อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 7 วันที่ 9 พ.ย.61

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 7 วันที่ 9 พ.ย.61

ขณะหนีพิกุลตกน้ำซ้ำขาเป็นตะคริวจมดิ่งเหมือนถูกดึงลงใต้น้ำ หลวงราชคว้าตัวไว้ได้ประกบปากแบ่งอากาศที่เหลือของตนให้พิกุล แล้วพาขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่พิกุลหมดสติเสียแล้ว...

หลวงราชประคองพิกุลขึ้นที่ท่าน้ำแห่งหนึ่งท่ามกลางพายุที่ยังซัดกระหน่ำ  ทั้งสองหมดสติที่ท่าน้ำมีห่อเสื้อผ้าที่ซ่อนปี่ไว้ในห่อ  หลวงราชได้สติก่อนอุ้มพิกุลจะพาหลบฝน ฟ้าแลบขึ้นทำให้คุณหลวงเห็นเรือนหลังหนึ่งอยู่เบื้องหน้า จึงอุ้มพิกุลไปที่เรือนหลังนั้น

ที่แท้คือเรือนของครูทับกับท่านจันในอดีต...



พิกุลฝันเห็นท่านจันกับครูทับที่หนีมาครองเรือนกัน แต่ท่านพ่อของท่านจันนำกำลังบ่าวไพร่มารายล้อมเรือนจะเอาตัวท่านจันกลับพระนคร  ท่านจันอ้อนวอนท่านพ่ออย่าบังคับใจตนเลย ตนจะอยู่กับนายทับ เมื่อท่านพ่อสั่งบ่าวให้เอาท่านจันลงเรือให้ได้  ท่านจันจะเอามีดปาดคอ แต่บ่าวปัดมีดทิ้งทัน

ในที่สุดท่านพ่อก็ให้บ่าวเอาตัวท่านจันลงเรือกลับพระนคร บ่าวคว้ากล่องปี่ในห่อผ้าไปด้วย

ในฝัน...พิกุลเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ได้แต่มองไปรอบๆเรือนด้วยความเศร้า...

พิกุลร้องไห้เหมือนคนละเมอ  หลวงราชตกใจตื่นถามว่า

“พิกุล...พิกุล หล่อนเป็นอะไรรึ เมื่อคืนหล่อนละเมอไม่รู้เรื่อง หล่อนสบายตัวขึ้นแล้วใช่ไหม”

พิกุลสะท้อนใจกับความฝัน  เห็นหลวงราชอยู่ใกล้ตัวก็ตกใจรีบขยับออกห่างผลุนผลันลุกออกไปคิดว่าหลวงราชฉวยโอกาสล่วงเกินตน  แม้หลวงราชจะชี้แจงอย่างไรก็ไม่เชื่อ เอาแต่ผลักไสให้ห่างตัว หลวงราชถามว่า

“ฉันทำให้หล่อนกลัวรึ ฉันจะอยู่ให้ห่างหล่อน หล่อนจะได้สบายใจขึ้น”

ooooooo

สินกลับเรือนในสภาพเลือดโชก  บอกว่าตนถูกเสือดำบุกมาชิงตัวพิกุลไปเมื่อเช้ามืด  ตนตามไปก็ได้แผล กลับมา  สินกราบขอขมาจางวางที่ปกป้องพิกุลไม่ได้ จางวางพ่วงลุกพรวดสั่ง

“ไอ้อ่ำ มึงไปเตรียมเรือ...มันพาพิกุลไปทางไหนไอ้สิน”

เอื้อยต้มยาสมุนไพรมาให้สินกิน  ถามสินว่าเกิดอะไรขึ้น เล่าให้ตนฟังเถิด สินลุกพรวดไปสารภาพกับเพียรที่นั่งเศร้าเป็นห่วงพิกุลว่าพิกุลไม่ได้ถูกลักพาตัวแต่ไปกับหลวงราช เมื่อเพียรรู้ความจริงจึงคลายกังวลแต่กลับต้องหนักใจที่ต้องปกปิดจางวาง

คุณหญิงเกสรเห็นหลวงราชหายไปทั้งคืนก็คาดคั้นเอากับมุด  มุดเองก็ไม่รู้  พูดให้คุณหญิงคลายกังวลว่าคุณหลวงอาจมีราชการลับก็ได้

สารภีรู้จากคนลากรถที่เป็นสายของตนว่าเห็นหลวงราชที่สถานีรถจึงรู้ว่าหลวงราชไปสุพรรณฯ สารภีลงเรือไปกับชบาเพื่อให้เห็นกับตา

พิกุลยังแง่งอนกับหลวงราช  แต่วันนี้ตำพริก  พริกกระเด็นเข้าตาจึงจะไปล้าง  ตามองไม่ถนัดจึงพลัดตกบันไดเรือน  ดีแต่หลวงราชมารับไว้เลยกลิ้งตกไปด้วยกัน  หลวงราชเจ็บแต่อ้อนว่าเจ็บหนัก พิกุลจึงเอาใบพลับพลึงย่างไฟประคบให้

น้ำใจคุณหลวงและความใกล้ชิดทำให้พิกุลดูแลคุณหลวงอย่างดี  หาผักรอบเรือนมาทำอาหารตามมีตามเกิด  แต่เมื่อเปิดใจและมีกันและกัน  บรรยากาศจึงเป็น ...น้ำต้มผักก็ว่าหวานอย่างโบราณว่า...

สารภีมาถึงเรือนจางวางที่สุพรรณฯ  คาดคั้นถามหาหลวงราชจนจางวางโมโหเอาไม้เท้าชี้ไล่ให้ลงเรือนไป

สินขอให้สารภีลงเรือนไปเสียแต่ตอนนี้ อย่าให้ต้องลงมือกับผู้หญิงเลย  สารภีหาว่าสินเป็นคนตามคุณยศให้มาที่นี่  คาดคั้นสินจนจางวางถามสินว่าหมายความว่ากระไร  ทั้งสินและเพียรมีพิรุธ  ถูกจางวางคาดโทษจนสินต้องเล่าความจริงให้ฟัง พอสารภีรู้ความจริงก็กลับไปพร้อมคำอาฆาตว่า

“รักกันมากอย่างนั้น  ฉันจะทำให้มันรู้สึกว่าเสียใจที่สุดมันเป็นยังไง!”

ส่วนจางวางก็ใช้ไม้เท้าหวดสินจนหมอบ ไล่ไปให้พ้น อย่ามาให้เห็นหน้าอีก ถีบเชี่ยนหมากตกน้ำไป

สารภีมาถึงท่าน้ำเรือนครูทับ ได้ยินเสียงปี่สั่งให้เอาเรือเทียบท่า  แต่พอไปถึงเสียงปี่ก็หายไปและมีต้นไม้บังเรือนครูทับไว้  สารภีแปลกใจแต่เมื่อเห็นแต่ตนไม้รกครึ้มจึงกลับไป ที่แท้สารภีถูกท่านจันบังตาไว้

ooooooo

พิกุลกับหลวงราชอยู่เรือนครูทับ แม้จะขาดแคลนแต่มีความสุข พิกุลปรนนิบัติคุณหลวงด้วยความรัก เมื่อถึงเวลานอน คุณหลวงอ้อนว่าตนยังไม่หายดี คืนนี้ให้คอยดูแลใกล้ๆได้ไหม

ตกดึกพิกุลเปิดประตูออกมาดู เห็นคุณหลวงนอนหลับสนิทที่เสื่อด้านนอก มองไปที่ซุ้มประตูเห็นตะเกียงแขวนอยู่จึงเดินลงไปดู เจอท่านจันที่นั่น

พิกุลก้มกราบถามท่านจันว่าทุกสิ่งที่ตนเห็นเกิดขึ้นที่นี่หรือ

“ถูกของเอ็ง  ทั้งรัก  ทั้งพราก  ล้วนแต่เกิดที่นี่...ข้าพาเอ็งมาที่นี่เพื่อให้เอ็งสองคนได้สมหวังในรัก...แล้วข้าจะได้พ้นจากบ่วงแห่งการรอคอยอันทรมาน...ไปเถิด  คนของเอ็งรออยู่ อย่าคลางแคลงใจอีกเลย”

แล้วท่านจันก็นั่งมองแม่น้ำตรงหน้าอย่างรอคอยใครบางคน

พิกุลจะกลับเข้าห้องก็ไม่เห็นหลวงราชแล้ว  พอจะเข้าห้องก็เห็นหลวงราชรออยู่ในห้องแล้ว พอพิกุลเดินเข้าห้องจะปิดประตู หลวงราชก็มากอดจากด้านหลัง พิกุลสะท้านไปทั้งร่าง...แล้วประตูก็ค่อยๆปิดลง...

พิกุลตื่นแต่เช้ามืด  ค่อยๆเอามือหลวงราชออกจากตัว ไม่ให้เขาตื่น แต่หลวงราชตื่นแล้วเอ่ยอ้อน

“หากหล่อนลุกไปเสียตอนนี้ ฉันคงเหมือนถูกปลุกให้ตื่นจากฝัน หล่อนจะไม่ใจร้ายทำลายความสุขของฉันใช่ไหม” แล้วลุกขึ้นนั่งกอดพิกุลจากด้านหลังอ้อน “ฉันไม่ให้หล่อนไป”

พิกุลบอกว่าตนไม่อยากรู้สึกผิดบาปไปกว่านี้ หลวงราชบอกว่าจะพาพิกุลไปขอขมาพ่อ

“เขาจะได้รู้ว่าฉันมิได้ลักพาหล่อนมาเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ฉันหมายให้หล่อนเป็นเมียของฉัน มีเกียรติศักดิ์ศรีสมฐานะสะใภ้ของตระกูล”

พิกุลติงว่าคุณหลวงจะกล่อมพ่อกับแม่ไม่ได้ง่าย หลวงราชบอกว่าถ้าเช่นนั้นก็พากันไปอยู่ยุโรปเสียให้รู้แล้วรู้รอด

“พาอิฉันไปไกลถึงเพียงไหน ก็ไม่มีวันพ้นจากผิดบาปที่กระทำต่อพ่อแม่หรอกเจ้าค่ะ”

“ฉันจะพาหล่อนไปขอขมากับท่านจางวาง จะเป็นอย่างไรก็เป็นกัน” หลวงราชตัดสินใจมั่นใจ

พิกุลกราบที่อกหลวงราชอย่างซึ้งใจ  หลวงราชดึงพิกุลเข้าไปกอด  พิกุลซบอยู่ในอ้อมอกคนรักอย่างอบอุ่น

พิกุลจัดสำรับเสร็จบอกว่าวันนี้จะเอาเกลือไปแลกข้าวสาร  หลวงราชถามว่าหล่อนเป็นหญิงจะออกไปคนเดียวได้อย่างไร

หลวงราชเปิบข้าวเก้ๆกังๆ พิกุลจึงสอนให้แต่คุณหลวงอ้อนว่ารู้ว่าตนไม่ถนัดใช้มือเปิบข้าวจะไม่มีแก่ใจป้อนให้หรือ

“เก่งกล้าสามารถอย่างคุณหลวง  คงไม่จนปัญญากับเรื่องแค่นี้หรอกเจ้าค่ะ”

พิกุลรู้ทัน  หลวงราชเลยต้องลองเปิบข้าวอีกครั้ง พิกุลมองหลวงราชลังเลใจว่าจะเล่าเรื่องท่านจันกับครูทับที่ไม่อาจครองรักกันในเรือนนี้...ดีหรือไม่?

ooooooo

พิกุลไปหาเสื้อผ้าเก่าในหีบมาให้หลวงราชเปลี่ยน บอกว่าคงเป็นของเจ้าของเรือนเก่า  บอกให้คุณหลวงไปอาบน้ำเสีย

เช้านี้...ขณะหลวงราชอาบน้ำที่ท่านั้นมีชาวบ้านสองคนพายเรือผ่านมา ชาวบ้านทั้งสองชะงัก ขยี้ตาตัวเอง เขม้นมอง แล้วก็จ้ำพายสุดแรง คนหนึ่งโวยเสียงสั่น

“ฉิบหายแล้ว...มันเอาแต่หัววันเลยโว้ย”

หลวงราชมองชายทั้งสองอย่างแปลกใจ  พลันก็ได้ยินเสียงพิกุลโวยวายขึ้น หลวงราชคว้าผ้าขาวม้านุ่งวิ่งขึ้นไปหาพิกุลทันที ถามว่ามีอะไรหรือ พิกุลบอกหน้าตาตื่นว่า “มีคนตามมาเจ้าค่ะ”

หลวงราชคว้าไม้ใกล้ตัวเป็นอาวุธเมื่อเห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเข้ามาด้อมๆมองๆรอบเรือน ได้ยินชาวบ้านถามกันว่า

“พวกเอ็งไม่ได้ตาฝาดใช่ไหมวะ นี่มันผีหรือคนกัน”

“คนที่ไหนมันจะมาอยู่บ้านร้างเยี่ยงนี้ มีแต่ผีเท่านั้นแหละ” ชาวบ้านทุกคนกลัวๆกล้าๆ

“คร่ำครึนัก” หลวงราชส่ายหน้า ชาวบ้านได้ยินต่างโกรธ คนหนึ่งว่าปากดีอย่างนี้ต่อให้เป็นผีตนก็จะฟาดให้ปากแตก อีกคนก็ว่าดูท่ามันอยากลองดีนะพี่ หลวงราชตั้งท่าเตรียมพร้อมรับศึก

“คุณหลวง อย่าเจ้าค่ะ” พิกุลร้องห้าม

“คุณหลวง??” ชาวบ้านมองหน้ากันงงๆ

เมื่อพูดคุยกันแล้ว  ชาวบ้านขึ้นเรือนไปกินข้าวกับคุณหลวงและพิกุลเล่าให้ฟังว่าที่นี่มันเรือนร้าง ไม่มีใครกล้าย่างกรายมาหลายสิบปีแล้ว  เพราะผีเจ้าของเรือนดุนัก ถ้าได้ยินเสียงปี่โหยหวนขึ้นมาก็เข้าห้องปิดประตูเรือนนอนกันเลย พิกุลบอกว่านับแต่นี้ก็จะได้ยินเสียงปี่เลานี้ อย่ากลัวกันเลย ชาวบ้านถามว่า

“เป่าปี่เป็นด้วยรึ?”

ooooooo

อ่านละคร ปี่แก้วนางหงส์ ตอนที่ 7 วันที่ 9 พ.ย.61

ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทประพันธ์โดย เสน่ห์ โกมารชุน
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ บทโทรทัศน์โดย บลูลาวา
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละคร ปี่แก้วนางหงส์ ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ที่มา ไทยรัฐ