อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 8 วันที่ 17 พ.ย.61

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 8 วันที่ 17 พ.ย.61

หลวงราชเมาหนัก เหมือนไม่รับรู้สิ่งที่สารภีพูด สารภียืนหันหลังให้แอบเปิดตลับเล็กๆที่พกติดตัว ใช้เล็บตักผงสีขาวจากตลับเหยาะลงในแก้ววิสกี้ ปากก็ยังพร่ำพูดเพื่อให้หลวงราชตายใจ

“นับจากนี้สารภีจะทำให้คุณหลวงไว้วางใจ เพียงเท่านั้นก็เป็นความกรุณาของคุณยศที่มีต่อสารภีแล้ว” หลวงราชถามว่าหล่อนรู้ว่าตนจับผิด “เจ้าค่ะ แต่คุณยศก็ประจักษ์แล้วใช่ไหมเจ้าคะว่าสารภีไม่ได้ข้องเกี่ยวอันใดกับเรื่องที่คุณยศสงสัยแม้แต่น้อย”

“ฉันจับหล่อนไม่ได้คาหนังคาเขาเท่านั้น” สารภีถามว่าคุณยศสงสัยตนเรื่องอะไร “เรื่องที่จีนสงถูกฆ่าตายด้วยลิ่มแบ่งชาของหล่อน หล่อนจะสารภาพเสียตอนนี้ก็ได้”



สารภีบอกว่าคนที่ต้องสารภาพคือไอ้ปิงต่างหาก เห็นหลวงราชรับวิสกี้ไปจิบ สารภีก็ยิ้มพอใจ เล่าเป็นตุเป็นตะว่า

“ไอ้ปิงเป็นลูกน้องที่ภักดีต่อเจ้านายเหลือเกิน โดยหารู้ไม่ว่าความภักดีอย่างหูหนวกตาบอดจะหวนมาทำร้ายเจ้านายให้เดือดร้อน ทำให้คุณหลวงคลางแคลงใจสารภีจนถึงตอนนี้ ทั้งที่เราสมควรต้องวางใจกันในฐานะผัวเมียมิใช่หรือเจ้าคะ”

หลวงราชดื่มวิสกี้จนหมดแก้ว สารภีจะเติมให้ หลวงราชนึกเอะใจมองแก้ววิสกี้ในมือ แล้วอยู่ๆก็ปล่อยแก้วตกพื้น ถามสารภีเสียงเข้ม “หล่อนทำอะไรฉัน”

สารภียิ้มให้คิดว่าตนวางยาสำเร็จแล้ว ขณะนั้นเองมีเสียงปี่แว่วมา หลวงราชได้ยินเสียงปี่ก็แน่ใจว่าเป็นเสียงปี่ของพิกุลจะเดินไปที่ประตูแต่ก็ทรุดลงก่อน กระนั้นก็พยายามคลานไปปากก็พร่ำเรียก

“พิกุล!! พิกุล!!”

สารภีถามว่าคุณยศจะไปไหน หลวงราชบอกว่าพิกุลมาที่นี่ สารภีหลอกว่าไม่ใช่นั่นคือเสียงปี่พาทย์กล่อมหอต่างหาก หลวงราชยืนยันว่านั่นคือเสียงปี่ท่านจัน ปี่ท่านจันของพิกุล แล้วพยายามคลานไปที่ประตูจะออกไป แต่ฟุบที่หน้าประตูเสียก่อน

สารภียิ้มพอใจที่วางยาหลวงราชสำเร็จ

ที่ริมน้ำบ้านเจ้าคุณพิชัย...พิกุลกำลังเดี่ยวปี่เพลงนางหงส์ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก...นึกถึงที่ตัวเองจะเปิดกล่องปี่อ่านกลอนที่สลักไว้...

“รักแล้ว มิลืมรัก สมัครสวาสดิ์ รักแม้น หมายมาด สวาสดิ์สวรรค์”

แต่วันนี้ได้เห็นหลวงราชรับน้ำสังข์คู่กับสารภี พิกุลต่อบทกลอนจากที่สลักไว้ในกล่องอย่างเจ็บปวด

“สัญญารัก ทรยศ หมดผูกพัน ขอทวงแค้น ทวงคำมั่น ชั่วกัลป์กาล”

พิกุลเป่าเพลงนางหงส์...สายตาจับจ้องที่ห้องหอของหลวงราช เสียงปี่ดังแว่วอย่างบีบคั้น!

หลวงราชนอนอยู่บนเตียงอย่างหมดสภาพ สารภีมานั่งที่เตียงเสียงปี่ยังแว่วอยู่ สารภีหยิบขี้ผึ้งอุดหูแล้วล้มตัวลงนอนมองหลวงราชที่หลับสนิท ยิ้มอย่างผู้ชนะ

ooooooo

พิกุลเป่าปี่เพื่อเรียกหลวงราชให้ลงมา มองไปที่ห้องนอนเห็นไฟดับแล้วก็ยิ่งเจ็บปวด กลั้นใจเป่าปี่ น้ำตาไหลจนกลายเป็นสายเลือดแต่ยังเป่าปี่ต่อไป

พิกุลเริ่มหมดแรง...เสียงปี่เริ่มขาดหายเป็นห้วงๆ แต่น้ำตาที่เป็นสายเลือดยังหลั่งรินไม่หยุด...

หลวงราชนอนหลับอยู่ แว่วเสียงปี่ที่แผ่วลงและขาดหายเป็นห้วงๆ หลวงราชผุดลุกขึ้นเห็นสารภีนอนอยู่ข้างๆ จึงย่องมาที่หน้าต่างจับทิศทางเสียงปี่ได้ก็เร่งฝีเท้าออกไป สารภีลุกขึ้นมองตามแววตาร้าย...

พิกุลเป่าปี่จนลมหายใจเฮือกสุดท้าย ร่างล้มลงและปี่ตกที่พื้น คราบเลือดเกาะกรังที่ขอบตา...หลวงราชลงมาเห็น ถลาเข้าประคองร้องเรียกพิกุลร้องไห้หัวใจแทบสลาย

สารภีตามมา มองและถามด้วยเสียงเย็นชาว่า

“ตายแล้วหรือเจ้าคะ...ตายเสียก็ดีนะเจ้าคะ...หนวกหูออกเจ้าค่ะ”

หลวงราชตวาดให้หุบปาก เมื่อสารภีจะจับปี่ของพิกุล หลวงราชเสียงเข้มว่าอย่าเอามือสกปรกของหล่อนไปแตะต้องของของพิกุล สารภีเย้ยว่าคุณหลวงกอดซากศพต่างหากที่สกปรกมีแต่จะเน่าเปื่อยไปเท่านั้น

“หล่อนมันสกปรกยิ่งกว่าซากศพ กอดศพเมียฉันยังดีเสียกว่ากอดร่างเป็นๆ ของหล่อน ไปให้พ้นหน้าฉันเสียตอนนี้ ฉันไม่มีวันอยู่ร่วมชายคาเดียวกับหล่อนได้แม้นาทีเดียว ไป!”

สารภีโกรธจนปากคอสั่นถอยหลังไป หลวงราชหันกลับไปหยิบปี่ใส่มือพิกุลแล้วกอดร่างพิกุลที่ยังลืมตาค้าง พร่ำอ้อนวอน...

“หล่อนตื่นขึ้นมาเถิดพิกุล ฉันอยากบอกหล่อนว่าฉันรักหล่อนเพียงไหน ตื่นมาฟังคำรักของฉันเสียก่อน ตื่นเถิด...แม่พิกุลของฉัน...”

หลวงราชร้องไห้คร่ำครวญกับร่างพิกุลต่อหน้าสารภีที่มองอย่างเจ็บปวดจนทนต่อไปไม่ได้ ใช้ลิ่มแบ่งชาแทงหลวงราชจากข้างหลัง หลวงราชสะดุ้งเฮือกหันมองสารภีที่กำลิ่มแบ่งชาเปื้อนเลือดในมือ หลวงราชยิ้มน้อยๆ เดินเข้าหาสารภีจนถึงตัว สารภีไม่ถอย หลวงราชจับมือสารภีที่กำลิ่มแบ่งชาไว้แน่น ถาม

“นี่คือคำสารภาพของหล่อนใช่ไหมสารภี หากหล่อนอยากให้ฉันตายด้วยอาวุธหล่อน หล่อนแทงผิดที่เสียแล้ว หล่อนต้องแทงตรงนี้”

หลวงราชจับมือสารภีแทงลิ่มแบ่งชาเข้าตรงหัวใจตัวเอง สารภีพยายามดึงมือออกแต่หลวงราชจับไว้แน่นและแทงซ้ำๆจนสารภีร้องขอให้พอ หลวงราชรู้ตัวว่าใกล้ตาย พูดขาดเป็นห้วงๆว่า

“ฉันแน่ใจนักว่าความผิดพลาดที่สุดในชีวิตของฉัน...คือการได้พานพบกับหล่อน...ฉันพร้อมจะตายเสียตอนนี้ เพื่อจะไม่ต้องข้องเกี่ยวกับหล่อนอีกต่อไป...”

หลวงราชขาดใจต่อหน้าสารภี สารภีกรีดร้องอย่างเจ็บปวด แต่ยังอาฆาตจองเวรว่า

“ถึงคุณยศจะไม่รักอิฉัน...แต่คุณยศก็ไม่มีวันพ้นจากอิฉันไปได้...ไม่ว่าชาติไหน คุณยศก็ไม่มีวันพรากจากอิฉันไปได้ทั้งนั้น” สารภีร้องไห้คลุ้มคลั่งกับศพของหลวงราช เห็นพิกุลตายอยู่เคียงข้างกันก็ยิ่งแค้นด่า...

“อีมารหัวใจ!!!! กูไม่มีวันยอมให้มึงพรากคุณยศไปจากกูได้ คุณยศเป็นของกู อีพิกุล!!!”

ที่ท่าน้ำเรือนจางวางพ่วง...สินนั่งหน้าเศร้าอยู่กับเอื้อย สินตำหนิตัวเองว่าถ้าวันนั้นตนตามไปทัน พิกุลคงไม่...สินกลั้นน้ำตาค่อยๆ หย่อนปี่ลงน้ำ เอื้อยมองอย่างพยายามทำใจ แล้วลอยกระทงดอกปีบตาม

ปี่ท่านจันค่อยๆ จมลงใต้น้ำ เสียงปี่แก้วดังขึ้นแล้วค่อยๆแผ่วหายไปในความมืดใต้น้ำ...และเรือนของจางวางพ่วง ...ก็กลายเป็นเรือนร้างที่ตั้งอยู่ริมน้ำอย่างวังเวง วันแล้วคืนเล่าผ่านไปจนถึง...

“จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ศ.2500”

ที่ใต้ถุนเรือนจางวางพ่วง เก่งกาจลูกชายกำนันพงษ์หรือจีนพ้งในอดีตชาติ ขับรถพาสะเดาเด็กสาวเข้ามาที่เขตเรือน สะเดามองไปรอบๆ รู้สึกหนาวยะเยือกถามเก่งกาจว่าพามาที่นี่ทำไม น่ากลัวจะแย่

สะเดาบอกว่าตนไม่ชอบที่นี่ เก่งกาจตบหน้าสะเดา ถามว่ากล้าขึ้นเสียงกับตนหรือ

“ฉันรักพี่นะ ทำไมพี่ทำกับฉันอย่างนี้” สะเดาตัดพ้อ กลับถูกเก่งกาจด่าอีโง่ ตนหลอกนิดเดียวก็เชื่อ

เก่งกาจหลอกสะเดามาหมายรุมโทรมกับเพื่อนอีกหลายคน สะเดาหนีไปซ่อนในห้องก็ถูกเก่งกาจจิกผมลากออกมาจะข่มขืน ทันใดนั้นมีเลือดหยดใส่หน้าสะเดาแล้วหยดลงมาจนเต็มหน้า สะเดาตกใจร้องกรี๊ดถีบเก่งกาจที่ขึ้นคร่อมจนกระเด็น วิ่งไปซุกที่มุมห้องตัวสั่นขวัญหนีดีฝ่อ

เก่งกาจถูกถีบกระเด็น แหงนหน้ามองขึ้นไปที่คานเรือน เห็นหญิงสาวนางหนึ่งเป่าปี่อยู่บนคาน

ผีพิกุลนั่นเอง!

“มึงเป็นใคร!! กูจะสอยมึงให้ร่วง”

“มึงไม่เห็นหัวใจผู้หญิงที่รักมึง มึงมันเลวยิ่งนัก” ผีพิกุลวางปี่ พูดแบบไม่มองหน้า

เก่งกาจเหนี่ยวไกรัวใส่ แต่กระสุนร่วงกราวไปไม่ถึงตัวผีพิกุล เก่งกาจกลัวจะวิ่งหนีแต่ถูกมือที่ไม่มีแขนกระตุกขาจนล้ม เก่งกาจร้องเสียงหลงให้ไอ้ก้านช่วยด้วยก็ถูกผีพิกุลเหยียบคอจนร้องไม่ออก

“ชั่วช้าอย่างมึง ต้องตายอย่างสาสม” ผีพิกุลพูดเสียงเย็นเยือก เหยียบจนเก่งกาจใกล้สิ้นลมก็ยกเท้าออก เก่งกาจวิ่งพรวดไปที่ประตูที่ลูกสมุนกำลังช่วยกันพังจะเข้าไปช่วยลูกพี่ ก้านคว้าคราดเงื้อสุดแขนจะฟาดประตูเป็นจังหวะที่ประตูเปิดและเก่งกาจวิ่งพรวดจะออกจึงถูกคราดในมือก้านหวดเข้ากลางหัวอย่างจัง เก่งกาจล้มตึงชักไม่กี่ทีก็ตายสนิทต่อหน้าลูกสมุนทุกคน

สมุนของเก่งกาจมองเข้าไปเห็นผีพิกุลยืนจังก้าก็วิ่งหนีกันกระเจิง

ผีพิกุลมองร่างสะเดาที่ฟุบหมดสติสะท้อนใจเมื่อคิดถึงตัวเอง พิกุลมองไปที่ประตู แล้วประตูก็ปิดลง

รุ่งขึ้นกำนันพงษ์มาเห็นศพเก่งกาจโวยวายว่าใครทำลูกข้าถึงเพียงนี้ ก้านอ้ำอึ้งแล้วเบี่ยงเบนว่าเมื่อคืนเก่งกาจพาสะเดามาพลอดรักกันที่นี่ กำนันสั่งให้ก้านไปตามสะเดามา

สะเดาร้องไห้อย่างหวาดกลัวพูดได้แต่เพียง “ฆ่า... ฆ่า...ผี...ผี...ผีบนเรือน” ก้านผสมโรงถามว่าผีหักคอพี่เก่งกาจใช่ไหม สะเดาพยักหน้าชี้ไปบนเรือน

“มึงเอาชีวิตลูกกูไป กูกับมึงอยู่ร่วมกันไม่ได้แล้ว อีผีเวร!!!” กำนันพงษ์ตะโกนลั่น

ก้านโล่งอกที่ปัดผิดพ้นตัวได้

ooooooo

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 8 วันที่ 17 พ.ย.61

ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทประพันธ์โดย เสน่ห์ โกมารชุน
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทโทรทัศน์โดย บลูลาวา
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ที่มา ไทยรัฐ