อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 16 วันที่ 8 พ.ย.61
ลาวัลย์สบตาวัดใจกับพ่อ เหมันต์จึงถือโอกาสนี้เกลี้ยกล่อมปราการ“สิ่งที่เสี่ยทำมันไม่ได้เรียกว่าความรักแต่มันคือการทำลาย ทำลายทั้งวัลย์และตัวเสี่ยเอง”
“คนที่ทำลายฉันคือประธานเหมต่างหาก มันไปรับฉันมาเลี้ยงเชิดชูให้เป็นคุณหนู ได้นั่งรถโก้ๆ ได้กินแต่ของดีๆ ให้เรียกว่าพ่อ แล้ววันหนึ่งพอไอ้เหมวัตเกิด ฉันก็กลายเป็นหมา...หมาที่คอยเห่าหอนเฝ้าบ้านให้มันแค่นั้น”
ปราการพรั่งพรูทุกอย่างก่อนทิ้งท้ายด้วยความคับแค้นใจ
“ถ้าแกเคยโดนถีบจากที่สูงแกจะรู้สึกเหมือนฉัน”
ทัศนัยที่ทนฟังอยู่นานจากมุมลับตาทนไม่ไหวโผล่มาปรบมือประชดให้ปราการที่พูดแทงใจดำ ปราการอึ้งก่อนหันปลายกระบอกปืนไปทางน้องชายบุญธรรมแต่ก็ช้ากว่าอีกฝ่ายที่ยิงขาเขาจนทรุดกับพื้น!
ooooooo
ลาวัลย์กรีดร้องด้วยความตกใจและหวาดกลัวสุดขีด ทัศนัยสั่งให้เป้าลูกน้องคนสนิทพาหลานสาวนอกไส้ออกไปก่อนจะหันมาเฉลยแผนทุกอย่างให้ปราการฟัง
ทัศนัยแหกคุกด้วยความช่วยเหลือของเป้าและรู้ที่กบดานของปราการเพราะข่มขู่หมวดอาทที่ดันมีชนักติดหลังเป็นตำรวจชั้นเลวที่เก็บเงินคุมบ่อนจากมิตร เขาใช้จุดอ่อนนี้ต่อรองกับหมวดอาทจนปราการติดกับ
“หมวดอาทช่วยล่อแกมาเจอฉันที่นี่ แล้วฉันก็ตามไอ้เหมันต์มาให้เห็นกับตาว่าฉันฆ่าแกล้างแค้นให้พ่อมันแล้ว”
แท้จริงแล้วทัศนัยมีแผนยอมสละทุกอย่างเพื่ออนาคตทศนาถลูกชายคนเดียว เหมันต์ส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
“ไม่นะครับเสี่ย ผมไม่ต้องการล้างแค้นอะไรทั้งนั้น”
“ฉันจะจบทุกอย่างให้แกเอง แต่แกต้องรับปากว่าจะให้ทศได้เป็นผู้บริหารสูงสุดของเหมทอง”
ปราการตาลุก โพล่งแทรก “เหมันต์ต่างหากศัตรูเรา เราต้องมาร่วมมือกันกำจัดมันแล้วแบ่งสมบัติกันถึงจะถูก”
ทัศนัยกลอกตาสวนทันควัน “กูรู้สันดานมึงดี มึงปลิ้นปล้อนหักหลังได้ทุกคนเพื่อผลประโยชน์ มึงคิดฆ่ากูใส่ร้ายลูกกูจนเกือบเป็นฆาตกร กูไม่มีวันปล่อยให้มึงกลับไปทำร้ายเจ้าทศอีก ถ้ามึงยังมีชีวิตอยู่ กูไม่มีวันนอนตายตาหลับ”
พูดจบก็จะยิงปราการ เหมันต์ต้องร้องห้ามก่อนเริ่มไกล่เกลี่ยให้สองพี่น้องเลิกโกรธกัน
“เสี่ยคิดผิดแล้ว...ตอนที่พ่อเหมวัตยังอยู่ เสี่ยคิดว่าพ่อเป็นคนมาขวางความสุขของเสี่ย แต่พอไม่มีพ่อเสี่ยก็ยังต้องเข่นฆ่ากันเอง แล้วถ้าไม่มีพวกเสี่ยแล้วเสี่ยคิดว่าลูกๆของเสี่ยจะอยู่กันได้อย่างสงบสุขอย่างงั้นเหรอ...ไม่หรอก พวกเขาก็จะทำอย่างที่เสี่ยเคยทำ เกลียดชัง แย่งชิง เอาชนะกันต่อไป แล้วสุดท้ายก็ไม่มีใคร ได้อะไรเลย”
ทั้งทัศนัยกับปราการอ้าปากค้าง เถียงไม่ออก เหมันต์เห็นดังนั้นรีบกล่อมต่อ
“เสี่ยก็รู้กันอยู่แก่ใจว่าสิ่งที่พวกเสี่ยอยากได้มากที่สุดไม่ใช่สมบัติ แต่ต้องการล้างปมด้อยที่ฝังในใจนั่นคือความเป็นเด็กกำพร้าอย่างพวกเรา และสิ่งที่มันชดเชยได้ก็คือความอบอุ่น ความห่วงใยจากพ่อแม่ที่รับพวกเสี่ยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ความรักในแบบที่พ่อแม่มีให้กับลูกจริงๆต่างหากที่เราต้องการ”
สถานการณ์ระหว่างทัศนัยกับปราการยังน่าเป็นห่วง ดาบหลงที่ตามเหมันต์มาจับปราการรีบส่งข่าวบอกผาณิตา เหมทองเป็นห่วงลูกชายทั้งสองจะตามไปช่วย ประกิตห้ามไม่ไหวเลยอาสาไปส่งพร้อมลูกสาว
ดาบหลงพยายามเกลี้ยกล่อมทัศนัยให้มอบตัว เหมันต์ช่วยอีกแรงเพราะห่วงปราการที่เลือดออกไม่หยุด ทัศนัยไม่ยอมไล่ให้เหมันต์ออกไปหาตำรวจพร้อมปราการ ดาบหลงเข้ามาข้างในพอดีเลยเกิดการปะทะจนเหมันต์ถูกยิงถากๆที่หัวไหล่ ทัศนัยตกใจมากยกปืนจะฆ่าตัวตาย เหมทองมาถึงทันเวลาตะโกนห้าม
“พอเถอะเจ้าสาม หยุดทำโง่ๆได้แล้ว”
ทัศนัยหน้าซีดเมื่อเห็นพ่อบุญธรรม เหมทองนั่งบนรถเข็นโดยมีประกิตเข็นมาให้
“ใช่ ผมมันโง่....ทำอะไรก็ไม่ได้ดังใจ สู้ไอ้เหมวัตไม่ได้ ชอบไล่ผมไปตายไม่ใช่เหรอ วันนี้ผมจะตายให้ดู”
ขาดคำก็จะเหนี่ยวไกปลิดชีวิตตัวเองแต่กระสุนหมด เปิดโอกาสให้พวกตำรวจจับกุมเขาแทน ผาณิตาเห็นเหมันต์กุมไหล่เลือดอาบจึงรีบไปดูด้วยความเป็นห่วง ส่วนลาวัลย์วิ่งไปดูปราการที่ถูกตำรวจหามใส่เปลเตรียมส่งโรงพยาบาล
เหมทองให้ประกิตเข็นรถไปหาทัศนัยแล้วลูบหัวเบาๆ
“ไอ้ลูกโง่...แกไม่รู้เหรอว่าถ้าแกตายพ่อจะเสียใจแค่ไหน”
ทัศนัยน้ำตาไหล สะเทือนใจต้องก้มกอดขาพ่อบุญธรรม เหมทองก็โน้มตัวกอดตอบ
“พ่อไม่เคยเกลียดแก เพราะแกคือลูกชายของพ่อ ทั้งหมดพ่อผิดเอง...พ่อขอโทษ”
ooooooo
หลังส่งทัศนัยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เหมทองก็ไปดูอาการปราการที่จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทัศนัย กับประกิตขอตามไปด้วย สภาพหน้าซีดปราศจากสีเลือดเพราะแผลถูกยิงทำให้สองเสี่ยน้ำตาไหล เหมทอง อาการไม่ต่างกันพยายามตั้งสติบอกปราการให้กลับบ้านด้วยกัน ปราการซึ้งใจมากในหัวเต็มไปด้วยภาพอดีต...
ภาพความรักความห่วงใยของเหมทอง ประกิตและทัศนัยทำให้ปราการหวนคิดถึงอดีตตอนเขาแอบเอาดอกไม้ไฟมาเล่นจนไฟเกือบไหม้บ้าน เหมวัตรับผิดแทนพี่ชายบุญธรรมทั้งที่ไม่มีส่วนรู้เห็น เหมทองรู้ทันเลยลงโทษให้สามเสี่ยขัดรองเท้าเก่าๆนับสิบคู่ เหมวัตสงสารเลยช่วยขัดแทนทั้งหมด
ปราการดึงตัวเองจากอดีต จำได้ว่าไม่ยินดียินร้ายกับความมีน้ำใจของเหมวัตที่ยอมขัดรองเท้าแทนเพราะไม่อยากให้พี่ชายทั้งสามถูกลงโทษหรือออกจากบ้าน แต่ในวันนี้ความดีของเหมันต์และอาการสำนึกผิดของพ่อกับพี่น้องบุญธรรมทำให้เขาคิดได้ก่อนจะหมดลมหายใจในเวลาต่อมา...
งานศพของปราการถูกจัดอย่างเรียบง่ายหลังจากนั้น เหมทองเสียใจมากไม่ยอมออกจากห้องและไม่พบใครจนผาณิตาเป็นห่วง ทศนาถที่สำนึกได้แล้วก็เช่นกัน แถมต้องลำบากใจปกปิดมนตราไม่ให้รู้เรื่องปราการ
เหมันต์รู้เรื่องจากผาณิตาก็อดไม่ได้แวะไปเยี่ยมเหมทองถึงบ้าน พร้อมสวมรองเท้าเดินในบ้านให้อย่างอ่อนโยน
เหมทองเห็นหน้าหลานชายก็ดีใจ “ยอมมาเจอหน้าปู่แล้วหรือ...คงสมเพชปู่สินะ”
“ผมตั้งใจมาขอกำลังใจจากคุณปู่ครับ เวลาที่ผมทุกข์หนักหรือต้องการขอพรผมก็จะมีพ่อชาญเป็นกำลังใจให้เสมอ คำอวยพรของพ่อทำให้ผมยืนหยัดต่อสู้มาได้จนถึงวันนี้”
คำบอกเล่าของหลานชายแท้ๆทำให้เหมทองสะท้านในอก เหมันต์ยิ้มบางๆ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“คำอวยพรของปู่ก็จะทำให้ผมเดินหน้าได้ต่อไปเพื่อดูแลบริษัทและครอบครัวบุญญาฉัตรพงษ์ของเรา”
จบคำก็จับมือเหมทองมาวางบนศีรษะเขาแบบที่ชาญเคยทำ เหมทองยิ้มทั้งน้ำตา
“ขอให้หลานมีความสุขความเจริญ”
เหมันต์ก้มกราบที่ตัก เหมทองปลื้มใจมาก ตื้นตันที่สุดที่หลานชายยอมรับและให้อภัย...
ooooooo
การจากไปของปราการทำให้สมาชิกครอบครัวบุญญาฉัตรพงษ์เป๋พักใหญ่ ลาวัลย์ลูกสาวคนเดียวช็อกมากกว่าใคร เมื่อตั้งสติได้ก็ตัดสินใจไปเรียนต่อเมืองนอกโดยไม่ลืมแวะลาที่เก็บกระดูกของหริทธ์ก่อนไป
เหมทองสำนึกผิดอย่างจริงจังหลังจากนั้น เขามอบกิจการทุกอย่างให้ลูกหลานดูแลโดยมีเหมันต์เป็นหัวเรือใหญ่ เป็นประธานเหมทองกรุ๊ปแทนเขาโดยมีผาณิตา ประกิตและทศนาถคอยช่วยเหลือ ส่วนทัศนัยชดใช้ความผิดในคุกต่ออีกหลายปีโดยมีมิตรอดีตพ่อค้าของเถื่อนและเจ้าของบ่อนคอยดูแลอีกทีตามคำขอร้องของเหมันต์
เหมันต์แต่งงานกับผาณิตาหลังทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ชีวิตคู่ก็ราบรื่นหากผาณิตาจะไม่บ้างานจนแทบไม่มีเวลาให้สามีอย่างเหมันต์ กระนั้นฝ่ายสามีก็ไม่ถือสาเพราะเข้าใจนิสัยเอาจริงเอาจังของภรรยาดี จะมีบ้างก็แค่คอยสะกิดหรือเตือนไม่ให้เคร่งเครียดมากอย่างวันนี้ที่เธอเพิ่งวีนแตกใส่ทีมขาย...
ผาณิตาปล่อยหน้าที่ดูแลภาพรวมให้เหมันต์ในฐานะประธาน ส่วนตัวเองควบคุมรายละเอียดปลีกย่อยให้ตรวจสอบอย่างละเอียดโดยมีทิมเป็นเลขาฯและผู้ช่วยเหมือนเคย เหมันต์เพิ่งตรวจงานคนงานพิการซึ่งเขารับมาฝึกเย็บรองเท้าเสร็จจึงแวะไปหาภรรยาทันเห็นเธอเหวี่ยงใส่พนักงานขายที่ทำงานพลาด
ทิมพยายามช่วยแก้ต่างให้พนักงานเพราะเข้าใจดีว่าทีมขายไม่ได้เจตนาจะพลาดเลยถูกเจ้านายสาวแหวใส่ เหมันต์เห็นท่าไม่ดีเลยช่วยพูดและบอกเลิกประชุมดื้อๆ
เหล่าพนักงานมองหน้ากันยิ้มๆ รู้กันดีว่าประธานคนใหม่อย่างเหมันต์ใจดีและกำลังช่วยพวกเขาให้พ้นจากรังสีอำมหิตของผาณิตา ทิมลอบถอนใจโล่งอกก่อนทิ้งเหมันต์ให้รับมือภรรยาตามลำพัง
ผาณิตาสะบัดหน้าใส่งอนๆ เหมันต์ยิ้มขำแกล้งเย้าภรรยา
“ทำหน้านิ่วแบบนี้บ่อยๆเดี๋ยวหน้าจะเป็นริ้วรอยเหมือนแผนที่ประเทศไทยนะคุณ”
“เมื่อกี้นายหักหน้าฉันต่อหน้าพนักงาน อย่ามาแกล้งเปลี่ยนเรื่อง”
“ผมขอโทษ ผมแค่ไม่อยากให้คุณรีบตัดสินใจตอนกำลังโกรธ แต่ถ้าถึงพรุ่งนี้แล้วคุณยังคิดว่าจำเป็นต้องไล่พวกเขาออกจริงๆ ผมก็จะไม่คัดค้านคุณเลยจ้ะที่รัก เมียว่าไงสามีก็ว่าตามนั้น”
“ท่านประธานสั่งมาอย่างนี้ ฉันก็ทำได้แค่ปฏิบัติตาม”
พูดจบก็เดินออกจากห้อง เหมันต์มองตามด้วยความหนักใจกับนิสัยจริงจังและบ้างานของภรรยา
ooooooo
ทศนาถช่วยงานในโรงงาน ต้อนรับแขกและคู่ค้าต่างชาติตามถนัดโดยมีอุดมเป็นผู้ช่วยในฐานะผู้จัดการโรงงานตามเดิม ประกิตก็ช่วยงานเท่าที่ได้และแบ่งเวลาบางส่วนไปดูแลเหมทองที่อาการดีขึ้นมาก
เหมทองไม่นั่งรถเข็นแล้วแต่ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัว ปากก็ขยับได้มากขึ้นจนพูดคล่อง อดีตประธานเหมทองกรุ๊ปไม่เข้าบริษัทอีกแล้วแต่ยกทุกอย่างให้ลูกหลานดูแล ประกิตแวะมาเยี่ยมเหมือนเคยและเล่าเรื่องกมลอดีตผู้ช่วยของเหมทองที่เวลานี้ชดใช้กรรมในคุกเช่นเดียวกับทัศนัย
“เขาอยู่ในนั้นสบายดี แต่ก็ลำบากตรงที่เดินเหินไม่สะดวกเหมือนคนอื่น”
ประกิตเล่าตามจริงเพราะกมลถูกหริทธ์ยิงที่ขาจนใช้การไม่ได้ดีเหมือนเดิม เหมทองพยักหน้ารับรู้
“หมั่นไปดูแลเขาบ่อยๆด้วยนะ เขาอยากได้อะไรก็จัดหาให้เขาด้วย”
“คุณพ่อไม่โกรธเขาหรือครับ”
เหมทองส่ายหน้า ถอนใจหนักหน่วง “พ่อเป็นคนสอนให้เขาทำธุรกิจอย่างเห็นแก่ตัวมาตลอด ถ้าจะโกรธก็ต้องโกรธตัวเอง ที่เขาต้องกลายมาเป็นคนพิการก็เท่ากับรับกรรมของเขาไปแล้ว”
พูดจบก็เดินไปสมทบมนตราที่ชวนเล่นเกมบิงโก ประกิตตามไปด้วยเวลาเดียวกับที่เหมันต์กับผาณิตากลับถึงบ้านหลังเถียงกันตลอดทางเรื่องความผิดพลาดของทีมขาย
“ผมแค่อยากเห็นคุณทำงานอย่างมีความสุขไม่อยากให้ซีเรียสกับงานมากไป”
“ไม่ซีเรียสได้ไง ตอนนี้ยอดกำลังตกหรือนายไม่สน”
“กำไรมันเป็นแค่ตัวเลข ได้เท่านี้ผมก็พอใจแล้ว”
“งั้นเดี๋ยวก็ดูแล้วกันว่าคุณปู่จะว่าไง”
ผาณิตาแหวสามีงอนๆ ตั้งท่าจะไปฟ้องเหมทองแต่กลับต้องชะงักเมื่อเห็นปู่กำลังสนุกกับมนตราและประกิต เหมันต์เห็นดังนั้นก็ไปร่วมด้วย บรรยากาศครึกครื้นจนผาณิตาต้องถอดใจหนีไปทำงานในห้อง
ทุกคนมองหน้ากันงงๆก่อนจะยิ้มให้กันขำๆ รู้ดีถึงความบ้างานของผาณิตา เหมันต์ถอนใจยาวก่อนเล่าเรื่องทีมขายทำงานพลาดจนภรรยาคนสวยเหวี่ยงสะบัด เหมทองกับประกิตเลยยุให้พากันไปพักผ่อนและฮันนีมูนยาวๆบ้างเพราะตั้งแต่แต่งงานเกือบปี สองสามีภรรยาไม่เคยไปเที่ยวไหนด้วยกันเลย
ooooooo
เหมันต์ตัดสินใจลองทำตามที่ปู่กับพ่อตาแนะนำ แอบตามผาณิตาเข้าห้องและดึงโน้ตบุ๊กออกจากตักเธอดื้อๆ
“คุณทำอะไร ฉันกำลังทำงานนะ”
“หมดเวลางานแล้ว...พักผ่อนเถอะ”
“ไม่ได้...ฉันต้องเตรียมหัวข้อประชุมพรุ่งนี้”
“ไม่เอา...เคยบอกแล้วไงว่าอย่าเอางานมาทำที่บ้าน”
“มันเป็นงานของบริษัทนายทั้งนั้น ลองคิดดูว่าฉันทำเพื่อใคร”
“บริษัทเราอยู่ตัวแล้วแต่ครอบครัวของเรายังไม่สมบูรณ์ ถ้าลดเรื่องงานแล้วเติมให้ครอบครัวมันน่าจะดีกว่านะ”
“นายว่าฉันทำหน้าที่ภรรยาบกพร่องเหรอ”
“ไม่ใช่...คุณน่ะเป็นยอดภรรยา ผู้ชายทั้งโลกต้องอิจฉาผม...แต่ว่า...มันจะดีกว่านี้ถ้า...”
พูดพลางโถมตัวกอดภรรยา กระซิบข้างหูขอมีลูกด้วยกัน ผาณิตาเขินยอมให้เขาจูบจนเคลิ้ม พลันก็นึกขึ้นได้เมื่อได้ยินเสียงเตือนจากมือถือ เหมันต์ตบหน้าผากเซ็งๆเมื่อได้ยินว่าภรรยาคนสวยทวงงานค้างจากทิม
เหมันต์หงุดหงิดมาก แย่งมือถือจากภรรยาและขู่ทิม ไม่ให้โทร.มาอีกจนเช้า หาไม่จะโดนไล่ออก ผาณิตาฮึดฮัดจะดึงมือถือคืนแต่สามีก็วางสายไปแล้วพร้อมอ้อน
“มานอนได้แล้ว...ผมไม่ได้นอนกอดคุณผมนอนไม่หลับ”
ผาณิตาไม่ยอมส่งหมอนให้เขากอดแทน ส่วนตัวเองยกโน้ตบุ๊กไปทำงานข้างนอก
ผกาเฝ้ามองสถานการณ์ระหว่างลูกสาวกับลูกเขยด้วยความเหนื่อยใจ อดบ่นกับประกิตไม่ได้
“ขืนปล่อยให้ยัยตาลกับเหมันต์เป็นอย่างงี้ต้องมีปัญหาแน่ คุณนี่ก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ได้ ช่วยกันคิดหน่อยสิ”
“ผมก็เตือนเหมันต์ไปแล้ว แต่นี่มันเรื่องผัวเมียเขาจะไปก้าวก่ายมากมันก็ไม่ดี”
“เรื่องนี้มันผิดที่ยัยตาล ผัวทั้งดีทั้งซื่อแบบนี้หาได้ที่ไหน เกิดคนอื่นมาคาบไปกินจะรู้สึก”
“เหมันต์น่ะเหรอ มันไม่มีทางกล้านอกใจยัยตาลหรอก ถ้าเป็นผมกับเจ้าทศละไม่แน่”
ประกิตพูดไม่คิดเลยถูกผกาแหวเสียงเขียว คดีเก่าทำให้ผกาอดของขึ้นไม่ได้ ประกิตต้องแก้ตัวว่าไม่มีแผนจะนอกใจ แต่มีแผนจะให้ทศนาถเป็นตัวช่วยกระตุ้นผาณิตาให้หึงหวงเหมันต์บ้าง
ทศนาถยังไม่รู้ตัวว่าจะกลายเป็นตัวช่วยของเหมันต์ พาสมรไปเยี่ยมทัศนัยที่เรือนจำพร้อมโอ่ใหญ่ว่าเวลานี้เขาทำผลงานให้บริษัทได้เซ็นสัญญากับลูกค้าต่างประเทศ ทัศนัยภูมิใจในตัวลูกชายคนเดียวมากกระนั้นก็ไม่วายเตือนให้ทศนาถดูแลลาวัลย์ที่กำลังเรียนต่อ ที่ต่างประเทศหวังไถ่โทษให้ปราการที่ต้องตายเพราะเขา
สมรยิ้มปลื้มใจที่สามีกับลูกชายคุยกันด้วยความรักและเข้าใจ หลังเหตุการณ์วุ่นวายสองพ่อลูกก็สำนึกผิดและกลับตัวกลับใจเป็นคนดีในแบบที่หวังมานาน ทศนาถเห็นแม่มองพ่อยิ้มๆก็เบี่ยงตัวหลบให้คุยกัน
“วันนี้ตอนแรกคุณพ่อจะมาด้วยแต่เผอิญคุณหมอเลื่อนนัดตรวจ ท่านเป็นห่วงคุณมากสั่งมาบอกว่าห้ามใจร้อน”
ทัศนัยยิ้มบางๆให้ภรรยา “ไม่ต้องห่วงหรอก บอกคุณพ่อไปเลยว่าผมไม่ใช่ไอ้สามคนเก่าแล้ว อีกหน่อยผมจะเป็นนักโทษดีเด่น แป๊บๆได้ออกไปนั่งบริหารเหมทองเหมือนเดิม”
สมรหมดห่วงแต่ไม่วายกังวัลกลัวสามีถูกเพื่อนร่วมคุกรังแก ทศนาถปลอบไม่ให้คิดมากเพราะเชื่อมือเหมันต์ที่ฝากฝังมิตรขาใหญ่ประจำเรือนจำให้ช่วยดูแลทัศนัยอย่างดี
มิตรทำตามที่รับปากเหมันต์จริงๆ คอยเป็นหูเป็นตาสอดส่องทัศนัยไม่ให้ถูกนักเลงในคุกกลั่นแกล้ง อย่างเช่นวันนี้ที่ทัศนัยถูกขาโจ๋ในคุกข่มขู่ให้ขัดรองเท้า มิตรตามไปขวางและยัดบุหรี่ให้พวกขาโจ๋แทน ทัศนัยเห็นแล้วส่ายหน้าหน่ายๆ
“คราวหลังไม่ต้องมายุ่ง แบบนี้ก็ดีแล้วจะได้ชดใช้สิ่งที่ฉันทำมาให้มันหมดๆไป”
“ชดใช้ด้วยการลงโทษตัวเองมันจะเกิดประโยชน์อะไรวะ นู่น...มันต้องออกไปสร้างความดีช่วยเหลือสังคมอยู่ข้างนอก ฉันคนหนึ่งไม่ยอมให้แกตายอยู่ในนี้แน่”
ทัศนัยฟังแล้วอดทึ่งไม่ได้ มิตรจึงบอกด้วยความภาคภูมิใจว่าเหมันต์เป็นคนเตือนสติเขาเรื่องนี้
ooooooo
อ่านละคร ประกาศิตกามเทพ ตอนที่ 16 วันที่ 8 พ.ย.61
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทประพันธ์โดย รจเรขละครเรื่องประกาศิตกามเทพ บทโทรทัศน์โดย กฤติญา สัมฤทธิ์ประสงค์
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ กำกับการแสดงโดย อนุวัฒน์ ถนอมรอด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ผลิตโดย บริษัท ดีวัน ทีวี จำกัด
ละครเรื่องประกาศิตกามเทพ ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ