อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 10 วันที่ 31 พ.ค.61

อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 10 วันที่ 31 พ.ค.61

ในที่สุดวันและเวลานัดหมายก็มาถึง...ดวินรับหน้าที่ขับรถไปกับแพนโดยมีอลิซถูกมัดมือมัดเท้าไว้หลังรถ เฮเดสรออยู่แล้วด้วยใจจดจ่อ หลังทรมานเสาวณีที่ด่าเขาไม่หยุดปากด้วยการตบสั่งสอนก็สั่งลูกน้องพาตัวประกันไปขังไว้หลังบ้านซึ่งจะใช้เป็นสถานที่นัดหมาย

ดวินประกาศกร้าวจะไม่แลกตัวประกันหากไม่ได้เห็นแม่ เฮเดสจึงให้ลูกน้องพาไปหลังบ้าน แพนสบตาญาติหนุ่มและปลดเชือกที่เท้าให้อลิซโดยอ้างกับพวก

เฮเดสว่าอยากให้เดินไปเอง



อลิซรอจังหวะสร้างสถานการณ์และฉวยจังหวะชุลมุนสลับตัวกับแพน!

สัญญาณติดตามตัวอลิซดังหลังจากนั้น กรรณ ลิงและหินที่เป็นกองหนุนจึงเคลื่อนตัว ดวินแกล้งโมโหเมื่อเห็นว่าอลิซตัวจริงหาที่ซ่อนตัวได้และจับตัวแพนซึ่ง

ปลอมตัวเป็นอลิซตามพวกเฮเดสไปพบแม่ที่หลังบ้าน

อลิซเดาว่าเฮเดสคงเล่นตุกติกตามประสาพวกเจ้าเล่ห์เลยแอบไปสำรวจอีกด้านจนพบตัวเสาวณีถูกขังไว้ เสาวณีไม่อยากเชื่อสายตาว่านารีจะมาช่วยแถมมีฝีมือจนน่าตกใจ

“คนที่ไอ้พวกนั้นมันต้องการตัวคือเธอเหรอนารี”

“ฉันขอโทษที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อน แต่คุณ

ไม่ต้องห่วง ฉันจะต้องพาคุณออกไปจากที่นี่ให้ได้อย่างปลอดภัย...แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตฉันก็ยอม”

เฮเดสไม่ใช่คนโง่ ในที่สุดเขาก็รู้ว่าถูกตลบหลังจึงสั่งลูกน้องจัดการพวกดวินและจับตายอลิซหากไม่มีทางเลือก ดวินร้อนใจด้วยความเป็นห่วงแม่กับอลิซจึงส่งแพนไปช่วย ส่วนตัวเองรับมือห่ากระสุนของพวกเฮเดสตามลำพัง

อลิซพาเสาวณีออกมาสมทบแพน กรรณ หินและลิงจนได้ แต่เมื่อได้ยินว่าดวินติดอยู่ข้างในกับพวกเฮเดสก็ตัดสินใจไปช่วย ศักดิ์ชายเห็นเสาวณีปลอดภัยก็โล่งอกก่อนจะหน้าเจื่อนเมื่อถูกเธอซักไซ้เรื่องนารี

“ฉันรู้แล้วว่านารีเป็นเจ้าหญิง ฉันอยากรู้ว่าเธอเป็นเจ้าหญิงของประเทศอะไร”

จนแล้วจนรอดศักดิ์ชายก็ไม่เผยเรื่องภารกิจลับและตัวตนแท้จริงของอลิซ

“ไม่ว่าเธอจะมาจากไหนมันไม่สำคัญ ผมอยากให้คุณรู้แค่ว่าแผนทุกอย่างในวันนี้มาจากนารี เธอยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อช่วยชีวิตคุณและตอนนี้เธอกำลังเอาชีวิตตัวเองเข้าแลกเพื่อชีวิตดวิน”

ooooooo

ดวินสลัดสมุนของเฮเดสออกได้แต่ก็ไม่พ้นถูกเฮเดสตามเอาปืนจ่อที่ด้านหลัง

“แหล่งข่าวบอกว่าผู้พันมีความสำคัญกับเจ้าหญิงมาก ฉันเพิ่งจะเชื่อตอนนี้เอง เจ้าหญิงยอมเอาตัวเองเข้าแลกช่วยแม่ผู้พัน ถ้าผู้พันเกิดตายเจ้าหญิงคงเจ็บปวด

ไม่น้อย...ฉันอยากเห็นเจ้าหญิงเจ็บปวดอย่างที่สุด!”

อลิซมาทันเห็นทุกอย่างจะไปช่วยดวินแต่ถูกกระสุนปืนของเฮเดสยั้งไว้ อลิซทรุดเพราะกระสุนถูกจุดสำคัญ ดวินฮึดสู้เฮเดสก่อนผละไปหาอลิซด้วยความ

เป็นห่วงสุดหัวใจ ศักดิ์ชายพาพวกแพนมาช่วยพอดีและควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ พาอลิซส่งโรงพยาบาล แต่เฮเดสกลับหนีไปได้

อาการของอลิซหนักหนาเอาการ ดวินพร่ำโทษตัวเองที่ใจอ่อนยอมให้เธอเสี่ยงกับเรื่องนี้ เสาวณีอ่อนเพลียมากถูกพาตัวไปให้น้ำเกลือโดยมีแพนคอยดูแล แต่ท่าทีของลูกชายคนเดียวก็ทำให้เธอต้องคิดหนัก...หรือว่านารีจะมีความสำคัญกับจิตใจดวินมากกว่าคนที่ต้องอารักขาตามหน้าที่

ทีมแพทย์รักษาชีวิตของอลิซสุดความสามารถ ในที่สุดช่วงเวลาทรมานของดวินก็ผ่านไป อลิซรู้สึกตัวพร้อมฝันร้ายเกี่ยวกับอลันในอีกหลายชั่วโมงต่อมา

ดวินได้ยินเธอพร่ำเพ้อถึงญาติหนุ่มก็อดเตือนไม่ได้

“กระหม่อมคิดว่าพระองค์ทรงห่วงพระอาการของตัวเองก่อนดีกว่านะพระเจ้าค่ะ”

“เราสบายดี เราไม่ได้เป็นอะไร แล้วนายก็ไม่ต้องรู้สึกผิด มันไม่ใช่ความผิดของนาย เราเป็นคนอยากกลับไปช่วยนายเองและตอนนี้เราก็ไม่ได้เป็นอะไร...นี่ไงเราสบายดี”

“แต่...ถ้าพระองค์ทรงเป็นอะไรไป กระหม่อม...”

“เราบอกแล้วไงว่าเราไม่เป็นอะไร เราทำตามสัญญา...เราต้องช่วยแม่นายออกมาให้ได้และเราจะไม่ยอมให้นายเป็นอันตรายเพราะเรา เรามีเลือดขัตติยาตรัสแล้วไม่คืนคำ ฉะนั้นไม่ต้องรู้สึกผิด ไม่ต้องคิดมาก”

“กระหม่อมซาบซึ้งใจจนไม่รู้ว่าจะกล่าวอะไรพระเจ้าค่ะ”

“ก็ไม่ต้องกล่าว ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น แค่ทำตามที่เราบอก...ดูแลอลันดีๆ เราสังหรณ์ว่าเฮเดสกำลังพุ่งเป้าไปที่อลัน!”

สังหรณ์ของอลิซเป็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ เฮเดสจัดการฆ่าปิดปากลูกน้องทั้งหมดและเริ่มแผนขั้นต่อไปด้วยการพุ่งเป้าไปที่อลัน แต่ที่เขาไม่คาดคิดคืออลันจะดื้อแพ่งไม่กลับฮรีสอซไปรับตำแหน่งรัชทายาทตามคำสั่งคิงเฮนรี่

อังเดรต้องกลับฮรีสอซก่อน โมนาหัวเสียมากขัดใจที่ลูกชายดื้อ อังเดรจึงอาสาไปคุยแทน อลันนอนคลุมโปงไม่ยอมพูดกับพ่อ อังเดรเลยทิ้งจดหมายไว้ ก่อนทิ้งท้าย

“พ่อรู้ว่าพูดอะไรตอนนี้ลูกคงไม่อยากฟัง พ่อเลยเขียนมันออกมา...อยากอ่านเมื่อไหร่ก็อ่าน...พ่อรู้ว่าลูกชอบประเทศไทยแต่ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรา ลูกอยู่นานแล้ว ได้เวลากลับบ้านได้แล้วนะลูก พ่อกับแม่จะรอ แล้วเจอกันที่บ้าน”

ooooooo

อลันสะเทือนใจกับคำบอกลาของพ่อ และยิ่งสะท้อนใจเมื่อเห็นว่าพ่อหยิบนิทานเรื่องนกอินทรีขี้รำคาญ...นิทานก่อนนอนของเขามาเล่าเตือนใจอีกครั้งในจดหมาย...

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...มีนกอินทรีตัวนึงมีนิสัยขี้รำคาญเป็นที่สุด ไม่ชอบให้มีอะไรมารบกวนความเป็นส่วนตัวของตัวเอง ถ้าเห็นอะไรไม่ถูกใจได้ยินอะไรที่ไม่ชอบใจก็จะไม่อดทน”

ความทรงจำวัยเด็กผุดขึ้นอีกครั้ง อลันรักช่วงเวลาเหล่านั้นมากเพราะพ่อมักกล่อมเขานอนด้วยนิทานเรื่องนี้

“วันนึง...นกอินทรีตัวนี้บินผ่านไปยังฝูง

นกกระจอกที่ส่งเสียงดังสนั่นสร้างความน่ารำคาญให้อย่างมาก เจ้านกอินทรีก็ทนไม่ได้เอาปีกมาปิดหูตัวเอง ...รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น”

“เอาปีกมาปิดหูก็บินไม่ได้สิครับ”

“ใช่...เจ้านกอินทรีก็ตกลงมาตายเพราะไม่มีความอดทนกับเสียงนกกระจอกตัวเล็กๆพวกนั้น”

นิทานจบลงตรงนั้นแต่ประโยคเตือนสติของพ่อหลังจากนั้นต่างหากที่ทำให้อลันถอนใจยาว

“พ่อรู้ว่าในจุดที่พวกเราอยู่มันไม่ง่ายที่จะได้รับ ได้พูดได้ทำในสิ่งที่เราต้องการ เราต้องรับต้องพูด

และต้องทำในสิ่งที่คนอื่นต้องการเสมอ แต่นกอินทรีไม่สามารถปฏิเสธความเป็นอินทรีได้ฉันใด เราก็ปฏิเสธความเป็นตัวเราไม่ได้ฉันนั้น เราก็ต้องบินต่อไปท่ามกลางสิ่งที่รบกวนจิตใจ”

อลันรู้ดีว่าพ่อหมายถึงสถานะรัชทายาทที่เขาได้มาเพราะเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ ซึ่งแม้เขาจะไม่ได้ต้องการ แต่คำเตือนสติของพ่อก็เพื่อบอกว่าเขาไม่มีทางเลือกเพราะมันคือหน้าที่

“พ่อมั่นใจว่าลูกพ่อทำได้ เช่นเดียวกับที่ท่านปู่มั่นใจว่าหลานของท่านคือพญาอินทรีที่จะกางปีกบินผ่านเสียงครหานินทาไปได้อย่างสง่างาม มั่นใจในตัวเอง ใช้ปีกที่ลูกมีบินไปให้สูงที่สุด อย่าใช้มันปิดตาปิดหูจนตัวเองไม่มีความสุข...พ่อกับแม่รักและเชื่อมั่นในตัวลูกเสมอ”

ความรักและห่วงใยของพ่อแม่ทำให้อลันตัดสินใจกลับฮรีสอซ แต่ไม่ทันบอกข่าวดีนี้ก็ต้องตกตะลึงหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นกับตาว่ารถประทับของพ่อกับแม่ถูกวางระเบิด!

ooooooo

ดวินกับแพนมาถึงโรงแรมประทับของอลันพอดี รีบออกคำสั่งเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยและพาตัวอลันไปหลบ แต่นอกจากราชนิกุลหนุ่มจะไม่ให้ความร่วมมือ ยังดื้อดึงจะวิ่งหารถที่ถูกเพลิงไหม้แทบไม่เหลือซากจนแพนต้องใช้กำลังบังคับ ทั้งปลอบทั้งขู่ให้เข้าไปสงบสติอารมณ์ในห้อง

เฮเดสเป็นตัวการเรื่องวางระเบิด หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายแห่งฮรีสอซใช้ผ้าคลุมศีรษะอำพรางตัว แต่ก็ไม่รอดสายตาของดวิน นาวิกโยธินหนุ่มสะกดรอยตาม เกือบได้ตัวอยู่แล้วแต่เฮเดสอาศัยความรอบจัดเอาตัวรอดแบบฉิวเฉียด ดวินเซ็งมากแต่ไม่มีเวลาโวยวายต้องรีบรายงานเรื่องนี้ให้เบื้องบนรับทราบ

อลิซตกใจเมื่อรู้ข่าวร้ายของอังเดรกับโมนาจากศักดิ์ชาย เชื่อตามข้อสันนิษฐานของทางการไทยว่าเป็นการลอบสังหารอลันแต่ดันพลาดเพราะเป้าหมายไม่ยอมกลับฮรีสอซ อังเดรกับโมนาจึงใช้รถประทับแทน

อ่านละคร ลิขิตรัก The Crown Princess ตอนที่ 10 วันที่ 31 พ.ค.61

ละครเรื่อง ลิขิตรัก บทประพันธ์โดย นิดา
ละครเรื่อง ลิขิตรัก บทโทรทัศน์โดย ณัฐิยา ศิรกรวิไล และกัลยาณมิตร
ละครเรื่อง ลิขิตรัก กำกับการแสดงโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ผลิตโดย บริษัท ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ควบคุมการผลิตโดย แอน ทองประสม
ละครเรื่อง ลิขิตรัก ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ