อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 7 วันที่ 3 พ.ค.61

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 7 วันที่ 3 พ.ค.61

“อโยธยามีจุดอ่อนมากมาย เหมือนสนิมเกิดจากเนื้อในเหล็ก ถึงมีพระยาพลเทพก็ใช่จะพ้นภัยไปได้ แต่เราก็ต้องหาหลักฐานมาจัดการพระยาพลเทพก่อน แล้วจึงค่อยแก้ไขส่วนอื่นต่อไป” พระยาตากชี้แนะ

พันหาญบอกว่าหลักฐานอย่างเดียวที่จะเอาผิดพระยาพลเทพได้อยู่ที่ลูกสาวเศรษฐีโรงกระดาษ พวกตนจะต้องไปเอามาให้ได้ แต่ยังไม่สบโอกาส ทำได้เพียงขัดขวางไม่ให้พวกพระยาพลเทพทำลายหลักฐานได้เท่านั้น พระยาตากนิ่งไปแล้วบอกแก่ทุกคนว่า

“คนจีนมีคำกล่าวว่าบังคับไม่สู้เชื้อเชิญ เมื่อแย่งชิงไม่ได้ทำไมไม่หาทางให้ส่งของออกมาเองเล่า”



ทุกคนมองหน้าพระยาตากเป็นตาเดียว ในขณะที่พระยาตากยิ้มให้ทุกคนอย่างมีแผนการในใจแล้ว

ooooooo

วันนี้อินเอายาดีให้ม่วงที่กำลังจะไปเยี่ยมสุ่นที่ไม่สบายเอาไปต้มให้สุ่นกิน แมงเม่าอัศจรรย์ใจว่า

“พี่ม่วงไปเยี่ยมหาแปลกไม่ แต่พี่อินเป็นเมีย นอกจากจะไม่ห้ามผัวแล้วยังฝากหยูกยาไปอีก เกิดมาฉันไม่เคยได้ยินได้ฟังว่าเมียบ้านใดจะใจกว้างถึงเพียงนี้”

ม่วงเอายาไปต้มให้สุ่นกินยังความซาบซึ้งใจแก่สุ่นยิ่งนัก ตำหนิตัวเองว่าเลว แย่งผัวเขาแล้วยังมีหน้ากินยาที่เมียเขาฝากมาอีก

“อย่าพูดเช่นนี้อีสุ่นเอ๊ย ไม่มีผู้ใดแย่งข้ามา ข้าเต็มใจที่จะมาหาเอ็งเอง ส่วนเรื่องระหว่างข้ากับอินนั้น เมื่อแม่อินไม่ทุกข์ร้อนกระไร ก็อาจจะดีเสียอีกที่เราต่างคนต่างอยู่กันเช่นนี้”

แล้วจู่ๆ หมิ่นก็ผลักประตูเข้ามาโดยไม่เคาะ  ม่วงไม่พอใจ หมิ่นบอกสุ่นว่ามาตามไปรับแขก ม่วงติงว่าสุ่นไม่สบายเยี่ยงนี้ยังจะให้ไปรับแขกอีกหรือ หมิ่นตอกหน้าม่วงว่ามันเป็นงานของตน ม่วงไม่พอใจจะขอซื้อตัวสุ่น บอกว่าไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น หมิ่นบอกว่าทำเช่นนี้ก็เหมือนตนหักหน้าแขกเกรงจะเกิดเรื่อง สุ่นเองก็เกรงจะมีเรื่องจึงออกไปกับหมิ่น

“แขก” ที่ว่าคือขุนแผลงฤทธิ์มาเจรจาขอให้สุ่นทำงานที่ตนต้องการ สุ่นตกใจบอกว่าม่วงเป็นผู้มีบุญคุณและมีน้ำใจกับตนมาก ขออย่าให้ตนหักหลังม่วงเลย ถูกขุนแผลงฤทธิ์ดูถูกเหยียดหยาม ด่าและตบหน้าสุ่นว่าเป็นแค่หญิงโรงรับชำเราแต่บังอาจขัดคำสั่งตน สุ่นกลัวจับใจจำต้องรับคำ

ขุนแผลงฤทธิ์ยิ้มลำพองใจที่บังคับสุ่นได้

ต่อมาสุ่นมาบอกขุนแผลงฤทธิ์ว่าเพราะม่วงกลัวแมงเม่าจะได้รับอันตรายจึงทำลายกลักนั้นไปแล้ว ขุนแผลงฤทธิ์เชื่อสนิทใจโยนเงินให้สุ่นบอกว่า

“ใช้งานคนมามากไม่คืบหน้ากระไร กลับมาได้ข่าวใหญ่เพราะหญิงขายตัวเองกินอย่างมึง”

แต่แท้จริงเมื่อสุ่นอยู่กับม่วง สุ่นกอดม่วงที่หลับสนิทอยู่ เอาหน้าแนบกับอกม่วงบอกว่า

“พี่ม่วง พี่รู้หรือไม่จ๊ะ ว่าคนขายตัวเองกินสิ้นศักดิ์ศรีอย่างฉัน ยังมีสิ่งหนึ่งที่ฉันไม่ยอมขายกินเป็นอันขาด... ฉันจะไม่ยอมขายหัวใจที่ฉันมีต่อพี่...ไม่มีวัน”

ooooooo

เช้านี้ขันทองเอาของกำนัลจากกรมขุนวิมลไปให้แมงเม่า ตอบแทนที่ท่านเศรษฐีให้เอากระดาษอย่างดีไปถวาย เห็นว่าแมงเม่าชอบกลบท จึงเอาเป็นหนังสือเกี่ยวกับการแก้ไขถอดความกลบทต่างๆมาให้

แมงเม่าดีใจมากเปิดดูเห็นเป็นกลกลอนพิสดารทั้งนั้น พลันก็คิดถึงอักษรในสาส์นลับขึ้นมา

“หังวฉวาลทหงขสาปหักสะ”

ดูหนังสือแล้วแมงเม่าถอนใจบ่น “วิธีถอดพิสดารเพียงนี้ก็ยังถอดไม่ได้ กลบทกระไรกันแน่”

เช้านี้แมงเม่าจึงไปหาขันทองที่เรือนพัก พร้อมตะกร้าใส่ขนมหวานมาด้วยขณะขันทองกำลังกินสำรับเช้าอยู่ เยื้อนหมั่นไส้มากพูดกระแนะกระแหนกันท่าว่า คุณพระยังกินของคาวไม่เสร็จกินของหวานไม่ได้

ขันทองรู้ทันเลยบอกให้เยื้อนไปช่วยแม้นที่ตำหนักแดง เยื้อนอิดออด แต่นึกอะไรได้จึงรีบไป

แมงเม่าบอกขันทองว่าพระองค์หญิงเรียกตนเข้าเฝ้า ตนจึงแวะเอาขนมมาให้คุณพระก่อน ขันทองรู้ทันปรามว่าอย่าอ้อมค้อม แมงเม่าจึงบอกว่า

“หนังสือวิธีแก้กลอนกลบทของคุณพระวิเศษนัก แต่ยังแก้กลบทไม่ได้ทุกอย่าง พอจะมีหนังสืออื่นให้ฉันหยิบยืมอีกได้หรือไม่เจ้าคะ”

ขันทองยิ้มดีใจที่แมงเม่าหลงกลตนแล้ว แกล้งปั้นหน้าดุว่า

“วิธีถอดความแก้กลบทที่ฉันให้เจ้าก็ถือว่าครอบคลุมแล้ว ยังมีกลบทพิสดารใดแก้ไม่ได้อีก ฉันไม่อยากเชื่อ เจ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจถ่องแท้จึงแก้ไม่ได้เองมากกว่า”

แมงเม่าไม่เฉลียวใจบอกว่ากลบทที่ตนเจอไม่มีอยู่ในวิธีแก้ของคุณพระต่างหาก ขันทองจึงให้บอกกลบทมาดูที แมงเม่าเชื่อใจบอกว่า

“เป็นอักษรแถวเดียว มีทั้งพยัญชนะแลสระ แต่เรียงกันไม่เป็นคำเจ้าค่ะ”

ขันทองฟังแล้วรู้ทันทีว่าสาส์นลับเขียนด้วยกลบทแบบไหน ถามว่าไปได้กลบทนี้จากที่ใด แมงเม่าอึกอัก ขันทองหน้าบึ้งบอกว่าไม่ไว้ใจตนก็อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย ทำเป็นน้อยใจว่า

“เสียดายที่ฉันไว้ใจเจ้า เชื่อว่าเจ้าต้องไม่ทุรยศฉันมาตลอด” แมงเม่าว่าที่ตนไม่บอกไม่ใช่เพราะไม่ไว้ใจแต่เป็นเพราะไม่อยากให้ใครอื่นเดือดร้อนเพราะตนต่างหาก “ฉันรู้อยู่ตรงนี้ แลจะไม่พูดไป จะเดือดร้อนได้อย่างไร”

แมงเม่าตัดสินใจจะบอกขันทอง แต่ทันใดนั้นพระยากำแหงก็เดินขึ้นเรือนมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

“แม่แมงเม่า...แม่แมงเม่าเข้าวังมาแต่เมื่อใด นี่ถ้านังเยื้อนไม่ไปบอกฉัน ฉันก็คงไม่รู้”

แมงเม่าไหว้พระยากำแหงตามมารยาท ขันทองเสียความรู้สึกอย่างที่สุด ที่จะรู้ความลับอยู่แล้วเชียวแต่มาถูกขัดจังหวะเสียก่อน

ooooooo

แมงเม่าออกจากเรือนขันทองจะไปเข้าเฝ้ากรมขุนวิมล พระยากำแหงจ้ำอ้าวตามมาออดอ้อนว่าเพิ่งคุยกันได้ไม่กี่คำเอง ให้ตนเดินไปส่งและเข้าเฝ้ากรมขุนวิมลพร้อมกันเถิด

แมงเม่าประชดว่าให้ท่านกลับไปอยู่กับออกพระศรีเถิด ป่านนี้ออกพระศรีคงคิดถึงท่านเจ้าคุณแย่แล้ว พระยากำแหงพยายามอธิบายกระทั่งสาบานต่อหน้าทวยเทพทุกชั้นฟ้าว่า คุณพระศรีเมาหนักและตนเข้าไปช่วยเท่านั้น ซึ่งตนเล่าให้แม่เป้าฟังหมดแล้ว แม่เป้าไม่ได้เล่าให้ฟังหรือ

แมงเม่าบอกว่าเล่าแล้ว แต่เท่าที่ทราบขุนนางผู้ใหญ่ที่มีทั้งหญิงและชายพร้อมกันก็มีอยู่ไม่ใช่หรือ เพียงแต่ไม่มีใครยอมรับเท่านั้น พระยากำแหงครวญว่าทำอย่างไรแมงเม่าถึงจะเชื่อตน

“ฉันเชื่อหรือไม่ก็หาเป็นกระไรไม่ดอกเจ้าค่ะ ที่ท่านเจ้าคุณต้องห่วงคือออกพระศรีเชื่อท่านเจ้าคุณหรือไม่ต่างหากเจ้าค่ะ” พูดแล้วเดินยิ้มขำๆไป ทิ้งให้พระยากำแหงยืนห่อเหี่ยวถอนใจเฮือกใหญ่อยู่ตรงนั้นคนเดียว

ที่สวนในวัง กรมขุนวิมลเดินเล่นอยู่กับแมงเม่า เป้า เจ้าจอมอำพัน คุณท้าวโสภา และข้าหลวง กรมขุนวิมลปรารภหน้าเครียดว่า

“แม่เพ็ญตั้งกลบทใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว ครานี้พิสดารนัก แต่เกิดมาฉันไม่เคยพบเห็นมาก่อน ก็เลยเรียกเจ้ามา เผื่อจะช่วยคิดแก้กันได้” แมงเม่าถามว่ากลบทแบบใดหรือ เจ้าจอมอำพันเอากระดาษจากชายพกออกมาส่งให้แมงเม่า แมงเม่าคลี่ออกดู ในกระดาษเขียนอักษรสี่แถวว่า

“มงเยืหอกกบยจ เอใหนปลเลบ หลสส่ะพหาว กเสยอกสขตึภ”

แมงเม่าตกใจสุดขีดเพราะลักษณะกลบทเหมือนในกลักลายผีเสื้อไม่มีผิด เผลออุทาน “นี่มัน” กรมขุนวิมลถามว่ามีกระไรรึ แมงเม่าตั้งสติรีบบอกว่าไม่มี ตนเห็นความพิสดารของกลอนกลบทนี้แล้วตกใจเท่านั้น

กรมขุนวิมลบอกแมงเม่าว่ารู้ว่าคราวนี้หนักหนานัก ให้เอากลับไปแก้ที่เรือนคุณท้าวโสภาเถิด ถ้าไม่ได้จริงๆก็ไม่ตำหนิดอก อย่ากังวลไปเลย แมงเม่าหน้าขรึมเครียดเพราะรู้ว่ากลบทแบบนี้ยากขนาดไหน

ooooooo

ฝ่ายเจ้าจอมเพ็ญยิ้มแย้มคุยอารมณ์ดีอยู่ที่ตำหนักกับจมื่นศรีสรรักษ์และพระยาพลเทพว่า

“วันนี้เป็นวันดีมีแต่เรื่องดีจริงๆ นอกจากใกล้จะได้ชัยในเชิงกลอนต่อกรมขุนวิมลแล้ว ยังสิ้นกังวลเรื่องกลักอีกด้วย” พระยาพลเทพติงว่าเรื่องกลักยังวางใจทั้งสิบส่วนไม่ได้ดอก เพราะเป็นเพียงคำพูดจากปากคนเมาเท่านั้น จมื่นศรีสรรักษ์ส่ายหน้าระอา พูดเหน็บเบาๆ ว่าถึงขั้นนี้แล้วยังไม่ยอมเชื่อ ตนก็จนใจแล้ว แลไม่รู้จะไปหากลักมาทำลายซ้ำให้ท่านขุนวางใจได้อย่างไร

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 7 วันที่ 3 พ.ค.61

ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ