อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 9 วันที่ 8 พ.ค.61
หลวงศรีมะโนราชเกรงฝ่ายตนจะเสียเปรียบปรามขุนเทพรักษาให้พอได้แล้ว เข้าใจบ้างเถิดว่าออกพระศรีขันทินมีอำนาจในฝ่ายในเป็นรองท่านเจ้าคุณเพียงขั้นเดียว ท่านเจ้าคุณย่อมอึดอัดใจเป็นธรรมดาพระยากำแหงถอนใจอย่างอึดอัดที่ถูกหลวงศรีมะโนราชดักคออีก ขันทองตัดสินใจซื้อใจพระยากำแหงบอกว่าอย่าอึดอัดไปเลย ตนยอมให้ตรวจเช่นเดียวกับขุนจิตใจภักดิ์ก็แล้วกัน ทุกคนตกใจมากโดยเฉพาะแน่น พอแน่นจะท้วงติง ขันทองก็ชิงตัดบทว่า
“พอเถิดท่านขุน วันนี้ถ้าไม่ตรวจกันให้ชัดแจ้งก็คงไม่หยุดใส่ร้ายฉันเสียที เพื่อไม่ให้ท่านเจ้าคุณต้องเสื่อมเสียว่าลำเอียงเข้าข้างฉันก็ให้มันจบในวันนี้เถิด”
หลวงศรีมะโนราชยิ้มร้ายพูดกับพระยากำแหงว่าตนไม่ได้กล่าวหาเลื่อนลอย แต่มีพยานคือนังเยื้อนทาสของออกพระศรีเอง พระยากำแหงถามว่าเวลานี้เยื้อนอยู่ที่ใด
ขณะที่สองฝ่ายกำลังเผชิญหน้ากันอย่างแหลมคมนั้น แมงเม่ากับเป้ากำลังเร่งฝีเท้ามาที่ศาลาในวังด้วยความเป็นห่วงแน่น แต่เจอข้าหลวงสองคนตามทางบอกว่า
นอกจากแน่นจะต้องถูกตรวจแล้วขันทองก็พลอยติดร่างแหไปด้วย แมงเม่าตกใจที่ขันทองก็โดนด้วย ในขณะที่หลวงศรีมะโนราชตอบพระยากำแหงว่า
“ดีฉันเอามันไปฝากไว้กับออกญาพลเทพ แต่น่าเสียดายนักที่มันจมน้ำหายไปแล้ว ไม่รู้ว่าถูกฆ่าปิดปากหรือไม่” หลวงศรีมะโนราชกล่าวหาหน้าตาเฉย ถูกขุนรักษ์เทวาหัวเราะเยาะถามประชดว่านางเยื้อนตายก็หาว่าออกพระศรีฆ่าปิดปาก ต่อไปถ้าใครตายก็โทษออกพระศรีหมดเลยหรือ
ขันทองรับว่าเยื้อนเป็นทาสของตนจริงแต่จู่ๆก็หนีไป ตนเพิ่งรู้วันนี้ว่าหนีไปอยู่กับท่านเจ้าคุณพลเทพและจมน้ำหายไปแล้ว หลวงศรีมะโนราชโต้ว่าก่อนตายเยื้อนสารภาพกับตนและออกญาพลเทพทั้งหมดแล้วท้าว่าท่านเจ้าคุณจะให้ตนเชิญออกญาพลเทพมาก็ได้
ขณะที่พระยากำแหงเริ่มลังเล ขุนเทพชำนาญกับขุนเทพรักษาก็รุมกันกดดันว่าหากเรื่องนี้เป็นจริงท่านเจ้าคุณก็จะต้องโทษที่บกพร่องในหน้าที่ อย่างไรก็ต้องตรวจแล้ว เหตุใดจะตรวจเพิ่มอีกคนไม่ได้เล่า
ขณะที่พระยากำแหงกำลังถูกกดดันหนักนั้น จู่ๆแน่นก็ระเบิดหัวเราะออกมาจนทุกคนหันมอง พระยากำแหงถามว่ากระไรน่าขำรึ แน่นประกาศอย่างห้าวหาญว่า ไม่ต้องตรวจความเป็นชายของตนดอกเพราะตนเป็นชายจริงแท้แน่นอน ขันทองตกใจมากถามว่า พูดกระไรออกมาขุนจิตใจภักดิ์
แน่นบอกว่าตนพูดความจริง และขอประทานโทษคุณพระที่ปิดบังเรื่องนี้มาตลอด ทำให้คุณพระต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยในวันนี้ หลวงศรีมะโนราชถามดักว่าพูดเช่นนี้ต้องการจะกันออกพระศรีออกไปรึ
พระยากำแหงชักดาบออกมาชี้หน้าแน่นถามว่าเป็นจารบุรุษเข้ามาขโมยความลับกระไร แน่นหัวเราะดังยิ่งขึ้น ย้อนถามว่าคนโง่อย่างตนหรือจะเป็นจารบุรุษ หันไปจ้องหน้าขุนเทพชำนาญกับขุนเทพรักษาประกาศ
“กระผมเป็นลูกสวาทของขุนเทพชำนาญกับขุนเทพรักษาเท่านั้น”
ทุกคนตกใจสุดขีด โดยเฉพาะเป้ากับแมงเม่าที่เข้ามาได้ยินพอดี ขุนเทพรักษาแค้นสุดขีดจะเข้าไปต่อยแน่นหาว่าใส่ร้ายตน ขุนเทพชำนาญก็บอกพระยากำแหงว่าพวกตนถูกใส่ร้าย พวกตนไม่เคยเอาลูกสวาทมาปลอมเป็นขันที
แน่นที่เคยแอบเห็นการลักลอบขนลูกสวาทเข้าออกวังของสองขุนแฉอีกว่า ตอนนี้สองขุนได้ลูกสวาทคนใหม่แล้วจึงคิดกำจัดตนทิ้ง ตะโกนว่า “กูไม่ยอมตายคนเดียวดอกโว้ย”
ขุนเทพชำนาญกับขุนเทพรักษาแค้น จะเข้าไปทำร้ายแน่น พระยากำแหงสั่งทหารให้กันไว้อย่าให้วุ่นวาย แน่นบอกพระยากำแหงว่า แค่ท่านให้คนไปตรวจที่เรือนก็จะรู้ว่าทุกอย่างเป็นจริงอย่างที่ตนพูด พระยากำแหงจึงสั่งให้คุมตัวไป
เมื่อไปตรวจที่เรือนขุนเทพรักษา ไม่เพียงเจอหีบที่ใช้ขนลูกสวาทเข้าออกวัง หากยังเจอลูกสวาทตัวเป็นๆด้วย พระยากำแหงจึงสั่งจับทั้งสองขุนและแน่นไปจองจำเพื่อรอการตัดสินคดีทันที
หลวงศรีมะโนราชกัดไม่ปล่อย ถามพระยากำแหงว่าแล้วเรื่องตรวจความเป็นชายของพระศรีขันทินเล่า พระยากำแหงถามว่าขุนจิตใจภักดิ์รับสารภาพหมดแล้วยังจะตรวจกระไรอีกแล้วเดินเลี่ยงไป หลวงศรีมะโนราชยังจะตามไปบีบคั้นอีก ขันทองเข้าไปขวางหน้าพูดด้วยสีหน้าเศร้าว่า
“คุณหลวง ทั้งฉันแลคุณหลวงต่างสูญเสียเพราะเหตุนี้มามากแล้ว หยุดแต่เพียงนี้เถิด อย่าจองเวรกันอีกเลย” หลวงศรีมะโนราชตอบโต้อย่างอาฆาตแค้นว่า
“พูดเช่นนี้คงคิดว่าชำนะแล้วซี อย่าลำพองใจนักเลย สักวันฉันต้องฉีกหน้ากากเจ้าออกมาให้จงได้”
หลวงศรีมะโนราชจ้องหน้าขันทองอย่างอาฆาตแล้วเดินกลับไป ขันทองมองไปทางทหารที่คุมตัวแน่นไปสีหน้าหนักใจคิดหาทางช่วยเพื่อนรักที่ยอมเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องตน
ooooooo
ขันทองลอบไปใช้ไม้ซางเป่ายาสลบรมจนผู้คุม ขุนเทพชำนาญ และขุนเทพรักษาหมดสติไป แต่แน่นรู้ทันเอาผ้าปิดจมูก
ขันทองบุกเข้าไปจะพาแน่นหนี แน่นถามว่าถ้าหนีแล้วเรื่องพ่อแม่ของขันทอง เรื่องบ้านเมืองและหน้าที่ที่ต้องทำเล่า จะทิ้งไปหมดหรือ เห็นขันทองนิ่งไป แน่นเตือนสติว่า
“งานที่เอ็งกับข้าอาสาเข้ามาทำก็พร้อมสละชีวิตเพื่อบ้านเมืองอยู่แล้ว อย่าให้ชีวิตของข้าทำให้ต้องเสียงานใหญ่เลยวะ” ขันทองขบกรามบอกว่าแน่นคือมิตรยามยากคนเดียวของตน “หากเอ็งละทิ้งหน้าที่ ข้าหานับเอ็งเป็นมิตรไม่ เอ็งย้อนกลับมาช่วยข้า ข้าก็ซึ้งน้ำใจมากแล้ว เชื่อข้าเถิดวะ กลับออกไปทำงานแทนข้า อย่าให้ข้าต้องตายเปล่า”
ทันใดนั้นผู้คุมเข้ามาเปลี่ยนเวร พอเห็นผู้คุมเก่าสลบอยู่ก็ตกใจ ขันทองรีบเอาผ้าคลุมหน้าต่อสู้หนีออกไป แน่นก็ตะโกน “ช่วยด้วย...มันจะฆ่าฉัน...ช่วยด้วย” มองตามขันทองที่หนีไปน้ำตาคลอด้วยความซึ้งใจ
เป้าขอให้แมงเม่าหาทางให้ตนได้พบกับแน่นสักครั้งเพราะตนมีเรื่องคาใจอยากถาม พอดีพระองค์เจ้าเชษฐ์มาได้ยินจึงอาสาจะหาทางให้พบ มองแมงเม่าท่าทางกรุ้มกริ่มอย่างถือว่าเป็นบุญคุณต่อกัน
เมื่อเป้าได้พบแน่น กลับพูดถามอะไรไม่ออก ถามได้แต่เพียงว่าที่แล้วมาท่านขุนดีกับตนมากเพราะเหตุใด แน่นบอกว่าเพราะตนมีใจให้เป้า แต่แล้วก็กลับบอกว่าตนมาเป็นลูกสวาทก็เพื่อแลกกับเบี้ยอัฐเท่านั้น จะหวังอะไรกับคนอย่างตน แล้วถามว่า
“มาพบฉันแล้วได้กระไร ต่อให้ฉันบอกว่ารักใคร่แม่นักหนา แล้วฉันจะพ้นตายไปได้รึ โง่เขลานัก”
เป้าร้องไห้ยอมรับว่าตนโง่เขลา ตนต้องการรู้ความในใจของแน่นเท่านั้น ทั้งที่รู้ไปก็ไม่ได้เป็นคุณแก่ตนเลย ยกมือไหว้ลาไปด้วยความเสียใจ แน่นมองเป้าที่เดินร้องไห้ไปอย่างเจ็บปวด ที่ตนจำต้องพูดเช่นนั้นก็เพราะอยากให้เป้าเกลียดตนจะได้เจ็บปวดน้อยลง ทั้งที่ตัวเองต้องทนเจ็บปวดเหลือเกิน
ขุนเทพชำนาญกับขุนเทพรักษาถูกพิพากษาลงโทษให้ไปดำน้ำและลุยไฟ ส่วนแน่น พระยาพลเทพถามขันทองว่าจะทำอย่างไรดี ขันทองรู้ว่าพระยาพลเทพต้องการทดสอบตนจึงสั่งลงโทษแน่นตามกฎที่ตราเอาไว้คือโบยแปดสิบทีแล้วเอาไปตัดหัวมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
แน่นถูกโบยจนพระยากำแหงและจมื่นศรีสรรักษ์ต้องเบือนหน้าหนี แต่ขันทองยังคงสงบนิ่งเพราะรู้ว่าถูกจ้องจับผิดอยู่ ซ้ำสั่งเฆี่ยนแล้วยังให้เอาน้ำเกลือสาดอีกด้วย
ขันทองสั่งและยืนมองการโบยด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจนั้นเจ็บปวดสาหัสเกินจะบรรยาย...
ooooooo
บ่ายวันนี้ ขณะแมงเม่ากับเป้าช่วยข้าหลวงทำครัวในตำหนักกรมขุนวิมลนั้น ทั้งสองได้ยินพวกข้าหลวงพูดถึงสภาพของแน่นที่ถูกเฆี่ยนหลังแตกจนเนื้อติดหวายออกมาอย่างสยดสยอง
ทุกคนพูดถึงขันทองอย่างไม่อยากเชื่อว่าคนรูปงามและเป็นเกลอกันกับแน่นจะโหดร้ายถึงเพียงนี้ สั่งเฆี่ยนไม่พอยังเอาน้ำเกลือสาดอีก แมงเม่าเห็นใจเป้าที่ต้องมาฟังเรื่องเหล่านี้ให้สะเทือนใจอีก บอกให้เป้าไปพักเสีย ตนทำต่อให้เอง
อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 9 วันที่ 8 พ.ค.61
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ