาวตาเปรื่องถูกเมียหลวงไล่ตบจนตลาดแตก ช่างไวไฟ ไม่ทันไรก็หาผู้ชายใหม่มาควงเล่นแล้ว อัปสรฉุนขาดถามอิ่มว่าอยากมีเรื่องหรือ สินธรบอกให้พอเถอะอายเขา

แต่พริกก็ราข่าก็แรง ทั้งอิ่มและอัปสรต่างไม่ยอมกัน อัปสรเอาจานขนมจีนจะเขวี้ยงใส่อิ่ม สินธรแตะมือห้ามแต่อัปสรไม่ยอม สินธรเลยอุ้มไปต่อหน้าทุกคนที่มามุง อิ่มมองตามไปอย่างเจ็บใจ

“อีสร มึงกล้าโผล่หน้ามาอีกล่ะก็ ไม่ได้กลับไปดีๆแบบวันนี้แน่”

พอออกไปถึงมุมปลอดคนในตลาด อัปสรดิ้นจนสินธรต้องปล่อย พอสินธรปล่อยอัปสรก็ตบหน้าอย่างแรงตวาดถามว่าทำอะไรไม่อายคนเขาบ้างหรือ

“แล้วที่จะตบกับแม่ค้านี่ไม่อายหรือไง”

อัปสรเถียงว่าก็มันด่าตนทั้งที่ไม่จริง ตนไม่มีสิทธิ์อธิบายหรือไง โต้เถียงกันไปมาอัปสรจนด้วยเหตุผลของสินธร ถามเสียงอ่อนว่าเจ็บไหม ขอโทษที่ตนมือหนักไปหน่อย

“ช่างมันเถอะ” สินธรตัดบทแล้วเดินไป อัปสรรู้สึกไม่ดีแต่ก็ไม่รู้จะขอโทษสินธรอย่างไร

เมื่ออัปสรกับสินธรกลับถึงบ้าน เปรื่องเอาเอกสารเก่าๆมาให้ดูบอกสินธรว่าดูเอาเองก็แล้วกันว่าอันไหนใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ สินธรไล่ดูเอกสารเหมือนเจอลายแทงขุมทรัพย์ เปรื่องกระซิบว่า

“ข้าเล่าเรื่องเอ็งให้เจ้าอาวาสฟัง ท่านก็เลยให้เข้าไปเปิดเซฟของวัด แล้วก็ได้ของพวกนี้มา เก็บไว้ให้ดีนะ” สินธรไหว้ขอบคุณ “ถือเสียว่าข้าตอบแทนที่เอ็งช่วยลูกสาวข้า...เอ็งรู้ไหมว่าเอ็งกำลังท้าทายอำนาจของกำนัน”

“ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ขอแค่ให้ได้ที่ผืนนั้นกลับมา แล้วทำทุกอย่างให้สมกับที่ปู่ย่าตายายของฉันตั้งใจไว้ เรื่องอื่นก็ขอให้เป็นเรื่องของกรรมเวรเถอะ”

“ระวังไว้บ้างนะเอ็ง” เปรื่องเตือน อัปสรได้ยินทั้งสองคุยกันก็แอบมองสินธรอย่างเป็นห่วง

ooooooo

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 9 วันที่ 20 พ.ย.61

ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทประพันธ์โดย เสน่ห์ โกมารชุน
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทโทรทัศน์โดย บลูลาวา
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ที่มา ไทยรัฐ