อ่านละคร เสน่ห์รักนางซิน ตอนที่ 9 วันที่ 9 พ.ค.61
“แต่พอเป็นคุณริตา ทำไมคุณแม่ถึงตั้งแง่สารพัด คุณริตาผิดอะไรวะภู”“คุณริตาไม่ผิด คนที่ผิดคือแก คุณอาณีท่านคงไม่อยากให้แกเสียใจเพราะผู้หญิงอีกน่ะสิ”
อินทัชมืดแปดด้านไม่รู้จะทำอย่างไรให้แม่รู้ว่าปริตาไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยคบ ถ้าได้รักกันเธอไม่มีวันทำให้เขาเสียใจ ภูรีแนะให้เขาทำตัวให้ท่านเชื่อมั่นว่าเขาโตแล้ว พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตตัวเอง และจะไม่ปล่อยให้เรื่องอะไรมาทำให้ชีวิตเขาซวนเซเหมือนที่ผ่านมา เขาต้องเป็นอินทัชคนใหม่ที่เข้มแข็งกว่าเดิม คำพูดของภูรีทำให้เขามีแรงฮึดจะทำตามนั้นให้ได้...
ปรากฏว่าอินทัชตีความผิด เข้มแข็งหมายถึงต้องยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง แต่เขากลับไปแข็งกร้าวใส่แม่ก็เลยโดนเล่นงานเป็นสองเท่าเพราะบวกพ่อเข้ามาด้วย...
ด้านบารมีร้อนใจโทร.ถามภูรีเรื่องรองเท้าว่าได้หรือยัง เขากำลังให้เลขาฯไปเอามาให้ บารมีขอร้องเขาอย่าบอกพริมว่าท่านเป็นคนให้เดี๋ยวเธอจะไม่กล้ารับ ให้บอกว่าเขาซื้อให้เป็นของตอบแทนที่ช่วยสอนวิกกี้ตัดรองเท้า ภูรีไม่เห็นด้วย ท่านควรจะเป็นคนได้รับคำขอบคุณจากเธอ ท่านไม่สนใจคำขอบคุณ แค่ได้เห็นลูกสาวใส่รองเท้าแบรนด์ที่ตัวเองรักแค่นี้ท่านก็มีความสุขแล้ว สมรถือเอกสารเดินมาจากอีกด้านหนึ่งเห็นบารมีก็หยุดฟัง
“น้าฝากด้วย เอาแบบส้นไม่สูงมาก หน้ารองเท้าไม่แคบ ใส่เดินนานๆจะได้ไม่เมื่อยเท้า”
สมรได้ยินเต็มสองหูจัดแจงเอาไปฟ้องพัชรา เสี้ยมจะให้ตีกันกับสามี แต่พอพัชราฟังสเปกรองเท้าที่บารมีสั่งให้ภูรีหาต้องเอาแบบสวมสบาย ส้นไม่สูงมาก หน้ารองเท้าไม่แคบเดินนานๆจะได้ไม่เมื่อยเท้า ก็ฟันธงว่าเขาสั่งรองเท้าที่ว่านี้ให้ตัวเองเพราะเมื่อคืนเขาก็พูดกับเธอแบบนี้ไม่มีผิดเพี้ยน สมรถึงกับเซ็งที่ไม่มีใครตีกัน...
ตั้งแต่เกิดเรื่องภูรียังติดต่อกับภควัตไม่ได้ โทร.หาก็ไม่ติด อินทัชอาสาจะไปดูเขาให้เอง ครู่ต่อมาอินทัชมายืนอยู่ตรงหน้าภควัตซึ่งยังเคืองภูรีไม่หายที่ไม่รักษาสัญญา ต่อไปจะไม่เชื่อคำพูดของมันอีกแล้ว อินทัชไม่เห็นด้วย ภควัตจะไปโทษภูรีได้อย่างไรในเมื่อเขาเป็นคนบอกเองว่าตราบใดที่พริมยังไม่ตกลงเป็นแฟนกับใคร ผู้ชายทุกคนมีสิทธิ์จีบเธอ
“แต่ภูเคยสัญญากับฉันว่าจะไม่จีบคุณพริม”
อินทัชอยากรู้ภควัตมีสิทธิ์อะไรไปห้ามภูรี ถึงเขาจะชอบพริมก่อน แต่ของแบบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ใครชอบใครก่อน แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าผู้หญิงจะเลือกใครต่างหาก ภควัตเหมือนจะคิดอะไรได้ชวนอินทัชไปสถานที่แห่งหนึ่งด้วยกัน แต่ไม่ยอมบอกว่าจะไปไหน
ooooooo
วันนี้พริมมีสอนวิกกี้ตัดรองเท้าที่บริษัทของภูรี แต่เธอยังเขินเรื่องเมื่อคืนไม่หายก็เลยชวนบุสกรมาด้วย ภควัตรู้เรื่องที่พริมจะมาที่บริษัทนี้เช่นกันก็ชวนอินทัชมาพบกับเธอ เขามองเหล่นี่ภควัตคิดจะทำอะไรแน่
“มาเอาคำตอบไงว่าคุณพริมจะเลือกใคร” พูดจบภควัตลากแขนอินทัชขึ้นลิฟต์ คล้อยหลังสองหนุ่มไม่นาน วิกกี้ก็มาถึงโถงหน้าลิฟต์...
ระหว่างที่ภูรี พริมและบุสกรรอการมาถึงของวิกกี้ ภควัตเปิดประตูห้องประชุมเดินนำอินทัชเข้ามา ไม่พูดพล่ามทำเพลง เขาสารภาพกับพริมว่าชอบเธอมาก ชอบตั้งแต่วันแรกที่พบกัน อยากจะใช้ชีวิตคู่กับเธอ และพร้อมจะหยุดอยู่ที่เธอ ไม่วอกแวกมองหญิงอื่น บุสกรได้ยินเต็มสองหูก็แอบเศร้า
“ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมพูดมันยากที่จะเชื่อ ผมจะไม่ขอให้คุณพริมเชื่อผมในตอนนี้ แต่ผมอยากขอโอกาสให้ผมได้เป็นคนพิเศษของคุณ ผมจะทำให้คุณเห็นว่าผมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อคุณ ให้โอกาสผมนะครับคุณพริม” ไม่พูดเปล่าภควัตคว้ามือพริมมาจับ “เลือกผมนะครับคุณพริม”
ภูรีขยับจะห้ามแต่อินทัชจับแขนเอาไว้ พริมได้แต่มองภควัตด้วยความสงสาร วิกกี้กำลังจะผลักประตูห้องเข้ามาเห็นเหตุการณ์ในนั้นก็หยุดมอง พริมวางมือบนมือภควัตดีใจที่เขาคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นแต่อย่าทำเพื่อเธอ ให้เขาทำเพื่อตัวเอง เพื่อพ่อ เพื่อแม่ เพื่อคนที่เขารักที่ไม่ใช่เธอเพราะเธอไม่ได้คิดอะไรกับเขานอกจากความเป็นเพื่อน แล้วดึงมือออก ภูรีเข้าไปจับแขนภควัตจะพาออกไปข้างนอก เขาสะบัดหนี
“ยัง...ตอนนี้ฉันแน่ใจแล้วว่าคุณพริมไม่เลือกฉัน ฉันอกหักแล้ว ขอให้ฉันได้ทำเพื่อแกบ้างแทนคำขอโทษที่เมื่อคืนฉันชกหน้าแก...ผมเป็นเพื่อนกับภูมาตั้งแต่เด็ก ผมไม่เคยเห็นมันมองผู้หญิงคนไหน ผมเคยคิดว่ามันเป็นเกย์ แต่ตอนนี้ผมได้คำตอบแล้ว เป็นเพราะมันเก็บหัวใจไว้เพื่อรอรักคุณพริม”
บุสกรเห็นวิกกี้ยืนอยู่หน้าประตู ขยับจะบอกทุกคน แต่นึกขึ้นได้ทำเป็นเฉยไม่สนใจ “นิ่งไว้ดีกว่า”
“ถ้าคุณพริมจะไม่รักผม แต่คนที่คุณพริมรักคือภู ผมก็ยินดี เพราะผมเชื่อว่าภูจะไม่มีวันทำให้คุณพริมเสียใจเด็ดขาด เพราะมันรักคุณพริมมาก อ้อ ผมลืมไปเมื่อคืนภูจูบคุณพริม คุณพริมคงจะรับรู้ได้แล้วว่ามันรักคุณพริมมากแค่ไหน” คำพูดของภควัตทำให้วิกกี้ทนฟังต่อไปไม่ไหว วิ่งหนีไปทั้งน้ำตา บุสกรมองตามชอบใจ...
ภควัตทำตัวเป็นพ่อสื่อขอคำตอบจากพริมว่ารักภูรีหรือเปล่า เธอข่มความเขินอายยอมรับว่ารักเขาเช่นกัน ภูรีดีใจเนื้อเต้นแต่ไม่แสดงออกเพราะเกรงใจภควัตซึ่งเข้ามาตบไหล่แสดงความยินดี จากนั้นหันไปชวนอินทัชกลับแล้วเดินออกไปเลย อินทัชร้องบอกไล่หลังเพื่อนว่ายังไปไหนไม่ได้ ต้องเข้าประชุม
บุสกรอาสาจะไปส่งภควัตให้เอง เชิญอินทัชประชุมตามสบาย บอกพริมว่าขอตัวกลับก่อนมีธุระด่วนแล้วออกจากห้อง อินทัชยังไม่ขยับไปไหน บุสกรถอยหลังมาคว้ามือเขาดึงออกจากห้อง
“จะอยู่เป็น กขค.ทำไมคะ แยกย้ายค่ะ”
ไหนๆก็สารภาพรักซึ่งหน้ากันไปแล้ว ทั้งพริมและภูรีตกลงจะเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการสักที...
ทางด้านบุสกรวิ่งตามภควัตจนทัน เห็นอาการไหล่ลู่แบบคนอกหักเข้าไปตบไหล่เบาๆชมว่าทำถูกต้องแล้ว เขายังเศร้าไม่เลิก ถึงจะช่วยให้ภูรีกับพริมแฮปปี้เอนดิ้งกันก็ใช่ว่าเขาจะหายเจ็บ บุสกรไม่เคยรักใครจริงๆไม่มีวันเข้าใจ เธออยากจะบอกว่าทำไมจะไม่เคยก็รักเขาอยู่นี่ไง ภควัตเอาแต่หันไปมองในตึกที่เพิ่งออกมา
“มองหาคุณทัชจะให้คุณทัชขับรถกลับไปส่งใช่ไหม ฉันบอกคุณทัชไปแล้วว่าไม่ต้อง เพราะนายต้องไปหาลูกค้ากับฉัน ฉันจำได้ว่าวันนี้ห้าโมงเย็นนายมีรับบรีฟที่ทองหล่อ”
“ผมยังไม่มีอารมณ์ทำงาน”
“นึกถึงค่าตอบแทนไว้ อารมณ์จะได้มา รีบไปกันเถอะเดี๋ยวรถติด” บุสกรลากแขนภควัตออกไป
ooooooo
วิกกี้ยืนเช็ดน้ำตาอยู่ตอนที่เลขาฯของภูรีถือกล่องรองเท้ายี่ห้อ P.PAUL ติดโบตรงไปที่ห้องประชุม เธอเข้าไปขวางหน้าถามว่าจะเอาไปให้ใคร ได้ความว่าภูรีสั่งมาเป็นของขวัญให้พริมตอบแทนที่สอนวิกกี้ตัดรองเท้า
“วิกกี้ขอเอาเข้าไปให้คุณพริมเองดีกว่าค่ะ” วิกกี้คว้ากล่องรองเท้าไปโดยที่เลขาฯไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร...
ด้วยความแค้นแน่นอกที่โดนผู้หญิงไร้ชาติตระกูลแย่งคนรักไป วิกกี้ถือกล่องรองเท้าเข้าไปในห้องน้ำ
หยิบแจกันดอกไม้ที่อยู่ในนั้นเอามาปาลงพื้นแล้วเอาเศษกระเบื้องใส่ลงไปในรองเท้า เอาเก็บเข้ากล่องผูกโบให้เรียบร้อยเหมือนไม่เคยถูกเปิดมาก่อน จากนั้นเอาไปให้พริมที่ห้องประชุมซึ่งตอนนี้อยู่เพียงลำพัง
“พี่ภูฝากมาให้เป็นของตอบแทนที่เธอสอนฉันตัดรองเท้า”
พริมรับกล่องรองเท้ามาเปิดดู เห็นรองเท้ายี่ห้อ P.PAUL ที่ใฝ่ฝันอยากจะได้ก็ตาลุกวาว แทนที่จะลอง เธอกลับปิดฝากล่องไว้อย่างเดิม วิกกี้ผิดหวังมากถามว่าทำไมไม่ลอง เธอรับของราคาแพงขนาดนี้ไว้ไม่ได้ วิกกี้ไม่ยอมให้แผนทำร้ายล่ม พูดเกลี้ยกล่อมจนในที่สุดพริมยอมรับรองเท้าคู่นี้ แต่ก็ยังไม่ยอมลองสวมอยู่ดี จะรอลองต่อหน้าภูรี วิกกี้คะยั้นคะยอเกินเหตุจนพริมจับพิรุธได้ จึงหยิบรองเท้าข้างหนึ่งขึ้นมาคว่ำดู
เศษแจกันร่วงกราว
“วันหลังจะทำร้ายใครด้วยวิธีนี้หัดหาของที่มันชิ้นเล็กกว่านี้ หน้ารองเท้าจะได้ไม่นูนผิดรูปจนสังเกตเห็น”
วิกกี้ปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น พริมคว้าข้อมือเธอพาออกไปถามเลขาฯของภูรีที่เป็นคนฝากรองเท้าให้รู้เรื่องกันไปเลย เธอไม่ยอมไปสะบัดมือหนี พริมจับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย วิกกี้ออกแรงสะบัดอีกคราวนี้เต็มกำลัง ทำให้ตัวเองเสียหลักล้มใส่เศษกระเบื้องที่พริมเทออกจากรองเท้า แขนถูกตำทั้งที่แผลนิดเดียวแต่เลือดกลับไหลมากผิดปกติ พริมเข้าไปช่วยดูก็ถูกเธอผลักให้ออกห่าง ภูรีเข้ามาพอดีเห็นวิกกี้เลือดออกก็ตกใจ
ooooooo
ไม่นานนัก วิกกี้ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ระหว่างพริมกับภูรีนั่งรออยู่หน้าห้อง พัชรามาถึงเห็นเลือดเปรอะเสื้อผ้ากับมือไม้ของภูรีแทบช็อกทำไมลูกถึงได้เลือดออกมากขนาดนี้
“คมกระเบื้องคงจะไปโดนเส้นเลือดใหญ่ครับ”
พัชราปรี่เข้าไปตบหน้าพริมอย่างแรงฐานทำให้ลูกของตนต้องเจ็บ แล้วจะตบซ้ำ ภูรีต้องดึงตัวไว้ขอร้องให้พอได้แล้ว พริมไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น พัชราไม่เชื่อว่าไม่ได้ตั้งใจ
“คนจนๆ ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างแกอยากจับผู้ชายรวยๆจนตัวสั่น แกถึงได้โกรธเกลียดลูกสาวฉัน แกจำคำฉันไว้นะ ถ้าลูกสาวฉันเป็นอะไรขึ้นมา ฉันจะเอาเรื่องแกให้ถึงที่สุด”
พริมหันหลังวิ่งออกไปทันที ภูรีวิ่งตามจนทันขอร้องอย่าเพิ่งกลับ เราจะต้องไปบอกความจริงกับพัชราว่าวิกกี้ต่างหากที่เป็นคนเอาเศษกระเบื้องใส่ในรองเท้าของพริม ท่านจะได้เข้าใจ เธอรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ บอกไปท่านก็คงไม่เชื่อ และอีกอย่างเธอเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่เห็นลูกเจ็บก็ต้องปกป้องเป็นธรรมดา ถ้าพ่อแม่ของเธออยู่ตรงนี้ พวกท่านคงต้องโกรธที่เธอถูกทำร้ายและอาจจะปกป้องเธอเหมือนที่พัชราทำ
“แต่เผอิญว่า...ฉันไม่มีพ่อแม่ก็เลยไม่มีใครปกป้องฉัน”
ภูรีสงสารพริมจับใจดึงตัวมากอดไว้ สัญญาจะปกป้องเธอเอง พริมถึงกับปล่อยโฮ พัชราที่ตามมาด้านหลังมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจ ต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง รีบโทร.ทางไกลหานิสาซึ่งอยู่ที่ฝรั่งเศส ใส่ความว่าพริมหึงหวงวิกกี้กับภูรีก็เลยทำร้ายร่างกายลูกของตนจนต้องเข้าโรงพยาบาล ตนไม่สบายใจที่เห็นภูรียังไปยุ่งวุ่นวายกับเด็กนิสัยไม่ดีอย่างนั้น
นิสามั่นใจถ้าพริมเป็นคนไม่ดี ภูรีจะต้องรู้เองในไม่ช้า
พัชราเห็นนิสาใจเย็นไม่คิดจะทำอะไรก็พูดทวงบุญคุณที่เคยช่วยเธอไว้ตอนที่ธุรกิจของเธอมีปัญหาหลังจากเลิกรากับปรีชา หวังจะให้เธอจัดการเรื่องนี้ให้โดยเร็ว นิสาเข้าใจความต้องการของอีกฝ่ายวางสายอย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก คงต้องทำอะไรสักอย่าง ตัดสินใจ โทร.บอกลูกชายว่าจะกลับเมืองไทย ภูรีแปลกใจไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้ถามถึงเหตุผลการกลับมาครั้งนี้ของท่าน...
อินทัชซื้อผลไม้มาฝากพ่อกับแม่ของปริตา แต่เห็นว่าเย็นมากแล้วปริตายังไม่กลับ ไม่อยากให้เธอเดินเข้าซอยลำพังกลัวจะโดนทำร้ายเหมือนที่พริมโดนก็เลยมายืนรอที่หน้าปากซอย ไม่นานนักปริตาเดินขาขวิดเข้ามาเนื่องจากต้องใส่ส้นสูงเดินในโรงงานทั้งวัน เขารีบเข้ามาถามว่าทำงานวันแรกเป็นอย่างไรบ้าง
“ก็ดีค่ะ สนุกดี แต่ถ้าริตาไม่ต้องใส่ส้นสูงไปโรงงานน่าจะดีกว่านี้ อูย...เจ็บ ริตาไม่ไหวแล้ว ถอดรองเท้าเดินดีกว่า” ปริตาก้มลงจะถอดรองเท้า อินทัชร้องห้ามไว้เดี๋ยวเชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกาย ถ้าเธอเดินไม่ไหว ให้เขาช่วยดีกว่า แล้วย่อตัวให้เธอขี่หลัง แม้จะหนักแทบตายแต่อินทัชไม่บ่นสักคำ ภูมิใจที่ได้ทำเพื่อคนที่ตัวเองรัก
ooooooo
พริมเพิ่งวางสายจากโทร.ไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับวีรี ตอนที่ปริตาวิ่งหน้าตื่นเข้ามาจะขอคำปรึกษาจากพริมกับบุสกรเรื่องอินทัช เวลาที่ตนอยู่ใกล้เขาทีไรต้องรู้สึกปั่นป่วนเหมือนมีแมลงหวี่บินอยู่ในท้อง บุสกรท้วงว่าผีเสื้อต่างหาก ปริตาเถียงว่าไม่ใช่ ผีเสื้อตัวใหญ่ไป เพราะมันยุบยิบไปหมดแถมลามขึ้นมาแถวคอหอยด้วย
“แบบรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก”
สองสาวเพื่อนซี้ฟันธงว่าปริตารักอินทัชเข้าให้แล้ว เธอร้องเอะอะจะรักเขาได้อย่างไรในเมื่อหัวใจของเธอซึ่งมีดวงเดียวยกให้ภควัตไปแล้ว พริมมั่นใจว่าเพื่อนไม่ได้รักภควัต แค่ประทับใจกับคำหวานที่เขาหยอดใส่
“เขาจะเป็นอย่างไรก็ช่าง แต่สำคัญมันอยู่ที่ตัวฉัน ในเมื่อฉันรู้ตัวดีว่าฉันรู้สึกดีกับคุณวัต ฉันก็จะรู้สึกดีกับเขาคนเดียว ไม่ใช่มาทำตัวเป็นผู้หญิงสองใจแบบนี้”
บุสกรแนะให้ปริตาเลิกชอบเลิกรักคนไม่เอาไหนอย่างภควัตจะดีกว่า ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์มาปิ๊งรักกับเธอแน่นอน ขนาดบริษัทตัวเองยังไม่ยอมทำอะไร
เมื่อวานหนีลูกค้ากลับก่อน เขาไม่เหมาะสมกับเธอ ขอให้เธอจงใช้หัวใจดวงเดียวของเธอไปกับอินทัชจะดีกว่า
ปริตาเถียงว่าหัวใจไม่ใช่แว่นตาจะได้เปลี่ยนกันง่ายๆ
พริมกับบุสกรถอนใจเหนื่อยใจที่เพื่อนพูดไม่รู้ฟัง
จังหวะนั้นภูรีเดินเข้ามาเห็นอยู่กันพร้อมหน้าถามว่าคุยอะไรกันอยู่
อ่านละคร เสน่ห์รักนางซิน ตอนที่ 9 วันที่ 9 พ.ค.61
บทประพันธ์โดย จันทริกากำกับการแสดงโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ผลิตโดย บริษัท กู๊ด ฟิลลิ่ง จำกัด
ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ