อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 3 วันที่ 18 พ.ย.61

อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 3 วันที่ 18 พ.ย.61

“อาโฮ่วคงสั่งสอนหรือดุด่าอีล่ะมั้ง อาเง็กอีกลัวคนเดียวคืออาฮง นอกนั้นใครว่าอะไรได้ที่ไหน น่าสงสารอาฮง...มีลูกชายก็มีดีแค่แรง โง่เหมือนวัวควาย มีลูกสาวก็เหมือนงูพิษ แว้งกัดได้แม้แต่ผู้มีคุณ”

“จะสงสารทำไมอาแปะ เจ็กฮงเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้วจะได้สมกับที่ชอบแย่งหน้าแปะยังไงล่ะ”

ฮุ่ยเซี้ยงสะอึกแต่ทำมึนกลบเกลื่อน “แย่งน่ง แย่งหน้าอะไร พี่น้องกันทั้งนั้น อย่าคิดหยุมคิดหยิมน่าอาเกียว”



“คนที่คิดว่าเป็นพี่น้องก็มีแต่แปะคนเดียวเท่านั้นแหละ ทั้งโรงน้ำชาทั้งบ่อนแปะกับเจ็กฮงก็ร่วมกันสร้างมาทั้งนั้น แต่คนอื่นรู้จักเจ็กฮงกลัวเจ็กฮงมากกว่าแปะมันถูกต้องแล้วเหรอ พี่น้องกันต้องให้เกียรติกันไม่ทำกันอย่างนี้หรอก”

ไต้เกียวได้จังหวะเสี้ยมลุงแท้ๆ ฮุ่ยเซี้ยงก็รู้สึกแต่ยังไม่ยอมรับ “อาฮงอีเป็นคนใจถึง บ้าบิ่นไม่กลัวตายก็เลยมีชื่อเสียงมากกว่าอั๊ว แต่ที่มาถึงทุกวันนี้ได้ก็เพราะมันสมองอั๊วทั้งนั้น เรื่องนี้อาฮงอีรู้ดี”

พูดแล้วก็สะท้านในอก ฮุ่ยเซี้ยงอดคล้อยตามคำพูดหลานสาวคนสวยไม่ได้ ไต้เกียวสะใจลึกๆที่ยุแยงสำเร็จ อย่างน้อยเวลานี้ลุงของเธอก็เริ่มสะกิดใจแล้วว่าที่ทำๆอยู่มันยังไม่พอ

ooooooo

ไต้เกียวค่อยๆเป่าหูฮุ่ยเซี้ยงให้แตกคอกับเม่งฮง ความโลภในเงินทองและอำนาจทำให้ลุงแท้ๆของเธอเปลี่ยนความคิดที่มีต่อหุ้นส่วนใหญ่อย่างเม่งฮงได้ไม่ยาก ขณะเดียวกันก็รอเวลาสลัดเฮ้งเตี๋ยงคู่หมั้นหนุ่มที่เธอแสนชัง แต่วันเวลาผ่านไปเป็นปีเธอก็ยังไม่สบโอกาส

ทรงวาดก็ใช้เวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาบริหารกิจการโรงสีข้าวจนรุ่งเรือง ปิ่นมุกกับก๊กไช้ก็ใช้ชีวิตปีสุดท้ายในโรงเรียน ม.ปลายอย่างปลอดภัยและสงบสุขเพราะทรงวาดรับส่งด้วยตัวเองตลอด แม้จะกลายเป็นที่ซุบซิบของเพื่อนร่วมรุ่นบ้างโดยเฉพาะปิ่นมุกว่ามีผู้ปกครองหน้าโหดตามคุมเข้มแต่ทุกอย่างก็ราบรื่นดี

ปิ่นมุกกับก๊กไช้ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีนี้ กิมเอ็งลุ้นหนักถึงกับเตรียมข้าวของบนบานศาลเจ้า

ให้ทั้งสองสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ โดยปิ่นมุกเลือกสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ ส่วนก๊กไช้สอบเข้านิติศาสตร์

ทุกคนในบ้านเฝ้ามองท่าทางจริงจังของกิมเอ็งด้วยรอยยิ้ม ไม่เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะทำให้ปิ่นมุกกับก๊กไช้สอบติดแต่ไม่อยากห้ามปรามเพราะกิมเอ็งทำเพราะหวังดีและศรัทธา ทรงวาดลุ้นไม่ต่างจากกิมเอ็งแต่ไม่แสดงออก ปิ่นมุกเสียอีกที่ตื่นเต้นทวงรางวัลเพราะมั่นใจว่าตัวเองจะสอบติด

“เฮียสัญญาว่าจะพาอั๊วไปทะเลมาปีกว่าแล้วนะ จนป่านนี้ยังไม่ได้ไปเลย ถ้าอั๊วสอบติดอย่าเบี้ยวอีกล่ะ”

“คงติดหรอก สอบแพทย์ไม่ใช่ง่ายๆ อั๊วบอกให้เรียนบัญชีก็ไม่เชื่อ เห่อตามคุณหลิง ไม่ได้เก่งเหมือนเขาซะหน่อย”

ทรงวาดแกล้งสบประมาทแล้วผละไป ทิ้งปิ่นมุกให้เต้นผาง ตะโกนไล่หลัง

“เฮียพูดอย่างงี้ได้ยังไง ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

และแล้ววันประกาศผลสอบก็มาถึง ปิ่นมุกกับก๊กไช้แอบไปส่องไฟดูผลสอบตั้งแต่กลางดึกวันก่อนโดยมีอรุณรุ่งหรือฮุ่ยหลิงช่วยดูอีกแรง ก๊กไช้กระโดดตัวลอยเมื่อพบว่าตัวเองสอบติดนิติศาสตร์ แต่คนดีใจกว่าใครคงหนีไม่พ้นปิ่นมุกที่สอบติดคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยเดียวกับอรุณรุ่ง

กิมเอ็งดีใจมากช่วยกันกับทิเหล็งจุดประทัดฉลองให้ปิ่นมุกกับก๊กไช้ที่สอบติด ทรงวาดทำตีมึนไม่รู้เรื่อง ปิ่นมุกหมั่นไส้ต้องตามไปดักหน้าทวงรางวัล

“อั๊วสอบติดแพทย์”

“อั๊วรู้แล้ว...แล้วไง”

“แล้วไง! เฮียพูดได้ไง เฮียดูถูกอั๊วไว้ว่าสอบไม่ติดแต่อั๊วทำได้ เฮียต้องขอโทษอั๊ว หรือไม่เฮียก็ต้องชมอั๊ว”

“สอบติดมันก็เป็นอนาคตของลื้อ ทำไมอั๊วต้องชมด้วย...ไร้สาระ!”

ทรงวาดแสร้งทำหน้าขรึมใส่แต่ความจริงปลื้มมากที่สองหนุ่มสาวในอุปการะสอบติดคณะที่ต้องการ เขาทำเป็นมองไม่เห็นแววตาตัดพ้อของปิ่นมุกและออกไปรับของขวัญที่สั่งไว้กับอรุณรุ่งและฮกไช้ที่ร้านทองเตียเซ่งเฮง

อรุณรุ่งหรือฮุ่ยหลิง ลูกสาวร้านทองใหญ่ประจำเยาวราช รุ่นพี่สาวคนสนิทของปิ่นมุก หยิบปิ่นทองคำประดับมุกและสร้อยพระเลี่ยมทองที่ทรงวาดสั่งให้เจ้าของตรวจสอบความเรียบร้อย ทรงวาดพยักหน้าพอใจ อรุณรุ่งเห็นดังนั้นก็แกล้งเย้าเพราะได้ยินมาว่าเขาทำเฉยชาเมื่อรู้ว่าปิ่นมุกกับก๊กไช้สอบติด

“จริงๆเฮียไม่เห็นจำเป็นต้องปิดอาจูกับอาไช้เลยนี่คะ เรื่องน่ายินดีอย่างนี้เฮียน่าจะบอกพวกอีไปเลยว่าเฮียเตรียมของขวัญไว้ล่วงหน้าก่อนประกาศผลสอบซะอีก”

“ไม่ได้หรอกครับ โอ๋มากเดี๋ยวจะเหลิงไปกันใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจูน้องรักของคุณหลิง”

“แหมเฮีย...บางทีคนเราก็ต้องการคำชมนะคะ เฮียทำอย่างนี้สงสารอาจู อุตส่าห์สอบติดหมอ คำชมสักนิดก็ไม่มี”

“อ้าว...นี่ลื้องอนเถ้าแก่แทนอาจูด้วยอีกคนเหรอ”

ทรงวาดหัวเราะชอบใจ ฮกไช้พลอยขำไปด้วยก่อนเปลี่ยนไปเรื่องถามถึงกิจการโรงสีข้าว

“เออ...แล้วช่วงนี้การค้าเป็นยังไงบ้างครับเถ้าแก่เสือ”

“ดีมากครับ...ลูกค้าเพิ่มขึ้น กำไรก็เพิ่มขึ้นเท่าตัว ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีดีที่สุดในชีวิตอั๊วเลยก็ว่าได้ ทุกอย่างสงบเรียบร้อย มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาจนอั๊วอยากจะให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป...”

ooooooo

ความปรารถนาของทรงวาดคงไปไม่ถึงสวรรค์เพราะไม่นานหลังจากนั้นเถ้าแก่เสือของคนละแวกเยาวราชก็ต้องลำบากใจเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลง สถานะของการันต์กับชาญยุทธเริ่มไม่มั่นคง สองพ่อลูกจึงต้องระดมทุนสร้างฐานอำนาจของตนให้ผงาดอีกครั้ง

ทรงวาดถูกชาญยุทธพี่ชายบุญธรรมนัดพบเพื่อแผนการสำคัญ “เราอยากได้ฝ่ายนั้นมาร่วมรัฐบาลคุณพ่อก็เลยต้องยอมเสียสละยกตำแหน่งให้ แล้วช่วงนี้เราลงทุนกับโรงงานสีไปเยอะมาก พี่กลัวว่าเงินที่หมุนเวียนอยู่มันจะไม่พอ”

“แล้วพี่อ้ายจะให้ผมทำยังไงครับ”

“เราจะเพิ่มค่าคุ้มครองอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์”

“ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เลยเหรอครับ มันเยอะมากนะครับพี่อ้าย ผมกลัวว่าจะเกิดปัญหา”

วิสูตรทหารคนสนิทของชาญยุทธช่วยเจ้านายพูดอีกแรง “แต่เราไม่ได้ขึ้นค่าคุ้มครองมาสิบกว่าปีแล้วนะครับคุณเสือ แล้วหลายปีมานี่รายได้ของทุกกลุ่มก็เพิ่มขึ้นมาก มันก็น่าจะสมเหตุสมผลอยู่นะครับ”

ทรงวาดมีสีหน้าหนักใจ ชาญยุทธเห็นใจแต่ยืนกรานตามความต้องการเดิม

“มันจำเป็นนะเสือ โรงงานที่สร้างใช้เงินมหาศาล ถ้าไม่ทำอย่างนี้แล้วเกิดฉุกเฉินอะไรขึ้นเราจะพังกันทั้งหมด”

พันเดชรอจังหวะนี้อยู่แล้ว เมื่อรู้แน่ชัดว่าการันต์รัฐมนตรีใหญ่สละเก้าอี้ตำแหน่งให้นักการเมืองหน้าใหม่เพื่อรักษาฐานอำนาจให้พรรคตนเองกับลูกชายจึงฉวยโอกาสนี้หาทางแทรกซึม

ทรงวาดหรือเสือลืมเรื่องพันเดชไปเลยเพราะมีเรื่องต้องคิดมากกว่าคือจะเจรจากับบรรดาแก๊งในเยาวราชอย่างไรเพราะประเด็นการปรับขึ้นเปอร์เซ็นต์ค่าคุ้มครองไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ฮุ่ยเซี้ยงเป็นคนแรกที่เดือดเนื้อร้อนใจกับเรื่องนี้

“มันจะขูดเลือดขูดเนื้อกันมากไปแล้วโว้ย”

เม่งฮงก็ไม่ชอบใจการขึ้นเปอร์เซ็นต์ค่าคุ้มครองแต่ไม่คิดขัดขืนให้ตัวเองเดือดร้อน

“อั๊วก็แค้นใจพวกมันแต่จะให้ทำยังไงได้ อิทธิพลของนายไม่ใช่น้อยๆ ใครที่ขัดใจมันไม่เคยมีบั้นปลายที่ดีสักคน”

“แล้วเราต้องเป็นเบี้ยล่างมันไปตลอดเหรอ มันเป็นใครอั๊วยังไม่รู้แต่ต้องจ่ายเงินให้มันมายี่สิบกว่าปีแล้ว”

“ถือว่าให้หมามันกินแล้วกันตั่วเฮีย ยังไงเราก็จ่ายได้ แค่ขาดทุนกำไรเท่านั้นแหละ”

ฮุ่ยเซี้ยงไม่เห็นด้วยเพราะผลประโยชน์ที่ต้องเสียเพิ่มขึ้นไม่ใช่น้อย “อั๊วไม่รู้ว่านายเป็นใคร ลื้อก็ไม่รู้ เพียงแต่เวลาเรามีเรื่องเดือดร้อนมันช่วยจัดการให้ก็เท่านั้นเอง แล้วเราจะแน่ใจได้ยังไงว่าตอนนี้นายยังมีอำนาจเหมือนเดิม”

“เฮียหมายความว่าไง”

“เชื่ออั๊ว...เราจะไม่ยอมให้มันมากไปกว่านี้อีกแล้ว”

เม่งฮงลังเลเพราะไม่เคยหือกับนาย ฮุ่ยเซี้ยงที่เก็บกดมานานรีบยุเพราะกลัวหุ้นส่วนใหญ่เปลี่ยนใจ

“ลองงัดกับมันดูสักตั้ง ลื้อก็ผ่านคมหอกคมดาบมาทั้งชีวิต ทำไมต้องก้มหัวให้ไอ้คนที่ไม่เคยเห็นหน้าด้วยวะ...”

ooooooo

ผลการกระด้างกระเดื่องทำให้บ่อนของแก๊งหกห้องถูกไฟไหม้ เม่งฮงกับฮุ่ยเซี้ยงประสาทเสียมากเพราะความเสียหายมากกว่าที่คิด วิสูตรซึ่งรับคำสั่งชาญยุทธมาสั่งสอนแก๊งหกห้องได้แต่เฝ้ามองบ่อนไฟไหม้ด้วยแววตานิ่งสงบ

“ไปแจ้งดับเพลิงแล้วก็ป่าวประกาศให้คนแถวนี้รู้ตัวว่าไฟไหม้ จะได้หนีกันออกมาทัน”

“ทำไมล่ะครับ เราอุตส่าห์วางเพลิงแล้วไปช่วยพวกมันทำไม” ลูกน้องสงสัย

“คุณชาญยุทธต้องการสั่งสอนเบาๆ มากเกินไปจะกระเทือนถึงบารมีท่าน แค่นี้พวกมันก็จำไปจนวันตายแล้ว”

ทรงวาดหรือเสือรู้โดยไม่ต้องถามใครว่าเหตุไฟไหม้บ่อนของแก๊งหกห้องเป็นฝีมือชาญยุทธจึงบุกไปถามหาเหตุผลเพราะกลัวเรื่องลุกลามทำให้เยาวราชไม่สงบเหมือนเดิม

“ทำไมต้องทำขนาดนั้นด้วย รู้ไหมเมื่อคืนเกือบมีคนตาย”

วิสูตรรับหน้าแทนชาญยุทธ พยายามอธิบายว่าทำตามกฎการคุ้มครอง

“มันจำเป็นครับ ถ้าเรายอมให้คนที่ไม่จ่ายส่วยลอยนวลอยู่ได้ก็ต้องมีรายอื่นแข็งข้ออีก ผมเลยต้องตัดไฟแต่ต้นลม แต่เมื่อคืนผมก็ยั้งมือแล้วนะครับ คุณเสือก็ทราบว่าถ้าผมเอาจริง ตายกันหมดบ่อนแล้ว...ไม่ใช่แค่เกือบ”

“พี่อ้ายอยู่ไหน ฉันต้องการคุยกับพี่อ้าย”

ชาญยุทธแอบได้ยินตั้งแต่ต้นปรากฏตัวทันทีที่ได้ยินเสียงโวยวายของน้องชายบุญธรรม

“วิสูตรพูดแทนพี่ไปหมดแล้ว คงไม่จำเป็นต้องคุยเรื่องนี้กันแล้วล่ะเสือ”

“ผมกำลังหาทางกล่อมให้อาเจ็กจ่ายเงินเพิ่มอยู่ พี่อ้ายไม่น่าใจร้อนเลย”

“วงการนี้กฎต้องเป็นกฎ พี่ทำแค่นี้ถือว่าเห็นแก่เสือมากแล้วนะ จำไว้นะ...เสือเป็นน้องพี่ พวกเขาก็แค่ผูกพันทางสายเลือดและก็เพราะพวกเขาเสือถึงไม่ได้เป็นนายร้อยตำรวจ เพราะฉะนั้นเสือกับพวกเขาไม่ได้มีบุญคุณอะไรต่อกันอีกแล้ว ตรงข้ามพวกเขาเป็นคนที่อยู่ใต้อำนาจของเรา...มองให้ทะลุอย่างพี่สิเสือ”

พูดจบก็ผละไป ทิ้งทรงวาดกำหมัดแน่น วิสูตรมองมาด้วยความเห็นใจ “ผมเข้าใจคุณเสือนะครับแต่คุณเสือเหยียบเรือสองแคมไม่ได้หรอกครับ เลือกอยู่ฝ่ายท่านกับคุณอ้ายดีกว่ายังไงก็ได้ประโยชน์มากกว่าเห็นๆ”

ooooooo

เม่งฮงไม่รู้เรื่องทรงวาดมีส่วนรู้เห็นการปรับขึ้นเปอร์เซ็นต์ค่าคุ้มครอง เรื่องไฟไหม้บ่อน มัวทะเลาะกับฮุ่ยเซี้ยงอย่างรุนแรงลั่นโรงน้ำชาเพราะหัวเสียเรื่องบ่อนไฟไหม้

“อั๊วไม่น่าเชื่อตั่วเฮียเลย จ่ายไปก็จบเหมือนที่แล้วมา นี่เสียทั้งบ่อนทั้งเงินแล้วคนของเรายังถูกตำรวจจับไปอีก”

“ลื้อมันแก่แล้วจริงๆอาฮง พวกเราผาดโผนกันมากี่สิบปี เรื่องอะไรต้องยอมก้มหัวให้พวกมันด้วยวะ”

“ก็นี่ไงล่ะผลการไม่ยอม ยังเสียหายไม่พอเหรอ ตั่วเฮีย อยากให้แข็งข้ออั๊วก็ทำแล้ว ตั่วเฮียรับผิดชอบอะไรบ้าง”

“อาฮง...ไว้หน้าอั๊วบ้างเถอะ ต่อหน้าลูกน้องตั้งเยอะแยะ ไม่เห็นเหรอ”

“อั๊วไม่น่าโง่เชื่อตั่วเฮียเลยจริงๆ”

พูดจบก็ผลุนผลันจากไป ฮุ่ยเซี้ยงมองตามเครียดๆก่อนเรียกไต้เกียวมาสั่งให้แต่งงานกับเฮ้งเตี๋ยงเร็วที่สุด

ไต้เกียวโวยวายไม่ยอม “แล้วทำไมต้องมาลงที่อั๊วด้วยล่ะอาแปะ บ่อนถูกเผาไม่ใช่ฝีมืออั๊วซะหน่อย”

“อั๊วรู้ แต่มันไม่มีทางเลือกแล้วนอกจากให้ลื้อแต่งงานกับอาเตี๋ยง อาฮงเล่นด่าอั๊วต่อหน้าลูกน้องจนอั๊วอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ทางเดียวที่จะกอบกู้ฐานะอั๊วได้ก็คืออั๊วต้องเป็นอาแปะของเมียลูกชายมัน”

“แต่อั๊วไม่ชอบไอ้เตี๋ยง มันโง่ขนาดนั้นจะอยู่กันเข้าไปได้ยังไง แค่ยอมหมั้นด้วยก็บุญของมันเท่าไหร่แล้ว”

“ยังไงก็หมั้นกันแล้วน่า ช้าเร็วก็ต้องแต่งอยู่ดีถือซะว่าช่วยอาแปะก็แล้วกันนะอาไต้เกียว”

ฮุ่ยเซี้ยงหว่านล้อมหลานสาวเพื่อผลประโยชน์และสายสัมพันธ์แบบพี่น้องร่วมสาบานกับเม่งฮง ไต้เกียวไม่เต็มใจแต่ขัดลุงไม่ได้ “แล้วอาแปะจะยอมอยู่ใต้เจ็กฮงไปตลอดชีวิตอย่างนี้น่ะเหรอ อั๊วไม่เข้าใจ...มันฉีกหน้าอาแปะขนาดนี้แทนที่อาแปะจะแตกหักกลับยอมก้มหัวให้มันอยู่ได้”

“อั๊วกับอาฮงก็เหมือนตะเกียบคู่หนึ่ง ขาดใครคนใดคนหนึ่งไปอีกคนก็เหมือนตะเกียบที่เหลือข้างเดียวคีบของอะไรไม่ได้ อั๊วถึงต้องยอมอ่อนข้อให้อย่างนี้ไง”

“คีบไม่ได้ก็จิ้มกินไปเลยสิ”

“มันกินได้ทุกอย่างซะเมื่อไหร่ ลื้อก็รู้อยู่แก่ใจ อย่าเอาแต่โมโหสิ”

ไต้เกียวสะบัดหน้าหนี คร้านจะบอกลุงว่าเรื่องแต่งงานระหว่างตนกับเฮ้งเตี๋ยงคงเป็นไปไม่ได้แต่มีหรือฮุ่ยเซี้ยงจะฟัง พยายามหลอกล่อหลานสาวคนเดียวด้วยคำพูดหวานหู

“เชื่ออาแปะนะอาไต้เกียว อาแปะเลี้ยงลื้อมาไม่ทำร้ายลื้อหรอก แต่งงานกับอาเตี๋ยงซะแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”

ooooooo

แม้จะกลุ้มใจเรื่องปรับขึ้นค่าคุ้มครองของการันต์กับชาญยุทธแต่ทรงวาดก็ไม่ลืมเลี้ยงฉลองให้ปิ่นมุกกับก๊กไช้ เมื่อสองหนุ่มสาวในอุปการะกลับถึงบ้านก็ต้องตื่นตะลึงกับอาหารเหลามากมายที่ทรงวาดเตรียมไว้

ทิเหล็งเห็นปิ่นมุกกับก๊กไช้ทำหน้างงก็เฉลยยิ้มๆ

“เถ้าแก่อีปากแข็ง ถึงปากไม่พูดอะไรแต่คนดีใจที่สุดที่พวกลื้อสอบได้ก็คือเถ้าแก่นี่แหละ”

ป่วยซังกับสุเทพมีของขวัญให้ปิ่นมุกกับก๊กไช้

ทิเหล็งได้แต่มองตามเศร้าๆเมื่อได้ยินว่าป่วยซังกับสุเทพช่วยกันเลือกของขวัญ ปิ่นมุกกับก๊กไช้ไม่ทันสังเกตท่าทางทิเหล็ง มัวตื่นเต้นกับของขวัญในมือทรงวาด

“พวกลื้อทำดีอั๊วจะไม่มีรางวัลให้ได้ยังไงล่ะ เป็นนักศึกษาแล้วต้องตั้งใจเรียนแล้วก็มีความรับผิดชอบให้มากกว่าเดิมนะ จบเมื่อไหร่จะได้มีงานดีๆทำ เป็นที่พึ่งให้อาม่ากับอาเหล็งต่อไป”

จบคำทรงวาดก็สวมสร้อยพระเลี่ยมทองคำให้ก๊กไช้ ส่วนปิ่นมุกเขาบอกให้รวบผมแล้วจัดการมวยให้เองกับมือก่อนปักปิ่นทองคำประดับมุกให้ กิริยาอ่อนโยนของทรงวาดทำให้ปิ่นมุกเขินจัด ต่างจากก๊กไช้ที่แอบชอบปิ่นมุกโดยไม่รู้ตัวรู้สึกแปลกๆ...เหมือนกับว่าทรงวาดกับปิ่นมุกมีบางอย่างต่อกัน

ปิ่นมุกจับอารมณ์เครียดลึกๆของทรงวาดได้ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มยินดีกับการสอบได้ของเธอกับก๊กไช้ ผู้อุปการะหนุ่มกลับมีแววตาเศร้าหมอง หญิงสาวไม่รอช้าหาโอกาสคุยด้วย

ทรงวาดเห็นสภาพปิ่นมุกในชุดนอนก็อดกระเซ้าขำๆไม่ได้

“ไม่ปักปิ่นที่อั๊วให้แล้วเหรอ”

ปิ่นมุกหน้ายู่ที่โดนล้อ “ของแพงอย่างนั้นขืนใส่เดินไปเดินมาก็คนบ้าแล้วเฮีย ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยอั๊วรู้นะว่าเฮียมีเรื่องไม่สบายใจ...เรื่องไฟไหม้บ่อนอาเจ็กเฮียล่ะสิ”

“ใช่...แต่ที่อั๊วกลุ้มเพราะคนที่วางเพลิงคือพี่อ้าย”

“อ้าว...ทำไมล่ะ โกรธอะไรกันเหรอ”

“พี่อ้ายสั่งขึ้นค่าคุ้มครองแต่อาเจ็กไม่ยอมจ่ายก็เลยเผาบ่อนเป็นการสั่งสอน”

ว่าที่นักศึกษาแพทย์สาวปะติดปะต่อเรื่องได้ทันที “ไม่น่าล่ะ...เฮียเป็นคนกลางเลยกลุ้มใจ เอ๊ะ...แต่อาเจ็กเฮียไม่รู้นี่ว่าพ่อกับพี่บุญธรรมเฮียมีเบื้องหลังอะไร ยังงี้ก็คงไม่มากดดันอะไรเฮียหรอก”

ทรงวาดส่ายหน้า ถอนใจหนักหน่วง “แต่อั๊วก็อดกลุ้มใจไม่ได้อยู่ดี พี่อ้ายกับคุณพ่อไม่ได้คิดว่าอาเจ็กเป็นญาติอั๊วหรอกนะ คิดแค่ว่าเป็นเบี้ยคอยหาเงินให้ใช้เท่านั้นเอง ถ้าวันนึงอาเจ็กกระด้างกระเดื่องอีกหรือหมดประโยชน์แล้วก็คงถูกเขี่ยทิ้ง ถึงวันนั้นอั๊วไม่รู้จะทำยังไงเลย ฝ่ายนึงก็ญาติฝ่ายนึงก็ผู้มีพระคุณ”

ท่าทางหนักใจของทรงวาดทำให้ปิ่นมุกสงสาร เอื้อมไปจับมือเขาไว้เพื่อปลอบใจ

“เฮียมีอั๊ว มีทุกคน...เฮียไม่ต้องกลัวหรอกนะไม่ว่าเฮียจะตัดสินใจยังไงพวกอั๊วก็จะอยู่ข้างเดียวกับเฮียอยู่แล้ว”

ทรงวาดอึ้งเล็กน้อยก่อนตบมือเธอตอบเบาๆซึมซับความห่วงใยที่เธอส่งมาให้ โดยไม่รู้เลยว่าก๊กไช้แอบมองตามทั้งสองคนห่างๆ มั่นใจแล้วนาทีนี้ว่าทรงวาดกับปิ่นมุกมีใจให้กัน...

ooooooo

อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 3 วันที่ 18 พ.ย.61

ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร บทประพันธ์โดย ปราณธร
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร บทโทรทัศน์โด: บทกร
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ