อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 10 วันที่ 16 พ.ค.61

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 10 วันที่ 16 พ.ค.61

แมงเม่ายอมรับว่าขวางทางจริงเพราะตนไม่ทันระวังให้ดี แต่ตนไม่ได้กระทบกระทั่งถูกแม้ชายสไบของเจ้าจอมเพ็ญเลย เลื่อนเสนอหน้าทันทีว่าตนเห็นชนจนเจ้าจอมเซ ยังจะบอกว่าไม่ได้ชนอีก เป้ายืนยันว่าตนเห็นคาตาเหมือนกันว่าไม่ได้ชน คุณท้าวเสนอว่าข้าหลวงสองตำหนักให้การไม่ตรงกันเช่นนี้ก็ต้องถามคนกลาง

“ว่าอย่างไรเจ้าคะออกพระศรี เจ้าแมงเม่าโดนตัวเจ้าจอมหรือไม่”

ขันทองเชื่อว่ากรมขุนวิมลไม่ลงโทษแมงเม่าหนักแน่ เช่นนี้จะผิดใจกับเจ้าจอมเพ็ญไปทำไมให้เสียการใหญ่ จึงตัดสินใจบอกว่า แมงเม่าชนถูกตัวเจ้าจอมเพ็ญจริง แต่ดูแล้วไม่น่าจะจงใจ



แมงเม่าตะลึง คิดไม่ถึงว่าขันทองจะพูดความเท็จ ส่วนเจ้าจอมเพ็ญยิ้มพอใจที่ขันทองพูดปดช่วยตน กรมขุนวิมลจึงลงโทษแมงเม่าให้ไปสำนึกผิดในท้ายจระนำพระวิหารหนึ่งคืน อย่างน้อยก็จะได้เข้าไปพิจารณาตัวเองแลปัดเป่าเคราะห์กรรมของตนเองไปบ้าง กระนั้นเจ้าจอมเพ็ญยังทักท้วงว่าไม่เบาไปหน่อยหรือ

แต่ถูกเจ้าจอมอำพันถามประชดว่า แล้วจะเอาอันใดอีก จะให้ราชมัลตามไปเฆี่ยนถึงในท้ายจระนำอีกหรือ คุณท้าวยิ้มสะใจหันไปพูดกับแมงเม่าเกลื่อนเรื่องว่า ท้ายจระนำไม่มีใครเข้าไปทำความสะอาดมานาน รอเปิดออกทำความสะอาดแต่ช่วงมีงานพระบรมศพ พูดเหน็บเจ้าจอมเพ็ญตบท้ายว่า

“แม่เข้าไปสำนึกผิดก็ไม่ถือว่าสบายนักดอก เพียงแต่อาจไม่สาแก่ใจเท่านั้น”

เจ้าจอมเพ็ญเจ็บใจหันไปเรียกเลื่อน เลื่อนสะดุ้งรีบบอกว่าตนทำทุกอย่างแต่ไม่เข้าไปในจระนำ ข้างในมีพระโกศเก็บพระอัฐิเป็นร้อยเป็นพัน ตนไม่กล้าแม้แต่จะเฉียดเข้าไป เจ้าจอมเพ็ญค้อน ขัดใจที่เลื่อนรู้ทันว่าจะถูกใช้ให้เข้าไปจับตาดูแมงเม่า

แต่เป้าบอกแมงเม่าว่าอย่าห่วงเลยตนจะช่วยปัดกวาดเช็ดถูอีกแรงอย่างไรก็พออยู่ได้ แมงเม่าขอบน้ำใจเพื่อน ส่วนขันทองแอบยิ้มสมใจที่จะได้อยู่กับแมงเม่าสองคนเพื่อคุยเรื่องสาส์นลับกัน

ooooooo

ฝ่ายพระยาตาก ต้องรับศึกอังวะที่ยกกำลังมาไม่ต่ำกว่าสามเท่าของคราวที่แล้ว แต่พระยาตากมิได้หวั่นเกรงบอกหลวงพิชัยที่เสนอว่าเราควรตั้งรับมากกว่าสู้โดยตรงว่า

“ชัยภูมินนทบุรีไม่เหมาะแก่การตั้งรับเท่าใด ใช้กลศึกเอาชัยในการรบกลางแปลงจะเหมาะกว่า” พระยาตากกางแผนที่อธิบายว่า “ฉันจะนำทัพออกรบด้วยตนเอง ถ้าเรายันทัพหน้าของพวกมันไว้ได้ พวกมันต้องส่งทัพใหญ่เข้ามาเป็นแน่ นายทัพของพวกมันคงเหลือทหารคุ้มครองไม่มากนัก เปิดโอกาสให้หลวงพิชัยนำทัพขนาดเล็กอ้อมไปสังหารนายทัพของพวกมันจากทางด้านข้าง สิ้นนายทัพบัญชาการสักคนก็เหมือนงูไร้หัว หาต้องกลัวไม่”

ม่วงฟังแผนรบของพระยาตากแล้วถามว่าทำเช่นนี้ก็เท่ากับท่านเจ้าคุณใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อพวกอังวะ

“ถ้าเหยื่อล่อไม่มีค่าพอ จะล่ออังวะให้ฮุบเหยื่อได้รึ ฉันรู้ว่าทุกคนห่วงใยฉัน แต่การศึกมาอยู่ข้างหน้าแล้วไม่อาจลังเลได้อีก” พระยาตากตอบยิ้มบางๆ

ความมุ่งมั่นหาญกล้าของพระยาตากทำให้หลวงพิชัย พันหาญ และม่วงต่างฮึกเหิมยิ่งนัก ในที่สุดก็ทำได้ตามแผน หลวงพิชัยบุกเข้าด้านข้างฟันนายกองของอังวะตายคาที่ พวกทหารเห็นนายกองตายก็แตกกระเจิง พันหาญดีใจตะโกนว่า “คุณหลวงทำสำเร็จแล้ว”

“ยังไม่จบแค่นี้ดอก พ่อม่วง ฉันฝากด้วยนะ” พระยาตากสั่งการ

“ไว้ใจกระผมเถิดขอรับ” ม่วงยิ้มมั่นใจ

ม่วงปลอมตัวเป็นทหารอังวะถือธงประจำกองทัพเข้าไปรายงานขุนพล ณ ค่ายอังวะค่ายหนึ่ง ว่าทัพเราถูกล้อมอยู่ที่ชายป่าด้านทิศตะวันออก ขอกำลังไปช่วยด้วย ขุนพลสั่งทหารจัดทัพไปช่วยทันที แต่พอไปถึงไม่มีแม้แต่ร่องรอยการต่อสู้

ทันใดนั้นพระยาตากกับพันหาญก็คุมทหารบุกมาจากทางซ้าย และหลวงพิชัยบุกเข้าทางขวา ทหารอังวะถูกตีกระหนาบจึงรู้ว่าหลงกลแล้ว ขุนพลสั่งหนีทันที ทหารอังวะถูกตีกระหนาบจนตั้งตัวไม่ติดหนีกระเจิง

มังมหานรธาตกใจเครียดหนัก ที่นับแต่บ่ายคล้อยจนตะวันตกดินเราเสียไปถึงสามค่าย พูดถึงคราวที่เข้าตีเมืองเพชรบุรี พระยาเพชรบุรีก็มีฝีมือการรบกล้าหาญเป็นที่ประจักษ์ คราวนี้ก็พระยาตากอีก อโยธยาไม่สิ้นคนดีจริงๆ สั่งให้ทุกค่ายมารวมตัวกันที่ค่ายใหญ่ให้หมด

“พระยาตากผู้นี้ชาญศึกนัก จะจัดการอย่างไรดีขอรับ” ทหารนายหนึ่งถามหน้าเครียด

“พวกเราเองคงยากจะทำได้ ต้องให้ไทฆ่าไทกันเองเท่านั้น” มังมหานรธายิ้มร้าย

ooooooo

แมงเม่าอยู่ข้างในท้ายจระนำที่จุดเทียนให้แสงสว่าง ยืนเกร็งมองตุ๊กแกตัวเขื่องที่เกาะมุมกำแพงและส่งเสียงร้องตลอดเวลา พึมพำ...ผีก็มี ตุ๊กแกก็มี ฝนก็ตก...กลัวจนอยากร้องไห้...

พลันก็สะดุ้งเฮือกเมื่อมีเสียงฟ้าร้องลั่นขึ้นมา พอเสียงฟ้าเงียบก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แมงเม่าขวัญผวาถามว่าใครก็ไม่มีเสียงตอบแต่เคาะประตูรัวหนักกว่าเดิม คิดเข้าข้างตัวเองว่าคงเป็นแม่เป้ารีบไปเปิดประตู

พอเปิดประตูแมงเม่าก็ร้องลั่นด้วยความกลัวสุดขีด เมื่อเห็นร่างหนึ่งมีผ้าคลุมปิดหน้าปิดตาอยู่ในความมืด พอประตูเปิดร่างนั้นก็เบียดเข้ามาแล้วปิดประตูทันทีและดึงผ้าคลุมหน้าออก

“ออกพระศรี” แมงเม่าอุทานดีใจสุดชีวิต แต่อารมณ์ค้างไม่วายค้อนใส่งอนๆปนน้อยใจ ประชดว่า “ฉันนึกว่าออกพระศรีต้องอยู่เฝ้าเจ้าจอมเพ็ญเสียอีก”

ขันทองบอกว่าคืนนี้ตั้งใจจะมานั่งเป็นเพื่อนคนที่ต้องโทษในท้ายจระนำ แมงเม่าถามว่ารู้สึกผิดหรือ ไม่ต้องใส่ใจดอกตนก็แค่แมงเม่าตัวหนึ่ง จะไปเทียบอันใดกับดวงโสมที่ลอยบนฟ้าเรืองรองนั่นได้เล่า

“หยุดประชดได้แล้ว แม่คนเจ้าคารม” ยื่นหน้าเข้าไปถาม “เจ้าก็รู้ไม่ใช่รึ ว่าฉันห่วงเจ้าเพียงใด ขนาดแขนตัวเองฉันยังกรีดเพื่อช่วยเจ้าได้เลย”

แมงเม่าเขินจนเบือนหน้าไปทางอื่น ขันทองขำๆปนเอ็นดู หยิบพู่กัน หมึกฝนและจานรองหมึกมาวางที่พื้น ถามว่าเมื่อหลายวันก่อนมีเรื่องสำคัญจะบอกไม่ใช่รึ เพลานี้โอกาสดีแล้วให้รีบบอกมาเถิด

แมงเม่ายังแง่งอน แต่พอขันทองบอกว่าถ้าไม่บอกตนจะได้กลับ แมงเม่าก็รีบบอกว่า “บอกเจ้าค่ะ” รีบเอากลักจากชายพก หยิบกระดาษเล็กๆออกมายื่นให้ บอกว่า “นี่เจ้าค่ะความลับที่ฉันจะบอก”

พอขันทองเห็นอักษรบนกระดาษก็ตะลึงพึมพำ “พิสดารถึงปานนี้” แต่อย่างไรก็ต้องลองถอดดู แล้วขันทองก็เริ่มจากกลบทไทหลงซึ่งเป็นกลบทที่สอนแต่เฉพาะจารบุรุษหรือแม่ทัพที่คุมศึกเท่านั้น แมงเม่ารีบฝนหมึกเร่งขันทองให้บอกมาเถิดตนจะจดเอง

ขันทองถอดกลบทออกมาทีละตัว พอถอดออกมาแมงเม่าอ่านข้อความด้วยความตกใจสุดขีด

“อักษรสารบอกความแจ้งอังวะ...” แล้วแมงเม่าก็โพล่งออกมาด้วยความแค้นว่า “ทุรยศ ออกญาพลเทพกับเจ้าจอมเพ็ญขายแผ่นดินให้อังวะ มิน่าเล่า ถึงได้ตามล่าฉันเอาเป็นเอาตาย”

“ถ้าฉันคาดการณ์ไม่ผิด จากคำว่า ‘อักษรสารบอกความแจ้งอังวะ’ เราต้องใช้กลบทอื่นมาถอดจากคำนี้อีก จากนั้นเราก็จะได้ข้อความเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนครบสมบูรณ์”

“มิน่าเล่า คุณพระถึงบอกว่าพิสดารปานนี้ แต่ถึงยากเย็นปานใด ฉันก็ต้องแก้กลบทนี้ให้จงได้เจ้าค่ะ”

ด้วยความมุ่งมั่นของทั้งสองที่จะแก้กลบทให้ได้ ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดกันมากจนหน้าเกือบชนกันโดยไม่รู้ตัว แก้กลบทกันจนแมงเม่าผล็อยหลับไป ขันทองเอาผ้าที่คลุมหน้าตัวเองไปห่มให้ มองแมงเม่าที่หลับปุ๋ยด้วยสายตาที่เปี่ยมรัก ขยับเข้าแนบชิดและแก้กลบทต่อไปอย่างมีความสุข...

ooooooo

แมงเม่าตื่นเต้นอัศจรรย์ใจมากที่อักษรเพียงประโยคเดียวขันทองสามารถถอดเนื้อความออกมาได้มากมาย ขันทองบ่นเสียดายพระยาพลเทพที่มีปัญญาเลิศล้ำในเชิงอักษรแต่ไม่ได้ใช้เป็นคุณแก่บ้านเมืองเลย

ขันทองให้แมงเม่าเอาข้อความเหล่านี้ไปแจ้งต่อออกญาวัง ออกญาวังจะจัดการทุกอย่างเอง แต่จำไว้ว่าอย่าเอ่ยถึงตนเด็ดขาด แมงเม่าถามว่าเหตุใดไม่แจ้งเอง เพราะจับกบฏได้มีความดีความชอบใหญ่หลวงนัก

“ฉันไม่ต้องการลาภยศดอก แลมีเรื่องอีกมากที่ฉันต้องทำ ไม่อาจมีเรื่องวุ่นวายในเพลานี้ได้”

แล้วจู่ๆแมงเม่าก็ยิ้มเจ้าเล่ห์รับคำ “เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ...พี่ขันทอง”

ขันทองตกใจ แมงเม่าหัวเราะชอบใจบอกว่า “คงนึกไม่ถึงกระมังเจ้าคะ ว่าฉันรู้ได้อย่างไร”

“แล้วเจ้า...เจ้ารู้ได้อย่างไร”

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 10 วันที่ 16 พ.ค.61

ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ