อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 8 วันที่ 15 พ.ย.61
“มึงรู้เอาไว้นะ ลูกสาวมึงไม่มีวันได้แต่งงานออกเรือนกับคุณหลวงเพราะคุณหลวงจะแต่งงานกับคุณสารภีวันนี้วันพรุ่งแล้ว” เพียรโต้ว่าคุณหลวงมาขอพิกุลแล้ว คุณหลวงไม่มีวันหลอกพิกุล ปิงยิ้มเย้ยว่า “ให้คุณหลวงรักลูกมึงแค่ไหน เขาก็ไม่มีวันได้เห็นหน้าลูกหน้าเมียอีก เพราะกูจะให้ลูกมึงหายไปจากชีวิตคุณหลวง”“มึงคิดจะทำอะไรพิกุลก็มาทำกูนี่ อย่าทำลูกเมียกู ...จะเด็ดชีวิตกูเสียตอนนี้ก็ได้ มา! มาเอาชีวิตกูไป” จางวางท้า เพียรตกใจด่าปิงว่าเจ้านายมึงเลวกว่าสัตว์ ปิงตวาดถามว่าอีพิกุลอยู่ไหน เพียรไม่บอกก็ถูกปิงตบจนเลือดกบปาก จางวางเห็นเช่นนั้นพุ่งเข้าไปช่วยเพียรโดยไม่กลัวคมดาบที่พาดคอ
สินเห็นเช่นนั้นลุยเข้าไปช่วยจางวาง เลยถูกลูกน้องปิงรุม อ่ำเข้าไปช่วยเลยถูกฟันจนล้ม
“ไอ้อ่ำ!!!” สุดร้องสุดเสียงแล้วพุ่งเข้าไปพร้อมกับเพียรขวางปิงไม่ให้ซ้ำอ่ำ แต่ถูกลูกน้องปิงดึงออกมา จางวางเห็นอ่ำถูกรุมก็พุ่งเข้าไปช่วยทั้งที่ไม่มีอาวุธ ปิงจะฟันจางวางแต่ถูกสินขวางเลยโดนฟันจนหงาย
เกิดตะลุมบอนกันระหว่างพวกปิงที่มีอาวุธครบมือกับพวกจางวางที่ตะลุยมือเปล่าด้วยความแค้น...
ooooooo
แม้พวกจางวางจะไม่มีอาวุธทั้งอายุมากและเป็นผู้หญิงสองคนแต่ทุกคนก็ต่อสู้กับพวกปิง ชายฉกรรจ์ที่มีทั้งอาวุธและพละกำลังอย่างกล้าหาญ สินแย่งดาบจากลูกน้องปิงได้ก็ตะลุยเข้าสู้แต่พลาดถูกปิงฟันหงาย
จางวางโดดเข้าคว้าดาบจากสินบอกให้สินพาพิกุลหนีไปและอย่ามาที่นี่อีก บังคับทั้งด้วยคำพูดและสายตา ลูกน้องปิงคนหนึ่งจะเข้าฟันสินแต่จางวางโดดเข้ารับดาบแทน สินจึงจำต้องไหว้ลา
“ดาบมึงจะได้เซ่นเลือดมึงเองก็ครานี้” จางวางตะโกนพุ่งเข้าฟันปิงแต่ลูกน้องปิงเข้าขวาง แม้จางวางจะถูกรุมแต่ก็พยายามปกป้องเพียรกับสุดเต็มกำลัง ปิงจะตามสินถูกอ่ำกอดขาไว้ ปิงตวัดดาบฟันมืออ่ำขาดกระเด็นแล้วเดินไปหลังเรือน เห็นสินที่เลือดอาบทั้งตัวก็รู้ว่าสินจะไปหาพิกุล พอสินวิ่งไปพ้นมุมลับตาก็ถูกปิงโผล่มาขวาง ลูกน้องปิงฟันสินล้มคว่ำไปกับพื้น ปิงเข้าเหยียบ ตะคอกให้บอกว่าพิกุลอยู่ไหน
“ลากกูลงนรก กูก็ไม่เปิดปากบอกมึง”
“ดี...กูจะดูว่ามึงปากดีเพียงไหน” ปิงสั่งลูกน้องกดคมดาบที่ตัวสินจนเลือดไหล ปิงยิ้มสะใจถาม “มึงจะบอกหรือไม่บอก”
สินใช้ทั้งท่อนฟืนติดไฟและกระทะเหวี่ยงใส่ลูกน้องปิงจนมันล้มกลิ้ง ปิงจึงลุยเข้าหาสินแต่ถูกสินจับกดหัวลงในน้ำเดือดที่ค้างกระทะ กดจนเห็นปิงแน่นิ่งจึงแย่งดาบลูกน้องปิงวิ่งไปที่ท่าเรือ ปะทะกับลูกน้องปิงที่เฝ้าท่าเรืออีก สินฟันมันตกน้ำแล้วรีบพายเรือหนีทั้งที่เป็นห่วงพวกจางวาง แต่จำต้องตัดใจไป
สินพายเรือมาถึงเรือนครูทับทุบประตูเรียกพิกุลให้เปิดประตู พอพิกุลเปิดประตูเห็นสินในสภาพเลือดอาบก็ตกใจถามว่าไปมีเรื่องกับใครมา
เมื่อสินเล่าเหตุการณ์ที่บ้านจางวางแล้ว บอกพิกุลให้รีบหนี แต่ทั้งพิกุลและเอื้อยไม่ยอมไป พิกุลเป็นห่วงพ่อกับแม่ เอื้อยก็เป็นห่วงแม่จะกลับไปช่วย สินบอกว่าไปตอนนี้ก็มีแต่จะถูกพวกมันฆ่าตาย สินบอกว่าตนช่วยพ่อจางวางไม่ได้ก็ขอให้ได้ปกป้องทั้งสองคนเถิด อ้อนวอนสองคนให้หนีไปกับตน
แต่ทั้งพิกุลและเอื้อยไม่ยอมหนี หากช่วยพ่อแม่ไม่ได้ก็พร้อมจะตาย
“ก็ได้...หากจะตาย...ก็ให้มันตายด้วยกันทั้งหมดนี้” สินตัดสินใจพาทั้งสองลงเรือนไป
ooooooo
ปิงในสภาพถูกน้ำร้อนลวกบาดเจ็บสาหัสให้ ลูกน้องหิ้วปีกไปยังเสาที่มัดจางวางพ่วง เพียร สุด และอ่ำด้วยกัน รอบตัวทั้งสี่มีฟืนสุมไว้เป็นเชื้อเพลิง ปิงประกาศว่าในเมื่อไม่ยอมบอกว่าพิกุลอยู่ไหนก็จะเผาทั้งเป็น
แม้จะเผชิญกับความตาย แต่จางวางกับเพียรก็ไม่สะทกสะท้านด่าทั้งปิงและเจ้านายว่าสันดานชั่วช้าทำตัวเป็นพวกชั้นสูงแต่แท้จริงจิตใจต่ำช้ากว่าสัตว์ แม้สุดจะกลัวจนร้องไห้แต่ก็ยังสาปแช่งให้พวกมันฉิบหายตกนรกไปตามกันอย่าได้ผุดได้เกิด
เพียรขอสุดอโหสิให้ตนด้วย เพราะสุดไม่น่าจะต้องมาตายอย่างนี้เลย มองตาจางวางแทนคำพูด จางวางเอ่ยอย่างรู้ความหมายนั้นว่า
“ขอให้ไอ้สินมันพานังพิกุล นังเอื้อย หนีไปให้พ้นจากไอ้สัตว์นรกพวกนี้เท่านั้น บุญกุศลอันใดที่ข้าทำไว้ขอให้ส่งผลให้นังพิกุล นังเอื้อย มันอยู่รอดปลอดภัยด้วยเถิด” แล้วจางวางก็บอกปิงด้วยสีหน้าไม่พรั่นพรึงว่า “พวกมึงจะเผากู ก็ทำเสียบัดนี้...ไอ้สัตว์นรก!!!”
ปิงแสยะยิ้มมองทั้งสี่แล้วลูกน้องก็เอาน้ำมันราดกองฟืนที่สุมอยู่ พอปิงหันเดินออกไป ลูกน้องก็จ่อคบไฟเข้ากองฟืน ไฟลุกโชนทันที ปิงหันกลับมองความทุกข์ทรมานของทั้งสี่ในกองไฟ ปิงไม่เพียงเผาทั้งเป็นแต่ยังเอาหมอผีมาสะกดวิญญาณของทั้งสี่ไว้ที่นี่ไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีก
ปิงมองทั้งสี่ที่ดิ้นรนทรมานในกองไฟและเสียงร้องอย่างเจ็บปวดด้วยสีหน้าพอใจ
พิกุล เอื้อย และสินมาถึงเรือนจางวาง มองไปเห็นควันไฟที่หน้าเรือนก็ตกใจ วิ่งไปเห็นร่างทั้งสี่ในกองไฟก็หัวใจสลาย
“พ่อจ๋าแม่จ๋า พิกุลสมควรตายเสียตอนนี้ เพราะพิกุลแท้ๆ...มีแต่ชีวิตของพิกุลเท่านั้นที่จะชดใช้แทนพ่อกับแม่ได้ พ่อแม่รอพิกุลด้วย...” พิกุลจะวิ่งเข้าไปในกองไฟ เอื้อยฉุดไว้ สินพูดเตือนสติว่า
“พิกุล...พ่อจางวางเสียสละชีวิตตัวเองให้พิกุลรอด ถ้าพิกุลตายเสียตอนนี้ แล้วชีวิตของพ่อจางวางกับแม่เพียรจะมีความหมายอะไร”
พิกุลดิ้นจะวิ่งเข้าในกองไฟ สินฉุดและห้ามปรามจนพิกุลหมดแรงทรุดลง ทันทีที่ทรุดพิกุลกระอักเลือดออกมา ยิ่งร้องไห้ก็ยิ่งกระอักเลือด พิกุลมองเลือดในมือแล้วมองไปที่กองไฟ สีหน้าเปลี่ยนเป็นเจ็บแค้น พลันเสียงปี่เพลงนางหงส์ก็ดังขึ้น...
เช้าวันต่อมาโลงศพทั้งสี่ถูกวางบนเชิงตะกอนที่ไฟกำลังลุกโชน เอื้อยร้องไห้จนตัวโยน มีสินคอยประคอง พิกุลเป่าปี่เพลงนางหงส์ที่ข้างเชิงตะกอน แต่ความแค้นใจอย่างที่สุดทำให้พิกุลเป่าปี่ต่อไปไม่ได้หยุดมองโลงศพที่กำลังถูกเผา สินเอ่ยขึ้นว่า
“พวกมันจะเอาชีวิตพิกุล พ่อจางวางให้พี่พาพิกุลหนี” พิกุลถามว่าทำไมมันต้องการชีวิตตน “มันจะกำจัดพิกุลให้พ้นทาง...เพราะเจ้านายมัน...แม่สารภี จะแต่งงานกับคุณหลวง”
“เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะฉัน ฉันต้องทำให้มันจบ ไม่เช่นนั้นฉันจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเป็นอันขาด”
ooooooo
ที่บ้านพิชัยเดชา...เจ้าคุณนั่งมองเครื่องดนตรีที่วางไว้ในห้องดนตรี เปรยกับหลวงราชว่า
“นับจากนี้บ้านเราคงไม่เหลือความรื่นรมย์ใดๆ อีกแล้ว”
“พ้นงานคุณแม่เมื่อไร กระผมจะไปเชิญให้ท่านจางวางกลับมาอีกครั้งขอรับ”
“แกจะแต่งงานกับแม่สารภีอยู่วันสองวันนี้แล้ว อย่างไรก็เกรงใจแม่พิกุลบ้าง”
หลวงราชเชื่อว่าพิกุลจะรับฟังเหตุผล เจ้าคุณขอให้เป็นเช่นนั้น ตนยังรอจะฟังเสียงปี่ท่านจันของพิกุล
สารภีแอบฟังอยู่ แสยะยิ้มพึมพำเจ็บใจ “ป่านนี้มันไปลงนรกที่ไหนแล้ว ไอ้แก่...” แล้วทำทีเพิ่งเดินเข้ามา เจ้าคุณถามว่ามีธุระกับตายศรึ สารภีบอกว่ามากราบศพคุณหญิงแล้วก็อยากพบคุณยศเท่านั้น หลวงราชมองด้วยสายตาเย็นชา สารภีทำเป็นไม่ใส่ใจถามว่า
“สารภีอยากจะแน่ใจเจ้าค่ะ ว่าคุณยศยินดีกับการแต่งงานครั้งนี้” หลวงราชตอบหน้านิ่งว่าตนรู้หน้าที่ของตัวเองดี “ผู้ใหญ่ทางสารภียินดีนักเจ้าค่ะ ที่จะได้มาร่วมงานสมรสของสารภีกับคุณหลวง”
“แต่ฉันจะยินดีกว่าหากรู้ว่าท่านผู้แทนการค้าจะปลอดภัยกลับมา” เจ้าคุณเอ่ย
“สารภีก็หวังเช่นนั้นเจ้าค่ะ แม้การแต่งงานครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความจำเป็นด้วยหน้าที่ของคุณยศ แต่มันก็มีความหมายกับสารภีนักเจ้าค่ะ เพียงเท่านี้ก็ดีเกินพอสำหรับลูกเจ๊กอย่างสารภีแล้ว”
สารภีพูดแล้วยิ้มเศร้ากลบเกลื่อน ในขณะที่หลวงราชมองอย่างพยายามอ่านใจสารภี...
พอกลับถึงบูรพาเคหาสน์ ชบาก็เอาชุดแต่งงานมาทาบตัวสารภี สารภีดูตัวเองในกระจกแล้วยิ้มพอใจ ชบาสอพลอว่าถ้าคุณหลวงได้เห็นคุณสารภีในชุดนี้เป็นได้เอ่ยชมไม่หยุดปากแน่
“สอพลอนัก...นี่หมายจะให้พาเข้าไปอยู่ที่เรือนคุณยศด้วยใช่ไหม”
“โธ่...คุณสารภีเจ้าคะ อีพวกบ่าวไพร่ที่นั่นมันจะรู้ใจคุณสารภีได้ดีกว่าชบาเป็นไม่มีหรอกเจ้าค่ะ แล้วอีกอย่าง ไอ้อีพวกนั้นมันคงยังภักดีอยู่กับเจ้านายเก่า คุณสารภีเข้าไปเป็นเจ้านายใหม่ เป็นได้ถูกลองดีแน่ๆ”
อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 8 วันที่ 15 พ.ย.61
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทประพันธ์โดย เสน่ห์ โกมารชุนละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทโทรทัศน์โดย บลูลาวา
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ที่มา ไทยรัฐ