อ่านละคร เสน่ห์รักนางซิน ตอนที่ 10 วันที่ 13 พ.ค.61
“อย่ายุ่งกับพริม” บารมีบีบแขนสองข้างของพัชราแน่น เธอยิ้มไม่สะทกสะท้าน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขาว่าจะเลือกแบบไหน บารมีปล่อยแขนเธอแล้วเดินจากไป พัชรามองตามยิ้มอย่างถือไพ่เหนือกว่า...แม้ตำรวจจะสรุปเบื้องต้นว่าเหตุการณ์ที่เกิดในบ้านพริมกับบ้านปริตาเป็นเพียงคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ ส่วนเหตุไฟไหม้ที่บ้านเด็กกำพร้าของบุสกรเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่พริมไม่ปักใจเชื่อเพราะเราสามคนไม่น่าจะเจอเรื่องร้ายพร้อมกัน แต่เพื่อความสบายใจของพวกเราเองจึงพยายามคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ภูรีจับมือเธอไว้ถามว่ากลัวไหม เธอส่ายหน้า เขาคะยั้นคะยอให้กลัวหน่อยได้ไหม เขาจะได้กอดเธอให้หายกลัว
“ฉันไม่ต้องกลัวคุณก็กอดฉันได้”
“นั่นสินะ ลืมไปว่าเราเป็นแฟนกัน” ภูรีว่าแล้วดึงพริมมากอด มีเสียงร้องเรียกเธอดังมาจากหน้าบ้าน พริมลุกขึ้นชะเง้อมองเห็นบารมียืนอยู่ก็ยิ้มดีใจ ภูรีเป็นคนโทร.ไปบอกท่านเรื่องเธอเมื่อคืน ท่านเป็นห่วงเธอมาก วันนี้ท่านคงจะมาคุยกับเธอเรื่องที่คุยค้างกันไว้ให้จบๆ เธอจะได้เลิกเรียกท่านว่าคุณบารมีสักที
เหตุการณ์ไม่เป็นไปอย่างที่ภูรีหวัง บารมีไม่ได้มาเพื่อยอมรับว่าเป็นพ่อของพริม แต่มาเพื่อปฏิเสธ ทั้งที่อยากจะรับว่าเธอเป็นลูกใจแทบขาด เพราะถ้าไม่ยอมตัดขาดจากเธอ พัชราอาจทำร้ายเธอเหมือนที่ทำร้ายพาพร บารมียอมให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ แม้จะผิดหวังแต่พริมก็ไม่ได้โกรธเกลียดอะไรท่าน และรับปากจะไม่ทำให้ท่านลำบากใจอีก แต่ขออะไรท่านสักอย่าง ถึงท่านจะไม่รับเธอเป็นลูก แต่ขอให้ดูแลลูกของวีรีให้ดี
“เพราะเขาเป็นเด็กที่เกิดจากลูกที่คุณรักและเต็มใจยอมรับ อย่าทอดทิ้งวีรีกับลูกให้มีชีวิตเหมือนพริมกับแม่ เพราะวีรีไม่ได้มีหัวใจที่แข็งแรงเหมือนแม่ของพริม” พูดจบพริมผละจากไป บารมีสูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกพลังก่อนจะตัดใจลุกออกไป พริมรอจนท่านไปพ้นระยะ ก็ร้องไห้ออกมาอย่างหมดความอดกลั้น...
ด้านภูรีรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจากพริม โทร.ไปถามบารมีว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านอ้างว่าทำดีที่สุดสำหรับทุกคนแล้ว ท่านเองก็ไม่อยากปวดหัวกับเรื่องพริมอีก เราต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิมดีที่สุดแล้ว จากนั้นก็วางสาย พัชราที่ยืนฟังอยู่ตั้งแต่ต้นพอใจกับทางที่บารมีเลือก เขาไม่อยากพูดด้วยเดินหนี...
ภูรีวางสายจากบารมีแล้วหันมองพริมที่นั่งเหม่อลอยไปยังผืนน้ำเบื้องหน้า รู้สึกว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลบารมีถึงได้เปลี่ยนไปแบบนั้น น่าจะเกี่ยวกับพัชรา พริมไม่สนใจอะไรท่านอีกแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็เป็นเรื่องของท่าน เธอไม่อยากพูดถึงท่านอีกแล้ว เขาเข้าใจความรู้สึกของเธอก็เลยไม่พูดอะไรอีก
ooooooo
เนื่องจากค่าซ่อมโรงเรือนของบ้านเด็กกำพร้าที่ถูกไฟไหม้ราคาสูงถึงหนึ่งแสนบาท บุสกรต้องการเงินมาจ่ายค่าซ่อมก็เลยนึกถึงภควัตขึ้นมาได้แวะมาหา เขาที่ห้องพักเพื่อจะให้เขารับงาน เขากลับทำท่าง่วงเหงา หาวนอน เธอผิดหวังมากที่เขาไม่กระตือรือร้น คว้าหมอนอิงฟาดไม่ยั้ง ปากก็ด่าทำไมถึงเป็นคนแบบนี้
“เสียแรงที่ฉันอุตส่าห์ไว้ใจนาย ยอมทิ้งงานทุกอย่างเพื่อมาช่วยนายทำงาน แต่นายกลับเอาความฝันของฉันกับน้องๆมาทำลาย ไอ้คนไม่มีหัวใจ”
“หยุด แล้วพูดกันดีๆได้ไหม” ภควัตจับมือบุสกรที่ยังฟาดหมอนใส่ไว้ได้ ดึงหมอนไปโยนทิ้ง เธอยังแค้นไม่หายต่อยหน้าเขาด้วยมืออีกข้าง เขารู้ทันคว้ามือไว้ได้อีก เธอฤทธิ์เยอะจะขึ้นเข่า เขารู้ทันอีกหลบได้ทันก่อนจะรวบตัวเธอไว้ล้มลงบนโซฟาด้วยกัน โดยเขาทับอยู่ข้างบน เธอพยายามดิ้นหนีแต่เขาล็อกตัวไว้แน่นจะปล่อยก็ต่อเมื่อเราคุยกันเสร็จแล้ว เธอมีอะไรก็ให้พูดมาได้เลย บุสกรอยากรู้ว่าเขาจะเอาอย่างไรกับบริษัท
“ฉันจำเป็นต้องใช้เงิน ถ้านายไม่ทำแล้ว ฉันจะได้ไปหางานทำที่อื่น”
“ยังไม่รู้ ขอคิดดูก่อน” คำพูดไม่รับผิดชอบของภควัตทำให้บุสกรของขึ้นเอาหน้าผากโขกหน้าผากเขาจนร้องลั่น ทำให้เขาคลายมือที่ล็อกเธอออก เธอผลักเขาออกห่างแต่เขารวบตัวเธอไว้เหมือนเดิม บุสกรอัดอั้นตันใจมากร้องไห้ออกมา เขารู้สึกผิดปล่อยเธอเป็นอิสระ บุสกรลุกขึ้นได้คว้ากระเป๋าสะพายไปที่ประตู ภควัตตามมาขวางไว้ ยังคุยกันไม่รู้เรื่องจะกลับได้อย่างไร
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนายอีกแล้ว ฉันได้คำตอบแล้วว่าฉันไม่ควรฝากความหวังไว้กับคนที่ดีแต่รวยเงินทอง แต่ยากจนความรับผิดชอบ...ใช่ ฉันโง่เองที่ดันลืมว่าขนาดพ่อแม่นายยังฝากความหวังไว้ที่นายไม่ได้ นับประสาอะไรกับฉัน แต่นายไม่ต้องห่วง ถึงไม่มีนาย ฉันก็ไม่เดือดร้อน ฉันจะสร้างสิ่งที่ฉันต้องการด้วยมือของฉันเอง เพราะฉันไม่ได้เป็นแบบนาย ไอ้คนกระจอก” บุสกรผลักภควัตพ้นทางแล้วออกจากห้อง...
ภควัตนำเรื่องที่ถูกบุสกรด่าไปเล่าให้ภูรีฟังหวังจะให้เห็นใจ กลับถูกเขาสมน้ำหน้า ตั้งบริษัทขึ้นมาได้ทั้งทีแทนที่จะทำงานกลับลอยไปลอยมาไปวันๆ ภควัตทำงานแล้วเหนื่อยก็เลยไม่อยากทำ ภูรียุให้ฮึดสู้ เพราะทุกคนต่างก็ต้องสู้เพื่ออะไรสักอย่าง ถ้าภควัตไม่มีก็ให้หาใครสักคนมาเป็นกำลังใจให้แล้วให้สู้เพื่อคนคนนั้น ภาพบุสกรผุดขึ้นมาในหัวภควัตทันที เขาสะบัดหัวไล่เธอออกไปจากความคิดแต่ไม่สำเร็จ ภูรีงงว่าเพื่อนเป็นอะไร
“ภาพยัยบุสเมื่อคืนตามมาหลอกหลอนว่ะ”
“เธออาจจะไม่ได้ตามมาหลอก แต่เธอตามเข้ามาอยู่ในใจแกแล้วต่างหาก จงเชื่อสิ่งที่หัวใจบอก”
ooooooo
คำพูดของภูรีเมื่อครู่ทำให้ภควัตคล้อยตาม รีบไปหาบุสกรที่บ้านพริม เพื่อบอกว่าจะกลับมาทำบริษัทอีกครั้ง แต่ถ้าเธอยังไม่ไว้ใจเขาก็ไม่เป็นไร เขาจะทำบริษัทให้ใหญ่โตมั่นคงแล้วจะกลับมารับเธอเป็นหุ้นส่วนเหมือนเดิม บุสกรเสียงกร้าวจะไม่ยอมกลับไปทำงานกับเขาเพราะมั่นใจว่าเขาไม่มีทางทำตามที่พูดได้
“อีกสองชั่วโมงเครื่องบินจะออก ผมไม่มีเวลาเถียงกับคุณ ผมจะไปภูเก็ต ไปขอเงินทุนก้อนใหม่จากคุณพ่อคุณแม่ เจ้าพ่อแห่งวงการออร์กาไนซ์กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ผมมาบอกให้คุณรู้เท่านี้แหละ...อ้อ มีอีกเรื่อง ผมอยากบอกคุณให้รู้ไว้ว่า จูบของคุณดีต่อใจผมมาก” พูดจบภควัตยิ้มหล่อออกไป
พริมกับปริตาตะลึงทั้งคู่ไปจูบกันตอนไหน บุสกรเป็นห่วงความรู้สึกของปริตาพยายามจะแก้ตัวแต่เธอวิ่งหนีไปที่ศาลาริมน้ำเสียก่อน บุสกรวิ่งนำพริมเข้ามาขอโทษเธอด้วย ไม่ได้ตั้งใจจะจูบภควัต แต่เขาเป็นฝ่ายจูบตนก่อน ปริตาไม่ได้โกรธที่บุสกรจูบกับภควัต แต่เธอใจไม่ดีเพราะทุกคนมีแฟนกันหมด เธอก็จะกลายเป็นส่วนเกิน พริมปลอบว่าไม่มีใครเห็นเธอเป็นแบบนั้นแน่นอน บุสกรให้สัญญาจะอยู่ขึ้นคานไปกับปริตา
“ไม่จริงหรอก แกรักคุณวัต ถ้าแกไม่รักเขา เขาจูบแก ป่านนี้ฟันเขาร่วงหมดปากไปแล้ว ฉันว่าคุณวัตก็มีใจให้แกนะบุส สายตาเขามองแกมุ้งมิ้งเชียว”
บุสกรแปลกใจ นี่ปริตาไม่ชอบภควัตแล้วหรือ
พริมตอบคำถามแทนว่าอินทัชยึดพื้นที่หัวใจของปริตาไปหมดแล้ว เจ้าตัวยอมรับว่าใช่ แต่เธอไม่แกร่งเหมือนเพื่อนๆ ถ้าแม่อินทัชไม่ชอบเธอก็คงต้องตัดใจจากเขา...
ทางฝ่ายภควัตกลับไปหาพ่อที่ภูเก็ตได้ทันเวลา คุณภพกำลังจะฆ่าตัวตายเพราะทนไม่ได้ที่จะถูกฟ้องให้กลายเป็นบุคคลล้มละลายเนื่องจากไม่มีปัญญาชำระหนี้ ก่อนที่ท่านจะเหนี่ยวไกปืน ภควัตเข้าไปยื้อแย่งปืนไว้ ปืนลั่นดังปัง โชคดีที่กระสุนไม่โดนใคร มีเพียงแจกันในห้องทำงานที่โดนกระสุนปืนแตกกระจาย
คุณภพปล่อยมือจากปืน ทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดอาลัยตายอยาก คุณขวัญได้ยินเสียงปืนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ภควัตเองก็ไม่รู้เหมือนกันแล้วเอาปืนวางลงบนโต๊ะหันมองพ่อ คุณขวัญตระหนักในทันทีว่าคุณภพคิดจะตัดช่องน้อยแต่พอตัวก็ร้องไห้ฟูมฟาย ขอร้องอย่าทำแบบนี้อีก ถ้าเขาทิ้งเธอไปแล้วเธอจะอยู่ได้อย่างไร สองผัวเมียกอดกันร้องไห้ ภควัตขอร้องใครก็ได้ช่วยบอกเขาทีว่านี่มันเรื่องอะไร
ครั้นได้รู้เรื่องทั้งหมดจากปากพ่อ ภควัตตกใจมากเพราะไม่รู้มาก่อนว่าสภาพทางการเงินของโรงแรมมุกทะเลง่อนแง่นขนาดนี้ ตัดพ้อว่าทำไมพวกท่านไม่บอกเขาบ้าง คุณภพรู้ดีบอกไปเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ ภควัตเจ็บปวดใจที่พ่อไม่เห็นค่า เดินคอตกออกไป คุณขวัญวิ่งตามมาถามถึงบริษัทของเขาเป็นอย่างไรบ้าง เงินที่พ่อให้ไปยังไม่ได้ใช้หมดไปอย่างที่พ่อคิคใช่ไหม เผื่อท่านจะได้เอาเงินไปผ่อนผันเจ้าหนี้ยื้อเวลาให้เราได้บ้าง
“ธุรกิจของผมไปด้วยดีสุดๆเลยครับ เอาเป็นว่าอีกสองสามวันผมจะโอนเงินมาคืนคุณพ่อ บวกดอกเบี้ยอีกนิดหน่อยนะครับ” ภควัตโกหกหน้าตาย คุณขวัญดีใจมากวิ่งเข้าไปบอกข่าวดีนี้ให้คุณภพทราบ ทันทีที่แม่พ้นสายตา รอยยิ้มของภควัตเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อย นึกถึงคำพูดของบุสกรขึ้นมาได้ทันที
“ขนาดพ่อแม่นายยังฝากความหวังไว้ที่นายไม่ได้ นับประสาอะไรกับฉัน”
ความเจ็บปวดแล่นขึ้นมาจับหัวใจภควัต ก่อนจะเดินหน้าเครียดออกไป
ooooooo
อ่านละคร เสน่ห์รักนางซิน ตอนที่ 10 วันที่ 13 พ.ค.61
บทประพันธ์โดย จันทริกากำกับการแสดงโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ผลิตโดย บริษัท กู๊ด ฟิลลิ่ง จำกัด
ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ