อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 10 วันที่ 23 พ.ย.61

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 10 วันที่ 23 พ.ย.61

นิราศหยิบดอกปีบในกระทงที่นิสาเอามาวางไว้ที่โต๊ะทำงานดูแล้วอดคิดถึงพิกุลไม่ได้ ขณะกำลังคิดเคลิ้มก็ต้องสะดุ้งเมื่อทิพย์เกสรถามเสียงกระด้างว่า แม่นั่นมาฟ้องอะไรบ้างตานิราศ

นิราศวางดอกปีบยิ้มให้แม่ถามว่าฟ้องอะไรหรือ

“ฟ้องว่าแม่ผลักมันตกบันได” ทิพย์เกสรโพล่ง นิราศถามงงๆว่า แม่ผลักนิสาตกบันได? “ใช่ แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากแม่นั่น เห็นหน้ามันแล้ว แม่มีแต่จะอารมณ์เสีย นับแต่วันแรกที่มันก้าวเข้าบ้านแล้ว”



นิราศบอกว่านิสาพยายามอยู่ห่างหูห่างตาแม่แล้ว ก็ถูกหาว่าเข้าข้างกัน โพล่งว่าถึงเนื้อถึงตัวกันเมื่อกี้ คงถูกมันเป่ากระหม่อมล่ะสิ นิราศบอกว่าตนคิดกับนิสาในฐานะน้องสาวเท่านั้น ทิพย์เกสรชี้ว่าแต่แม่นั่นไม่คิดแค่นั้น นิราศขอร้องว่า

“ถ้าแม่ไม่ไว้ใจนิสาก็ขอให้ไว้ใจผมเถอะครับ ว่าผมไม่มีวันคิดกับนิสาเป็นอย่างอื่น นอกจากน้องสาว”

ทิพย์เกสรก็ยังคาใจรุกถามว่าที่แน่ใจอย่างนี้เพราะลูกมีคนของลูกอยู่แล้วใช่ไหม เห็นนิราศอึ้งก็ซักต่อ

“คนของลูกที่สุพรรณใช่ไหม...ตานิราศ” เห็นนิราศยิ้มแทนคำตอบก็ยิ่งอยากรู้

เมื่อนิราศไปทำงานที่บริษัทน้ำตาลสยามก็ซักสมคิดเรื่องที่แม่ถามถึงคนที่สุพรรณ สมคิดชี้แจงว่า ตนแค่เล่าว่าคุณนิราศไปดูทำเลทำโรงงานที่นั่น แต่คุณทิพย์ระแวงไปเองว่ามีอะไรมากกว่านั้น ชี้แจงแล้วถามดักว่า

“แล้วนี่...คุณนิราศสารภาพไปแล้วหรือครับ”

“ฉันก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่นก่อนสิ ไม่อยากเออออไปฝ่ายเดียวว่าพิกุลเขายอมรับฉันแล้ว...แล้วฉันจะแนะนำให้รู้จัก”

สมคิดเอะใจที่ชื่อพิกุลเหมือนกับชื่อลูกสาวเจ้าของเรือนคนเก่า นิราศถามว่ารู้เรื่องนี้ด้วยหรือ สมคิดพยักหน้า หยิบรูปถ่ายที่พกมาให้ดูเล่าว่า

“ท่านเจ้าอาวาสบอกว่าเจ้าของเรือนยกค่าเช่าที่ให้แก่วัดหากมีใครมาทำประโยชน์ แต่ก็ไม่มีใครเช่าทำอะไร จนกระทั่งกำนันพงษ์เข้าไปรับดูแลผลประโยชน์เอง พอซักไซ้ว่าที่วัดกลายเป็นที่ของกำนันได้ยังไง ท่านก็ได้แต่พูดว่า เป็นเรื่องของโยมจัดการกันเอง ท่านไม่อยากเข้าไปยุ่ง”

นิราศเพ่งดูรูปเหมือนเห็นอะไรบางอย่าง ถามสมคิดว่าได้รูปนี้มาจากไหน

“ท่านเจ้าอาวาสครับ เห็นว่าได้มาพร้อมกับข้าวของที่เจ้าของเรือนยกถวายวัด”

นิราศดูรูปอีก เป็นรูปที่จางวางพ่วงยกวงปี่พาทย์ไปเล่นที่กระทรวง ภาพถ่ายระยะไกล ทำให้เห็นหน้าแต่ละคนไม่ชัด นิราศพึมพำว่าพิกุลลูกสาวจางวางหน้าตาเป็นยังไงนะ สมคิดถามว่าทำไมอยู่ๆคุณนิราศถึงอยากรู้เรื่องของแม่พิกุลขึ้นมา นิราศบอกว่าตนอยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรือนนั้น

สมคิดบอกว่าตนจะลองสืบดูจากรูปนี้ ถ้าวงที่ออกงานใหญ่อย่างนี้ก็น่าจะมีหลักฐานหลงเหลืออยู่บ้าง

นิราศขอบใจ ดูรูปอีกครั้ง สงสัยว่าตนรู้จักแม่พิกุลถึงสองคนเลยหรือ หรือว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ooooooo

สินธรอยู่ในห้องเก็บของ คลี่ม้วนกระดาษที่เอามาจากเรือนจางวางพ่วงดูจนหมดก็ไม่เห็นเอกสารที่ต้องการ นึกสงสัยว่าตาเปรื่องอาจเข้าใจผิดไปเองว่าเหลือใบกัลปนาอีกใบอยู่ที่เจ้าของที่

สินธรออกจากห้องเก็บของ ใส่กุญแจแล้วเอาดอกกุญแจไปไว้ที่หิ้งพระซึ่งถูกทิ้งร้างกลายเป็นที่วางของ ไม่มีการดูแลจนฝุ่นเขรอะ แต่พอออกไปได้ไม่กี่ก้าวหิ้งพระก็เอียงเหมือนจะตก  ข้าวของหล่นแตกกระจายเหมือนจงใจให้สินธรหันมอง สินธรจึงกลับไปเก็บของที่ตกหล่น เห็นกระบอกไม้ไผ่ปล้องหนึ่งกลิ้งไปไกลจึงไปหยิบดู เห็นบางอย่างด้านในจึงดึงออกมา

เป็นม้วนกระดาษ และเมื่อคลี่ออกดู สินธรก็แทบไม่เชื่อสายตา เป็นใบกัลปนาจริงๆ

สินธรเอาใบกัลปนาไปให้เจ้าอาวาสดู ท่านบอกว่าเคยเห็นจากเจ้าอาวาสท่านก่อน แต่มันหายไปตอนที่โจรขึ้นกุฏิปล้นฆ่าท่าน เปรื่องเสริมว่าคดีเงียบแล้วอย่างกับจะจับมือใครดมไม่ได้ เจ้าอาวาสบอกว่า ตำรวจเขาก็ทำเต็มที่แล้วอย่ากล่าวโทษใครเลย

“ถึงเอาผิดใครในคดีนั้นไม่ได้ แต่ผมจะไม่ให้เรื่องนี้เงียบหายไปอีก นี่เป็นโอกาสเดียวที่ผมจะได้ทำทุกอย่างให้สมกับความต้องการของเจ้าของเรือนที่แท้จริง”

เจ้าอาวาสบอกว่าเขาคงอนุโมทนาบุญไปกับโยมถ้าทำเรื่องนี้สำเร็จลงได้ ขณะเดียวกันที่ใกล้บริเวณนั้นมีเด็กวัดคนหนึ่งทำความสะอาดโบสถ์อยู่ ได้ยินทุกคนคุยกันหมด เด็กวัดล่อกแล่กอย่างไม่น่าไว้ใจ

ฝ่ายนิราศอยู่ที่ห้องทำงาน ลุกขึ้นคิดจะไปหาพิกุลแต่สมคิดเข้ามาเสียก่อน พูดอย่างโล่งอกว่าโชคดีที่คุณนิราศยังไม่กลับ บอกว่าคนของรัฐท่านนัดกินข้าวเย็นที่เมธาวลัย เห็นว่าจะคุยเรื่องยกเลิกประกันราคาน้ำตาล นิราศจึงจำต้องรับคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ฝ่ายนิสา คืนนี้นอนฝันร้ายอีก กรีดร้องจนสะดุ้งตื่น เอียดได้ยินเสียงมาเคาะประตูถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า นิสาบอกว่าฝันร้าย พูดอย่างเกรงใจว่าตนร้องเสียงดังจนทำให้เอียดตื่นหรือ เอียดพูดให้สบายใจว่า เราอยู่ห้องติดกันจึงได้ยิน แต่คงไม่ดังไปถึงหูคุณทิพย์หรอก

เอียดถามว่าคุณทิพย์ทำให้เครียดมากจนเก็บไปฝันหรือเปล่า นิสาบอกว่าเปล่า ตนฝันซ้ำๆแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เอียดเห็นกระปุกยานอนหลับถามว่า ถึงกับต้องกินยานอนหลับเลยหรือ บอกว่าถ้าฝันร้ายอย่างนี้ ลองไปทำบุญดู เผื่อว่าอะไรๆจะดีขึ้น นิสายิ้มรับและขอบใจ เอียดจึงกลับไป

ooooooo

คืนนี้...นิสาหลับฝันไปว่าออกมาเดินที่สวนในบ้านเห็นห้องนิราศยังเปิดไฟสว่างก็เป็นห่วงว่านอนดึกอีกแล้ว ขณะจะเดินเล่นต่อ ก็ได้กลิ่นประหลาดจนต้องปิดจมูก

นิสาหันหลังจะกลับเข้าบ้านก็ถูกผีตงในชุดจีนแสยะยิ้มเข้าหา นิสาตกใจร้องกรี๊ดจนตัวเองตกใจตื่น เธอจะหยิบยานอนหลับกินแต่พอหยิบกระปุก ปรากฏว่ายาหมด นิสารู้ตัวว่าการนอนไม่หลับของตนเป็นหนักขึ้นทุกทีแล้ว

รุ่งขึ้นนิสาโทร.ปรึกษาอาจารย์หมอและนัดจะไปหาท่าน พอวางสายนิราศก็เข้ามาพอดี เธอทักเชิงบ่นว่าเมื่อคืนนอนดึกอีกแล้ว นิราศบอกว่าเมื่อคืนตนนอนหัวค่ำกว่าทุกวัน นิสาบอกว่าตนเห็น...แต่ไม่ทันพูด นิราศถามว่าเห็นอะไร เธอบอกว่าเปล่า แล้วเปลี่ยนเรื่องถามว่าวันนี้ต้องไปสุพรรณอีกไหม

“พี่อยากไป แต่ไม่รู้ว่าคนที่โน่นอยากให้พี่ไปรึเปล่า” นิสาถามว่าใคร นิราศอึกอักบอกว่าเปล่า ไม่มีอะไร เปลี่ยนเรื่องถามว่านิสาอยู่บ้านไม่เบื่อหรือไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็ได้ จะให้สมคิดไปคอยรับส่ง นิสาบอกว่าไม่รบกวนดีกว่า แต่ถ้าคุณป้าอยากออกไปไหน ตนจะโทรศัพท์ไปบอกที่ออฟฟิศ

“เราหาความสุขให้ตัวเองบ้างก็ได้นะนิสา”

“ความสุขของนิสาคือการได้ตอบแทนครอบครัวพี่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”

นิสาไปหาอาจารย์อนงค์ตามที่นัดไว้ อนงค์อ่านประวัติการรักษาที่หมอประจำตัวของนิสาส่งมาให้ บอกว่าเรามาเริ่มที่สาเหตุของการนอนไม่หลับกันเลย ถามว่าฝันร้ายใช่ไหม จำอะไรในความฝันได้บ้าง

นิสาบอกว่าจำกลิ่นได้ มันไม่ใช่กลิ่นยา ไม่ใช่กลิ่นคนป่วย แต่เป็นกลิ่นที่ตนไม่คุ้น นิสาพยายามนึกโดยไม่รู้ว่าข้างหลังตัวเองมีเงาดำซ้อนอยู่

นิสาออกจากอนงค์อย่างไม่สามารถอธิบายอาการของตัวเองได้ ขณะยืนรอไฟแดงเพื่อข้ามถนน มีชายคนหนึ่งมายืนด้วยและข้ามถนนไปโดยไม่รอไฟแดง นิสาจึงข้ามตาม ถูกรถคันหนึ่งพุ่งมาอย่างเร็วบีบแตรลั่น นิสาตกใจร้องกรี๊ดชายคนนั้นหันมอง ปรากฏว่ารถหักหลบจากนิสาพุ่งเข้าชนชายคนนั้นแต่ผ่านทะลุไป! นิสามองไปเห็นเขาไปยืนอยู่อีกฝั่งแล้ว จะเดินไปหา ชายคนนั้นก็เดินไปเสียก่อน นิสายิ่งหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตน

ฝ่ายนิราศออกมาขึ้นรถ ก็ได้ยินเสียงปี่แว่วมา เขาขับรถไปเหมือนถูกสะกดจิต...ไปจนถึงเรือนจางวางพ่วงไม่เจอใครจึงจะลงจากเรือน พลันก็เห็นแสงตะเกียงพร้อมเสียงทักจากพิกุล “กลับแล้วรึเจ้าคะ” ถามว่า “ธุระอะไรเจ้าคะ ถึงกลับมาที่นี่อีก”

นิราศเอารูปให้ดูบอกว่าคิดว่ารูปนี้เกี่ยวข้องกับคนที่เคยอยู่เรือนนี้ ช่วยดูทีเถอะว่ารู้จักใครบ้าง

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 10 วันที่ 23 พ.ย.61

ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทประพันธ์โดย เสน่ห์ โกมารชุน
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทโทรทัศน์โดย บลูลาวา
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ที่มา ไทยรัฐ