อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 9 วันที่ 28 พ.ค.61

อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 9 วันที่ 28 พ.ค.61

อลิซนิ่วหน้าไม่เชื่อ ดวินเลยท้าให้ใช้กล้องดูดาว สองหนุ่มสาวเย้าแหย่กันจนอารมณ์เศร้าๆที่ต้องจากกันเลือนหาย อลิซยิ้มกว้างหันไปสบตากับเขาตรงๆ

“ขอบใจนะ...เรารู้สึกดีขึ้นมากตั้งแต่ได้รู้จักนาย”

สองหนุ่มสาวมองตากันนิ่งท่ามกลางแผ่นฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว เสียงหัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุจากร่างของทั้งคู่ อลิซถอนใจยาวก่อนจะระบายความในใจ

“ถ้าเราไม่ได้เป็นเจ้าหญิง อะไรๆคงง่ายขึ้นว่าไหม”



“แต่วันนี้คุณเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่ใช่เหรอ...อยากทำอะไรก็ได้”

“อือ...จริงด้วย”

“แล้วคุณอยากทำอะไร...”

ดวินถามเสียงพร่าเกือบห้ามใจไม่ได้โน้มตัวจูบให้สมใจรักแต่อลิซรั้งตัวทันเบี่ยงตัวมาซบไหล่แกร่งแทน ดวินหัวใจพองโต สัมผัสได้โดยไม่ต้องถามว่าเธอมีใจตรงกัน สองคนผล็อยหลับในอ้อมกอดของกันและกันจนกระทั่งเช้านาวิกโยธินหนุ่มจึงสวมหน้ากากองครักษ์พิทักษ์เจ้าหญิงรัชทายาทอีกครั้ง

“กระหม่อมจัดเตรียมชุดสำหรับเดินทางกลับไว้แล้วพระเจ้าค่ะ พระองค์ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์เสร็จแล้ว เราจะเดินทางกลับกรุงเทพฯกันเลยพระเจ้าค่ะ”

ooooooo

อังเดรกับโมนาเกรงพระราชอำนาจของคิงเฮนรี่ที่สมคบกันว่าราชการโดยพลการจึงตัดสินใจหนีไปเมืองไทย

“ไม่อยากเชื่อว่าที่แอบวางแผนโยนความผิดให้อลิซเรื่องวางยาท่านพ่อจนเกือบจับตัวมันได้แต่ก็พลาด กลายเป็นตัวเองต้องหนีผิด ท่านพ่อไม่น่าฟื้นขึ้นมาตอนนี้เลย”

“ทำไมพูดถึงท่านพ่อแบบนี้ ท่านพ่อรู้สึกตัวอาการดีขึ้นก็ดีแล้ว”

อังเดรไม่พอใจที่ชายารักพูดถึงพ่อไม่ดี เคธสบช่องผสมโรงแขวะ

“น้าโมนาพูดเหมือนแช่งให้ท่านปู่ป่วยหนัก”

“นี่อย่ามาถือโอกาสต่อว่าฉัน ไม่ใช่เรื่องของเธอ”

“ทำไมจะไม่ใช่...ในเมื่อคนที่น้าโมนาคิดร้ายคือท่านปู่และน้องสาวของเคธ การโยนความผิดให้อลิซ เป็นแผนที่สกปรกและเห็นแก่ตัวมาก ทำแบบนี้มากี่ครั้งแล้วคะ หรือว่าที่อลิซต้องหนีซมซานมาประเทศไทยก็เพราะน้าโมนา!”

“ฉันทำผิดพลาดแค่ครั้งเดียว อย่ามาใส่ร้ายฉันจะโยนผิดให้ฉันคนเดียวได้ยังไง คนที่อยากกำจัดนังอลิซมีตั้งมากมาย มีเธอคนเดียวในโลกที่คอยช่วยมัน คงเห็นว่าตัวเองไม่มีใครให้ความสำคัญเลยต้องเกาะมันไว้ล่ะสิ”

“ใช่ค่ะ...และเคธก็ไม่ยอมให้คนอื่นมาทำร้ายอลิซเด็ดขาด ท่านพ่อหนีท่านปู่มาแบบนี้เคธว่ามันจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง เคธคิดว่าท่านพ่อควรกลับฮรีสอซไปขอโทษท่านปู่”

“ถ้ากลับไปแล้วโดนจับเธอรับผิดชอบหรือเปล่า พูดง่าย! เพราะคนที่โดนจับมันไม่ใช่เธอแต่คือพ่อของเธอ”

“คนสมควรถูกลงโทษที่สุดคือน้าโมนา ให้ท่านพ่อหนีมาเพราะกลัวตัวเองเดือดร้อน ไม่ได้ทำเพราะห่วงท่านพ่อ”

“เธอว่าฉันไม่ห่วงแล้วเธอห่วงหรือเปล่า นอกจากไม่เคยสนใจยังไม่เคยช่วยอะไรเลย”

“ถึงเคธจะไม่ช่วยแต่อย่างน้อยเคธก็ไม่ทำอะไรให้มันแย่ไปกว่านี้”

สองคนแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงเถียงกันจนอังเดรทนไม่ไหวเอ็ดให้หยุด ก่อนทรุดตัวงอเพราะความเครียดสะสม โมนาจำต้องหยุดเรื่องบ้าๆนี้แต่ไม่วายไปกดดันอลัน

“อลันฟังแม่นะ...ตอนนี้ท่านปู่ไม่เหลือใครแล้ว อลิซจะเป็นหรือตายก็ไม่รู้แน่ชัด หรือถ้ายังไม่ตายจะอยู่อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นคนที่เหมาะสมจะขึ้นเป็นรัชทายาทมากที่สุดก็คือลูก”

“พอเถอะครับแม่ ผมไม่เคยคิดจะเป็นอะไรทั้งนั้น เรื่องพวกนั้นไม่เคยอยู่ในหัวผม ไม่ต้องมายัดเยียด ส่วนเรื่องพี่อลิซผมมั่นใจว่าพี่อลิซยังไม่ตายและเขาคือคนเหมาะสมที่สุด!”

อลิซกลับถึงกรุงเทพฯอย่างลับๆในวันเดียวกัน คิงเฮนรี่โทร.หาหลานสาวคนโปรดทันทีและมีรับสั่งให้กลับฮรีสอซภายในสองวันเพราะไม่ไว้ใจสถานการณ์ และแม้อาการประชวรจะยังไม่เข้าที่แต่ไม่ยอมพักเรียกเภตรามาสั่งการ

“ตอนนี้โมนาและอังเดรอยู่ที่ประเทศไทย ทั้งคู่เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีลอบปลงพระชนม์เจ้าหญิงรัชทายาทมาตลอดโดยเฉพาะโมนา...ผู้หญิงคนนี้อาจเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง ให้เจ้าหน้าที่ของเราจับตาพฤติกรรมของโมนาอย่างใกล้ชิด อลิซกำลังเตรียมตัวกลับ เรายังไม่วางใจ ถ้าโมนามีการเคลื่อนไหวรีบรายงานนายพลศักดิ์ชายทันที”

เภตรารับปากแข็งขัน สีหน้าเข้มขึ้นเมื่อได้ยินคำสั่งต่อมาของคิงเฮนรี่ “เราต้องจบข่าวลือทั้งหมด ทั้งข่าวอลิซหายตัวไปและข่าวอลิซเป็นกบฏ เมื่อเรื่องทุกอย่างจบสิ้นคนร้ายถูกจับได้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล ถึงเวลาแล้วที่อลิซจะต้องขึ้นครองราชย์ต่อจากเรา”

ooooooo

เวลาสองวันที่เหลือทำให้ทั้งดวินและอลิซทุกข์ทรมานใจอย่างหนัก และในที่สุดฝ่ายหลังก็ทนไม่ไหวต้องสั่งแกมขู่ให้กรรณพาเธอไปหาดวินที่บ้านพัก นาวิกโยธินหนุ่มโกรธที่ลูกน้องขัดคำสั่ง ราชนิกุลสาวต้องออกปากห้ามไว้เพราะกรรณแค่ทำตามที่เธอต้องการ

“ทรงมาที่นี่ทำไม ก็รู้อยู่ว่ามันอันตราย”

“ก่อนที่เราจะต้องกลับไปเป็นเจ้าหญิงอลิซแห่งฮรีสอซ เราอยากเก็บความทรงจำของนารีเป็นครั้งสุดท้าย”

“ทำไมพระองค์ถึงอยากเก็บมันไว้พระเจ้าค่ะ”

“แล้วนายล่ะ...อยากเก็บมันไว้หรือเปล่า”

คำถามของเธอทำให้ดวินพูดไม่ออก อลิซต้องถามย้ำ

“ตอบมาสิ...ช่วงเวลาที่เราเป็นนารี เป็นภรรยาของนาย...นายอยากเก็บมันไว้ในความทรงจำหรือเปล่า”

ในที่สุดดวินก็ยอมสารภาพความจริงจากใจ

“ไม่ต้องอยากหรือไม่อยาก...นับตั้งแต่วินาทีแรกที่นารีเข้ามาในชีวิตกระหม่อม เธอจะอยู่ในความทรงจำและหัวใจของกระหม่อมตลอดไป”

“อีกไม่นานจะไม่ได้เป็นนารีแล้ว เราขอเป็นนารีวันนี้...วันสุดท้ายได้ไหม”

ดวินใจอ่อนยอมให้ตัวเองกับเธอเป็นคู่สามีภรรยากำมะลออีกสามชั่วโมง แต่ไม่ทันเริ่มอำไพก็โทร.ตามให้เขาไปหาที่บ้านเพื่อแจ้งเรื่องอลันบุกมาคาดคั้นเรื่องเจ้าหญิงอลิซแห่งฮรีสอซ

อลิซถูกทิ้งไว้ในบ้านพักของดวิน ราชนิกุลสาวดื่มด่ำกับความทรงจำช่วงสั้นๆแต่เต็มไปด้วยความประทับใจมากมาย จนในที่สุดก็ทนอยู่กับภาพจำเดิมๆไม่ไหวต้องไปเดินเล่นแต่ดันพลัดหลงและพลั้งมือทำร้ายใครบางคน!

ดวินปั้นเรื่องหลอกอำไพกับเปรี้ยวว่าพานารีไปฮันนีมูนแต่ไม่ได้บอกใคร ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งกลับบ้านพักเมื่อลูกทีมโทร.แจ้งว่าอลิซมีเรื่อง นาวิกโยธินหนุ่มคิดหาทางคุ้มกันอย่างแน่นหนาจนกระทั่งได้เจอหน้าแขกไม่ได้รับเชิญที่เขาไม่คาดคิดว่าจะบุกมาหาเขาเวลานี้

ระหว่างที่เดินเล่นอลิซเข้าใจผิดคิดว่าพิกุลสะกดรอยเลยหาทางกำจัด แต่นอกจากจะทำอะไรไม่ได้อย่างใจ เมื่อกลับถึงบ้านยังพบว่าอีกฝ่ายเป็นคนสนิทของเสาวณีแม่แท้ๆของดวิน...สามีกำมะลอของเธอ!

เสาวณีบุกมาหาลูกชายคนเดียวถึงบ้านพักเพราะได้ยินข่าวลือเรื่องแต่งงาน ดวินหน้าเสียแต่พยายามอธิบายว่าเป็นเรื่องกะทันหัน นารีเป็นเจ้าสาวสายฟ้าแลบตัวคนเดียวและเขาต้องการปกป้องเธอเลยแต่งงานด่วนให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่นอกจากเสาวณีจะไม่เชื่อยังปาความจริงเกี่ยวกับเขาใส่หน้าจนอลิซพูดไม่ออก

“วินไม่ใช่คนที่รักใครง่ายๆ ผู้หญิงเพียบพร้อมมากมายเข้ามาในชีวิตไม่เห็นเราจะลงเอยกับใครสักคน และเราก็บอกแม่เองว่าชีวิตนี้จะแต่งงานแค่ครั้งเดียวจะต้องใช้เวลาเลือกคนดีที่สุด...คนใช่ที่สุดเท่านั้น แล้วจู่ๆ ก็มาแต่งงานกับผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันไม่นานมันจะเป็นไปได้ยังไง”

ดวินเห็นหน้าจ๋อยๆของอลิซแล้วใจไม่ดี ยืนยันหนักแน่น “แต่ผมรักนารีจริงๆนะครับ ผมรักเพราะนารีไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่ผมเคยรู้จัก เขามีความพิเศษที่ผมมั่นใจว่าผมเลือกคนไม่ผิดครับ”

ลูกทีมทุกคนอึ้งกับคำยืนยันของดวิน อลิซใจชื้นแต่ต้องสะอึกเมื่อเสาวณีดักคออย่างรู้ทัน

“พอๆ...ไม่ต้องมาโชว์หวานตรงนี้ ถ้ารักกันจริงแม่รู้เอง...ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เข้ามาใกล้ชิดดวินเพื่ออะไร แต่เธอทำร้ายคนของฉันได้แบบนี้...ฉันไม่ไว้ใจ!”

อลิซรีบขอโทษและบอกว่าทุกอย่างเป็นแค่การป้องกันตัวแต่เสาวณีก็ยังไม่พอใจ

“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น การกระทำจะพิสูจน์ทุกอย่างเอง ถ้าผู้หญิงคนนี้ดีจริงและเธอสองคนรักกันจริงแม่จะไม่ยุ่ง แต่ถ้าเธอมาแต่งงานกับลูกฉันไม่ใช่เพราะความรักเธอต้องออกไปจากชีวิตดวิน!”

เสาวณีไม่ได้คิดไปเอง นอกจากรู้จักนิสัยลูกชายคนเดียวดีเธอยังได้ข้อมูลจากอำไพกับเปรี้ยวเรื่องความไม่ชอบมาพากลของนารีที่จู่ๆก็โผล่มาเป็นภรรยาของดวิน แถมมีคุณสมบัติชอบเก็บตัวและมีฝีมือในการป้องกันตัวอย่างร้ายกาจ เสาวณีรับฟังเงียบๆแต่หมายมั่นปั้นมือต้องรู้ความจริงเกี่ยวกับการแต่งงานของดวินกับนารีให้ได้...

ooooooo

อลิซคาใจที่ดวินไม่บอกแม่เรื่องแต่งงานกับเธอเพราะภารกิจลับจึงต้องถามเพื่อความกระจ่าง

“แม่นายก็เป็นทหารน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากทำไมถึงปิดบังฐานะของเรา ปล่อยให้ท่านต่อว่าแบบนั้นทำไม”

“กระหม่อมเป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้าหญิง ถึงแม้พรุ่งนี้จะเสด็จกลับแล้วแต่ภารกิจยังเป็นความลับ กระหม่อมไม่อยากให้ข่าวแพร่ออกไป”

“แล้วทำไมถึงบอกไม่ได้ว่านารีมาจากประเทศฮรีสอซ เราเข้าใจที่ปิดบังฐานะเจ้าหญิงแต่เราไม่เข้าใจทำไมต้องปิดบังแม้กระทั่งชื่อประเทศของเรา”

“เพราะมันเป็นข้อมูลที่เชื่อมโยงถึงฐานะที่แท้จริงของพระองค์...ก็แค่นั้นพระเจ้าค่ะ”

ดวินไม่บอกเรื่องหนักใจว่าเสาวณีแม่แท้ๆของเขามีความหลังฝังใจกับประเทศฮรีสอซ ประเทศสุดท้ายที่พ่อใช้ชีวิตและตายจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ อลิซยังไม่หายสงสัยต้องให้เภตราสืบประวัติพ่อดวินจนรู้ว่าเป็นอดีตองครักษ์ของคิงเฮนรี่และเสียชีวิตในช่วงเกิดกบฏ

อลิซปะติดปะต่อเหตุการณ์แล้วใจไม่ดีแต่เพื่อความชัวร์จึงไปคาดคั้นศักดิ์ชายให้เล่าเรื่องครอบครัวดวินโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับพ่อแม่ของเขากับประเทศฮรีสอซ ศักดิ์ชายไม่มีทางเลือกต้องยอมเปิดปาก

 “แม่ผู้พันเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น คุณเสาวณีไม่เห็นด้วยกับการทำงานนี้เพราะตอนนั้นผู้พันยังเด็กและเป็นงานที่เสี่ยง แต่พ่อของผู้พันเป็นห่วงคิงเฮนรี่มากจึงยอมทะเลาะกับคุณเสาวณีเพื่อเดินทางไปฮรีสอซ”

“แล้วตอนนี้ท่านผู้หญิงเสาวณีรู้สึกยังไงบ้าง”

“คุณเสาวณีไม่ยอมรับทุกอย่างที่เป็นฮรีสอซ แม้แต่พูดชื่อประเทศยังไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่ผู้พันไม่อยากบอกแม่เพราะพระองค์ทรงเป็นเจ้าหญิงของฮรีสอซพระเจ้าค่ะ”

ความจริงจากศักดิ์ชายทำให้อลิซพูดไม่ออก เช่นเดียวกับโมนาต้องหนักใจอลันลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ที่นับวันจะดื้อรั้นมากขึ้น อย่างเช่นเวลานี้ที่เขาหอบหิ้วแพนไปทุกที่ในฐานะพระสหายไม่ใช่บอดี้การ์ด!

เคธไม่ได้สนใจเรื่องน้องชายคนละแม่ หมกมุ่นกับแผนหลอกใช้กรรณเพื่อตามหาตัวอลิซ แน่นอนว่าทหารหนุ่มไม่ใจอ่อนแต่เธอก็สบโอกาสเมื่อเขามาบอกลา

“มีคำสั่งเรียกตัวกระหม่อมกลับ กระหม่อมคงไม่ได้ถวายการอารักขาพระองค์แล้ว...กระหม่อมมาทูลลา”

“เรารู้แล้ว...ขอบใจมากที่ดูแลเรามาอย่างดี... เราให้เป็นที่ระลึก”

เหรียญสัญลักษณ์ประจำตัวเคธถูกยื่นตรงหน้า กรรณลังเลแต่ก็ทนเสียงรบเร้าของเธอไม่ไหว

“รับไปเถอะ...ก็แค่เหรียญสัญลักษณ์ประจำตัวเจ้าหญิงเคธลีนที่ถูกลืม มันไม่ได้มีค่าอะไรมากนักหรอก”

“ถึงแม้คนอื่นจะลืมพระองค์แต่กระหม่อมไม่เคยลืม...กระหม่อมทูลลา”

“เดี๋ยว...หมวดกรรณอย่าลืมที่เราเคยบอกไว้นะ ถ้าเจออลิซฝากบอกว่าเราเป็นห่วง”

พูดพลางทำน้ำตาคลอ กรรณเห็นดังนั้นก็ใจอ่อน ลืมตัว ลืมหน้าที่และความรับผิดชอบ ตอบรับง่ายๆ

“แล้วกระหม่อมจะทูลให้พระเจ้าค่ะ!”

กรรณทำความเคารพและหมุนตัวจากไปแล้ว เคธยิ้มบางๆให้ก่อนเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันทีที่ลับร่างเขา มั่นใจโดยไม่ต้องถามใครว่าอลิซตัวจริงยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งในเมืองไทย...ภายใต้การอารักขาของดีทีม!

ooooooo

แม้จะเข้าใจเหตุผลของดวินที่ไม่ยอมบอกเรื่องภารกิจลับกับเสาวณีแต่อลิซก็อยากเคลียร์กับเขาให้อีกครั้ง

“เรารู้เหตุผลที่นายไม่บอกแม่เรื่องที่เรามาจากฮรีสอซแล้ว”

ดวินมองมาอึ้งๆก่อนเปลี่ยนเป็นอ่อนแสงด้วยความเป็นห่วง อลิซถอนใจยาว “เราเข้าใจ มันไม่ง่ายจะเผชิญหน้ากับคนในครอบครัวที่เป็นต้นเหตุทำให้คนที่รักต้องตาย ถ้าวันนั้นแม่นายรู้ว่าเรามาจากฮรีสอซ ท่านคงไม่พอใจมาก”

“สบายพระทัยเถอะพระเจ้าค่ะ กระหม่อมไม่อยากให้เกิดความระคายเคือง พอพระองค์เสด็จกลับทุกอย่างก็จบ”

อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 9 วันที่ 28 พ.ค.61

ละครเรื่อง ลิขิตรัก บทประพันธ์โดย นิดา
ละครเรื่อง ลิขิตรัก บทโทรทัศน์โดย ณัฐิยา ศิรกรวิไล และกัลยาณมิตร
ละครเรื่อง ลิขิตรัก กำกับการแสดงโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ผลิตโดย บริษัท ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ควบคุมการผลิตโดย แอน ทองประสม
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ