อ่านละคร รักพลิกล็อก ตอนที่ 5 วันที่ 24 พ.ย.61
พาทิศยิ้มเปลี่ยนจากบีบจมูกเป็นบิดจมูกถามอย่างเอ็นดูว่า“ทีนี้บอกผมได้ยัง คุณโกหกอะไร ทำไมต้องสะอึก หรือคุณไม่ได้มาบ้านผมเพราะเรื่องพาย”
นวียาเอะอะทั้งที่ยังอู้อี้ว่าตนมาเพราะพายป่วยจริงๆ ขู่ว่าจะฟ้องพายว่าเขาทำร้ายร่างกาย พาทิศงงถามว่าก็เธอตะโกนเรียกตนให้มาช่วยเอง นวียาสะอึกขึ้นมาอีกบอกว่าตนไม่ได้เรียก พอพาทิศยืนยันว่าเรียก ก็เสียงอ่อยว่า
“ก็เพื่อนบอกว่าให้เรียกคนที่นึกถึงเป็นคนแรกจะได้หายสะอึก” พาทิศดักคอว่าแสดงว่าเธอคิดถึงตนเป็นคนแรก นวียารีบบอกว่านึกถึงไม่ใช่คิดถึง แล้วจะเลี่ยงไปเพราะเขิน พาทิศไม่ให้ไป บอกให้ช่วยหากล่องสีเมจิกให้พายหน่อย นวียาเลยช่วยหา ก้มหัวหาในเก๊ะเดียวกันหัวเลยชนกันโป๊ก ต่างคลำหัวแล้วขำกันเอง
ooooooo
กิตติพัศถูกโทร.ให้ไปที่คอกม้าแต่เช้า คนงานบอกข่าวร้ายว่าจูเลียตตายไปตั้งแต่รุ่งสาง โรมิโอมันเลยพยศใหญ่ ตนเลยต้องโทร.ตามคุณกิต
กิตติพัศเดินไปตบคอและไหล่ของโรมิโอ พูดอย่างเข้าใจว่า
“แกคงเศร้ามากสินะ...ฉันรู้ว่าแกเสียใจ แต่เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปนะโรมิโอ แล้วฉันจะอยู่ข้างๆแก ผ่านมันไปพร้อมกับแก”
“คุณกิตครับ มีคนเอาของมาฝากครับ” คนงานอีกคนเข้ามาพร้อมกับกล่อง กิตติพัศรับกล่องแล้วเปิดดูเห็นเฮดโฟนกับแผ่นซีดีเขียนไว้ว่า
“ไว้ฟังเพลง...เงียบๆ...ด้วยกันนะคะ...ศรุดา”
กิตติพัศดูแล้วยิ้ม เขาเปิดเพลงให้โรมิโอที่กำลังเศร้าฟัง พร้อมกับโทร.หาศรุดา พอศรุดาได้รับโทรศัพท์ก็ถามทันทีว่า
“ได้รับแล้วเหรอคะ”
“ครับ เสียงเปียโนคุณช่วยชีวิตโรมิโอไว้นะ”
“โรมิโอ?”
“อ๋อ...ม้าน่ะครับ จูเลียตคู่มันเพิ่งตาย มันเลยซึมทั้งวัน พอผมเปิดเพลงคุณให้ฟัง มันดูอารมณ์ดีขึ้น” ศรุดาปิดลิ้นชักปึง ถามเสียงกระด้าง
“นี่คุณปลอบใจม้าด้วยเสียงเปียโนของฉันเนี่ยนะ?” กิตติพัศบอกว่าตนไม่รู้จะปลอบใจมันอย่างไรที่เสียคู่รักไป “คุณก็เลยเอาเพลงที่ฉันให้คุณไปเปิดให้ม้าฟังแทน”
“ครับ ถ้าไม่ได้คุณ เจ้าโรมิโอกับผมคงต้องแย่แน่ๆ”
ขณะคุยโทรศัพท์ ศรุดาเจอกล่องใบหนึ่ง เปิดดูมีจรวดที่เขียนชื่อพาทิศ มีภาพเธอกับพาทิศสมัยเรียน มีภาพเธอในชุดเจ้าสาวกับฝรั่งคนหนึ่ง ได้ยินเสียงกิตติพัศอ่อนหวานมาว่า
“เพื่อเป็นการตอบแทน ขอพาคุณไปเลี้ยงดินเนอร์นะครับ...”
“ถ้าคุณไม่กลัวอึดอัด วันนี้ดานัดปิ่นปาร์ตี้ไฮทีพอดี”
“งั้นผมไปรับนะครับ”
ศรุดายิ้ม เปิดกล่องปิดลิ้นชักเก็บไว้ตามเดิม
ooooooo
ฝ่ายนวียากับพาทิศก็ตั้งหน้าตั้งตาหากล่องสีให้พาย นวียารื้อที่ลิ้นชักหนึ่ง เจอกล่องเหล็กเก่าๆกล่องหนึ่ง ในนั้นมีรูปคู่กับสมุดบันทึก การ์ดและของขวัญชิ้นเล็กๆเป็นกล่องความจำของพาทิศกับศรุดาในอดีตนั่นเอง
แว่บหนึ่งที่เห็น นวียาเม้มปาก ก็พอดีเสียงพาทิศร้องบอกว่า
“ผมเจอกล่องสีของพายแล้ว”
พาทิศถือกล่องสีออกมา เห็นหลังนวียาเดินออกไป เขามองที่เก๊ะ เห็นกล่องเก่าๆใบนั้นก็ซึมไป
ooooooo
นวียาไปหาโค้ชยักษ์ที่ร้าน ดูรูปตัวเองสมัยหัดขี่ม้าใหม่ๆกับม้าตัวเก่า ถามโค้ชว่าจริงไหมที่ว่าขี่ม้าตัวไหนก็ไม่รู้สึกพิเศษเท่าม้าตัวแรก โค้ชบอกว่ามันก็พิเศษพอๆกับม้าที่เราตกตัวแรกนั่นแหละ
“แล้วถ้าม้าตัวแรกกับม้าที่ทำเราตกเป็นตัวเดียวกันล่ะ” โค้ชบอกว่างั้นก็คงเป็นความทรงจำที่ลืมไม่ลง นวียาถามว่าลืมไม่ลงเลยเหรอ...
“การลืมไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าเราก้าวต่อไปไม่ได้”
“แล้วถ้าเจ้าของคนนั้น...เขาไม่พร้อมจะก้าวต่อไปล่ะ”
“ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ขนาดชาเกิน 10 นาทีรสชาติก็เปลี่ยนแล้ว นับประสาอะไรกับจิตใจของสิ่งมีชีวิต” โค้ชจิบชาแล้วเทชาทิ้งหมด จากนั้นชงใหม่อย่างตั้งใจ...เทน้ำร้อนลงไป “ต้องอาศัยการปรับตัว พลังใจ ความกล้า เพื่อสลัดความยึดติดที่เป็นสนิมเกาะกินใจ เมื่อม้าได้เห็นความทุ่มเทของเจ้าของคนใหม่ก็จะสร้างความเคยชินและสามารถเข้ากันได้ในที่สุด”
นวียาอึ้ง สีหน้าเหมือนได้คิด โค้ชถามว่า รู้อย่างนี้แล้วมีความมั่นใจพอจะควบม้าลงแข่งอีกครั้งหรือยัง นวียายิ้มเศร้า ส่ายหน้าแทนคำตอบ
“การปล่อยและให้อภัยตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย
คนเราทุกคนล้วนมีอดีตที่ยังก้าวข้ามไม่ได้ทั้งนั้น”
นวียาหันมองรูปตัวเองสมัยก่อน ที่เธอยืนคู่กับม้าตัวแรกที่ใช้ลงแข่ง
ooooooo
ฝ่ายกิตติพัศ คืนนี้ไปปาร์ตี้ไฮทีกับศรุดา น้ำหวานและปิ่นเพื่อนของศรุดา กิตติพัศเป็นหนุ่มพาเพลินตามเคย เล่าเรื่องให้สาวๆฟังอย่างออกรสว่า
“จากนั้น ถ้าเขาพูดกับคุณว่าขอขึ้นไปล้างหน้าหน่อยได้ไหมครับ แสดงว่าคุณเจอมุกหมาแก่เข้าให้แล้ว”
น้ำหวานบอกว่าหมาแก่ก็ไม่น่ากลัวเท่าหมาป่า ปิ่นหันมองกิตติพัศเชิงสำรวจ ศรุดาบอกว่าคนละคน แล้วลุกไปบอกว่าเดี๋ยวมา น้ำหวานถามว่าตั้งแต่ดากลับเมืองไทย คุณกิตแฮงเอาต์กับดาตลอดเลยเหรอ
เขาบอกว่าก็ถ้าดาว่างน่ะ ปิ่นขอบคุณที่เขาช่วยดูแลดา ถามว่าวีกหน้าว่างไหมมีเรื่องจะรบกวนหน่อย
ปิ่นบอกว่าวีกหน้าเป็นวันครบรอบแต่งงานของดากับเดวิดแต่พวกตนไม่ว่าง คิดว่าดาคงไม่พร้อมอยู่คนเดียวจึงฝากเขาช่วยเทกแคร์
กิตติพัศรับปากจะดูแลศรุดาให้เอง น้ำหวานมองจิก ขอกึ่งปรามว่า
“คุณกิตคะ ฉันขอพูดตรงๆนะ ดามันเจ็บมาเยอะ เห็นแกร่งๆแบบนี้ข้างในมันบอบบางมาก ถ้าคุณไม่ได้มาเพื่อช่วยรักษาแผล เราขอแค่อย่ามาสร้างแผลใหม่พอ”
ศรุดาเดินกลับมาเอากระเป๋า มองเพื่อนๆที่ทำหน้ามีพิรุธ ถามว่าเม้าท์ตนกันอยู่หรือเปล่า
“เม้าท์อะไร เราพูดถึงขั้นตอนพิฆาตมุกหมาแก่กันต่างหาก ใช่ไหมคะคุณกิต” น้ำหวานกลบเกลื่อนแล้วยิ้มหวานหยิบถ้วยชาขึ้นจิบอย่างสวย แต่จิกตาใส่กิตติพัศเป็นเชิงให้ระวังตัวไว้
ooooooo
วันนี้ขณะโซดากำลังออกกำลังกายก็ได้รับโทรศัพท์จากแอมชวนไปจตุจักรกัน พอวางสายจากแอมหันมาก็ตกใจเมื่อเห็นกิตติยายืนกอดอกรออยู่ ถามว่ามาเยี่ยมพี่นนเหรอ กิตติยาบอกว่าตั้งใจมาหาเธอนี่แหละ
กิตติยาบอกว่าอยากทำอะไรให้พี่นนมีความสุขก่อนวันสุดท้ายของเขาจะมาถึง โซดาบอกว่าพี่นนเขายังไม่ไปวันนี้พรุ่งนี้หรอก กิตติยายืนยันว่าอะไรมันก็ไม่แน่เราต้องทำชีวิตให้เหมือนวันสุดท้ายเสมอ
โซดาพึมพำว่าตนเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่นนถึงทนเธอไม่ได้ กิตติยาได้ยินแว่วๆถามว่าอะไรนะ
“อ๋อ...ฉันบอกว่าฉันพอจะเข้าใจแล้วว่าทำยังไงถึงจะช่วยเธอได้”
กิตติยาฟังแล้วยิ้มอย่างมีความหวัง ในขณะที่โซดาแอบถอนใจเฮือกใหญ่...
กิตติยาให้โซดาช่วยยกกล่องใหญ่ขนาดเครื่องซักผ้าเข้าไปตั้งกลางห้องที่กะว่าพี่นนไม่ต้องเดินไกลเดี๋ยวจะเหนื่อย โซดาดูนาฬิกาเป็นเวลา 13.30 น.
ตั้งเสร็จแล้วกิตติยาบอกให้โซดารีบไปตามพี่นนออกมา ตนจะได้เซอร์ไพรส์ แต่พอดีโทรศัพท์โซดาดังขึ้น โซดานึกขึ้นได้ว่านัดแอมไว้จึงเดินคุยโทรศัพท์ออกไป
โซดาหายไปจน 17.00 น. ก็เดินเหงื่อซ่กกลับมารีบเปิดแอร์ เห็นกล่องของขวัญยังตั้งอยู่ที่เดิมก็รีบเดินไปเปิดดู เห็นกิตติยาคุดคู้หลับเหงื่อไหลไคลย้อย รีบเอาแฟ้มมาพัดให้ มองกิตติยาพึมพำ
“ความรักทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งทำได้ถึงขนาดนี้เลยเนอะ”
ปรากฏว่ากิตติยามาเซอร์ไพรส์เก้อ โซดาบอกว่าพี่นนติดงานด่วน เธอมาเซอร์ไพรส์วันหลังก็แล้วกัน กิตติยาบอกว่าตนรอได้ โซดาบอกว่าอย่าเลย วันนี้กลับไปพักก่อนเถอะ พูดเตือนสติว่า
“ก่อนจะรักใครเราต้องรู้จักรักตัวเองก่อน ดูแลตัวเองยังไม่ได้ จะดูแลคนอื่นได้ยังไง...จริงไหม”
กิตติยาจับมือโซดาขอบใจเธออย่างซาบซึ้ง โซดาเร่งให้ไปเถอะ ตนจะไปส่งที่รถ แล้วจูงมือกันออกไป
ooooooo
ที่ออฟฟิศพาทิศ ขณะที่ศรุดาประชุมอยู่ก็มีเมสเซนเจอร์มาบอกว่ามีดอกไม้มาส่ง บอกให้ส่งถึงมือเท่านั้น พอศรุดารับดูข้อความในการ์ดแล้วขอตัวไป
พอศรุดาเข้าห้องทำงานก็ทรุดนั่งใจเต้นโครมครามขณะอ่านการ์ดในมือ...
“ถ้าผมอยากรู้ว่าผมจะอยู่กับใครคนเดียวทั้งชีวิตได้ไหม ดา...พร้อมเป็นแรงบันดาลใจให้ผมได้รึเปล่า”
อ่านแล้วศรุดาที่เครียดมาตลอดก็อมยิ้ม...
ooooooo
กิตติพัศดูแลศรุดาอย่างดี ไปไหนมาไหนก็คอยประคับประคองอย่างอบอุ่น และเมื่อพาไปที่บ้านจิม ทอมป์สัน ศรุดาขอบคุณที่พาตนมาที่นี่อีก
“ก็ดาตอบรับที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผมกล้ารักใคร...ผมก็อยากเป็นแรงบันดาลใจให้ดากล้าฝันอีกครั้งเหมือนกัน”
ศรุดายิ้มปลื้มสุดๆ เอามือคล้องแขนกิตติพัศเหมือนคู่รักเดินดูรอบๆบ้านหลังหนึ่ง ศรุดาบรรยายอย่างรู้จริงและลึกซึ้งในภูมิปัญญาของบรรพบุรุษว่า บ้านทั้งหลังไม่มีตะปูเลย บรรยายอย่างละเอียดจนกิตติพัศอึ้ง
ในความรู้ของเธอ ศรุดาหันมามองกิตติพัศถามว่า “หลับแล้วเหรอคะ”
“ไม่ได้หลับครับ กำลังหลง”
ศรุดายิ้มเขินเดินนำไป กิตติพัศยิ้มแล้วเดินตามไป จนถึงที่จัดนิทรรศการผ้าไหมเห็นชาวต่างชาติมากมายที่สนใจผ้าไหมไทย ศรุดาเอ่ยปลื้มว่า
“แบรนด์ไทยเรายังโตได้อีกเยอะเลยนะคะ ดาว่าเสน่ห์แบบตะวันออกยังไงก็เป็นสิ่งที่ตะวันตกไม่มี”
“ครับ...แล้วดารู้ไหมว่านั่นแหละคือเสน่ห์ของดา... ดามีความมั่นใจแบบตะวันตก แต่...มีความลึกลับแบบตะวันออก”
“ขอบคุณนะคะ ที่ทำให้แรงบันดาลใจดากลับมา”
ศรุดามองไปที่ผ้าไหมตาเป็นประกายอย่างมีความฝัน ยกมือกิตติพัศที่กุมกันอยู่ขึ้นหอม แล้วกุมไว้แน่น
ooooooo
ฝ่ายนวียาอยู่ที่ร้านโค้ชยักษ์ เมื่อมีโปสเตอร์ประกาศการแข่งขันชิงถ้วยอาชาคลับ ทำให้เธอคิดถึงตัวเองในวัย 18 ปีที่เคยมองป้ายนั้นเปี่ยมด้วยความฝัน แต่ในวันนี้เมื่อพาทิศถามว่าช่วงนี้ไม่เห็นซ้อมขี่ม้าเลย
“ก็อยากพักบ้างอะไรบ้าง” เสียงตอบห้วนๆเหมือนไม่อยากคุยด้วยเพราะยังคาใจเรื่องกล่องความจำที่เห็น ครั้นพาทิศตามไปคุยก็ขอให้เขาไปห่างๆได้ไหมตนจะทำงาน
พายแยกไปหยิบกระดาษใบสมัครลงแข่งอาชาคลับ พับจรวดแล้วพุ่งฟิ้ววว...ไปตกที่เท้านวียา เธอหยิบขึ้นมาแล้วเดินไปหลังร้าน เห็นพาทิศที่ถูกหงุดหงิดใส่ยืนซึมอยู่ก็เข้าไปถามว่า
“วันนั้นที่หน้าผา คุณเขียนอะไรลงไปในจรวดใบที่สอง”
พาทิศจ้องหน้าเงียบแล้วเอาจรวดที่นวียายื่นให้คลี่ออก มันเป็นใบสมัครลงแข่งขันอาชาคลับ นวียาหันไปมองพาย พายยิ้มให้ลุ้นๆ พาทิศบอกว่าพายคงอยากให้เธอสมัคร นวียาบอกว่าตนยังไม่พร้อม พาทิศเงียบไปอึดใจ มองตานวียา เอ่ยจริงใจ
“ผมเข้าใจคุณนะ ต่อให้เราอยากเริ่มต้นใหม่อีกครั้งแค่ไหน แต่ถ้าเรายังจัดการกับแผลในอดีตไม่ได้ เราก็คงยังไม่พร้อม ทุกอย่างคงมีเวลาของมัน ผมหวังว่า...คุณจะเข้าใจผมเช่นกัน”
นวียาไม่กล้าสบตาพาทิศ ได้แต่เศร้า...กลืนน้ำตาไว้...
ooooooo
เมื่อแรงบันดาลใจกลับมาแล้ว ศรุดาเหมือนคนมีไฟในตัว โดยมีกิตติพัศคอยให้กำลังใจและหยอกเย้าประสาคนมีใจและเข้าใจกัน ทำให้เธอสามารถสร้างผลงานออกมาได้อย่างน่าทึ่ง
คืนนี้ศรุดาดูแหวนแต่งงาน อ่านสมุดบันทึกเก่าๆดูรูปเก่าๆที่เริ่มต้นอย่างมีความสุข สวยงามแล้วค่อยเปลี่ยนไปเป็นเศร้า แล้วก็...น้ำตา ศรุดาปิดสมุดบันทึกเหมือนตัดใจได้ แล้วไลน์หาพาทิศ...
“พรุ่งนี้คุณว่างไหม”
รุ่งขึ้นเมื่อพาทิศไปหาถามว่ามีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า นัดแต่เช้าเลย
“ดาคบกับกิตแล้ว” ศรุดาพูดสบายๆ แต่พาทิศอึ้ง เธอยิ้มถามว่า “มันดูไม่น่าจะรอดเลยใช่ไหม”
พาทิศตอบว่าผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ศรุดาบอกว่า “ดาตัดสินใจแล้ว”
“ผมขอให้ดาไม่เจ็บปวดแบบที่ผ่านมา”
“ขอบคุณนะทิศ ดาแค่อยากให้ทิศรู้จากปากดา ทิศเข้าใจดานะ”
ทั้งสองมองตากันเหมือนจะอำลาจากความทรงจำเก่าๆ แล้วพาทิศก็ขอกอดศรุดาเป็นครั้งสุดท้าย...
อ่านละคร รักพลิกล็อก ตอนที่ 5 วันที่ 24 พ.ย.61
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก บทประพันธ์โดย เทพิตาละครเรื่อง รักพลิกล็อก บทโทรทัศน์โดย เหนือดาว
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก กำกับการแสดงโดย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ผลิตโดย บริษัท นอร์ธสตาร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ควบคุมการผลิตโดย กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ