อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 12 วันที่ 26 พ.ค.61
“จับเป็นพวกมันกลับไป ข้าจะให้อ้ายม่วงมันตายทั้งเป็นให้สมแค้น”ติ่นกับผลหยิบไม้คานและมีดพร้าต่อสู้กับลูกน้องกล้า อินก็คว้าไม้วิ่งเข้าไปจะตีกล้า แต่สุ่นกลับวิ่งไปอีกทาง ครู่เดียวสุ่นก็ถือไม้ติดไฟเข้าฟาดกล้าจนร้องลั่น สุ่นฟาดกล้าไปก็ตะโกนไป
“แม่อิน พาพ่อกับน้าชื่นหนีไปเร็ว”
สุ่นเอาไม้ติดไฟฟาดกล้าพลางก็มองอินที่พามิ่งและชื่นหนีไปจนเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงวิ่งตามไป แต่ก็ถูกกล้ากับลูกน้องไล่ตาม
พวกมิ่งวิ่งไปถึงริมคลองก็แก้เชือกเรือ มิ่งเป็นห่วงสุ่น ชื่นบอกว่าจะไปก็ต้องไปด้วยกัน อินบอกว่าพ่อเจ็บหนักรอไม่ได้หรอกตนจะไปช่วยสุ่นเอง แต่ถูกลูกน้องกล้าตามมาทัน ติ่นแก้เชือกเรือพลางร้องตะโกนให้รีบหนีไป ผลก็ตะโกนว่าตนจะต้านพวกมันไว้เอง พลางขว้างมีดพร้าใส่พวกมันจนหลบกันวุ่น
เมื่อประคองมิ่งลงเรือแล้วติ่นผลักเรือและจ้วงพายทันที มิ่งเป็นห่วงสุ่นได้แต่ตะโกนเรียกเผื่อสุ่นจะตามมาทัน ผลกระโดดลงคลองว่ายมาขึ้นเรือ พวกลูกน้องกล้าวิ่งตามมาแต่ไม่ทันแล้ว
กล้าจับสุ่นไว้ได้ด่าว่านางแพศยาเป็นแค่หญิงรับชำเราบังอาจมาขวางตน
“ถึงกูจะเป็นหญิงรับชำเรา กูก็ยังเป็นคนมากกว่ามึง” สุ่นโต้อย่างกล้าหาญ
กล้าสั่งลูกน้องให้เอาสุ่นไปด้วย บอกว่ามันจะต้องได้รับความทรมานแทนอ้ายพวกนั้น
แมงเม่าได้ข่าวจากพระยากำแหงว่าเรือนพ่อถูกไฟไหม้หมดเช่นเดียวกับเรือนชาวบ้านอื่น เวลานี้คงไปอยู่รวมกับพวกที่ไฟไหม้ในวัดไหนสักแห่ง เย็นๆคงพอจะได้ข่าว แมงเม่าร้อนใจขอออกไปตามหาพ่อ
“ไม่ได้ดอกเจ้า” ขันทองขัดขึ้น บอกแมงเม่าว่าหลังจากเมื่อคืนมีพวกฉวยโอกาสเป็นโจรปล้นชิงมาก “เจ้าออกไปคนเดียวก็อันตราย จะให้คนอื่นตามไปคุ้มครอง ทุกคนก็มีหน้าที่อยู่ อดทนอยู่ในนี้ไปก่อนเถิด”
เป้าเห็นด้วยกับออกพระศรี บอกแมงเม่าว่าอย่าให้ทุกคนต้องลำบากเพราะเราเลย แมงเม่าจึงพยักหน้าเศร้าๆ ขันทองสงสารแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้
ooooooo
พระยาตากนำกำลังตีฝ่าวงล้อมของอังวะออกมาถึงทุ่งนาก็พักวางกำลังเตรียมรับมือกับพวกอังวะที่จะตามมา พลันก็มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งทั้งชายและหญิงอาวุธครบมือมาล้อมพระยาตากไว้
หลวงพิชัย ม่วง พันหาญ และทหาร ชักอาวุธเตรียมสู้เต็มที่ พระยาตากเห็นผู้นำกลุ่มเป็นหญิงสาวอายุยี่สิบต้นๆก็มองอย่างแปลกใจ ต่อมาเมื่อได้นั่งคุยกันจึงรู้ว่าหญิงสาวชื่อโพ โพเล่าว่า
“นับแต่อโยธยาถูกล้อมก็มีขุนนางหนีออกมาจำนวนไม่น้อยแต่ส่วนมากก็หนีเอาตัวรอด เพิ่งมีท่านเจ้าคุณเป็นคนแรกที่บอกว่าจะกลับไปกู้อโยธยาอีก อีฉันขออวยพรให้ท่านเจ้าคุณทำสำเร็จตามประสงค์เจ้าค่ะ”
พระยาตากขอบน้ำใจแม่โพ ปรารภว่าพวกเราตีฝ่าวงล้อมอังวะออกมามีเสบียงติดตัวมาคนละเล็กละน้อย แม่โพพอจะปันให้บ้างได้หรือไม่ โพบอกว่าพวกตนรวมตัวกันเพื่อป้องกันตัวจากอังวะ เสบียงอาหารก็เพียงพอกินเท่านั้น แต่ชี้บอกว่าทางนี้มีบ้านหนึ่งชื่อว่าบ้านพรานนก หัวหน้าหมู่บ้านเป็นพรานจับนกและสะสมเสบียงเอาไว้มาก พวกอังวะเห็นว่าเป็นพวกแก่เฒ่าจึงไม่สนใจ ถ้าท่านเจ้าคุณไปขอปันเสบียงก็คงได้ไม่ยาก
ทันใดนั้นมีทหารอังวะกลุ่มหนึ่งโห่ร้องบุกเข้ามา โพหยิบดาบตะโกนลั่น
“พวกอังวะ ฆ่ามัน”
โพ ชาวบ้านและทหารพระยาตากโอบล้อมสู้กับพวกอังวะอย่างกล้าหาญ เสียงบรรยายแทรกขึ้นว่า...
“หลังจากหนีออกมาจากกรุงศรีอยุธยา พระยาตากก็ได้ปะทะกับทหารของอังวะอีกครั้ง โดยมี ‘โพ’ สาวชาวบ้านนำพรรคพวกเข้าช่วยเหลือ ต่อมาจึงมีการตั้งชื่อบริเวณนั้นว่า ‘บ้านโพสังหาร’ ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ‘โพสาวหาญ’ เพื่อแสดงถึงวีรกรรมความกล้าหาญของ ‘แม่โพ’ ในครั้งนี้”
ฝ่ายเนเมียวสีหบดีรู้จากทหารที่หนีรอดกลับมาว่าผู้ที่ตีฝ่าวงล้อมหนีไปได้นั้นคือพระยาตาก ก็สั่งตามล่าสังหารให้สิ้น เพราะพระยาตากผู้นี้ชำนาญการศึกนัก มิแน่ว่าภายหน้าจะกลับมาเป็นเสี้ยนหนามต่ออังวะ
ooooooo
ขันทองอยู่ในวังพอได้ข่าวว่าพระยาตากตีฝ่าทัพหนีออกไปได้ก็ดีใจมาก แต่พระยากำแหงกลับโมโหหาว่าพอจวนตัวก็ทำเช่นคนขี้ขลาดไม่มีผิด ขันทองติงว่า
“การหนีเป็นยุทธวิธีอย่างหนึ่งเจ้าค่ะ ในตำราพิชัยสงครามก็ยังมีกลศึกที่ใช้ในการหนีอยู่ไม่ใช่หรือ”
พระยากำแหงโต้ว่าหนีเพราะทำกลศึกกับหนีเพราะเอาตัวรอดจะเหมือนกันได้อย่างไร หลวงศรีมะโนราชแทรกขึ้นทันทีว่า ทุกคนก็ต้องรักชีวิตด้วยกันทั้งนั้น ตนก็เตรียมทางหนีทีไล่ไว้แล้ว ท่านเจ้าคุณคงไม่ดุด่าตนดอกนะ ขุนรักษ์เทวาถามว่าผู้ใดจะดุว่าคุณหลวงได้เล่า ประชดว่า
“คนที่กล้าทำกล้ารับ บอกจะหนีก็หนี ไม่ละอายว่ากินข้าวผู้ใดเช่นนี้ นับว่าหาได้ยากนัก”
พอดีขุนรักษ์เทวาเห็นแมงเม่าเดินมา ถามว่า ออกมาถึงฝ่ายหน้าทำกระไร แมงเม่าบอกว่ามาฟังข่าวพ่อเพราะคนของท่านเจ้าคุณกลับมาแล้ว พระยากำแหงหน้าเสียแก้เกี้ยวว่ากะว่าพรุ่งนี้จะไปบอกด้วยตัวเองแล้วอ้ำอึ้งบอกว่าคนของตนตามหาจนทั่วแล้วแต่ไม่เจอ เจอแต่ชาวบ้านบอกว่าเศรษฐีมิ่งถูกธนูยิงยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร แมงเม่าตกใจจะเป็นลม ขันทองรีบเข้าประคองไว้แต่แมงเม่าก็ตาลอยหมดสติไปแล้ว
แมงเม่าถูกนำตัวมานอนพักที่เตียงในเรือนคุณท้าวโสภา ขันทองยืนเฝ้าข้างเตียงในขณะที่พระยากำแหงเดินวนไปมาอย่างร้อนใจ บ่นว่าเมื่อไรหมอจะมาสักที เพราะแมงเม่าสลบไปนานแล้ว ขันทองบอกว่าแมงเม่าแค่สะเทือนใจประเดี๋ยวก็ฟื้น
เป้าบอกว่าหมอหลวงกำลังถวายการรักษาอยู่ คงอีกพักใหญ่ พระยากำแหงร้อนใจทนไม่ได้ผลุนผลันออกไปตามหมอคนอื่น เป้าตามไปด้วย
อึดใจเดียวแมงเม่าก็รู้สึกตัว ขันทองรีบปลอบว่า “ตั้งสติและฟังฉันให้ดีนะเจ้า เพลานี้เราได้ข่าวแค่ว่าพ่อเจ้าถูกยิงบาดเจ็บเท่านั้น เจ้าไม่ควรตีตนไปก่อนไข้แลควรมีความหวังว่าพ่อเจ้าปลอดภัยดีอยู่” แมงเม่าอยากออกไปตามหาพ่อ ขันทองหว่านล้อมว่า “อโยธยาเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า แลเจ้าอย่าคิดว่าภัยจะมาจากอังวะเท่านั้น ยามนี้คนไทด้วยกันเองก็อันตรายไม่น้อยไปกว่าอังวะ แล้วเจ้าจะออกไปได้อย่างไร”
แมงเม่าร้องไห้สะอึกสะอื้นทรมานใจนักที่ไม่สามารถช่วยพ่อได้ ขันทองจะลุกไปหยิบผ้ามาซับน้ำตาให้ แมงเม่าจับผ้าคาดเอวของขันทองไว้ไม่ให้ลุกขึ้น อ้อนวอนทั้งน้ำตา...
“อย่าไปเจ้าค่ะ ฉันไม่เหลือใครแล้ว พี่ม่วงก็ไปศึก พ่อ น้าชื่น พี่อิน แลคนอื่นก็ไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง ฉันเหลือแต่คุณพระเท่านั้น” ขันทองสงสารแมงเม่าจับใจ ค่อยๆซับน้ำตาให้ ยิ้มอบอุ่น เอ่ยอ่อนโยนว่า
“ฉันหรือจะทิ้งเจ้า ต่อให้สิ้นชีวิต ฉันก็ไม่มีวันทิ้งเจ้าไปได้”
แมงเม่าร้องไห้สะอึกสะอื้น รู้ว่าเป็นคำปลอบโยนแต่ก็รู้สึกดีขึ้นมากมาย...
ooooooo
ติ่นกับผลพามิ่งและครอบครัวมาที่ค่ายพระยาตาก พบแต่ค่ายร้างเพราะพระยาตากพาทหารทิ้งค่ายไปแล้ว ครู่หนึ่งเจอเยื้อนที่ถือสร้อยทองเส้นเล็กๆเดินมาอย่างดีอกดีใจ พอผลเข้าไปหาก็ชักมีดเตรียมสู้ทันที
อินรีบบอกว่าพวกตนแค่จะถามว่าที่นี่เป็นค่ายพระยาตากใช่หรือไม่ เยื้อนรับว่าใช่ แต่พระยาตากตีฝ่าทัพอังวะหนีไปแต่เมื่อคืนแล้ว อินถามว่าพอจะรู้ไหมว่าพระยาตากหนีไปที่ใด
“หัวเมืองตะวันออก แต่จะเป็นหัวเมืองใดข้าไม่รู้”
มิ่งถามอินว่าจะตามไปหรือ อินบอกว่า
“อยู่ที่นี่ก็เสี่ยงภัยนัก แล้วเหตุใดเราจะไม่ลองเสี่ยงตามไปล่ะจ๊ะพ่อ อาจจะได้เจอพี่ม่วงก็เป็นได้”
ooooooo
พระยาตากไปที่บ้านพรานนกตามคำบอกเล่าของโพ พรานนกปันข้าวปลาอาหารให้ทหารกินกันจนอิ่มหนำ ทั้งยกม้าศึกที่เตลิดหนีมาให้พระยาตากถึง 5 ตัว ถือว่าได้มีส่วนช่วยท่านเจ้าคุณบ้าง
ขณะนั้นเองพันหาญเข้ามารายงานว่าพวกอังวะยกพลตามเรามา ข่าวแจ้งว่าน่าจะไม่ต่ำกว่าสองพัน
ม่วงตกใจถามว่าพวกมันมาสองพันเรามีห้าร้อยแล้วจะรับมืออย่างไร หลวงพิชัยอาสาระวังหลังให้ ท่านเจ้าคุณล่วงหน้าไปก่อนเถิด พระยาตากหัวเราะใจเย็นขอบน้ำใจคุณหลวง แต่...
อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 12 วันที่ 26 พ.ค.61
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ