อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 11 วันที่ 22 พ.ค.61

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 11 วันที่ 22 พ.ค.61

ฝ่ายเจ้าจอมเพ็ญกระวนกระวายใจกลัวไม่ได้เป็นแม่หยั่วเมือง ไปหาพระยาพลเทพถึงเรือนเพื่อถามเรื่องนี้ พระยาพลเทพบอกว่าเวลานี้ตนถูกคาดโทษอย่าว่าแต่เข้าเฝ้าเลย เหยียบประตูวังยังทำไม่ได้ ให้อดทนหน่อยเถิด

เจ้าจอมเพ็ญบอกว่าตนไม่ได้ถวายรับใช้มานานเดือน กว่าจะถึงตอนนั้นตนยังมีความสำคัญเหลืออยู่อีกหรือ พระยาพลเทพบอกว่าถ้าเช่นนั้นก็ต้องเสี่ยงเอาเอง พระยาพลเทพเอายาเสน่ห์ให้เจ้าจอมเพ็ญ เจ้าจอมเพ็ญตกใจไม่กล้าพูดต่อเพราะโทษทำเสน่ห์คือต้องหัวขาดสถานเดียว

พระยาพลเทพมองหน้าเจ้าจอมเพ็ญยิ้มเยาะว่า “ก็ไม่ใช่ครั้งแรก เจ้าจอมท่านจะกลัวกระไร”



เจ้าจอมเพ็ญบอกว่าตนไม่ได้ถวายรับใช้มานานแล้วจะหาโอกาสได้อย่างไร พระยาพลเทพบอกว่าก็ทำเหมือนที่เคยทำกับคุณท้าวสาลิกาสิ เอาขวดยาใส่มือเจ้าจอมเพ็ญตัดบทว่า

“แต่อย่าให้พลาดเหมือนครานั้นก็แล้วกัน กระผมช่วยได้เท่านี้แหละ”

 เจ้าจอมเพ็ญมองขวดยาในมือเครียดหนัก สุดท้ายก็สั่งเลื่อนที่สอพลอว่ายินดีรับใช้หม่อมแม่แม้แต่ชีวิตก็สละได้ ให้เอายาเสน่ห์นี้ไปใส่ในพระกระยาหาร เลื่อนตกใจสุดขีดอุทาน “หม่อมแม่...” ถูกเจ้าจอมเอามืดปิดปากจิกตาเหี้ยมใส่จนพูดไม่ออก

เลื่อนเดินใจลอยออกจากตำหนักเจ้าจอมเพ็ญ เจอขันทองเดินคุยมากับขุนรักษ์เทวาโดยมีหลวงศรีมะโนราชเดินตาม ขุนรักษ์เทวาบ่นเรื่องข้าวของแพงพุ่งเร็วจนแม้ขณะกำลังตัดสินใจว่าจะซื้อดีหรือไม่ราคาก็พุ่งขึ้นไปอีกแล้ว ขันทองบอกว่าข้าศึกล้อมเมืองก็เป็นเช่นนี้แหละ ยังดีที่เรายังพอหาข้าวของได้ แต่พวกชาวบ้านน่ะสิ

“จะสนใจไปทำไมเจ้าคะ” หลวงศรีมะโนราชสอดแทรกขึ้น “ชีวิตไพร่ไหนเลยจะมีค่าเสมอด้วยพวกเรา ต่อให้พวกมันตายจนหมดก็หาเป็นกระไรไม่ ขอเพียงเราสุขสบายก็พอแล้ว”

พอดีเห็นเลื่อนยืนซึมใจลอยอยู่ ขันทองเข้าไปบอกว่าพวกตนมารับห้ามคนใหม่ไปถวายเสด็จพระองค์ชายเชษฐ์ ขันทองพูดถึงสองครั้งเลื่อนจึงรู้สึกตัว บอกให้รอประเดี๋ยว แล้วเดินเลี่ยงไป

“ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นี่ถ้าไม่คิดถึงผู้ชายก็คงมีผิดชนักติดหลังอยู่เป็นแน่” หลวงศรีมะโนราชสอดขึ้นมาอีก ขันทองมองตามเลื่อนไปอย่างติดใจสงสัยขึ้นมา

ooooooo

เจ้าจอมเพ็ญเล่าเรื่องที่ใช้ให้เลื่อนทำ ขอให้จมื่นศรีสรรักษ์หาทางบังคับให้เลื่อนทำให้ได้ จมื่นศรีสรรักษ์บอกว่าตนบังคับไม่ได้ดอกและตนก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องอุบาทว์พวกนี้

เจ้าจอมไม่พอใจแต่ไม่อยากทะเลาะกับน้องชาย บอกว่าไม่ช่วยก็ไม่ต้องช่วย ขอให้ช่วยเรื่องอื่นก็แล้วกัน

เจ้าจอมเพ็ญให้จมื่นศรีสรรักษ์หาคนที่ไว้ใจได้มาช่วยกันขนสมบัติของตนไปซ่อน ซึ่งมากมายขนและฝังซ่อนกันถึงสามวัน พอขนและฝังเสร็จ เลื่อนก็เอาข้าวเอาน้ำมาให้คนงานกิน แต่คนงานกินไปเพียงอึดใจเดียวก็ชักตาตั้งและเสียชีวิตลงทีละคน...ทีละคน จนหมด

“ทำไมคุณพี่ต้องวางยาพิษพวกมันด้วย” จมื่นศรีสรรักษ์ตกใจสุดขีด เจ้าจอมเพ็ญยิ้ม ตอบเลือดเย็นว่า

“จำพี่ไว้นะคุณพระนาย คนเดียวที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่แพร่งพรายความลับ ก็คือ ‘คนตาย’ เท่านั้น”

เมื่อวางยาฆ่าคนงานจนหมดแล้ว เจ้าจอมเพ็ญชวนเลื่อนกลับ บอกเลื่อนว่า

“ข้าบอกเจ้าคุณพลเทพว่ามีคนส้องสุมกันจะทำร้ายข้า ข้าเลยให้คนมาวางยาพิษฆ่าพวกมัน อีกไม่นานคนของเจ้าคุณพลเทพก็จะมาจัดการกับศพแลความลับเรื่องสมบัติก็จะมีเพียงข้าเอ็งแลคุณพระนายเท่านั้นที่รู้”

เห็นเลื่อนยังหน้าซีดตัวสั่นกลัวอยู่ ก็พูดปลอบและขู่บังคับในทีว่า

“เห็นหรือไม่ว่าข้าไว้ใจเอ็งเพียงใด แลอย่างนี้เอ็งจะตอบแทนข้าอย่างไรเล่านังเลื่อน”

เลื่อนฟังแล้วยิ่งกลัวลนลาน เจ้าจอมมองเลื่อนอย่างสาแก่ใจที่ได้เชือดไก่ให้ลิงดู เพราะนอกจากได้ฆ่าปิดปากคนงานแล้วยังขู่เลื่อนได้อีกว่าถ้าเลื่อนไม่แอบวางยาจะพบจุดจบเช่นไร

ooooooo

เช้าหลังวันมหาสงกรานต์ แมงเม่ากับเป้าและข้าหลวงช่วยกันขนอาหารที่เหลือเอาไปให้ชาวบ้านกิน

ที่นอกประตูวังด้านหลัง พระยากำแหงมาเห็นก็ไม่พอใจว่าให้ชาวบ้านมาวุ่นวายอย่างนี้มันไม่งาม

ขันทองพูดยิ้มๆดักคอว่า ท่านเจ้าคุณไม่กล้าตำหนิแมงเม่าก็อย่ามาลงที่ตน ซ้ำบอกว่าจริงอยู่ที่คนมาวุ่นวายที่ประตูวังมันไม่งาม แต่ชาวบ้านพวกนี้อดอยากนัก แลข้าวปลาในวังก็มีเหลือล้น เห็นเหลือทิ้งออกมาก ถือเสียว่าทำบุญทำกุศลเถิด

เมื่อแจกจ่ายอาหารหมด แมงเม่ากับเป้ายิ้มแย้มแจ่มใสเดินถือถาดกลับมา เป้ารับถาดจากแมงเม่าบอกว่าตนจะเอาไปเก็บเองให้แมงเม่ากลับตำหนักเถิด

พระยากำแหงได้ทีบอกขันทองให้ไปเป็นเพื่อนเป้าถือถาดไปเก็บ พูดจนขันทองเลี่ยงไม่ได้ต้องไปกับเป้า

เมื่ออยู่กับแมงเม่าตามลำพัง พระยากำแหงใจเต้นไม่เป็นส่ำตื่นเต้นจนเกือบเป็นลมเมื่อบอกแมงเม่าว่า

“ฉันรักแม่แมงเม่า...รักมานานมากแล้ว หากไม่ติดรับสั่งของกรมขุนวิมลท่านว่าห้ามใครบังคับแม่ ฉันคงยกขันหมากไปสู่ขอแม่แมงเม่าเสียนานแล้ว แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็ต้องพูดกับแม่ตามตรง แม่แมงเม่าจะรับรักแลออกเรือนกับฉันได้หรือไม่”

แมงเม่าถูกจู่โจมสารภาพรักและขอออกเรือนก็อึ้งจนพูดไม่ออก พอตั้งหลักได้ก็ทำหน้าทะเล้นถามว่าท่านเจ้าคุณพูดอย่างนี้ออกพระศรีไม่หึงหวงแย่หรืออย่างไรก็เป็นชิ้นกันนะเจ้าคะ ทำเอาพระยากำแหงหน้าตึง เจอแบบนี้เข้าแมงเม่าก็ไปไม่เป็น

พระยากำแหงเล่นบทรักต่อไป จับชายสไบของแมงเม่าไว้สบตาเว้าวอน

“ฉันรู้ว่าแม่แมงเม่าไม่ชอบฉัน แต่รักนั้นมันสร้างได้ไม่ใช่หรือ เว้นแต่แม่จะมีผู้อื่นแล้วเท่านั้น”

แมงเม่าอึกอักรู้ใจตัวเองว่าเป็นอย่างไรแต่บอกใครไม่ได้ ตอบพระยากำแหงไปว่าตนไม่มีใคร แต่บ้านเมืองกำลังมีศึกสงคราม พระยากำแหงบอกว่าตนดูออกว่าผู้ที่แมงเม่าสนิทสนมด้วยที่สุดคือออกพระศรีขันทิน แต่ออกพระศรีไม่ใช่ชาย พูดเท่านี้คงเข้าใจ เห็นแมงเม่าคิดเครียดก็พูดให้ผ่อนคลายว่า

“ถ้าแม่ไม่อยากตอบตอนนี้ฉันก็จะไม่บังคับ แต่สักวันฉันจะถามแม่แมงเม่าอีก วันนี้แค่ฉันได้บอกให้แม่รู้ว่าฉันคิดกับแม่อย่างไรได้ ฉันก็พอใจแล้ว” พูดแล้วยกชายสไบขึ้นจูบอย่างถนอม

ขันทองกับเป้าซุ่มดูอยู่ เป้าตื่นเต้นที่พระยากำแหงบอกรักแมงเม่า แต่ขันทองเครียดเพราะตนเผยความลับไม่ได้ ทำให้พระยากำแหงชิงตัดหน้าไป ถ้าแมงเม่าตอบรักพระยากำแหงตนต้องขาดใจตายแน่ กลับไปยิ่งคิดเครียดถามตัวเองว่าจะยอมเสียแมงเม่าไปเพราะเข้าใจว่าตนเป็นขันทีหรือ พูดกับตัวเองว่า...

“ให้เจ้าตัวดีตัดรอนเสียยังดีกว่าต้องจบลงด้วยความเข้าใจผิดเช่นนี้” คิดแล้วลงจากเรือนจะไปหาแมงเม่า ฝ่ายแมงเม่าก็พยายามตัดใจกับขันทองเพราะคิดว่าเป็นขันที อดเสียดายไม่ได้ว่าถ้าไม่ใช่ขันทีก็คงจะดีสินะ

แต่แล้วเสียงปืนใหญ่ที่ดังใกล้มากทำให้ทุกคนตกใจจนลืมทุกอย่างเสียสิ้น

ที่ริมแม่น้ำ มังมหานรธาตะโกนสั่งทหารให้พายเรือเข้าไปใกล้ แล้วยิงข้ามกำแพงเข้าไป น้ำท่วมถึงที่ใดก็ลอยเรือยิงมันไปถึงนั่น

เนเมียวสีหบดีตกใจ นึกไม่ถึงว่ามังมหานรธาเข้าประชิดกำแพงแล้ว ถามทหารว่ารอดหูรอดตาไปได้อย่างไร

“ท่านมังมหานรธาเห็นว่าอโยธยากำลังรับมือทัพเราเป็นหลัก จึงฉวยโอกาสที่อโยธยาไม่ระวังทัพของท่าน ลอยเรือเข้าไปใกล้กำแพงขอรับ” ทหารรายงาน

 “เจ้าเล่ห์นัก...สมแล้วที่ผ่านศึกมามากไม่แพ้ท่านอะแซหวุ่นกี้เลย” แล้วตะโกนสั่ง “เตรียมทัพประเดี๋ยวนี้ เราจะยอมให้ทัพของมังมหานรธาได้หน้าแต่เพียงผู้เดียวไม่ได้เป็นอันขาด”

เนเมียวสีหบดีเจ็บใจที่ถูกมังมหานรธาแย่งผลงานไป

ooooooo

ที่ตำหนักกรมขุนวิมล แมงเม่าและพวกขุนนางช่วยกันปิดประตูหน้าต่างเพื่อให้เสียงปืนใหญ่เบาลง กรมขุนวิมลถามว่าทุกคนเข้ามาในตำหนักหมดแล้วรึ แมงเม่าบอกว่าขาดแม่เป้า

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 11 วันที่ 22 พ.ค.61

ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ