อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 8 วันที่ 7 พ.ค.61
แต่ที่กระโจม...ม่วงฟื้นแล้วบอกพันหาญทั้งที่ยังลุกไม่ขึ้นว่าอยากกราบเท้าท่านเจ้าคุณกับคุณหลวงเหลือเกิน แต่แค่พยุงตัวนั่งยังลำบาก หากหายดีเมื่อใดขอให้ได้ทดแทนบุญคุณด้วยเถิดหลวงพิชัยบอกว่ารักษาตัวให้หายดีก่อนเถิด พระยาตากก็บอกว่า คดีอาญาบ้านเมืองไม่ต้องกลัว แม้จะไม่มีใครเป็นพยานให้ว่าพ่อม่วงไม่ได้ทำแต่ก็ยังมีวิธีให้พ่อม่วงพ้นโทษได้ ม่วงดีใจถามว่าวิธีใดหรือขอรับท่าน
“ฉันจะจดชื่อพ่อม่วงไว้แลทำเรื่องขึ้นไป เสร็จศึกพ่อจะได้บำเหน็จเอาไว้ช่วยตัวเองให้พ้นโทษ”
“เป็นพระคุณหาที่สุดมิได้ขอรับ กระผมหายเมื่อใด จะตั้งใจสู้ศึกสนองคุณท่านเจ้าคุณขอรับ”
พอม่วงมีทางพ้นคดีได้ก็คิดถึงคนข้างหลัง หลวงพิชัยถามว่าเหตุใดหน้าเศร้าไปอีกเล่า?
“กระผมคิดถึงคนข้างหลังขอรับ ไม่รู้ว่าป่านฉะนี้จะเป็นเช่นไรบ้าง ทั้งพ่อ น้อง น้า ยิ่งแม่อินกับแม่สุ่น กระผมยิ่งเป็นห่วงนัก ตอนกระผมหนีมา แม่สุ่นยังไม่ขาดใจตาย กระผมก็ได้แต่หวังว่าคุณพระคุณเจ้าจะคุ้มครองแม่สุ่นให้รอดปลอดภัยขอรับ” ม่วงเล่าด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
ooooooo
วันนี้แมงเม่าในชุดข้าหลวงไปที่เรือนใหม่ที่ขันทองหาให้ กอดมิ่งน้ำตาคลอที่ต้องจากไปเป็นข้าหลวงในวังและยากที่จะออกมาปรนนิบัติพ่อกับน้าชื่นได้บ่อยๆ
มิ่งปลอบว่าไม่ต้องห่วง พ่ออยู่ที่นี่มีบารมีของกรมขุนวิมลคุ้มครองและออกพระศรีก็คอยดูแลอยู่ ชื่นบอกว่าแมงเม่าเข้าไปอยู่กับกรมขุนท่านดีแล้วจะได้ปลอดภัย อินบอกว่าตนก็ยังอยู่ทั้งคนเจ้าไม่ต้องกลัว
แมงเม่าเห็นพวกบ่าวไพร่หายหน้ากันไปหมดเห็นแต่ติ่นกับผล ติ่นเล่าว่าเศรษฐีมิ่งแจกเบี้ยให้ไปตั้งตัวกัน เหลือตนกับผลไม่ยอมรับเบี้ย ไม่คิดจะไปที่ใด เป็นตายอย่างไรก็ต้องอยู่ทดแทนบุญคุณท่านเศรษฐีก่อน
ขันทองจึงเปลี่ยนเรื่องให้บรรยากาศผ่อนคลาย บอกแมงเม่าเล่าให้ท่านเศรษฐีฟังสิว่าอยู่วังต้องทำอะไรบ้าง แมงเม่าจึงเล่าอย่างละเอียดมีชีวิตชีวาให้ทุกคนฟัง ขันทองฟังแล้วยิ้มกับความช่างพูดของแมงเม่า ที่อย่างน้อยก็ทำให้แมงเม่าเองลืมความทุกข์ไปได้ขณะหนึ่ง
เมื่อมีโอกาส อินถามขันทองว่าได้ข่าวม่วงบ้างไหม ขันทองบอกว่ายังไม่มีผู้ใดจับตัวม่วงได้และยังได้ข่าวว่าสุ่นปลอดภัยแล้ว ฉะนั้นจะกล่าวหาม่วงว่าฆ่าคนตายไม่ได้ดอก อินดีใจถามว่าถ้าเช่นนั้นม่วงก็กลับมาได้แล้วไม่ใช่หรือ ขันทองบอกว่าอย่าเพิ่งกลับมาเลยเพราะยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก ระหกระเหินอยู่อย่างนั้นอาจจะปลอดภัยกว่าอยู่ในอโยธยา เห็นอินหน้าเศร้า ขันทองให้กำลังใจว่า
“อย่าทำหน้าเช่นนั้นเลยแม่อิน เพลานี้แม่อินต้องทำหน้าที่แทนพ่อม่วงคอยดูแลทุกคน ถ้าแม่อินท้อถอยสักคนแล้ว พ่อม่วงจะสิ้นกังวลได้อย่างไร”
“ออกพระสั่งสอนถูกต้องแล้ว ฉันจะทำตามที่ออกพระสอนเจ้าค่ะ” อินเข้มแข็งขึ้นมาเพื่อเป็นหลักให้ครอบครัวต่อไป
แมงเม่าสบายใจที่ขันทองพูดให้อินมีกำลังใจจะได้ไม่สิ้นหวังในการรอคอยพี่ม่วงต่อไป ขันทองถามว่าแมงเม่าต้องเข้านอนที่ห้องบรรทมของกรมขุนวิมลทุกคืนรึ แมงเม่าบอกว่าท่านต้องการปกป้องตน แต่ทำให้ตนทำเรื่องที่ตั้งใจไว้ไม่ได้เสียที แต่แมงเม่าก็ลังเลที่จะเล่าให้ขันทองฟังเพราะเป็นห่วงม่วง
ขันทองเห็นท่าทีของแมงเม่าก็เดาใจออก จึงเปลี่ยนเรื่องถามว่าโจทย์กลบทที่ให้ไปคราก่อนลองแก้หรือยัง แมงเม่าเขินเมื่อนึกถึงเพลงยาวของเจ้าฟ้ากุ้งที่ขันทองเขียนเป็นโจทย์ให้เลยบอกว่าทำหายไปแล้ว
“หายไปแล้วก็ช่างเถิด ฉันจะเขียนโจทย์ให้ใหม่ เขียนให้คิดแก้ไปเรื่อยๆจะได้เข้าใจ”
ขันทองยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำให้แมงเม่ายิ่งเขินสะท้าน ใจเต้นรัวจนต้องหลบตาคู่นั้น...
ooooooo
แม้ขันทองกับแน่นจะเตือนซึ่งกันและกันเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรกับเป้าและแมงเม่า ต่างก็มั่นใจว่าจะไม่พลั้งเผลอให้มีพิรุธ
แต่แล้วก็เกิดเรื่องจนได้ เมื่อเป้าไปเดินตลาดเห็นปิ่นปักผมถูกใจแต่ไม่ซื้อเพราะแพงเกินไป แน่นสังเกตอยู่จึงซื้อปิ่นเอาไปให้ เป้าไม่คิดกระไรเพราะเชื่อสนิทใจว่าแน่นเป็นขันที แต่กลายเป็นหลักฐานข้ออ้างสำคัญที่ขุนรักษ์เทวาและขุนเทพชำนาญเอามาหาเหตุเล่นงานแน่น เพื่อโยงไปถึงขันทองเพราะทั้งสองสนิทกันมาก
เย็นนี้เอง หลวงศรีมะโนราชไปหาขุนเทพรักษาที่กำลังอยู่กับลูกสวาท เรียกออกมาถาม หลวงศรีมะโนราชฉุกคิดว่าหรือทั้งแน่นและขันทองจะเป็นจารบุรุษทั้งคู่! บอกขุนเทพรักษาว่าเรื่องนี้เราอาจโยงไปกระทบถึงขันทองได้ ขุนเทพรักษาเกรงว่าออกญาวังจะเชื่อเราหรือ ขุนเทพชำนาญยิ้มเจ้าเล่ห์บอกว่า
“ฉันคิดกับคุณหลวงไว้หมดแล้ว ครานี้เราคงต้องเตรียมการกันสักเล็กน้อย”
หลวงศรีมะโนราชยิ้มร้ายอย่างมีแผนการ
ฝ่ายคุณท้าวโสภารู้เรื่องปิ่นปักผมจากพระยากำแหงและหลวงศรีมะโนราช ก็ตำหนิเป้าว่าเป็นสาวเป็นนางไปรับของกำนัลมีค่าได้อย่างไร เป้ากราบขอประทานโทษเพราะคิดว่าแน่นเป็นขันทีไม่น่าเสียหายกระไร
คุณท้าวโกรธมากตวาดเป้าว่าทำเยี่ยงนี้รู้ถึงไหนอายถึงนั่น แล้วขอประทานโทษและขอบคุณท่านเจ้าคุณกับคุณหลวงที่มาแจ้งเรื่องนี้ไม่ให้ต้องเสื่อมเสียไปกว่านี้ หลวงศรีมะโนราชพูดออกตัวว่าตนเห็นกับตามาเช่นนี้คงไม่คิดว่าตนแต่งเรื่องมาใส่ร้ายอีกกระมัง
“อย่าห่วงเลยคุณหลวง หากมีข้อสงสัยฉันก็ต้องจัดการให้รู้แน่ ไม่ปล่อยให้ผ่านไปดอก” พระยากำแหงรับปากหน้าเครียด ส่วนหลวงศรีมะโนราชแสยะยิ้มสมใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
ooooooo
เช้าวันใหม่ ขุนรักษ์เทวาเดินนำขันทีคนอื่นๆ เข้ามาที่ศาลาในวัง เมื่อขุนรักษ์เทวารายงานเจ้าคุณว่ามาครบแล้ว พระยากำแหงก็สั่งทหารให้จับตัวขุนจิตใจภักดิ์ไว้ทันที
“นี่มันกระไรกันเจ้าคะท่านเจ้าคุณ” ขันทองตกใจร้องถาม พระยากำแหงบอกว่าตนสงสัยจึงต้องตรวจความเป็นชายของขุนจิตใจภักดิ์ ขันทองอ้างว่าออกพระราชาข่านเคยให้ดูกล่องใส่ความเป็นชายแล้ว หลวงศรีมะโนราชสวนทันทีว่าถึงดูแล้วก็ต้องตรวจอีกจนกว่าจะได้เห็นกับตา
ขันทองทักท้วงว่าเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องน่าอับอายให้หาวิธีอื่นไม่ได้หรือ พระยากำแหงบอกอย่ากังวลเลยตนไม่ทำประเจิดประเจ้อ และคนที่อยู่นี่ก็เป็นขันทีด้วยกันทั้งนั้น แต่ที่ต้องให้ทหารจับตัวไว้ก็เพื่อกันไว้ก่อนเท่านั้นเอง เมื่อขันทองพยายามจะช่วยพูดอีกก็ถูกหลวงศรีมะโนราชสวนขัดขึ้นทันทีว่า
“จะพูดพล่ามไปไย ของเช่นนี้ถ้าไม่ผิดจะกลัว กระไร เว้นแต่จะผิดเหมือนกันจึงต้องปกป้อง ถ้ากระนั้นก็ตรวจความเป็นชายของคุณพระด้วยเสียเลยเป็นอย่างไรเล่า”
ขันทองจ้องหลวงศรีมะโนราชหน้าถมึงทึงอย่างรู้ทันว่า ที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อเล่นงานตนนั่นเอง
วันนี้ขณะเป้าเฝ้ากรมขุนวิมลที่นอนหลับตาอยู่บนตั่ง แมงเม่าหน้าตื่นเข้ามาขอตัวเป้าสักครู่ กรมขุนวิมลขยับขึ้นนั่งบอกแมงเม่าว่ามีกระไรก็พูดตรงนี้เลย ทำราวกับจะมีความลับกับตนได้อย่างนั้นแหละ แมงเม่าจึงพูดกับเป้าว่า ท่านขุนจิตใจภักดิ์...
เป้ากลัวแมงเม่าจะพูดเรื่องปิ่นปักผมอีก รีบขัดว่าตนก็รู้สำนึกแล้วเลิกฟื้นฝอยหาตะเข็บเถิด แมงเม่าจึงตัดใจพูดอ้อมๆว่า
“ออกญาวัง มีข้อสงสัยว่าขุนจิตใจภักดิ์ไม่ใช่ขันทีจริง จึงจับตัวไว้เพื่อพิสูจน์เจ้าค่ะ”
กรมขุนวิมลและเป้าตกใจมากกับข่าวนี้
ooooooo
ที่ศาลาในวัง หลวงศรีมะโนราช ขุนเทพชำนาญ และขุนเทพรักษา กำลังช่วยกันกดดันพระยากำแหงให้เอาตัวขันทองไปตรวจความเป็นชายอีกคนให้ได้ จนพระยากำแหงบ่นเครียด
“พวกท่านสามคนวุ่นวายกับเรื่องนี้มาหลายคราแล้ว อย่าให้ฉันต้องวุ่นวายด้วยอีกเลย ตรวจความเป็นชายแค่ขุนจิตใจภักดิ์คนเดียวก็พอแล้ว”
ขุนเทพรักษาโพล่งว่าท่านเจ้าคุณลำเอียง ไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่ พระยากำแหงผงะ ถูกขุนรักษ์เทวาโต้อย่างไม่พอใจว่าต้องทำตามพวกบ่างช่างยุ เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่นอย่างนั้นรึถึงจะเรียกว่าซื่อตรง
หลวงศรีมะโนราชเกรงฝ่ายตนจะเสียเปรียบปรามขุนเทพรักษาให้พอได้แล้ว เข้าใจบ้างเถิดว่าออกพระศรีขันทินมีอำนาจในฝ่ายในเป็นรองท่านเจ้าคุณเพียงขั้นเดียว ท่านเจ้าคุณย่อมอึดอัดใจเป็นธรรมดา
อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 8 วันที่ 7 พ.ค.61
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ