อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 9 วันที่ 18 พ.ย.61

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 9 วันที่ 18 พ.ย.61

กำนันพงษ์แค้นผีที่เรือนจางวางพ่วง คืนนี้จะมาเผาเรือนเอาหมอผีมามาสาปส่งวิญญาณให้เป็นผีเร่ร่อน หมอผีตั้งปะรำพิธีเสร็จเริ่มบริกรรมคาถา ก็มีเสียงวงปี่พาทย์ดังมาจากในเรือน ทุกคนมองหน้ากันอึ้ง

ครู่หนึ่งก็ปรากฏลูกไฟขนาดใหญ่ล้อมพวกผีจางวางที่ตั้งวงเล่นกันบนเรือน ทั้งหมดถูกเผาด้วยไฟอาคมร้องกันโหยหวน เสียงหมอผีบริกรรมคาถา ปนกับเสียงปี่เสียงหวีดร้องระงมไปทั่ว

ผีพิกุลเห็นพ่อแม่และลูกวงถูกไฟไหม้ก็จะเข้าไปช่วยแต่ฝ่าแนวไฟไปไม่ได้จึงเป่าปี่สู้แต่ถูกกลุ่มวิญญาณชั่วร้ายตรึงไว้แล้วจะลากเข้าแนวไฟที่กั้นอยู่ ผีจางวาง เพียร สุดและอ่ำพยายามจะช่วยพิกุลแต่ฝ่าแนวไฟออกไปไม่ได้ ทั้งหมดจึงได้แต่หวีดร้องโหยหวนด้วยความทรมาน



ที่บ้านเดชาพัฒนาในกรุงเทพฯ ซึ่งก็คือบ้านของเจ้าคุณพิชัยในอดีตชาติ ทุกคนเกิดใหม่ในครอบครัวเดียวกัน เจ้าคุณพิชัยคือพิชิตชัย คุณหญิงเกสรคือคุณเกสร และหลวงราชคือนิราศในปัจจุบัน

ขณะนิราศนั่งฟังเพลงฝรั่งอยู่ในห้องทำงาน สมคิดซึ่งก็คือมุดเอาจดหมายสนเท่ห์มาให้ บอกว่าเกี่ยวกับที่ดินที่สุพรรณฯ นิราศหยิบรูปมาวางถามว่าที่ดินผืนนี้หรือ สมคิดบอกว่าใช่ ดูเหมือนเราจะถูกกำนันพงษ์โกงไป

ที่หน้าบ้านจางวาง ขณะที่พวกกำนันพงษ์ในปะรำพิธีเอามือปิดหูหวาดกลัวเสียงร้องนั้น จู่ๆเครื่องเซ่นไหว้บนโต๊ะก็ถูกเตะเกลื่อนกระจาย หมอผีหยุดบริกรรมคาถา และเสียงร้องโหยหวนก็เงียบไป

กำนันพงษ์ได้สติมองไปที่คนทำลายพิธี เห็นเป็นชายหนุ่มก็แปลกใจว่าเป็นใคร

นิราศนั่นเอง เขาถูกกำนันชี้หน้าถามว่า “มึงเป็นใคร กล้าทำลายพิธีกูฉิบหายอย่างนี้หรือ”

นิราศถามว่าพวกแกเข้ามาทำอะไรที่นี่ กำนันอ้างว่าเป็นที่ของตน นิราศถามว่าแน่ใจหรือว่าเป็นที่ของกำนันไม่ใช่ที่วัด กำนันหัวเราะเยาะไล่ให้ออกไปเสียดีๆ มาทำตนเสียเวลาชำระแค้นอีผีบ้านผีเรือนพอแล้ว

นิราศเยาะเย้ยว่าคร่ำครึ เป็นกำนันน่าจะพาลูกบ้านเข้าวัดไม่ใช่มากราบไหว้หมอผีอย่างนี้ไม่เข้าท่า

กำนันพงษ์สั่งลูกน้องให้ลากนิราศออกไปสั่งสอนให้รู้ว่าปากพล่อยกับตนแล้วเป็นยังไง นิราศถูกเล่นงานจนสะบักสะบอมแล้วลากไปฟุบแทบเท้ากำนัน กำนันสั่งให้เอาขึ้นไปเผามันทั้งเรือนทั้งคนอย่าให้เหลือแม้แต่ซาก!

ในภาวะจะถูกเผาทั้งเป็นนี้ ผีพิกุลก็มาช่วยไว้ นิราศได้ยินเสียงเรียกแผ่วเบา

“คุณยศ...คุณยศ...”

นิราศสงสัยแต่ก็อ่อนแรงเกินกว่าจะลุกขึ้นดูฟุบลงไปอีก ในความรู้สึกที่เลือนรางเขาถูกยกขึ้นพาดบ่าเห็นเพียงสไบไหวๆผ่านสายตา

รุ่งขึ้นจึงรู้ว่าตนพักอยู่ในบ้านของสินธรหรือสินในอดีตชาติ สินธรเตือนว่าอย่ากลับไปที่บ้านหลังนั้นอีก นิราศจะให้เงินสินธรตอบแทนที่ช่วยตน สินธรไม่รับ เขาจึงส่งนามบัตรให้ สินธรยื่นมือจะรับ นิราศคิดว่ารับแล้วจึงปล่อยมือ นามบัตรร่วงลงพื้น เมื่อนิราศเดินไป สินธรใช้เท้าเขี่ยนามบัตร รู้สึกสะดุดตาจึงหยิบดู

“นิราศ เดชาชาญ ผู้จัดการใหญ่บริษัทน้ำตาลสยาม” สินธรอ่านแล้วนึกออกพึมพำ... “ไอ้นี่นี่เอง”

ooooooo

นิราศกลับไปที่เรือนจางวางพ่วงอีก ไปมองจุดที่เห็นพิกุลเมื่อคืนแต่ไม่เห็นอะไรแล้ว แปลกใจว่าไม่มีใครอยู่จริงๆ แต่ที่แท้อ่ำยืนมองอยู่หลังเสา และจางวางพ่วง เพียร สุดก็ยืนมองเขาอยู่เป็นตาเดียว

นิราศได้ยินเสียงดังจากห้องหนึ่งจึงเดินไป

เห็นเงาผ่านไปวูบหนึ่ง ตามไปดูเห็นพิกุลทัดดอกปีบนั่งหันหลังทำอะไรอยู่ นิราศกระแอมให้รู้ตัว พอพิกุลวางมือจากตัดใบตาลทำกำพรวดปี่ นิราศขอโทษ ถามว่าเข้าไปได้ไหม

เมื่อพิกุลอนุญาต นิราศเข้าไปขอบคุณที่ช่วยตนเมื่อคืนนี้ นิราศมองสไบพิกุลอย่างจำได้ พิกุลรู้ตัวหันมาสบตาแว่บหนึ่งถามว่าไม่คุ้นหรือเจ้าคะ

นิราศยิ้มให้เห็นมีดกำลังจะบาดนิ้วพิกุลร้องบอกให้ระวัง แต่พิกุลเหมือนตั้งใจให้มีดบาด นิราศรู้สึกผิดที่ชวนคุยทำให้มีดบาดมือ แต่พิกุลพูดเป็นนัยว่า

“แผลเท่านี้ไม่นานก็หาย...แต่แผลที่เจ็บลึกทั้งที่ไม่มีบาดแผลนั้น เกินรักษาเยียวยา”

“ไม่มีแผลแล้วเจ็บอย่างไร” นิราศงง พิกุลไม่ตอบลุกเดินไป ดอกปีบที่ทัดร่วงลง นิราศเก็บขึ้นมามองเหมือนจำได้จึงขอเก็บไว้ พิกุลนิ่งเขาจึงส่งคืน แต่พิกุลบอกให้เก็บไว้เถิด นิราศเอาผ้าเช็ดหน้าห่อเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ ก็พอดีพิกุลบอกว่ามีคนมาตามเขาแล้ว

สมคิดนั่นเอง นิราศถามพิกุลว่าตนจะขอกลับมาที่นี่อีกได้ไหม พิกุลตอบว่า “อย่างไรก็ต้องกลับมาเจ้าค่ะ” นิราศเดินลงเรือนไปอย่างอาลัยอาวรณ์ พิกุลตัดใบตาลต่อ ใบมีดที่วาววับสะท้อนสีหน้าพิกุลที่น่าสะพรึง!

นิราศลงเรือนมาแปลกใจว่าทำไมสมคิดรู้ว่าตนมาที่นี่ สมคิดบอกว่าดูจากจดหมายสนเท่ห์ ถามว่าแล้วเรื่องที่ดินเป็นอย่างที่จดหมายว่าไว้หรือเปล่า นิราศบอกว่านั่นเป็นเรื่องที่สมคิดต้องทำให้ชัดเจน แต่สิ่งที่กำนันทำกับตนมันก็เข้าเค้า

สมคิดว่าถ้าอย่างนั้นตนจะทวงเงินมัดจำคืน นิราศว่าตนไม่เสียดายเงินเท่ากับความถูกต้อง ถ้าพิสูจน์ว่ากำนันโกงที่วัดจริงตนก็ต้องตัดใจคืนที่ดินตรงนี้ให้เป็นของวัดตามเดิม

สมคิดถามว่าจะให้ตนหาที่ริมน้ำเผื่อไว้ไหม ถ้าอยากได้เรือนสวยๆก็จะหาช่างปรุงเรือนให้

“ไม่ใช่แค่ตัวเรือนหลังนี้หรอกสมคิด” นิราศบอกยิ้มๆ สมคิดสงสัยว่าถ้าไม่ใช่แค่เรือนแล้วคืออะไร?

พิกุลมองจากบนเรือนเห็นนิราศยังคุยกับสมคิด เพียรถามพิกุลว่าคอยคุณหลวงเพียงเพื่อแก้แค้นรึ

“ฉันเพียงแต่จะทำให้เขาระลึกได้ว่าทำระยำอะไรกับพวกเราไว้ วันใดที่เขารู้ ฉันก็ขอให้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีย้อนไปทำร้ายเขาอีกร้อยเท่าพันเท่า ขอให้เขาไม่แม้แต่จะให้อภัยตัวเอง ฉันจะรอวันนั้น...วันที่เขาทำได้แค่สาปส่งตัวเองลงนรก ขอให้คำแก้ตัวของเขาไม่มีความหมายต่อหน้ายมบาลแม้สักคำเดียว”

“เอ็งไม่หมายจะอโหสิกรรมต่อกันรึ”

“ไม่มีวัน...ไม่มีวันจ้ะแม่” พิกุลตอบเสียงเย็นเยียบ

ooooooo

ฝ่ายทิพย์เกสรแม่ของนิราศ ชิมชาตัวใหม่ที่นิราศสั่งมาจากอังกฤษที่เอียดชงให้ ชมว่าช่างเลือกได้ถูกใจแม่ ขณะนั้นสาวใช้อีกคนเข้ามารายงานว่าพยาบาลที่คุณนิราศแนะนำมาขอพบ

แต่พอเห็นนิสาหรืออดีตชาติคือสารภีที่เข้ามา สีหน้าทิพย์เกสรก็เปลี่ยนจากยิ้มเป็นเย็นชาทันที ไม่แม้แต่จะรับไหว้ แต่พอประสานสายตากันทิพย์เกสรก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ เหงื่อแตก หายใจเร็ว ร้องถามว่าใครเหยียบอกฉัน นิสาเข้าประคองรู้ว่าอาการเกี่ยวกับโรคหัวใจถามหาแอสไพรินและให้เรียกรถพยาบาลทันที

นิราศตามไปที่โรงพยาบาลเจอนิสา เธอบอกว่าคุณป้าอาการดีขึ้นแล้ว นิราศบอกว่าถ้าไม่ได้นิสา เอียดก็คงทำอะไรไม่ถูก ตนจึงอยากให้นิสามาช่วยดูแลคุณแม่ นิสายินดีที่จะได้ดูแลเพราะคุณป้าส่งเสียตนเรียนจนจบ ถึงโอกาสที่ตนจะตอบแทนแล้ว นิราศขออย่าถือเป็นบุญคุณเลยเพราะเป็นสิ่งที่ครอบครัวตนต้องรับผิดชอบ

นิสาว่าเรื่องผ่านมานานแล้วและมันก็เป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น นิราศบอกว่าตนจะลืมได้ยังไงเราผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันอย่างนั้น นิสายิ้มปลอบใจว่าแต่เราก็ผ่านมันมาแล้ว...

ooooooo

ก้านพาลูกน้องกำนันไปเรือนจางวางพ่วงร้องท้าว่ากูจะเผาเรือนมึงให้ได้ แต่ลูกน้องต่างหวาดๆ ก้านจึงคว้าถังน้ำมันไปราดรอบเรือนจุดไม้ขีดจะเผา แต่จุดกี่ครั้งก็ถูกอ่ำเป่าดับจนไม้ขีดหมดกลัก

ก้านร้องบอกลูกน้องให้เอาไม้ขีดมาให้อีก

แต่พอไม้ขีดยื่นมาตรงหน้า ก้านเห็นแต่มือไม่มีแขน ก้านช็อกทิ้งไม้ขีดวิ่งหนีแต่ประตูเปิดออกไม่ได้ ก้านล้วงพระที่ห้อยคอออกมาอาราธนาให้พระช่วย พลันเสียงระนาดก็ดังขึ้น ก้านหันมองเห็นอ่ำนั่งรัวระนาดจนก้านกำพระเครื่องไว้แน่น สุดโผล่มาบอกว่า “พระท่านไม่อยู่กับคนเลวๆเยี่ยงมึง”

พระเครื่องของก้านถูกเหวี่ยงมาตกบนพุ่มไม้ตรงหน้ากลุ่มลูกน้องกำนันที่รออยู่ ทุกคนมองหน้ากันอย่างสยองในความเฮี้ยนของเรือน ต่างมองที่เรือนอย่างเป็นห่วงก้าน

จางวางพ่วงจับก้านเอาหัวโขกเสาถี่ๆแข่งกับเสียงระนาดที่รัวจนก้านเลือดท่วมแล้วปล่อย ปรามว่า

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 9 วันที่ 18 พ.ย.61

ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทประพันธ์โดย เสน่ห์ โกมารชุน
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทโทรทัศน์โดย บลูลาวา
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ที่มา ไทยรัฐ