อ่านละคร รักพลิกล็อก ตอนที่ 7 วันที่ 29 พ.ย.61
ยิ่งใกล้วันแข่งขัน นวียายิ่งเครียด วันนี้ก็เปิดวิดีโอคราวที่พลาดดูกับพ่อและแม่เพื่อหาจุดบกพร่องนนทวีเห็นพ่อแม่กับน้องจ้องอยู่กับวิดีโออย่างเคร่งเครียดก็เข้าไปยึดรีโมตจากนวียาปิดทีวี บอกให้เลิกดูแล้วไปพักผ่อน พรุ่งนี้จะได้มีแรงแข่ง จะไปเครียดอีกทำไม เก็บความผิดพลาดไว้เป็นบทเรียนในวันพรุ่งนี้ดีกว่า
“ก็จริงของพี่เขานะลูก อย่าให้ความผิดพลาดในอดีต และความหวาดกลัวอนาคต มาทำลายความสุขของเราในปัจจุบัน”
พ่อพูดคำคมจนนวียาซึ้ง มีกำลังใจขึ้นมาก แล้วสี่พ่อแม่ลูกก็ยื่นมือออกไปวางทับกัน ตะโกน
“ทีมนวียาสู้ตาย! เฮ้!!”
ฝ่ายพายกับพาทิศก็คุยกันถึงนวียาว่าวันก่อนเจอครูวีดูเครียดเรื่องแข่งม้ามากตอนนี้ไม่รู้เป็นยังไง พาทิศได้ทีบอกว่าอยากรู้ก็โทร.ไปถามดู พายดีใจพอจะโทร.พาทิศบอกให้กดเปิดสปีกเกอร์ด้วยแต่อย่าให้ครูวีรู้ว่าพ่ออยู่ด้วย
นวียาดีใจที่ได้รับโทรศัพท์จากพายถามว่าพรุ่งนี้ก็วันแข่งแล้ว พายจะมาเชียร์ครูไหม พายบอกว่าคุณพ่อพาพายไปแน่นอน นวียาถามว่าตอนนี้คุณพ่อหลับหรือยัง พายทำหน้าเจ้าเล่ห์บอกว่า “หลับแล้วค่ะ”
นวียาบอกว่าน้องพายก็หลับได้แล้ว บอกว่าอย่าดื้อนะเดี๋ยวพ่อไมเกรนขึ้น พายหยอดว่าครูเป็นห่วงพ่อด้วยหรือ
“ก็ต้องห่วงสิคะ รายนั้นยิ่งเป็นคนเครียดง่ายอยู่ เกิดเส้นเลือดในสมองแตกใครจะดูแลพายล่ะ ต้องมีครูอยู่เขาถึงจะยิ้มได้เยอะ”
พาทิศปลื้มจนทนไม่ได้ ถามว่าเป็นห่วงตนด้วยหรือ นวียาตกใจเขินมาก ถามว่าเขามาฟังตั้งแต่เมื่อไหร่
“ถ้าไม่แอบฟังก็ไม่รู้สิครับว่าคุณก็เป็นห่วงผมเหมือนกัน...ผมจะพาพายไปให้กำลังใจคุณตอนวันแข่งด้วย ทำให้เต็มที่นะ”
นวียาเขินจนพูดไม่ออก ขอบคุณเบาๆ พาทิศขอให้หลับฝันดี นวียาก็ขอให้เขาฝันดีเช่นกัน
พอวางสายพาทิศก็อมยิ้ม พายมองต่อว่าว่า ถ้าจะแย่งคุยขนาดนี้ทีหลังก็โทร.หาเองเลยดีไหม พาทิศเขินมาก เก๊กหน้าดุพูดกลบเกลื่อนถามแต่ก็ยังเขินๆ ไม่เนียนว่า
“แย่งคุยอะไร ง่วงจนพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะเรา ไปนอนได้แล้ว”
ooooooo
วันนี้เป็นวันแข่งขันแล้ว พ่อ แม่ กับนนทวีต่างตื่นเต้น ไปที่สนามก็ยังรวมพลังบูมพร้อมกัน
“ทีมนวียาสู้ตาย!! เฮ้!!!”
ศรุดาไปกับกิตติพัศ แต่ไม่ทันไรอรจิราก็เข้ามาแทรกตามเคย อ้อนให้กิตติพัศสอนการดูการแข่งม้าให้ด้วย กิตติพัศก็ตอบรับ ศรุดารู้สึกถูกคุกคามมาก แต่ก็พยายามอดกลั้น
พาทิศกับพายมาถึงพายอยากให้กำลังใจครูวีใกล้ๆ พาทิศบอกว่าตอนนี้ครูวีอยู่ในห้องพักนักกีฬา เราเข้าไปในนั้นไม่ได้ แล้วก็เซอร์ไพรส์สุดๆเมื่อโค้ชพูดแทรกขึ้นว่า
“ยกเว้นว่ามีบัตรสตาฟฟ์ก็จะสามารถเข้าไปได้จ้ะ”
สองพ่อลูกดีใจมากยิ้มกันแก้มแทบปริ เมื่อเข้าไปในห้องพักนักกีฬา โค้ชทำหน้าที่ของตัวเอง ตรวจสอบและถามนวียาว่าพร้อมแล้วใช่ไหม เธอบอกว่าพร้อมแต่ถามหน้าเซียวๆว่า “ถ้าคราวนี้ทำพลาดอีกจะทำยังไง”
“คนเราไม่มีใครล้มเหลวหรอก มีแต่ล้มเลิกและวีไม่เคยล้มเลิก ยังไงมันก็ต้องถึงเส้นชัย”
โค้ชเข้าไปกอดนวียาแล้วเปิดตัวพาทิศกับพายเดินเข้ามา พายวิ่งเข้าไปกอดนวียาแน่น
“ทำให้เต็มที่นะ ยังไงผมก็อยู่ข้างคุณ” พาทิศเข้าไปกอดนวียาอีกคน โค้ชยิ้มซึ้งแล้วเร่ง
“พอๆ หมดเวลาซึ้ง ได้เวลาไปเตรียมลงสนามแล้ว!” ทั้งสามจึงโบกมือให้กำลังใจกัน นวียาฮึดสู้เต็มที่!
ooooooo
ในขณะที่นวียาและคนใกล้ชิดกำลังลุ้นกันอยู่ที่สนามแข่งม้านั้น กิตติยากับโซดากลับกำลังเข้าหอสมุดมหาวิทยาลัยเพื่อสืบให้ได้ว่ารูปผู้หญิงในกล่องความจำของนนทวีคือใคร
แต่เพราะความล้นของทั้งสองที่ปลอมตัวกันจนเว่อร์เลยเป็นเป้าสายตาของทุกคน
โซดาบ่นว่าตนหาจนตาลายแล้ว กิตติยาพาลหาว่ามหาวิทยาลัยรับนักศึกษามากเกินไป ในที่สุดก็ตัดใจไม่หาแล้ว แต่พอปิดหนังสือ โซดาก็เห็นเชียร์ลีดเดอร์หน้าสวยยิ้มหวาน ท่วงท่าสง่า หน้าคล้ายคนในรูป เรียกกิตติยาให้ดูอย่างตื่นเต้น
กิตติยากับโซดามีกำลังใจ เอารูปมาเทียบกับรูปในหนังสือของมหาวิทยาลัย แล้วก็เจอคนหน้าคล้ายมาก กิตติยาเอาเทียบเพ่งมองและไล่อ่านชื่อ
“อรจิรา วิชิตภากรณ์”
ทั้งกิตติยาและโซดามองหน้ากันอึ้งสุดขีด!
ส่วนที่สนามแข่งม้า ขณะนนทวีกำลังเดินขึ้นบนอัฒจันทร์ ชนกับหญิงสาวคนหนึ่งจนกระป๋องเครื่องดื่มตก เขาก้มเก็บพอเงยขึ้นเห็นด้านหลังของหญิงสาวคนนั้น คลับคล้ายคลับคลากับอรจิราแต่ไม่แน่ใจ เพราะเธอใส่แว่นกันแดดและหันไปคุยกับกิตติพัศพอดี
เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น คณะกรรมการและผู้บรรยายมาประกาศการแข่งขัน พายบ่นกับพาทิศว่าถ้าอากิตอยู่ด้วยก็ดีจะได้ให้อากิตอธิบายให้ฟังเพราะตนไม่ค่อยรู้เรื่องการแข่งม้าเลย
“ถึงไม่มีอากิตพ่อบอกให้ก็ได้ ทำข้อมูลมาหมดแล้วค่ะ”
“สุดยอดเลยค่ะคุณพ่อ” พายชื่นชม ภูมิใจ และตั้งใจฟังพาทิศอธิบายกฎกติกาการแข่งประเภทขี่ม้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวางที่นวียาลงแข่ง พายเหลือบเห็นนวียาอยู่ในสนามชี้ให้พาทิศดูอย่างตื่นเต้น พาทิศบอกว่าครูวีต้องจับสลากว่าจะได้เครื่องโดดแบบไหน ถ้าครูวีจับได้เครื่องที่ถนัดก็น่าจะชนะได้ไม่ยาก
แต่พอนวียาจับสลากแล้วเอาให้สจ๊วตที่ทำหน้าที่ดูแลลำดับการแข่งขันดู สจ๊วตกางให้ทุกคนดู แล้วประกาศเสียงดัง
“เครื่องมีความกว้าง”
นวียาหน้าเสียทันที โค้ชเองก็หน้าเครียด พายถามพาทิศว่าทำไมครูวีหน้าเสีย ครูได้เครื่องที่ไม่ถนัดเหรอ พาทิศยิ้มพยายามพูดให้กำลังใจพายว่า
“ครูวีต้องทำได้อยู่แล้วล่ะ”
ที่อัฒจันทร์ กิตติพัศ ศรุดาและอรจิรากำลังมองหาที่นั่ง พายตะโกนเรียกทั้งสามบอกว่าตนอยู่นี่ กิตติพัศชวนไปนั่งรวมกับพาทิศและพาย อรจิราสนับสนุนทันทีบอกว่าอยู่กันหลายๆคนก็จะยิ่งสนุก ศรุดาเห็นรอยยิ้มของ
อรจิราก็เริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจ กิตติพัศยิ้มให้พาทิศแต่พาทิศไม่ยิ้มตอบ เขาจึงหันไปยิ้มกับพาย
พายคุยความฝันของตนว่าโตขึ้นจะพาบีเลิฟลงแข่ง กิตติพัศบอกว่าพายต้องทำได้แน่
“นั่นสิคะ ของแบบนี้มันอยู่ในสายเลือด” อรจิราแทรกขึ้นทันที กิตติพัศยังไม่เฉลียวใจ ศรุดากับพาทิศมองหน้ากันอย่างไม่สบายใจ อรจิรายังคงยิ้มร่าฉอดๆทำเป็นไม่รู้ “ก็ที่น้องพายชอบคุยกับสัตว์ไงคะ ต้องเป็นเรื่องของพรสวรรค์แน่ๆ...” แล้วยัดเยียดให้กิตติพัศ “ฝากกิตช่วยสอนน้องพายหน่อยนะคะ แกจะได้เก่งเหมือนคุณ”
พาทิศร้อนใจจิกเสียงถามว่า “พี่อรคิดจะทำอะไร”
“ก็มาทวงครอบครัวที่ควรจะเป็นของฉันคืนไง” พาทิศหน้าซีดบีบแขนเตือนสติพี่สาว แต่อรจิรากลับพูดอย่างมุ่งมั่นว่า “สิทธิ์ของฉัน!”
พายมองเห็นไม่ถนัดลุกขึ้นยืน ทำให้คนข้างหลังโวยขึ้นมา พาทิศจึงหันมาบอกพายให้นั่งลง คนข้างหลังจะได้มองเห็น พายบอกว่าตนมองไม่เห็น พอถูกพาทิศบอกหลายครั้งเพราะเกรงใจคนข้างหลังกิตติพัศบอกว่าจะพาพายไปนั่งที่อื่นจะได้ไม่รบกวนใคร พายลุกทันที
“ไม่เป็นไรครับ ลูกผมผมพาไปเองได้” พาทิศเสียงแข็ง กิตติพัศจึงนั่งลง แม้ไม่มีการปะทะอะไรกันแต่ความเครียดแผ่คลุมขึ้นแล้วเงียบๆ
อรจิรายังคงทำสงครามประสาทกับศรุดาต่อเนื่อง เธอกระซิบว่า
“น่าสงสารตาทิศจริงๆนะที่ต้องมารับผิดชอบทุกอย่าง คิดแล้วก็เห็นใจเธอจริงๆ ฉันไม่น่าให้ทิศทำแบบนี้เลย” ศรุดาบอกว่าทิศเขาเป็นคนแบบนั้น เขาทำแบบนั้นก็ถูกต้องแล้ว “จริงที่สุดค่ะ ทำให้ลูกเกิดมาแล้วก็ควรรับผิดชอบ ทั้งพ่อและแม่”
อรจิราย้ำเรื่องพ่อกับแม่พายจนศรุดาแปลกใจ จะถามอรจิรา แต่ถูกกิตติพัศแซวขัดขึ้นก่อนว่าซุบซิบอะไรกัน อรจิราเหน็บทันทีว่า
“ไม่ใช่ความลับอะไรหรอกค่ะ เรื่องรู้ๆกันอยู่” กิตติพัศไม่ได้คิดอะไร หันไปสนใจการแข่งม้าต่อ
อรจิราจึงหันมาถามศรุดาด้วยคำถามที่ใกล้เป้าหมายเข้าไปทุกทีว่า “เธอไม่เคยสงสัยบ้างเหรอ ว่าทำไมผู้ชายดีๆ รักมั่นคงอย่างตาทิศ อยู่ๆก็มีลูก แถมแม่เด็กเป็นใครก็ไม่รู้”
ยิ่งฟังศรุดาก็ยิ่งสงสัยว่าอรจิราต้องการอะไร ฝ่ายอรจิราก็พูดเสียงดังขึ้นอย่างจงใจให้กิตติพัศได้ยิน
“ตาทิศรักเธอขนาดนั้น เธอเชื่อจริงๆเหรอว่าน้องชายฉันจะกล้าทำคนอื่นท้อง”
ได้ผล! กิตติพัศหันมาถามอรจิราหน้าตึงว่านี่มันอะไรกัน เข้าทางอรจิราทันที เธอจ้องหน้าเขาถามว่า
“ไม่เคยสงสัยกันเลยเหรอคะว่าใคร...คือแม่ของพาย”
“แม่ของพายคือใครกันคะ” ศรุดาถามประเด็นคาใจของตนทันที
อรจิราเผยนาทีพิฆาต เปิดเผยว่าตนคือแม่ของพาย ศรุดาอึ้งงันตาค้าง ส่วนกิตติพัศถึงกับช็อกคิดได้ทันทีว่าเมื่ออรจิราเป็นแม่ของพาย พาทิศต้องไม่ใช่พ่อแน่ๆ
อรจิราพูดคลี่คลายบรรยากาศช็อก งัน ของกิตติพัศกับศรุดาว่า
“ตาทิศรับเป็นพ่อแทนผู้ชายคนที่ทิ้งอรไป” ศรุดามองกิตติพัศขวับ เขาถึงกับกลืนน้ำลายฝืดคอ ในขณะที่อรจิรายังเล่าต่อไปว่า “ตอนนี้พายอายุ 4 ขวบ กิต
คงจำได้ใช่ไหมคะว่าผู้ชายที่อรคบด้วยเมื่อ 4 ปีที่แล้ว...คือใคร”
กิตติพัศกับศรุดานิ่งงันไปเหมือนถูกสาป แล้ว
อรจิราก็พูดอย่างผู้ชนะเหมือนฆ่ากิตติพัศและศรุดาว่า
“ค่ะ กิตคือพ่อของพาย”
พายที่นั่งอยู่ข้างกิตติพัศแม้จะดูม้าแต่ก็เงี่ยหูฟังผู้ใหญ่ทั้งสามคุยกันใจระทึก เมื่อได้ยินอรจิราบอกว่า “กิตคือพ่อของพาย” แม้พายจะรักอากิตแต่เรื่องก็รุนแรงเกินกว่าเด็กวัย 4 ขวบจะรับได้ พายวิ่งลงไปที่สนามแข่งม้า ตัดหน้านวียาที่กำลังจะข้ามสิ่งกีดขวาง เป็นเหตุให้นวียาตกม้าสลบไปทันที
คนบนอัฒจันทร์ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พาทิศวิ่งลงไปหาพายและดูนวียาที่สลบอยู่กับพื้น
ความลับที่อรจิราเปิดเผยวันนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนทั้งตกใจและต้องแก้ปัญหากันอย่างหนักใจ
กิตติพัศบอกพาทิศว่าขอให้ตนเป็นคนบอกเรื่องนี้กับนวียาเอง ส่วนที่บ้านอรจิราซึ่งเป็นปมปัญหาสำคัญ ก็โต้เถียงกันอย่างตึงเครียด โดยเฉพาะพาทิศ ต่อว่าอรจิราว่าทำไมต้องพูดเรื่องนี้ด้วย!
คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือพาย...กลับถึงบ้านพายเก็บตัวเงียบซึมเศร้าอยู่ในห้อง จนพาทิศต้องเข้าไปกอดปลอบอย่างห่วงใย...
ooooooo
ส่วนคนที่เจ็บหนักเจ็บลึกอย่างเดียวดายคือศรุดา หลังเจ็บจากพาทิศที่ต้องเลิกกันเพราะเขามีลูกโดยไม่ปรากฏแม่แล้ว
ต่อมาเมื่อหันมาคบกับกิตติพัศก็ต้องฟาดฟันกับอรจิรา แต่พอคบกับกิตติพัศได้ไม่นานก็ต้องช็อกเมื่อ
อรจิราประกาศว่ากิตติพัศคือพ่อของพาย ศรุดาเจ็บจนแทบไม่มีแก่ใจจะทำงาน
ฝ่ายกิตติพัศหลังจากรับเจ้าม้าแก่มาดูแลแล้วก็เกิดผลกระทบมากมาย รายได้ตกไปถึงเดือนละ 20% จนบัญชีติดลบ กิตติพัศตกใจเพราะไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
แต่ขณะกำลังเครียด อรจิราก็เดินสวยมาชวนไปรับลูกด้วยกัน กิตติพัศอึ้งกับความจริงที่ไม่เคยเฉลียวใจมาก่อนแต่ก็ไปกับอรจิรา
ผู้ปกครองพายที่เคยเป็นพาทิศตลอดมา วันนี้กลับกลายมาเป็นอรจิรากับกิตติพัศ!
นนทวีที่หลงใหลอรจิราราวกับต้องมนต์ถึงกับงงและเข้าค้นประวัติของพาย จึงรู้ความจริงที่ทำให้ถึงกับช็อก เมื่อพบในประวัติพายว่า มีแม่ชื่อ อรจิรา วิชิตภากรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2550
โซดาที่แอบดูนนทวี รู้ว่าเขาค้นประวัติพายก็โทร.ไปบอกกิตติยาว่าวันนี้อรจิรามากับพายกับพี่ชายเธอบอกว่าพี่ชายเธอเป็นพ่อของพาย กิตติยารับรู้แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์บอกโซดาว่า เรื่องนี้ชักไม่ชอบมาพากลแล้ว เราต้องตามล่าหาความจริงกันให้ได้
ooooooo
เมื่อศรุดาได้คุยกับพาทิศ เธอถามว่าทำไมเขาไม่บอกความจริงเรื่องพายแต่แรก ถ้าตนรู้ความจริงเราก็ไม่ต้องเลิกกัน พาทิศขอโทษยอมรับเป็นความขี้ขลาดของตนเพราะกลัวเรื่องรู้ไปถึงนักข่าวเลยไม่กล้าบอกใคร
“ดาขอโทษที่ดาเข้าใจทิศผิดมาตลอด...ทำไมตอนนั้นดาถึงไม่เอะใจ ทำไมดาถึงไม่เชื่อคำสัญญาของเรา มาถึงตอนนี้...ทุกอย่างมันดูผิดที่ผิดเวลาไปหมด ดาไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง...”
ศรุดาซบไหล่พาทิศอย่างรู้สึกผิดและสับสน พาทิศเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน
แต่เมื่อกิตติพัศมาขอโทษแม่อรจิราและขอรับผิดชอบการกระทำทุกอย่างของตน แม่ดีใจที่เรื่องของอรจิราลงเอยด้วยดี และพายก็จะได้อยู่กับครอบครัวที่มีทั้งพ่อและแม่ที่แท้จริงต่อไป
แต่พาทิศที่เลี้ยงพายมาแต่อ้อนแต่ออกไม่ยอม ด่ากิตติพัศว่าที่ทำก็เพียงแต่เพื่อแก้ตัวเท่านั้น ถามว่า
ที่ผ่านมาเขามัวแต่ทำอะไรอยู่ ประณามกิตติพัศว่า
“ผู้ชายมักมาก เปลี่ยนผู้หญิงไม่เลือกอย่างคุณ ไม่ควรจะถูกพายเรียกว่าพ่อด้วยซ้ำ”
“พอได้แล้วตาทิศ จะพูดจะทำอะไรช่วยเห็นหัวแม่บ้างเถอะ คุณกิตเขาก็มาขอโทษและพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างแล้ว แกจะเอาอะไรอีก!”
“ผมไม่มีวันจะยกพายให้ผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบคนนี้!”
แม่เกลี้ยกล่อมเมื่อได้คุยกับพาทิศที่สวนหย่อมที่บ้านว่า
“ลูกทำหน้าที่ได้ดีมากมาตลอด จนแม่ไม่คิดว่าจะมีใครเป็นพ่อของพายได้ดีกว่าลูกเสียอีก” พาทิศถามว่าแม้แต่ผู้ชายคนนั้นหรือ “เขาเป็นพ่อแท้ๆของพายนะทิศ แล้วที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยรู้ว่ามีพายอยู่ เราควรให้โอกาสเขาได้ทำหน้าที่พ่อและให้โอกาสพายได้อยู่กับพ่อแม่จริงๆของแก...ใช้เวลาที่เหลือทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุดแล้วกันนะลูก”
พาทิศนิ่งไป ครู่หนึ่งบอกแม่ว่า
“คุณแม่จะว่าอะไรไหมครับ ถ้าเสาร์อาทิตย์นี้ผมอยากพาพายไปเที่ยวทะเลกันสักคืนนึง” แม่บอกว่าถ้าจะทำให้ความรู้สึกลูกดีขึ้นก็เอาเถอะ พาทิศบอกแม่ว่า “ผมจะพานวียาไปด้วยนะครับ”
แม่ชะงักไปนิดหนึ่ง แต่ก็จำใจบอกว่าแล้วแต่ลูกแล้วกัน แล้วเดินไป
พาทิศยิ้มมีความหวังขึ้นมาทันที
ooooooo
พอโค้ชยักษ์รู้เรื่องบัญชีของอาชาคลับติดลบก็บ่นกิตติพัศว่าทำยังไงถึงได้ปล่อยให้บัญชีแดงเป็นทะเลเลือดขนาดนี้ กิตติพัศยอมรับว่าตนผิดที่ปล่อยให้อะไรๆมันเลยเถิดขนาดนี้
“แถมเรากำลังจะมีสมาชิกใหม่เข้ามาในบ้านอีก ต้องเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะตากิต” โค้ชปรามหลานชาย
กิตติยาเห็นใจพี่ชาย บอกว่าจะขายกระเป๋าและรองเท้าชาแนลเซตใหญ่มาช่วย กิตติพัศบอกว่าตนยังพอมีทางออกอยู่บ้าง แต่ที่ห่วงคือเรื่องพายไม่รู้ว่าพอรู้ความจริงแล้วจะยอมรับตนเป็นพ่อได้ไหม ตำหนิตัวเองว่า
“ผมอาจจะไม่เหมาะเป็นพ่อพายอย่างที่คุณพาทิศพูดจริงๆก็ได้”
โค้ชหาทางออกให้ว่ายังไงพายก็เป็นลูก ให้เขาพาพายมาค้างที่บ้านจะได้สนิทกันเร็วขึ้น กิตติยาบอกว่าตนรับพายได้แต่พี่สะใภ้นั้นไม่อยากนับญาติด้วยเลย สู้นวียามาเป็นพี่สะใภ้ยังดีกว่า
“ก็มันเลือกไม่ได้นี่ยัยกิต ยังไงเขาก็พ่อแม่ลูกกัน” โค้ชติง
โค้ชบอกว่าเป็นโอกาสดีเสียอีกที่กิตติพัศจะได้กอบกู้อาชาคลับและพิสูจน์ตัวเองกับพาทิศว่าสามารถดูแลพายได้ กิตติพัศบอกอาว่า ตนต้องทำให้ได้
อ่านละคร รักพลิกล็อก ตอนที่ 7 วันที่ 29 พ.ย.61
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก บทประพันธ์โดย เทพิตาละครเรื่อง รักพลิกล็อก บทโทรทัศน์โดย เหนือดาว
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก กำกับการแสดงโดย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ผลิตโดย บริษัท นอร์ธสตาร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ควบคุมการผลิตโดย กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ