อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 7 วันที่ 10 พ.ย.61
พิกุลเป่าปี่ให้ชาวบ้านฟังเพื่อไม่ให้ชาวบ้านกลัวอีก ชาวบ้านชมว่าเสียงปี่เสนาะหูเหลือเกิน ก่อนชาวบ้านลากลับมีแก่ใจบอกคุณหลวงว่าหากขาดเหลืออะไรก็ตะโกนเรียก บ้านตนอยู่ใกล้ๆ นี่เองแต่พอชาวบ้านกลับไป หลวงราชก็มีสีหน้ากังวล บอกพิกุลว่าเราทั้งสองเป็นที่รู้จักของชาวบ้านเช่นนี้ กลัวว่าพ่อจางวางจะตามเราเจอก่อนที่จดหมายที่บอกให้พ่อมาสู่ขอพิกุลจะถึงมือพ่อ บอกพิกุลว่า
“เราจะแต่งงานกัน หล่อนจะเป็นภรรยาที่ฉันจะพาออกหน้าออกตา” พิกุลบอกว่าตนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้มีแต่จะทำให้คุณหลวงอับอาย “ฉันจะอายก็เพราะได้เมียจิตใจต่ำช้าต่างหาก อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก็สั่งสอนได้ แต่หากจิตใจมืดบอด สิ่งใดก็แก้ไขไม่ได้...หล่อนอย่าปฏิเสธฉันเลยนะ”
พิกุลนิ่ง หลวงราชขอให้ตอบ พิกุลจึงตอบ“เจ้าค่ะ” คุณหลวงยิ้มฉวยโอกาสขโมยหอมแก้มพิกุลฟอดหนึ่งแล้วจึงไปส่งจดหมาย พิกุลบอกให้รีบไปรีบกลับ มองหลวงราชด้วยความรักอย่างมีความหวังในชีวิต
เสียงปี่ที่พิกุลเป่าแว่วไปถึงเรือนจางวางพ่วง จางวางลุกออกมามองหา เชื่อว่าพิกุลต้องอยู่ไม่ไกลจากที่นี่
เพียรบอกว่าป่านนี้คุณหลวงพาพิกุลไปถึงบางกอกแล้วกระมัง จางวางยืนยันว่าจะไปตาม
เพียรถามว่าถึงตามไปเชื่อหรือว่าคุณหลวงจะยอมให้พิกุลกลับมาง่ายๆ คุณหลวงอุตส่าห์ตามมาถึงที่นี่ ยังไม่เชื่ออีกหรือว่าเด็กสองคนรักกันแค่ไหน จางวางยืนกรานจะไม่ยอมยกพิกุลให้ใครนอกจากสินเพราะลูกเราจะมีอันเป็นไปเพราะไอ้คุณหลวงนั่น ถามว่าแม่เพียรลืมไปแล้วหรือ
“ใช่ว่าฉันไม่ห่วงมันเมื่อไร แต่พี่จะหักหาญน้ำใจลูกก็เหมือนทำให้มันตายทั้งเป็นเท่านั้น ถ้าพี่ยกความห่วงใยทำร้ายจิตใจลูก ฉันก็ไม่เห็นสมควรเหมือนกัน...เรื่องนี้มันเกินกว่าที่จะบังคับใจกันแล้ว ถึงคราวที่ต้องปล่อยให้มันเป็นไป แล้วพี่ก็ยอมรับมัน”
จางวางยังทำใจไม่ได้ เดินไปที่ทางลงเรือน แต่แล้วก็ทรุดลงที่หน้าซุ้มบันได ไม่อาจก้าวลงไปได้ เพียรจึงไปประคองจางวางกลับมาอย่างพร้อมจะอยู่เคียงข้างกันเสมอ
สารภีกลับบูรพาเคหาสน์ทิ้งตัวนั่งที่ห้องรับแขกอย่างแค้นใจ พอดีจีนพ้งเดินคุยมากับนิ่ม นิ่มบอกว่าคุณหญิงท่านเอ็นดูพุดกรองมาก ท่านว่าพุดกรองเป็นเด็กหัวไวสอนอะไรก็ช่างจำ
“ได้มารยาทอย่างฝรั่งมาบ้างก็ดี ไปปีนังจะได้เข้ากับพวกผู้ดีได้ อั๊วจะส่งไปเรียนโรงเรียนเก่าของสารภีมัน” บอกนิ่มว่าคราวหน้าถ้าไปเยี่ยมท่านเจ้าคุณอีกก็อย่าลืมของติดไม้ติดมือไปด้วย
นิ่มรับคำแล้วเลี่ยงไปอย่างรู้ว่าจีนพ้งจะคุยกับสารภีเพราะรู้ว่าสารภีไปตามหลวงราชที่สุพรรณบุรี ถามว่าเขาไม่ได้มาด้วยหรือ สารภีส่ายหน้า พูดอย่างมุ่งมั่น มั่นใจว่า
“ตราบใดที่ฉันยังไม่ได้พบคุณยศ ฉันจะไม่มีวันเชื่อว่าเขาทรยศหัวใจฉัน” จีนพ้งเตือนว่าเรื่องแบบนี้
อย่าดึงดันนัก “คุณยศถูกนังพิกุลหลอกให้หนีตามไปกับมัน”
“ลื้อถอยก็ใช่ว่าลื้อจะแพ้สารภี หลบแต่รักษาไว้ได้ก็พึงหลบ”
“หลบก็มีแต่จะแพ้ ฉันจะไม่มีวันแพ้...ไม่แต่เรื่องคุณยศ” สารภีพูดเป็นนัยแล้วลุกไป จีนพ้งมองตามอย่างไม่เข้าใจว่าสารภีจะทำอะไร
ooooooo
หลวงราชไปส่งจดหมาย พิกุลอยู่เรือนครูทับคนเดียวอดคิดเรื่องของท่านจันกับครูทับไม่ได้ ครู่หนึ่งฝันเห็นเงาของใครบางคนอยู่หลังผ้าที่กำลังตากอยู่ จึงแง้มผ้าดู เห็นครูทับนั่งซ้อนอยู่หลังท่านจัน
ท่านจันวางมือที่กระดานชนวน ทั้งสองกำลังต่อกลอนกัน ท่านจันขึ้นบาทแรกแล้วให้ครูทับต่อ สลับกันคนละบาทจนจบบทกลอนที่กลั่นจากความรู้สึกทั้งสองคนอย่างไพเราะลึกซึ้ง...
“รักแล้วมิลืมรักสมัครสวาสดิ์ รักแม้นหมายมาดสวาสดิ์สวรรค์ รักแล้วมิร้างรักสลักชีวัน รักนิรันดร์สวรรค์สวาสดิ์มิคลาดคลา”
เมื่อต่อกลอนกันจบท่านจันอ่านทวนให้ฟัง ชื่นชมว่าไพเราะจับใจไม่แพ้เสียงปี่ของนายทับเลย ครูทับยิ้มอย่างมีความสุขมองกระดานชนวน คิดอะไรบางอย่าง
แล้วครูทับก็สลักบทกลอนนี้ลงบนแผ่นไม้อย่างสวยงาม วัดความยาวกับปี่แล้วจึงประกอบเป็นกล่องใส่ปี่ โดยมีบทกลอนอมตะนี้ซ่อนอยู่ด้านใน
แล้วภาพที่พิกุลเห็นก็หายไปในพริบตา พิกุลเปิดกล่องปี่มีผ้าดิบรองอยู่ พอเปิดผ้าออกก็เห็นบทกลอนที่สลักไว้ พอพิกุลสัมผัสที่ผิวไม้ก็เหมือนเสียงท่านจันอ่านบทกลอนนั้นแว่วมา
“คำสัญญาของท่าน เรือนรักของท่านอย่างนั้นรึเจ้าคะ” พิกุลพึมพำ
ท่านจันนั่งน้ำตาซึมอยู่ตรงข้ามกับพิกุล มองไปที่ท่าน้ำเหมือนรอครูทับอยู่อย่างมีความหวัง
พิกุลจัดสำรับรอหลวงราช มือปัดแมลงที่มาตอม ตามองไปที่ท่าน้ำรอว่าเมื่อไหร่คุณหลวงจะกลับมา แต่รอแล้วรอเล่าก็ไร้วี่แวว จึงยกสำรับไปเก็บ แล้วถือปี่ถือตะเกียงไปรอที่ท่าน้ำอย่างกระวนกระวาย พึมพำอย่างห่วงใย “คุณหลวง...คุณหลวงรีบกลับมาเถิดเจ้าค่ะ”
ครู่หนึ่งเห็นเรือลำหนึ่งมุ่งมาที่ท่าน้ำ พิกุลนึกว่าหลวงราชกลับมาแล้วแต่พอเข้าใกล้พิกุลก็ใจหาย อุทาน
“พ่อ!!!”
จางวางขึ้นมาทั้งด่าทั้งลากพิกุลให้ลงเรือ พิกุลขืนตัวบอกพ่อว่า
“พ่อจ๋า ฉันจะกลับไปกับพ่อได้แต่เพียงร่างเท่านั้น ฉันขอตายเสียดีกว่าจะกลับไป...เพราะคุณหลวงคือหัวใจของฉัน”
จางวางด่าและยื่นมีดให้พิกุลแทงตนให้ตายดีกว่าจะต้องมาได้ยินพิกุลพูดเช่นนี้ พิกุลมองมีดงงๆ ทันใดนั้นจางวางก็แทงอกตัวเองต่อหน้าพิกุลจนล้มลง พิกุลร้องสุดเสียง
“พ่อ!!!”
พิกุลตกใจตื่นจากฝันเพราะเสียงร้องของตนเอง ก็พอดีหลวงราชกลับมาถามว่าฝันร้ายอีกแล้วหรือ
“เจ้าค่ะ พิกุลฝันเห็นพ่อ...พ่อจะมาพาพิกุลไปจากที่นี่”
“ฉันไม่ให้ใครพาหล่อนไปไหนทั้งนั้นพิกุล...ฉันสัญญา” หลวงราชดึงพิกุลเข้าไปกอดอย่างหวงแหน
ท่านจันรับรู้คำมั่นสัญญาของหลวงราชที่ให้กับพิกุลจึงสลายไปแล้วเสียงปี่ก็ดังไปทั่วบริเวณ พิกุลมองหาที่มาของเสียงแต่ก็ไม่เห็นใคร กลับพบแต่ดอกปีบดอกหนึ่งวางอยู่ พิกุลจึงรับรู้ว่าท่านจันสลายร่างไปแล้ว...
จางวางพ่วงตรอมใจจนเจ็บป่วย แม้เพียรจะรู้ว่าพิกุลไปกับหลวงราชก็เป็นห่วงจนกินข้าวกินน้ำฝืดคอไปหมด
“แม่อย่าห่วงเลยนะจ๊ะ คุณหลวงรักพิกุลอย่างนั้น คงไม่ปล่อยให้พิกุลเป็นอะไรแน่ เมื่อไรตั้งหลักทำอกทำใจได้ก็คงส่งข่าวบอกพวกเราเอง พิกุลไม่มีวันทิ้งพ่อแม่ลงคอหรอก” เอื้อยปลอบ เพียรพยายามทำใจเชื่อ
ooooooo
วันนี้พุดกรองแกะสลักผลไม้ไปอวดเจ้าคุณพิชัยที่คุยกับสารภีอยู่ในห้องรับแขก เจ้าคุณชมกับสารภีว่าเห็นฝีมือน้องหล่อนไหมล่ะ สารภียิ้มชมว่าเป็นเพราะคุณหญิงจ้ำจี้จ้ำไชจึงมีฝีมือถึงขั้นเจ้าคุณออกปากชมเจ้าคุณว่าพุดกรองคงมีพรสวรรค์อยู่บ้าง มิเช่นนั้นสอนอย่างไรก็คงไม่ได้เรื่อง สารภีขัดหู ส่งสายตาให้พุดกรองออกไป
เจ้าคุณขอบใจสารภีที่ไปตามหลวงราชถึงสุพรรณ ถามว่าถึงขั้นนี้แล้วหล่อนยังไม่เข็ดตายศอีก
“สารภีไม่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกที่ตรงไหนเจ้าค่ะ คุณยศเป็นนักเรียนนอก คงเห็นเรื่องพรรค์นี้เป็นเรื่องสนุก...สารภีใจกว้างพอเจ้าค่ะ...แต่เชื่อว่าวันหนึ่งเมื่อคุณยศหมดสนุกกับแม่คนปี่แล้ว คุณยศจะมีแต่คิดถึงสารภีเพียงคนเดียวเจ้าค่ะ”
“ถ้าหล่อนแน่ใจในตัวลูกชายฉันถึงเพียงนั้น ฉันก็คงไม่ขัดใจหล่อนนะแม่สารภี...ฉันถือว่า...ฉันได้บอกหล่อนแล้วนะ”
สารภียิ้มรับคำทั้งที่ใจเริ่มหวั่นไหวกับท่าทีของเจ้าคุณที่มีต่อตน
คุณหญิงเกสรเห็นพุดกรองเดินออกมาทางห้องรับแขกถามว่าท่านเจ้าคุณเรียกใช้งานหรือ พุดกรองบอกว่าตนแกะสลักผลไม้ไปอวดคุณสารภี คุณหญิงจะไปห้องรับแขกสงสัยว่าสารภีมามีธุระอะไร แต่เห็นมุดถือจดหมายท่าทางรีบร้อนจะไปหาเจ้าคุณ พอเห็นคุณหญิง มุดก็เอาจดหมายซ่อนไว้ข้างหลังคุณหญิงถามว่าแอบอะไรไว้ข้างหลัง
มุดปดว่าเปล่า สร้อยรู้ทันยื่นมือไปขอ มุดจำต้องส่งให้สร้อยบอกคุณหญิงว่าเป็นจดหมายถึงท่านเจ้าคุณแต่ลายมือคุ้นตานัก คุณหญิงรับไปดูเห็นเป็นลายมือหลวงราชก็ยิ้มออก ลิ่วไปที่ห้องรับแขก เจอสารภีลากลับพอดี
อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 7 วันที่ 10 พ.ย.61
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทประพันธ์โดย เสน่ห์ โกมารชุนละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทโทรทัศน์โดย บลูลาวา
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ที่มา ไทยรัฐ