อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 14 วันที่ 1 มิ.ย.61

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 14 วันที่ 1 มิ.ย.61

ฝ่ายพวกกรมขุนวิมล เจ้าจอมอำพันและคุณท้าวโสภา ถูกขังในคอกรวมกับเชลยหญิง เมื่อทหารอังวะเอาอาหารใส่ใบตองมาแจก ชาวบ้านก็กรูกันเข้าไปแย่ง คุณท้าวเข้าไปอ้อนวอนชาวบ้านขอปันไปให้เสด็จพระองค์หญิงกับเจ้าจอมบ้างเถิด ก็ถูกชาวบ้านตะคอกใส่ว่า

“เสด็จกระไร กูไม่สนโว้ย สิ้นบ้านสิ้นเมืองแล้วขืนวางอำนาจมากนัก กูจะตบให้ปากฉีกเลย”

กรมขุนวิมลและเจ้าจอมอำพันได้ยินเข้ามาถามคุณท้าวว่าเป็นอย่างไรบ้าง คุณท้าวร้องไห้บอกว่าเจ็บใจที่ถูกหยามเหยียดถึงเพียงนี้ กรมขุนวิมลปลอบใจอย่างปลงแล้วว่า



“ฉันเข้าใจ แต่ก็อยากให้คุณท้าวทำใจให้ได้ ยศศักดิ์พวกนี้มีได้ก็ต่อเมื่อมีคนนับถือกราบไหว้ แต่เพลานี้เราถูกขังอยู่ในคอกเดียวกันกับเขา แล้วจะให้เขาเคารพยำเกรงเราเหมือนแต่ก่อนได้อย่างไร”

“คุณท้าวไม่ต้องไปเอาอาหารแล้ว ฉันไปเอาเอง อยู่ถวายรับใช้เถิด”

ขณะเจ้าจอมอำพันเดินไปเอาอาหาร คุณท้าวโสภาร้องไห้บอกว่า

“ถ้าไม่ติดว่าต้องอยู่ถวายความจงรักภักดีต่อเสด็จ หม่อมฉันก็อยากตายไปเสียประเดี๋ยวนี้เลย ยิ่งไม่มีแม่เป้าแล้วหม่อมฉันก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมจริงๆเพคะ”

คุณท้าวร้องไห้หนักจนกรมขุนวิมลต้องลูบหลังลูบไหล่ปลอบโยนด้วยความสงสารจับใจ

ooooooo

ขันทองกับแมงเม่าเดินมาเจอหมู่บ้านเล็กๆ มีชาวบ้านอยู่ 5–6 คน จึงเข้าไปคุย ชาวบ้านบอกว่า คนอื่นในละแวกนี้หนีไปหมดแล้วเหลือแต่พวกตน หลบๆซ่อนๆเอาตัวรอดอยู่ดังที่เห็น

ที่แท้เป็นชาวบ้านที่ฉวยโอกาสดักปล้นตามทาง เมื่อขันทองรู้ตัวจึงพาแมงเม่าหนี ถูกพวกนั้นตามก็ทั้งฟันและแทงจนคนในกระท่อมตายหมด แต่พอหนีออกมานอกกระท่อมก็ถูกคนที่อยู่ข้างนอกล็อกตัวแมงเม่าไว้สั่งว่าถ้าไม่อยากตายก็ให้อยู่นิ่งๆ ขันทองเอ่ยอย่างสลดใจว่า

“อังวะทำร้ายคนไทยังไม่น่าเศร้าใจเท่าคนไททำร้ายกันเอง พวกเอ็งไม่ละอายบ้างรึที่ทำเช่นนี้”

“โอกาสร่ำรวยมาอยู่ตรงหน้า จะละอายทำไมวะ” ชาวบ้านตอบอย่างไม่แยแสแล้วเอามีดแทงขันทองทันที แต่ทั้งหมดก็ถูกขันทองฆ่าตายไปทีละคนแล้วไปช่วยแมงเม่า

แมงเม่าสู้สุดฤทธิ์ใช้วิชาที่ขันทองสอนให้และเล่ห์มารยาสะบัดหลุดจากคนร้าย ขันทองวิ่งเข้าไปกอดแมงเม่าไว้แน่น แมงเม่าตกใจร้องไห้สะอึกสะอื้น ขันทองกอดไว้แน่นปลอบโยนว่า

“ปลอดภัยแล้ว เจ้าตัวดี”

ooooooo

หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากอังวะชนะศึก ทหารเข้ามารายงานเนเมียวสีหบดีถึงการจับเชลย อาวุธ ยุทโธปกรณ์ที่ยึดได้ เสบียงอาหารที่มีอยู่โดยเฉพาะทองคำและทรัพย์สมบัติมากมายที่ยังทำบัญชีไม่เสร็จ

“ผ่านมาเดือนเศษยังทำบาญชีไม่เสร็จ ความมั่งคั่งของอโยธยาสุดที่จะพรรณนาจริงๆ ทั้งอาวุธแลเสบียงก็มากกว่าเราหลายเท่า เหลือเชื่อนักที่เมืองอันยิ่งใหญ่นี้จะพ่ายแพ้แก่เราได้”

ส่วนเยื้อนได้กลายเป็นคนโปรดของเนเมียวสีหบดีลับๆ ตามมาออดอ้อนว่าเหงา จนเนเมียวสีหบดีบอกให้ไปหาอะไรทำแก้เหงาก่อน เสร็จงานเมื่อใดจะไปหาทันที เยื้อนจึงเดินไปทางคอกที่ขังเชลย เห็นกรมขุนวิมล เจ้าจอมอำพันและคุณท้าวโสภาก็หัวเราะเยาะว่าตนไม่ได้ตาฝาดไปกระมัง

คุณท้าวโสภาจำเยื้อนได้เล่าประวัติให้กรมขุนวิมลและเจ้าจอมอำพันฟังว่า แต่ก่อนเป็นลูกพระยา แต่พ่อต้องโทษกบฏคราวเจ้าสามกรมจึงตกมาเป็นทาส เจ้าจอมอำพันเห็นการแต่งตัวของเยื้อนเตือนว่านางคนนี้แต่งเนื้อแต่งตัวเกินฐานะนักและยังไม่ถูกควบคุมตัว อาจมีกระไรที่เรายังไม่รู้

แล้วเยื้อนก็แสดงอำนาจบาตรใหญ่เมื่อทหารอังวะเอาข้าวเอาน้ำมาให้พวกเชลย เยื้อนสั่งให้เอากลับไปทั้งหมด ทำให้พวกเชลยไม่พอใจ เยื้อนพูดเยาะเย้ยแดกดันว่ากรมขุนวิมลท่านเป็นผู้มีบุญสูงส่ง แค่พวกแกได้ชื่นชมบารมีท่านก็นับว่าอิ่มบุญแล้ว อดข้าวอดน้ำสักวันสองวันคงไม่ตายดอก

พวกเชลยพลอยอดข้าวอดน้ำกันทั้งหมดทำให้ไม่พอใจกรมขุนวิมล กรมขุนวิมลเสียใจที่ตนทำให้ทุกคนพลอยลำบากไปด้วย

เจ้าจอมเพ็ญหนีเตลิดออกจากวังจนเสียสติ หนีกระเซอะกระเซิงไปถึงโบสถ์ร้างที่พระยากำแหงเป้าและขุนรักษ์เทวาอาศัยอยู่ก็ขโมยกินปลาดิบที่ขุนรักษ์เทวาเพิ่งจับมาได้อย่างหิวโหย เป้าวิ่งมาดูจำได้ว่าผู้หญิงเสียสติคนนี้คือเจ้าจอมเพ็ญนั่นเอง

ขันทองกับแมงเม่าได้ม้าจากทหารอังวะที่ถูกฆ่าตายตัวหนึ่งจึงขี่มาด้วยกัน บ่ายหน้าไปยังค่ายพระยาตาก ขันทองบอกอย่างปลาบปลื้มว่า เวลานี้ต้องเรียกว่าพระเจ้าตากแล้ว

ระหว่างทางเจอชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกำลังสู้กับทหารอังวะ ขันทองจึงโดดจากหลังม้าไปช่วยชาวบ้านจนฆ่าทหารอังวะตาย จึงเห็นว่าขุนแผลงฤทธิ์กำลังต่อสู้ปกป้องพระยาพลเทพจากทหารอังวะอยู่

ทั้งขันทองและพระยาพลเทพต่างตกใจไม่คิดว่าจะพบกัน ขุนแผลงฤทธิ์พยายามเปิดทางให้พระยาพลเทพหนี แต่ถูกม่วงที่ขี่ม้ามาช่วยชาวบ้านนำทหารล้อมไว้

ขุนแผลงฤทธิ์จึงหนีเอาตัวรอดไป

“พี่ม่วง” แมงเม่าเห็นม่วงตะโกนเรียกดีใจสุดชีวิต

ooooooo

พระยาพลเทพถูกจับมายังค่ายพระเจ้าตาก ที่ระยอง ยืนปฏิเสธพัลวันต่อหน้าพระเจ้าตากว่าตนมาเพื่อช่วยท่านเจ้าคุณแต่กลับต้องมาเจอเช่นนี้หรือ

“บังอาจ” ม่วงตวาด “เพลานี้พระองค์ไม่ใช่พระยาตากอีกแล้ว หากแต่ได้ตั้งสัตย์ขึ้นเป็นพระบรม วงศานุวงศ์ เจ้ายังไม่คุกเข่าลงอีกรึ”

พระยาพลเทพรีบคุกเข่าลงพนมมือประจบทันที ขอประทานอภัยจากพระเจ้าตาก แต่ยืนยันว่าที่ตนทูลมาทั้งหมดเป็นความสัตย์ ชี้หน้าขันทองด่าว่าโป้ปดมดเท็จใส่ความ ตนหาได้ทุรยศต่ออโยธยาไม่

“พ่อขันทอง เล่าไป” พระเจ้าตากบอกขันทอง ขันทองพนมมือขึ้นเล่าว่า

“ข้าพระเจ้าปลอมตัวเป็นขันที แฝงเข้ามาอยู่ในราชสำนักเพื่อสืบหาตัวคนทุรยศจนได้กลักของออกญาสีหราชเดชะมา...หลังจากแก้กลบทในกลักได้จึงรู้รายชื่อผู้ทุรยศทั้งหมดในครั้งศึกพระเจ้าอลองพญา” ขันทองชี้หน้าพระยาพลเทพ “มันผู้นี้เป็นหนึ่งในนั้น และหาใช่แต่ศึกพระเจ้าอลองพญาไม่ แม้ศึกในครานี้ มันก็ยังลอบส่งข่าวให้อังวะเช่นกัน”

“อย่าทรงฟังพระเจ้าข้า มันยอมรับเองว่าเป็นจารบุรุษ คนเช่นนี้จะเชื่อถือได้อย่างไร ดีร้ายอาจเป็นไส้ศึก ของอังวะมาใส่ความข้าพระเจ้า” พระยาพลเทพโต้ พระเจ้าตากไม่สนใจถามขันทองว่า

 “พ่อขันทอง พ่อเป็นลูกเต้าเหล่าใครรึ”

 “ข้าพระเจ้าเป็นบุตรเสือขุนทองพระเจ้าข้าแลมันผู้นี้ยังหลอกพ่อของข้าพระเจ้าไปให้อังวะฆ่าตายอีกด้วย”

พระยาพลเทพตกใจหน้าซีดเผือด พระเจ้าตากบอกพระยาพลเทพว่าลูกชายของเสือขุนทองย่อมไม่ใช่ไส้ศึกกระมัง พระยาพลเทพยังตะแบงเอาตัวรอดว่าถึงไม่ใช่ไส้ศึกแต่ยังเชื่อไม่ได้ การปลอมตัวเป็นขันทีลอบเข้าไปในฝ่ายในนานปี หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากผู้มีอำนาจวาสนา พวกโจรป่าโจรไพรจะทำได้อย่างไร ตนเห็นว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลัง พระเจ้าตากจึงให้ขันทองเล่าต่อ ขันทองเล่าด้วยสีหน้าเครียดว่า

 “ข้าพระเจ้าเคยกราบทูลแล้ว ว่าข้าพระเจ้าไม่รู้ตัวผู้ให้การช่วยเหลือจริงๆ มีผู้ติดต่อและให้เงินทองกับน้าพันหาญมาอีกที ข้าพระเจ้าเพียงแต่ส่งข่าวให้เท่านั้นพระเจ้าข้า”

พระยาพลเทพเห็นทางรอดชี้ว่าขันทองพูดจาคลุมเครือไม่ควรเชื่อถือ และตนขอให้สัตย์สาบานว่าไม่ได้ทุรยศต่อแผ่นดินอโยธยาแม้แต่น้อย หากผิดคำพูดขอให้ตายต่อหน้าคมหอกคมดาบอย่าได้ตายดี

ม่วงเป็นห่วงขันทองพนมมือขึ้นพูดช่วยขันทองว่า

“แม้พ่อขันทองจะพูดคลุมเครือ แต่ที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นคนสัตย์ซื่อ เพียงแต่ไม่รู้ตัวผู้ให้การช่วยเหลือ คงไม่ถือเป็นสำคัญดอกพระเจ้าค่ะ”

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 14 วันที่ 1 มิ.ย.61

ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ