อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 1 วันที่ 11 พ.ย.61
ลิ้มเม่งฮง อาแท้ๆของทรงวาดร่วมกับโอ๊วฮุ่ยเซี้ยง หุ้นส่วนและพี่น้องร่วมสาบาน ซื้อตึกหกห้องจากสองผัวเมียแซ่ลี้ แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายเงินกลับชักดาบและจัดการฆ่าปิดปากสองผัวเมียปิ่นมุกหรือลี้เตียงจูเป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆ่ายกครัวครั้งนั้น โดยทิ้งรอยแผลเป็นบนใบหน้าของโอ๊วฮุ่ยเซี้ยงไว้ก่อนตัวเองจะเตลิดไปเป็นเด็กเร่ร่อนหลายปี กระทั่งทรงวาดมาพบและรับมาอุปการะ
เหตุการณ์ในอดีตทำให้ปิ่นมุกผูกใจเจ็บลิ้มเม่งฮงและโอ๊วฮุ่ยเซี้ยงจนบัดนี้ ฮุ่ยหลิงเห็นสีหน้ารุ่นน้องสาวเคร่งเครียดก็สงสัยแต่ปิ่นมุกก็บ่ายเบี่ยงแบบขอไปที
“ไม่มีอะไรหรอกแจ้ นึกถึงเรื่องตอนเด็กๆแล้วหงุดหงิดนิดหน่อยน่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว”
“ตกลงลิ้มเม่งฮงทำอะไรไว้กับครอบครัวลื้อ พอพูดถึงเรื่องนี้ทีไรลื้อต้องมีท่าทางอย่างงี้ทุกที”
“เรื่องมันยาวน่ะแจ้ เอาไว้สักวันอั๊วจะเล่าให้ฟังนะ...”
งานเปิดโรงสีของทรงวาดดำเนินต่อ บรรยากาศตึงเครียดเพราะแก๊งหกห้องค่อยๆคลี่คลาย เม่งฮงอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะใครๆก็มาร่วมงานหลานชายอย่างทรงวาด แสดงถึงอิทธิพลของอีกฝ่ายที่จะช่วยหนุนแก๊งหกห้องในอนาคต
โอ๊วฮุ่ยเซี้ยงชอบทรงวาดจนอยากจับคู่ให้โอ๊วไต้เกียวหลานสาวคนสวย แต่ไม่ทันออกปากทรงวาดก็ไปต้อนรับแขกคนพิเศษอีกราย...ชาญยุทธหรืออ้าย พี่ชายบุญธรรมของทรงวาดที่มาร่วมงานพร้อมวิสูตรนายทหารคนสนิท
“โรงสีเราใหญ่โตไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะเสือ อย่างงี้ไม่เหนื่อยแย่เหรอ”
“ผมมีคนช่วยหลายคนครับพี่อ้าย โดยเฉพาะ
คุณสุเทพที่เป็นเสมียน เขาทำงานโรงสีมาตั้งแต่เด็ก แต่พอเถ้าแก่เขาตายลูกๆไม่ทำต่อผมเลยดึงเขามาช่วย น่าจะผ่อนแรงไปได้พอสมควรครับ”
“ก็ดี...เสร็จจากงานของนายแล้วจะได้มาดูแลธุรกิจให้พี่ด้วย”
ทรงวาดหรือบุ่นโฮ่วชะงัก เข้าใจความหมายธุรกิจของพี่ชายบุญธรรมดี ชาญยุทธเห็นอาการนั้นแต่ทำเฉย ตบบ่าเบาๆแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ทุกอย่างกำลังไปได้สวยเลยนะ ถ้ามีนายช่วยอีกคนพี่คงหมดห่วง”
“เอ่อ...พี่อ้ายมาหาผมถึงที่นี่มีอะไรให้รับใช้ครับ”
ชาญยุทธส่งสายตาไปทางวิสูตรให้พูดธุระแท้จริงที่มาร่วมงานวันนี้
“เท่าที่ผมให้คนออกสืบ...การที่แก๊งหกห้องกับแก๊งหัวลำโพงมีเรื่องกันเมื่อคราวก่อนเป็นแผนเสี้ยมของใครบางคนครับ จุดประสงค์ก็เพื่อยืมมือตำรวจจัดการทั้งสองแก๊งเป็นการลิดรอนอำนาจของเราครับ”
“แต่วิสูตรก็ยังไม่รู้ว่าฝีมือใคร แสดงว่าคนอยู่เบื้องหลังไม่ธรรมดาเหมือนกัน”
“ครับ...แต่ผมสงสัยว่าฝ่ายเรามีไส้ศึกเพราะมันเลือกลงมือตอนที่ลิ้มเม่งฮง เอ่อ...คุณอาของคุณเสือกับเถ้าแก่โอ๊วฮุ่ยเซี้ยงไม่อยู่ มันไม่น่าจะบังเอิญขนาดนั้นครับ”
จากข้อสันนิษฐานของวิสูตร ชาญยุทธจึงขอให้ทรงวาดช่วยหาตัวไส้ศึก ทรงวาดแบ่งรับแบ่งสู้เพราะการสืบที่ว่าอาจทำให้ขัดแย้งกับแก๊งหกห้องของเม่งฮงอาแท้ๆ ชาญยุทธเข้าใจดีแต่ยืนยันตามความต้องการเดิม
“ฝากหน่อย...อำนาจและผลประโยชน์เราใช้เวลาเป็นสิบๆปีกว่าจะได้ขนาดนี้ พี่ไม่ต้องการให้ใครมาท้าทาย”
ooooooo
ขณะที่ทรงวาดหรือบุ่นโฮ่วหนักใจคำขอร้องจากพี่ชายบุญธรรม ฮุ่ยเซี้ยงปลาบปลื้มทรงวาดออกนอกหน้าและอยากใช้สายสัมพันธ์ของทรงวาดกับชาญยุทธให้เป็นประโยชน์
“พี่บุญธรรมอาโฮ่วคนนี้ที่เป็นนักการเมืองแล้วก็มีพ่อเป็นรัฐมนตรีด้วยใช่ไหม”
เม่งฮงพยักหน้า รู้ดีว่าชาญยุทธเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของการันต์รัฐมนตรีใหญ่
“ใช่...แต่อั๊วก็ไม่รู้อะไรมากหรอกนะ อาโฮ่วไปอยู่บ้านนั้นตั้งแต่เล็ก พออีถูกโรงเรียนนายร้อยตำรวจไล่ออก อีก็กลับมาอยู่ที่นี่อย่างที่เฮียรู้น่ะแหละ แต่อีก็ไม่เคยเล่าอะไรให้อั๊วฟังหรอก”
“มีพ่อแม่บุญธรรมเป็นคนใหญ่คนโตอย่างงั้นอาโฮ่วไม่คิดจะพึ่งพาบ้างเลยเหรอ อั๊วว่าน่าเสียดายนา”
“เฮียหมายความว่ายังไง”
“เราต้องจ่ายส่วยให้นายทุกเดือน...อั๊วเสียดาย ถ้าคุยกับพ่อบุญธรรมอาโฮ่วรู้เรื่องให้เขาช่วยซะหน่อยเราจะได้ไม่ต้องจ่ายส่วยอีก กำไรเราก็เหลือเยอะขึ้น”
“อาโฮ่วรังเกียจงานของเราจะตาย อีไม่พูดให้หรอก ถ้าไม่เห็นว่าเป็นหลานอั๊วก็ไม่อยากเจอหน้าอีเหมือนกัน”
“ก็ค่อยๆพูดไปสิ วันนี้ไม่ยอมวันหน้าก็ต้องยอม ยังไงก็สายเลือดเดียวกัน”
“อั๊วไม่รับปากนะ”
เม่งฮงแบ่งรับแบ่งสู้เพราะรู้จักนิสัยหลานชายอย่างทรงวาดดี ฮุ่ยเซี้ยงไม่เซ้าซี้แต่เปลี่ยนมาแย็บถามเรื่องจับคู่ทรงวาดให้ไต้เกียวหลานสาวคนสวย เม่งฮงเห็นดีเห็นงามด้วยเพราะหากหลานชายลงเอยกับหลานสาวของหุ้นส่วนสายสัมพันธ์จะยิ่งแน่นแฟ้นทำให้สถานะภายในแก๊งของเขามั่นคงขึ้น
ฮุ่ยเซี้ยงวางแผนให้ทรงวาดเจอไต้เกียวในงานฉลองเปิดโรงสีช่วงเย็นซึ่งทรงวาดว่าจ้างคณะงิ้วมาเปิดแสดง ส่วนรณชิตตามสืบเรื่องทรงวาดในงานจนรู้ว่าเถ้าแก่เสือคนดังเป็นลูกชายบุญธรรมของการันต์นักการเมืองใหญ่ โอฬารซึ่งรู้ข่าวจากวงในพยักหน้ารับรู้แถมบอกข้อมูลเก่าที่ตนสืบมาได้บ้าง
“ใช่...เขาเคยเรียนนายร้อยตำรวจด้วย แต่ตอนเรียนปีสุดท้ายถูกศัตรูท่านการันต์ขุดคุ้ยเรื่องมีพ่อมีอาเป็นมาเฟียเลยถูกบีบให้ออกจากโรงเรียน ไม่อย่างงั้นป่านนี้นายทรงวาดได้เป็นเจ้านายเราสองคนไปแล้ว”
“งั้นเป็นไปได้ไหมครับว่าคนที่อยู่เบื้องหลัง
นายทรงวาดคือท่านรัฐมนตรีการันต์”
“ทำไมจะไม่ได้ ใครๆก็รู้ว่าท่านการันต์เป็นยังไง เผลอๆอาจเกี่ยวกับคนที่พวกนักเลงละแวกนี้เรียกว่านายก็ได้”
“ทุกแก๊งในแถบนี้ต้องส่งส่วยให้นายทุกเดือนแลกกับการคุ้มครอง แต่เราก็ไม่เคยรู้ว่านายเป็นใคร ถ้าทรงวาดกับท่านการันต์เกี่ยวข้องกับนายจริงเราอาจจะขุดรากถอนโคนเลยก็ได้นะครับหมวด”
แววตาของรณชิตเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น โอฬารต้องปรามไม่ให้คาดหวังเกินไป “อย่าเพิ่งฝันหวาน งานนี้หินกว่าที่คิด พลาดขึ้นมาทั้งหมู่ทั้งผมได้กระเด็นจากพลับพลาไชยไปอยู่ชายแดนเอาง่ายๆ”
“ยากสิครับดี ยิ่งยากก็ยิ่งท้าทายให้เอาชนะ!”
ooooooo
โอ๊วฮุ่ยเซี้ยงได้ทำตามแผนที่คิดไว้คือพาโอ๊วไต้เกียวหลานสาวคนสวยมาร่วมงานเลี้ยงฉลองเปิดโรงสีตอนเย็น ทรงวาดเห็นเป็นหลานสาวหุ้นส่วนของอาแท้ๆจึงต้อนรับขับสู้อย่างดีพร้อมเอ่ยชมตามมารยาท
“อาไต้เกียวไหว้สวยไม่แพ้คนไทยเลยนะครับโอ๊วแปะ นี่ถ้าไม่บอกก่อนว่าเป็นหลานโอ๊วแปะอั๊วต้องคิดว่าเป็นคุณหนูลูกผู้ดีคนไทยแน่ๆ”
ไต้เกียวยิ้มหวานรับคำชม ฮุ่ยเซี้ยงปลื้มมากอวดหลานสาวเป็นการใหญ่
“ไม่ใช่แค่กิริยามารยาทนา อาไต้เกียวอียังเป็นแม่บ้านแม่เรือนอีกด้วย ไม่ว่าอาหารการกิน ปัดกวาดเช็ดถู ซักเสื้อผ้า อีไม่เคยขาดตกบกพร่องเลย ใครได้อีไปเป็นเมียรับรองสบายไปทั้งชาติ”
ทรงวาดรับฟังยิ้มๆก่อนขอตัวไปรับแขกอีกทาง แต่ความจริงคือตั้งใจไปตามหาปิ่นมุกหรือเตียงจูสาวน้อยในอุปการะที่หายหน้าหายตาจากงานเลี้ยงทั้งที่ชอบดูงิ้วเป็นชีวิตจิตใจ
ก๊กไช้หรือธีมา น้องชายทิเหล็ง หนุ่มน้อยในอุปการะอีกคนของทรงวาดเข้าใจความอึดอัดใจของปิ่นมุกเพื่อนสาวร่วมรุ่นและร่วมโรงเรียนดี เมื่อทรงวาดมาถามหาจึงบอกว่าปิ่นมุกไปนั่งเล่นที่ริมแม่น้ำ
ปิ่นมุกชังน้ำหน้าเม่งฮงกับฮุ่ยเซี้ยงจึงไม่อยากอยู่ในงาน ทรงวาดเข้าใจแต่ก็อยากให้เธอได้ดูงิ้วของชอบ
“อั๊วรู้ว่าลื้อไม่อยากเจออาเจ็กอั๊ว ลื้อนั่งดูอยู่ไกลๆก็ได้จะได้ไม่ต้องเห็นหน้ากัน”
“ไม่! ถ้าไอ้ฆาตกรนั่นดูงิ้ว อั๊วจะไม่ดูกับมัน”
“ดื้อจริงๆ ทำไมลื้อดื้ออย่างงี้นะ”
“ถ้าอั๊วว่านอนสอนง่ายก็คงตายไปนานแล้ว จะอยู่รอดมาเจอเฮียยังงี้เหรอ”
คำพูดกระเง้ากระงอดของสาวน้อยในอุปการะทำให้ทรงวาดคิดถึงครั้งแรกที่เจอเธอเมื่อหลายปีก่อน ครั้งนั้นเธอยังเด็กและจะลอบฆ่าเขาด้วยขวดแตกปากฉลาม โชคดีที่ทิเหล็งคนสนิทของเขามาห้ามทัน
“อีชื่ออาจู อาศัยอยู่ที่โรงเจ อียังเด็ก...เถ้าแก่อย่าถือ อีเลย”
“แต่อีจะเอาขวดแตกแทงอั๊ว”
“อาป๊าอาม้าอีเป็นเจ้าของตึกหกห้อง อาเจ็กของเถ้าแก่หลอกให้ขายตึกเอามาทำโรงน้ำชาแล้วฆ่าทิ้งปิดปากจนอาจูต้องเป็นกำพร้า เถ้าแก่สงสารอีเถอะนะ อย่าทำอะไรอีเลย”
ทรงวาดอึ้งไปอึดใจเมื่อได้ฟังที่มาที่ไปของปิ่นมุก ตั้งท่าจะปลอบแต่กลับถูกเธอตวาดใส่
“ไม่ต้องมาสงสารอั๊ว อั๊วจะฆ่ามัน ฆ่าพวกมันทั้งโคตร ตอนนี้ยังฆ่าไอ้ชาติชั่วเม่งฮงไม่ได้ อั๊วก็จะฆ่าลูกมัน ฆ่าหลานมันให้มันเสียใจเหมือนที่อั๊วต้องเสียใจ!”
ปิ่นมุกอยู่ในอาการขวัญเสียและหวาดระแวงผู้คนรอบตัว ทรงวาดไม่ได้ถือสาแต่พยายามดูแลห่างๆและรับเธอมาอุปการะในที่สุด จากวันนั้นถึงวันนี้เด็กสาวมอมแมมกลายเป็นสาวน้อยหน้าตาสดใส ถึงจะดื้อและหัวแข็งไปบ้างแต่ก็เป็นสีสันของบ้าน ทำให้เขาและผู้คนรอบตัวหัวเราะได้เสมอ
ทรงวาดดึงตัวเองจากอดีต ถอนใจยาวเมื่อคิดถึงชะตากรรมของปิ่นมุกที่ผ่านมา
“ไม่อยากดูก็ไม่ต้องดู แต่อั๊วอยู่เป็นเพื่อนลื้อตรงนี้ไม่ได้หรอกนะ ต้องไปต้อนรับแขก”
“แล้วใครใช้ให้เฮียอยู่ล่ะ อยากไปไหนก็ไปเลย!”
ปิ่นมุกเชิดหน้าหนีงอนๆ ทรงวาดมองมาด้วยความเอ็นดูก่อนชี้นิ้วไปบนฟ้าที่เพิ่งมีการจุดพลุ สาวน้อยในอุปการะเบิกตาโพลงด้วยความตื่นเต้น ทรงวาดยิ้มบางๆแล้วเอ่ยเสียงอ่อน
“ปีก่อนลื้อขออั๊วไปดูพลุแต่อั๊วไม่มีเวลาพาไปก็เลยถือโอกาสจุดพลุให้ลื้อดูชดเชย...แค่นี้ล่ะที่อั๊วอยากบอก”
พูดจบก็ผละไป ทิ้งให้ปิ่นมุกมองตามอึ้งๆ ไม่อยากเชื่อ ก็ต้องเชื่อว่าเขาจะจำได้...
ooooooo
ทรงวาดผละจากปิ่นมุกมาได้ก็ถือโอกาสทักทายแขกเหรื่อคนอื่น โอ๊วฮุ่ยเซี้ยงเคืองมากเพราะทรงวาดไม่สนใจโอ๊วไต้เกียวหลานสาวคนสวยเท่าที่ควร ลิ้มเม่งฮงสั่งให้ลิ้มป่วยซังไปตามพี่ชายแต่ทรงวาดก็ไม่มาสักที
“กว่าจะมาได้ ดูมัน...ยังแวะคุยกับคนอื่นอีก แทนที่จะรีบมาหาอาเจ็กมัน”
ไต้เกียวกลัวทรงวาดไม่ชอบใจที่ถูกเจ้ากี้เจ้าการพยายามห้ามเม่งฮงกับฮุ่ยเซี้ยงไม่ให้เร่งรัด แต่สองหนุ่มแกนนำแก๊งหกห้องก็ไม่ยี่หระ ตั้งหน้าตั้งตาจะจับคู่ไต้เกียวกับทรงวาดให้ได้
ทรงวาดพยายามไม่เฉียดไปใกล้โต๊ะเม่งฮงเพราะไม่อยากลำบากใจ แต่พลันต้องพุ่งไปแทบไม่ทันเมื่อจู่ๆนักแสดงงิ้วที่จ้างมาก็ขว้างหอกในมือใส่เม่งฮง!
เหตุการณ์ลอบสังหารลิ้มเม่งฮงอย่างอุกอาจกลางงานเปิดตัวโรงสีซึ่งแม้จะไม่สำเร็จแต่เจ้าของงานอย่างทรงวาดต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการกวดตามมือสังหารในคราบนักแสดงงิ้วด้วยตัวเองแต่ก็คลาดกันในที่สุด
เม่งฮงหัวเสียมากอาละวาดอย่างกราดเกรี้ยว “เก๋าเจ้ง! นับแต่อั๊วขึ้นมาเป็นใหญ่ในเยาวราชไม่เคยมีใครกล้าทำอย่างงี้กับอั๊วมาก่อน ถ้าอั๊วไม่ฆ่ามันกับมืออั๊วไม่ขอใช้แซ่ลิ้ม”
ฮุ่ยเซี้ยงสีหน้าเคร่งเครียด ประสาทเสียแต่ไม่อยากให้หุ้นส่วนหนุ่มหุนหันพลันแล่น
“เสืออย่างลื้อถูกกระตุกหนวดต้องโกรธเป็นธรรมดาแต่เรายังไม่รู้ว่าพวกมันเป็นใครจะไปฆ่ามันได้ยังไงวะอาฮง”
“ทำไมจะไม่รู้ ก็ไอ้พวกหัวลำโพงน่ะแหละจะมีใคร มันเพิ่งมีเรื่องกับอาเตี๋ยงมันก็เลยแค้นอั๊วน่ะสิ”
ทรงวาดกลัวใจอาหนุ่มพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ “อั๊วว่าเรื่องพวกหัวลำโพงมันจบไปแล้ว พวกมันอาจกล้ากับอาเตี๋ยง แต่อั๊วไม่เชื่อว่ามันจะกล้ากับอาเจ็ก อีกอย่าง...ถ้ามันคิดฆ่าหวังผลจริงๆใช้ปืนน่าจะสำเร็จกว่าหอกไม่ใช่เหรอครับ”
ทุกคนนิ่วหน้าคิดตาม ทรงวาดเห็นดังนั้นถือโอกาสบอกข้อสันนิษฐานของตัวเอง
“ตามความคิดของอั๊วพวกมันน่าจะหวังเสี้ยมให้เกิดความวุ่นวายเพื่อฉกฉวยผลประโยชน์มากกว่า”
ข้อสันนิษฐานของทรงวาดฟังขึ้นไม่น้อย ทั้งเม่งฮงและฮุ่ยเซี้ยงจึงยอมสงบท่าที ไต้เกียวปลื้มและประทับใจในความสุขุมและเยือกเย็นของเขา แต่ไม่ทันพูดอะไรมากทิเหล็งก็มารายงานผลการสอบถามหัวหน้าคณะงิ้ว
“หัวหน้าคณะบอกว่าไม่รู้จักไอ้คนลงมือครับเถ้าแก่ เผอิญคนในคณะไม่สบาย อีมาขอเล่นแทน หัวหน้าคณะเห็นว่าเล่นได้และไม่ใช่ตัวสำคัญก็เลยรับไว้ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องยังงี้ครับ”
“คิดฆ่าอาเจ็กอั๊วไม่ใช่เรื่องเล็ก คณะงิ้วแค่นี้ไม่น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วยหรอก”
ทรงวาดอาสาสืบหาตัวบงการลอบสังหาร เม่งฮงกับฮุ่ยเซี้ยงพอใจเพราะเชื่อมืออีกฝ่ายว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง
ooooooo
เหตุการณ์ลอบสังหารเม่งฮงทำให้ป่วยซังขวัญผวา ปิ่นมุกหรือเตียงจูต้องพาไปพักด้วยกันในห้อง ทรงวาดเป็นห่วงน้องสาวตามไปดูอาการเลยถูกสาวน้อยในอุปการะแขวะ
“ให้แจ้ซังนอนกับอั๊วที่นี่แหละ แจ้ใจอ่อนไม่ใจดำอำมหิตอย่างอาเจ็กของเฮีย เจอเรื่องแบบนี้ขวัญเสียหมดแล้ว”
“อั๊วกำลังจะขอบใจลื้อที่เป็นห่วงอาซังอยู่แล้วเชียวแต่ปากลื้อนี่มัน...”
“ปากอั๊วทำไม...หรือไม่จริง...เฮียจะเถียงว่าอาเจ็กของเฮียเป็นคนใจดีมีเมตตาอย่างนั้นสิ เสียดาย...ไม่ถูกหอกปักอกตาย ไม่อย่างนั้นอั๊วจะลงทุนซื้อพลุมาจุดฉลองสามวันสามคืนซะเลย”
ทรงวาดไม่ถือสาคำพูดจิกกัดของปิ่นมุกหันไปพูดกับน้องสาว ป่วยซังเป็นห่วงพี่ชายกลัวเหตุลอบสังหารจะกระทบโรงสี ทรงวาดส่ายหน้าพลางปลอบไม่ให้กังวลเพราะเรื่องน่าเครียดกว่าคือเขาต้องไปให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งจ้องจับผิดชาวแก๊งและผู้เกี่ยวข้องอย่างเขามาตลอด
การคาดการณ์ของทรงวาดเป็นจริงทุกอย่าง เมื่อรณชิตรู้เรื่องก็เรียกตัวเถ้าแก่คนดังไปสอบปากคำที่สถานีทันที ทรงวาดไม่หวั่นท่าทางก้าวร้าวของตำรวจหนุ่ม ยืนยันว่างานเปิดตัวเรียบร้อยดี
“มันไม่มีอะไรจริงๆครับ หมู่จะให้พูดยังไง ถ้าไม่เชื่อหมู่ไปถามคนที่มางานดูก็ได้”
“นึกว่าผมโง่เหรอ ที่ท้าให้ถามเพราะรู้สิว่าไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องตีรันฟันแทงของนักเลงอย่างพวกคุณ”
“ผมไม่ใช่นักเลง ผมเป็นแค่พ่อค้าข้าวเท่านั้น”
รณชิตไม่เชื่อ อคติฝังใจทำให้ตอกไม่ไว้หน้า
“ค้าข้าวหรือค้าเนื้อสดกันแน่ หลานชายของลิ้มเม่งฮงเนี่ยนะจะทำอาชีพสุจริตได้”
“ถ้าหมู่ตั้งธงไว้อย่างงี้แล้วจะเรียกผมมาสอบปากคำทำไม ไม่จับเข้าคุกซะเลยล่ะครับ”
“แน่มากเถ้าแก่เสือ คงคิดว่ามีพ่อบุญธรรมเป็นรัฐมนตรีแล้วตำรวจชั้นผู้น้อยอย่างผมจะไม่กล้างั้นสิ บังเอิญผมชอบฟังเสียงไม้ล้มซะด้วย ต้นไม้ยิ่งใหญ่ ยิ่งล้มดัง!”
ทรงวาดไม่แสดงท่าทีตื่นตระหนกและเดินออกจากโรงพักอย่างสงบ วิสูตรซึ่งเพิ่งได้คำสั่งจากชาญยุทธให้มาดูแลน้องชายบุญธรรมปรี่มาดักหน้า
“คุณเสือเป็นยังไงบ้างครับ”
“พี่อ้ายรู้เรื่องแล้วเหรอ...รวดเร็วจริงๆนะ”
“คุณอ้ายเป็นห่วงคุณเสือน่ะครับเลยใช้ให้ผมมาเผื่อจะช่วยอะไรคุณเสือได้”
“ตำรวจทำตามหน้าที่ ฉันจัดการได้ บอกพี่อ้ายไม่ต้องห่วง แต่ไหนๆมาแล้วช่วยสืบประวัติสิบตรีรณชิตให้หน่อย”
“แค่หมู่เท่านั้นเองเหรอครับ ไม่น่ามีอะไรมั้งครับ”
“ถึงยศจะน้อยแต่ท่าทางไม่ธรรมดา...ฉันไม่อยากประมาท”
“ได้ครับ...ผมจะรีบจัดการให้”
ooooooo
ทรงวาดจัดการทุกอย่างเงียบเชียบจนแม้แต่คนในบ้านอย่างปิ่นมุกก็ไม่ระแคะระคาย ต่างจากคนนอกบ้านอย่างฮุ่ยหลิงหรืออรุณรุ่ง รุ่นพี่สาวคนสนิท ลูกสาวร้านทองที่คิดว่าสถานการณ์ในเยาวราชไม่ค่อยดี
“ไม่เห็นเฮียโฮ่วพูดอะไรเลย คงไม่มีอะไรหรอกแจ้หลิง”
“ไม่มีได้ยังไง เขารู้กันทั้งเยาวราชว่าลิ้มเม่งฮงเป็นระดับเจ้าพ่อ มีคนลอบฆ่าถึงในงานเลี้ยงใช่เรื่องเล็กๆเหรอ”
“ถึงจะมีก็ไม่เกี่ยวกับเฮียโฮ่วนี่ เสียดายอยู่อย่างเดียวที่ไอ้สารเลวนั่นไม่ตาย”
ปิ่นมุกหรือเตียงจูปักใจแต่เรื่องแก้แค้นเม่งฮงเลยไม่สนใจเรื่องอื่น ฮุ่ยหลิงต้องเตือนให้ตั้งสติ
“ลื้อก็คิดง่ายไปอาจู ขนาดอาป๊าอั๊วเป็นพ่อค้าทองยังบอกเลยว่าเรื่องคราวนี้อันตรายทั้งเยาวราช เผลอๆจะเป็นสงครามระหว่างแก๊งด้วยซ้ำ ไม่รู้จะมีคนโดนลูกหลงไปด้วยเท่าไหร่ แล้วเฮียโฮ่วของลื้อเป็นหลานชายแท้ๆของลิ้มเม่งฮง มีเหรอจะไม่เกี่ยว เผลอๆต้องไปยิงไปสู้กับเขาเหมือนคราวที่แล้วรึเปล่าก็ไม่รู้”
คำเตือนของฮุ่ยหลิงทำให้ปิ่นมุกฉุกใจคิดและตัดสินใจเปิดฉากถามทรงวาดในเย็นวันเดียวกัน
“จะมีสงครามระหว่างแก๊งจริงใช่ไหม”
“ดูหนังเรื่องอะไรมา”
ทรงวาดสวนแบบไม่จริงจัง แต่นั่นยิ่งทำให้ปิ่นมุกร้อนใจ
อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 1 วันที่ 11 พ.ย.61
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร บทประพันธ์โดย ปราณธรละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร บทโทรทัศน์โด: บทกร
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ