อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 10 วันที่ 22 พ.ย.61
“เอ็งสองคนนี่มันช่างเจรจา ข้าจ้างมาช่วยเก็บค่าเช่าที่นา พวกเอ็งจะคิดค่าตัวกันคนละเท่าไหร่”เดือนเพ็ญบอกว่าลุงก็มีพี่เก่งกาจ...ถูกดาราหยิกจึงนึกได้ ดาราพูดกลบเกลื่อนว่าแม่แก่แล้วไปไหนลำบากจึงไม่ได้มางานเผาพี่เก่งกาจ กำนันถามว่า
คิดว่าตนน้อยใจแม่เอ็งรึ ถ้าจะมาขอโทษแทนแม่เอ็งก็มาเสียเที่ยวแล้ว เดือนเพ็ญแก้ตัวแทนพี่สาวว่า
พวกตนอยากมาอยู่แล้วจะได้มาเห็นกับตาว่าที่นาของแม่ตนกว้างขวางแค่ไหน กำนันเลยชวนให้อยู่ที่นี่สักสองสามวัน ตนจะได้อวดด้วยว่าหลานสาวชาวกรุงของตนสวยแค่ไหน
สองสาวเลยจำต้องอยู่ทั้งที่กลัวกลิ่นโคลนสาบควายจะติดตัว
ฝ่ายนิราศกลับไปที่เรือนจางวาง พิกุลถามว่าเจ็บที่ไหนหรือไม่ นิราศออกตัวว่าตนมาทีไรก็มีแต่เรื่องให้เธอห่วง อย่ารำคาญตนเลย พิกุลถามว่าจะรับข้าวเที่ยงที่นี่ไหม แล้วเข้าไปจัดสำรับมาให้ นิราศมองสำรับมีแต่ข้าวสวยกับปลาแห้งย่าง เขาพยายามเปิบข้าวด้วยมือแต่ก็เก้กัง เลยนั่งดูพิกุลที่กินข้าวด้วยอย่างหลงใหล
พิกุลเห็นเขาเปิบข้าวไม่เป็นจึงสอนให้ ทำให้นิราศซึ่งก็คือหลวงราชในอดีตระลึกถึงอดีตที่พิกุลเคยป้อนข้าวให้ พิกุลเห็นนิราศกำลังจะระลึกอดีตได้ ก็บอกให้เขากลับไปเสีย นิราศอ้อนขออยู่ที่นี่ ตนอยากตื่นขึ้นมาในเช้าวันพรุ่งนี้ที่นี่ จะให้ตนนอนที่ไหนก็ได้ ขอร้องอย่าปฏิเสธเลย
“เจ้าค่ะ” พิกุลรับคำแล้วเก็บจานเข้าครัว นิราศยิ้มดีใจ
เมื่อพิกุลยกสำรับไป เพียรถามว่ามนตร์สะกดของเอ็งทำให้เขาระลึกได้หรือ พิกุลบอกว่าตนทำได้เพียงเท่านี้รอแต่กรรมเวรจะทำให้เขาระลึกได้เท่านั้น เพียรถามว่า
“ถึงวันนั้นความเกลียดของเอ็งจะไม่เปลี่ยนเป็นรักหรือ”
“ไม่มีวันจ้ะแม่”
ooooooo
คืนนี้...นิราศไปนั่งที่ท่าน้ำอย่างมีความสุข เอ่ยกับพิกุลที่นั่งอยู่ก่อนแล้วว่าที่นี่เงียบสงบดีไม่วุ่นวายเหมือนที่กรุงเทพฯ พิกุลบอกว่าแต่อาจไม่สะดวกสำหรับคนที่มาจากกรุงเทพฯ
นิราศบอกว่าทุกอย่างที่นี่ทำให้ตนรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปในอดีตและรู้สึกผูกพันกับที่นี่เหลือเกินพิกุลบอกว่าอาจเป็นอดีตที่ไม่น่าจดจำ นิราศบอกว่าจะดีหรือร้ายก็ขอให้ตนได้รู้เถอะ พิกุลกลับเป็นฝ่ายสะท้านเมื่อนิราศเด็ดเดี่ยวที่จะรู้เรื่องในอดีต ตัดบทว่า “อิฉันปูที่นอนให้นะเจ้าคะ” แล้วลุกไปเลย
“อดีตที่ไม่น่าจดจำ...ใครทำอะไรให้คุณหรือ?” นิราศสงสัย
เมื่อไปที่ห้องหนึ่งซึ่งพิกุลปูที่นอนกางมุ้งให้แล้ว นิราศซึ้งใจที่พิกุลดูแลตนดี แต่ยังไม่รู้จักชื่อ พิกุลบอกว่าตนชื่อพิกุล นิราศจำได้ว่าสารวัตรเล่าให้ฟังว่าพิกุลเป็นลูกสาวของเจ้าของเรือนนี้ พิกุลอยากให้เขาจำได้มากกว่านี้ แต่นิราศบอกว่าตนอยากรู้จักพิกุลที่อยู่ตรงหน้าตนมากกว่าคนที่เป็นอดีต อ้อนขอรู้จักเธอมากกว่านี้ได้ไหม พิกุลตัดบทว่า นอนเถิดเจ้าค่ะ แล้วถือตะเกียงออกไป
พิกุลเดินไปถึงประตู หันกลับมองนิราศทั้งดีใจที่เขากลับมาและปวดใจเมื่อนึกถึงอดีต เตือนใจตัวเองว่า
“ขอให้อิฉันใจแข็งพอที่จะเห็นคุณหลวงชดใช้กรรมที่คุณหลวงทำกับอิฉันด้วยเถิดหรือหากอิฉันต้องมอดไหม้ด้วยความอาฆาตเสียตอนนี้ ก็ยังดีเสียกว่าต้องทรมานด้วยความรักความปรารถนาที่คุณหลวงมีให้อิฉันในวันนี้”
ooooooo
กำนันพงษ์คิดหาทางกอบโกย อ้างว่าเอาแต่เงินบริจาคเมื่อไหร่จะได้สร้างโบสถ์หลังใหม่ เสนอว่างานวัดปีนี้ต้องจัดให้ใหญ่เรียกคนมาให้มาก ขาดเหลืออย่างไรก็ยืมตนก่อนได้ ยังไงตนก็เป็นเจ้าภาพอยู่แล้ว
เปรื่องติงว่าจัดงานแบบนี้พระจะไปหาความสงบได้ที่ไหน กำนันบอกว่าไม่กี่วันเองตนจะไปคุยกับเจ้าอาวาสท่านต้องเห็นดีด้วยแน่ เปรื่องพูดอย่างระอาว่าก็แล้วแต่กำนันเถอะ
กลับถึงบ้าน เปรื่องบ่นกับอัปสรว่ารำคาญกำนันเต็มที มันเห็นวัดเป็นที่ทำมาหากินหรือไง มันไปบังคับให้ท่านเจ้าอาวาสจัดงานวัดหาเงินมาสร้างโบสถ์ใหม่ เจ้าอาวาสก็ขัดไม่ได้เสียด้วย หรือต้องทำไม่รู้ไม่เห็นไปตลอดอย่างนี้
กำนันยังกะเกณฑ์ให้ดารากับเดือนเพ็ญประกวดเทพีงานวัดด้วยเพื่อเรียกแขกให้ช่วยซื้อดอกไม้พวงมาลัยจะได้ทำบุญให้วัด
ส่วนก้านก็ขอให้กำนันตั้งโต๊ะให้พวกตนเสี่ยงโชคกันด้วย
“เออ...กูรู้น่า เป็นประธานจัดงานทั้งทีก็ต้องให้มันครบเครื่องให้ลือกันไปทั้งบางซิวะ”
ooooooo
คืนนี้สินธรมาที่เรือนจางวางพ่วง อ่ำดีใจที่เห็นพี่สินจึงตีระนาดอวด สินธรได้ยินเสียงระนาดที่อีกห้องจึงเดินไป เห็นแต่ระนาดแต่ไม่มีคนตี รู้สึกผิดปกติเดินถอยหลังออกมาชนตู้ หันดูเห็นมีเอกสารม้วนๆในตู้จึงเปิดหยิบใส่ย่ามเท่าที่จะเอาได้
พอปิดตู้ กระจกสะท้อนเห็นอ่ำนั่งเล่นระนาดอย่างมีความสุข สินธรรู้ว่าถูกผีหลอก ค่อยๆถอยจะออกไปก็ถูกมือที่ไม่มีแขนมาจับเท้าไว้ มองไปเห็นอ่ำชูไม้ตีระนาดชวนให้มาเล่นด้วย สินธรวิ่งอ้าวออกจากห้อง สุดมาห้ามอ่ำว่าสนุกพอแล้วเดี๋ยวสินมันจับไข้หัวโกร๋นไม่กล้ามาที่นี่อีก อ่ำมองสินธรขำๆที่กลัวผีขนาดนั้น
สินธรวิ่งลงเรือนมาแต่พลาดตกบันได ในสายตาเห็นมีคนยืนอยู่แต่ไม่กล้ามองลุกได้ก็โกยอ้าว
“อ้าว...ไปเสียแล้ว ทำอย่างกับเห็นผีไปได้” นิราศนั่นเอง เขาส่ายหน้าขำๆ แล้วขึ้นเรือนไป
สินธรกลับถึงบ้านอย่างตื่นกลัว อัปสรถามว่าไปเจออะไรมาหรือ เขาบอกว่าเปล่าเพราะเคยคุยโวไว้ว่าตนไม่กลัวผี อัปสรคร้านจะจับผิดคนปากแข็ง ส่งถุงข้าวให้บอกว่าพ่อฝากมาให้ พอสินธรถือถุงข้าวออกไป อัปสรหยิบย่ามของสินธรมาดู แต่ยังไม่เห็นหุ่นดินเผาที่ใช้สะกดวิญญาณที่สินธรหยิบติดมาด้วย
ooooooo
ทิพย์เกสรจงเกลียดจงชังนิสา แต่นิสาก็อดทนพยายามดูแลทิพย์เกสรโดยสอบถามจากหมอแล้วสังเกตอาการของทิพย์เกสรจะได้แก้ปัญหาได้ทันกาลเพื่อไม่ให้นิราศผิดหวังที่เลือกตนมาดูแลแม่
วันนี้หมออนุญาตให้ทิพย์เกสรกลับบ้าน แต่นิราศไม่ได้ไปรับ กลับถึงบ้านแล้วทิพย์เกสรสอบถามจากสมคิด ระแวงว่านิราศแอบไปคบหากับใครอยู่เพราะหายไปทั้งคืน สมคิดบอกว่าตนไม่เห็นว่ามีใคร ทิพย์เกสรสั่งให้เป็นหูเป็นตาให้ด้วย นิสาแอบฟังอยู่ ระแวงนิราศไม่ต่างจากทิพย์เกสร
ทิพย์เกสรมองนิสาอย่างจับผิดว่าคิดอย่างไรกับนิราศ นิสายืนยันว่าตนรักชื่นชมนิราศเหมือนพี่ชาย แต่ทิพย์เกสรไม่เชื่อ และรังเกียจไม่ให้นิสามาดูแลตน กระทั่งบอกว่า “ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากแก”
เมื่อทิพย์เกสรออกจากห้องอย่างยากลำบาก นิสาจึงประคองมาถึงบันได ก็ถูกทิพย์เกสรสะบัดและผลักอย่างรังเกียจจนนิสาตกบันได ทิพย์เกสรตกใจตะโกนเรียกเอียด เอียดมาเห็นจึงพานิสาไปห้องนอน นิสาฝันร้ายว่าตงพี่ชายที่ตายแล้วมาหาและชี้หน้านิสาอย่างอาฆาต
ขณะนิสากำลังดิ้นรนอย่างหวาดกลัว นิราศกลับมาเห็นพอดีจึงเข้าไปกอดนิสา ถามว่าเป็นอะไร นิสาตื่นขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดของนิราศก็รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย
นิสาบอกนิราศว่าตนไม่เป็นอะไร พลาดตกบันไดมาเอง นิราศบอกว่า มีอะไรให้บอก ตนไม่ได้ถือว่านิสาเป็นคนอื่น
“นิสาไม่มีวันโกหกพี่นิราศค่ะเพราะชีวิตของนิสาไม่มีใครอีกแล้ว นิสาไม่เหลือแม้แต่พ่อแม่ให้กราบไหว้ ก็มีแต่คุณป้าเท่านั้นที่นิสาจะได้ทดแทนบุญคุณกับพี่นิราศที่ทำให้นิสารู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้...
มันคงเป็นเวรกรรมแต่ชาติก่อนที่ทำให้นิสาไม่เหลือใครในชาตินี้ แต่มันก็เป็นบุญของนิสาที่ได้มาพบพี่นิราศที่ปกป้องดูแลนิสาเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง”
นิราศดึงนิสาเข้าไปกอดอย่างปลอบใจ ทิพย์เกสรมาเห็นพอดียิ่งเกลียดชังนิสา คำรามในคอ
“นังนิสา!!!”
ooooooo
อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 10 วันที่ 22 พ.ย.61
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทประพันธ์โดย เสน่ห์ โกมารชุนละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทโทรทัศน์โดย บลูลาวา
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ที่มา ไทยรัฐ