อ่านละคร เสน่ห์รักนางซิน ตอนที่ 10 วันที่ 14 พ.ค.61
ภูรีพามิสเตอร์พีมาพบกับบารมีที่ออฟฟิศเพื่อคุยกันเรื่องจะขยายช็อปของ P.PAUL ที่อยู่ในห้างฯแห่งนี้ หลังเจรจาธุรกิจเสร็จ มิสเตอร์พีถามบารมีว่าทำไมถึงไว้ใจพริมให้เป็นคนสอนวิกกี้ตัดรองเท้าทั้งที่เธอยังเด็ก ภูรีเห็นท่านอึกอักก็รีบบอกว่าพอดีมิสเตอร์พีชอบฝีมือตัดรองเท้าของพริม กำลังตัดสินใจจะชวนเธอมาทำงานด้วย“ผมพูดเรื่องพริมให้เขาฟังเขาก็กลัวว่าผมจะเข้าข้างพริม”
บารมีพูดถึงข้อดีของพริมให้มิสเตอร์พีฟังชุดใหญ่ แถมยังออกปากถ้าเขาจะเลือกพริมเข้าทำงาน ตนรับประกันให้เองว่าเขาจะไม่ผิดหวัง ระหว่างนั้นอินทัชโทร.หาภูรีเล่าเรื่องที่คุณภพจะถูกฟ้องล้มละลายให้ฟัง และบอกเขาว่าเสร็จธุระเมื่อไหร่ให้ตามมาที่บ้านพริม...
อินทัชกับภูรีตัดสินใจลงขันร่วมกันให้เงินภควัตสิบล้านบาทเอาไปเสริมสภาพคล่อง เขาขอบใจเพื่อนมากที่ช่วยเหลือ พริมยกของว่างมาให้สามหนุ่มกินรองท้องกันก่อน เดี๋ยวเย็นนี้จะทำกับข้าวอร่อยๆให้กิน อินทัชได้ยินเธอบอกว่าวันนี้ปริตาไปรับยาให้พ่อที่โรงพยาบาลเสร็จแล้วจะแวะมาที่นี่ไม่ทราบว่าจะมากี่โมง ภควัตกระเซ้า ที่เขานัดให้เรามาคุยกันที่บ้านพริมก็เพื่อจะมาหาปริตานี่เอง เขายอมรับว่าใช่
“ริตาน่าจะใกล้มาถึงแล้วนะคะ เอาอย่างนี้เดี๋ยวพริมโทร.ไปถามให้” พริมยังไม่ทันจะกดเบอร์ เห็นปริตาเปิดประตูรั้วเข้ามาเสียก่อน ก็ชี้ชวนให้อินทัชดู เขาไม่รอช้าวิ่งปรู๊ดไปรับ เธอเห็นเขาก็ตกใจหันหลังวิ่งหนี พลางขอร้องเขาอย่าวิ่งตาม เพราะยิ่งตามเธอก็จะยิ่งหนี เราต่างคนต่างอยู่จะดีกว่า เขาชะงักฝีเท้าไม่กล้าตาม เดินหน้าเศร้ากลับมาที่บ้านพริม บอกกับทุกคนว่าปริตาไปแล้ว
“คุณพริมรู้ไหมว่าคุณริตาโกรธอะไรผม ตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเรื่อง คุณริตาไม่ยอมพูดกับผมไม่ยอมรับโทรศัพท์ผมเลย แล้วยังบอกผมว่าถ้าผมตาม เขาก็จะยิ่งหนี”
พริมขอให้อินทัชไปถามปริตาเอาเองจะดีกว่า...
หลังจากไล่ภควัตกับอินทัชกลับไปแล้ว ภูรีบอกข่าวดีให้พริมทราบว่ามิสเตอร์พีให้เขามาชวนเธอไปคุยด้วยเพราะท่านอยากชวนเธอไปเป็นดีไซเนอร์ให้ P.PAUL หลังจากเธอเรียนจบ เธอร้องไห้โฮด้วยความดีใจ...
พัชราไม่พอใจมากที่รู้จากนิสาว่าบารมีชื่นชมพริมให้มิสเตอร์พีฟัง แถมเอาตัวเองเป็นประกันให้พริมอีกต่างหาก ตามมาเล่นงานเขา ไหนรับปากจะไม่ยุ่งกับมันทำไมยังไปเชียร์มัน เขาแก้ตัวว่าไม่ได้เชียร์แต่พูดความจริง เธอโวยวายเสียงลั่นที่เขาช่วยมันเพราะเขารักมัน รักลูกตัวเองที่เกิดจากพาพรมากกว่าลูกที่เกิดกับเธอ
พลันมีเสียงวิกกี้ดังขึ้นจากด้านหลัง “หมายความว่ายังไงคะคุณแม่ ทำไมคุณแม่ถึงพูดว่าพริมเป็นลูกคุณพ่อ คุณแม่พูดอะไรผิดไปใช่ไหมคะ พริมไม่ได้เป็นลูกคุณพ่อใช่ไหมคะ คุณแม่บอกวิกกี้สิคะ”
บารมีขอร้องพัชราอย่าเพิ่งบอกอะไรวิกกี้กับพงศกร เธอกลับไม่สนใจในเมื่อเขารักมันนักก็น่าจะบอกความจริงให้ทั้งคู่รู้ จะได้ดีใจที่มีนังพริมเป็นพี่สาว แล้วหันไปบอกลูกทั้งสองคนที่รอฟังอย่างใจจดจ่อว่า
พริมเป็นลูกของพ่อที่เกิดจากนังพาพร ช่างทำรองเท้าชั้นต่ำ วิกกี้รับไม่ได้กรีดร้องราวกับคนบ้า แล้ววิ่งออกไป บารมีวิ่งตามจนทันขอร้องให้ฟังท่านก่อน เธอต้องรับความจริงให้ได้ว่าพริมเป็นพี่สาว
“ไม่ วิกกี้ไม่เอา วิกกี้เกลียดมันๆๆ”
พัชราเดินนำพงศกรเข้ามาผลักบารมีออกห่าง สั่งห้ามแตะต้องลูกสาวของตน แล้วด่าเขาว่าเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง สร้างแต่ความทุกข์ให้ลูกๆ บารมีขี้เกียจเถียงด้วยเดินหนี พัชราดึงลูกทั้งสองคนมากอดไว้ เสี้ยมให้เกลียดชังพริมและให้ช่วยท่านกันไม่ให้มันมาแย่งความรักของพ่อไปจากเรา วิกกี้จะต้องเอาชนะพริมให้ได้ อย่าให้มันเหนือกว่าเรา เธอรับปากจะสู้เพื่อแม่เพื่อครอบครัว วีรีแอบฟังอยู่มุมหนึ่งอย่างไม่สบายใจ...
ภควัตรู้ว่าบุสกรจำเป็นต้องใช้เงินจึงนำเงินค่าชดเชยที่ปิดบริษัทมาให้เธอที่บ้านเด็กกำพร้า เธอเอาเงินคืนเขาเพราะจะไม่ยอมให้เขาปิดบริษัท ถึงจะไม่มีเงินทุนแต่เรายังมีทีมงานคุณภาพที่พร้อมจะทำงานให้
“อย่าดีกว่าผมยังไม่พร้อมทำอะไรตอนนี้ คุณรับเงินของคุณไปเถอะผมกลับล่ะ ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง”
“ถ้านายยังเอาแต่พูดว่ายังไม่พร้อม ฉันจะผิดหวังในตัวนายมากขึ้นเรื่อยๆ” บุสกรถอนใจเซ็ง...
ทางฝ่ายวีรีรีบโทร.บอกพริมเรื่องที่ได้ยินพัชราสั่งให้ลูกๆทั้งสองคนเอาชนะเธอให้ได้
ooooooo
วิกกี้แวะมาหาพริมที่บ้านแต่เช้า บอกว่ารู้เรื่องที่เธอเป็นลูกอีกคนหนึ่งของพ่อแล้ว แต่ตนไม่มีวันรับเธอเป็นพี่สาว หากเธอจะให้ตนใจอ่อน เธอต้องเสียสละโดยบอกปัดไม่รับงานของมิสเตอร์พีและบอกท่านว่าตนเหมาะสมกับตำแหน่งดีไซเนอร์ของ P.PAUL มากกว่าเธอ
“ชีวิตเธอคงได้อะไรง่ายๆ มาจนเคยตัวสินะคิดอยากได้อะไรก็ไม่เคยคิดจะใช้ความพยายาม”
“ไม่ต้องพูดมาก ตกลงว่าจะไม่ช่วยใช่ไหม”
พริมกำลังช่วยวิกกี้ด้วยการไม่ให้เสียนิสัยมากไปกว่านี้ ถ้าคิดจะเอาชนะตนอยากให้มิสเตอร์พีเลือกเข้าทำงานที่ P.PAUL ก็จงพัฒนาฝีมือและความรู้ของตัวเองแล้วมาแข่งขันกันไม่ใช่มาขอแบบนี้ เพราะตนก็ไม่คิดจะยกความฝันให้ใครง่ายๆ วิกกี้เข้าไปประจันหน้า ในเมื่อไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้รู้เอาไว้ว่าเธอจะแย่งทุกอย่างของพริมมาเหมือนที่แม่ของพริมเคยแย่งความรักของคุณพ่อไปจากคุณแม่ของเธอ
“จะทำอะไรก็เชิญ แต่อย่าใช้วิธีสกปรกเช่นเอาเศษกระเบื้องใส่รองเท้าก็แล้วกัน”
สองสาวจ้องหน้ากันอย่างท้าทาย ภูรีเข้ามาเห็นวิกกี้ก็แปลกใจร้องทักว่าทำอะไรที่นี่ เธอรู้แล้วว่าพริมเป็นลูกอีกคนหนึ่งของพ่อ และที่มาที่นี่ก็เพราะได้ยินจากป้านิสาว่าวันนี้พี่ภูจะพาพริมไปพบกับมิสเตอร์พี เธอก็เลยจะขอไปด้วย ภูรีกับพริมมองหน้ากันไม่สบายใจ...
ไม่ใช่แค่ขอไปด้วย แต่วิกกี้ยังเสนอตัวจะสมัครเป็นดีไซเนอร์ของ P.PAUL แข่งกับพริมอีกต่างหากแถมเตรียมเอกสารมาพรีเซนต์ตัวเองเป็นปึกๆ ทั้งแบบร่างของรองเท้าสารพัดชนิดที่อ้างว่าออกแบบเองมาให้มิสเตอร์พีพิจารณา ท่านมองแบบเหล่านั้นด้วยความสนใจโดยไม่รู้เลยว่าวิกกี้ไม่ได้ทำเอง จ้างคนอื่นทำทั้งหมดพริมได้แต่มองอย่างเซ็งจัด...
ค่ำวันเดียวกัน พงศกรมานั่งดื่มเหล้าฟังเพลงอย่างสบายใจอยู่ในผับแห่งหนึ่ง สักพักแจ๊คกับสมุนเข้ามานั่งข้างๆ เสนอขนมตัวใหม่ให้ พงศกรไม่อยากเมายาก็เลยปฏิเสธ แจ๊คพยายามคะยั้นคะยอให้ลองเพราะต้องการเงินของเขา แต่เขาไม่สนใจ ออกจะรำคาญเสียด้วยซ้ำ ก่อนจะลุกหนี แจ๊คไม่พอใจ ขืนเขาไม่สนใจแบบนี้เท่ากับขาดรายได้ ตามไปจับตัวแล้วฉีดยาตัวใหม่ให้เขาเอง พงศกรดิ้นรนได้แค่อึดใจยาออกฤทธิ์
ทันใดนั้นมีเสียงหวอรถตำรวจดังไปทั่ว แจ๊คกับพวกหน้าตาตื่นเพราะมียาเสพติดอยู่เต็มกระเป๋าพากันสลายตัวปล่อยให้พงศกรนอนเมายาอยู่ตรงนั้น
ooooooo
ข่าวพงศกรถูกตำรวจจับเมายาคาผับดังถูกแชร์ว่อนเน็ต พริมเห็นข่าวนี้แล้วไม่สบายใจ พัชราเห็นข่าวนี้เช่นกัน อับอายมากที่ลูกชายก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน หลังจากประกันตัวเขากลับบ้าน เธอตบตีเขาอุตลุดโดยไม่ฟังคำอธิบายใดๆทั้งสิ้น วีรีที่ยืนดูอยู่อยากจะเข้าไปช่วยแต่ไม่กล้า วิกกี้ทนไม่ไหวต้องเข้าไปห้ามแม่ไว้
“ฉันน่าจะปล่อยให้แกเข้าคุกไปเลย ไม่ต้องวิ่งเต้นช่วยแกให้เปลืองเงินเปลืองแรง เพราะตอนนี้ฉันแน่ใจแล้วว่าฉันฝากความหวังอะไรไว้กับคนอย่างแกไม่ได้เลย ฉันแค่ขอให้แกเป็นคนดีเพราะยิ่งแกเลวมากเท่าไหร่พ่อแกเขาก็ยิ่งเกลียดฉันที่มีลูกเลวๆอย่างแก...มองหน้าฉันแบบนั้นทำไมพงศ์” พัชราชี้หน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
“พงศ์ ขึ้นห้องไปก่อนเถอะนะพี่ขอร้อง ไปสิพงศ์” วิกกี้ดันหลังน้องชายออกไป พัชราตะโกนด่าไล่หลัง
“ถ้าแกยังทำตัวมีปัญหาอีก ฉันจะตัดขาดแก ปล่อยให้แกกลายเป็นหมาข้างถนนไปเลย”...
ขณะที่รอยร้าวระหว่างพัชรากับลูกชายคนเดียวเริ่มเกินเยียวยา ปริตากลับเข้าบ้านเจออินทัชนั่งอยู่กับแม่จัดแจงหันหลังเดินหนี เขาวิ่งตามเธอจนทัน ขอร้องอย่าหนีอีกเลย ถ้าเขาทำอะไรให้ไม่พอใจก็ขอให้บอกกันตรงๆ เขาพร้อมจะปรับปรุงตัวเอง ทีแรกเธอไม่ยอมพูดอะไร แต่สุดท้ายทนเสียงรบเร้าของเขาไม่ไหวยอมเปิดปากบอกถึงสาเหตุที่ต้องหลบหน้าเพราะแม่ของเขาไม่ชอบเธอ ท่านกลัวเธอจะจับเขา
“แต่ริตาไม่โกรธท่านนะคะ ริตาเข้าใจท่าน ต่อไปนี้เราต่างคนต่างอยู่เถอะนะคะ ริตาไม่อยากให้คุณ...”
พูดไม่ทันจบว่าไม่อยากให้เขามีปัญหากับแม่ อินทัชวิ่งปรู๊ดออกไปเสียก่อน...
ในเวลาต่อมาขณะที่ภูรีเดินคุยมากับภควัตเรื่องบริษัทออร์กาไนเซอร์ของฝ่ายหลังที่ทำให้ตัวเองเสียเครดิตจนบริษัทใหญ่ๆขยาด อินทัชก้าวฉับๆเข้ามา ภูรีร้องทักไหนภควัตบอกว่าเขาไปหาปริตา นึกว่าจะไม่กลับเข้ามาแล้ว เขาต้องกลับมาเคลียร์กับแม่ให้รู้เรื่อง แล้วตรงไปยังห้องทำงานของท่าน ทันทีที่เจอหน้าพ่อกับแม่ อินทัชปลดนาฬิกาหรูจากข้อมือ เอากุญแจรถวางบนโต๊ะ ตามด้วยกระเป๋าเงิน มือถือ สูท และเนกไท
“คุณแม่กลัวว่าคุณริตาจะมาจับผมเพราะผมรวยผมก็จะทำให้เห็นว่าต่อให้ผมเป็นแค่ไอ้ทัชคนธรรมดาที่ไม่ได้เป็นทายาทคนเดียวของตระกูลกิตติรัฐธนะโภคิน ผมกับคุณริตาก็จะยังรักกันได้อยู่ดี ของพวกนี้ผมจะไม่เอาติดตัวไปด้วย เดี๋ยวคุณแม่จะเข้าใจผิดคิดว่าผมเอาของไปขายเอาเงิน ผมจะไปแต่ตัวกับหัวใจเท่านั้น”
ภูรีคว้ามืออินทัชไว้ขอร้องอย่าทำแบบนี้ เขาจำได้ว่าภูรีเป็นคนบอกเขาเองว่าเขาต้องทำให้พ่อกับแม่เห็นว่าเขาโตพอแล้วที่จะรักใครก็ได้ ภูรีเตือนเขาว่าทำแบบนี้ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง อินทัชปักใจเชื่อไปแล้วว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะพิสูจน์ตัวเอง ในเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่องคุณณีไล่เขาไปให้พ้น แล้วอย่ากลับมาให้เห็นหน้าอีก
“เสื้อผ้าชุดนี้กับรองเท้าผมขอแล้วกัน คุณแม่คงจะไม่คิดว่าของแค่นี้ที่ผมเอาติดตัวไปจะทำให้คุณริตารวยขึ้นได้หรอกนะครับ” แดกดันจบอินทัชเดินออกจากห้อง ภูรีกับภควัตเดินตาม ขณะที่คุณณีร้องไห้โฮ
ภควัตกับภูรีตามมาดึงตัวอินทัชไว้ถามว่าจะไปไหน เขาจะไปหาปริตา ครู่ต่อมาภูรีกับภควัตพาอินทัชมาส่งให้ปริตาฝากเด็กไร้บ้านอย่างอินทัชไว้กับเธอด้วย เขาโผกอดปริตาไว้อย่างต้องการที่พึ่ง
ooooooo
พงศกรทั้งน้อยใจทั้งโกรธแม่ที่ไม่ฟังคำอธิบายกันบ้าง ยิ่งนึกถึงตอนที่ท่านพูดว่ายิ่งเขาทำเลวมากเท่าไหร่ พ่อของเขาก็ยิ่งเกลียดแม่ที่มีลูกเลวๆอย่างเขาเท่านั้น ก็คิดจะทำบางอย่างประชดท่าน
“งั้นผมก็จะเลวให้ถึงที่สุด พ่อจะได้เกลียดแม่ให้มากที่สุดเหมือนกัน” พงศกรรอจนแน่ใจว่าแม่ออกไปกับวิกกี้แล้ว รีบโทร.หาใครบางคนให้ช่วยหาปืนให้เดี๋ยวจะไปเอา วีรีได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจถามว่าจะเอาปืนไปทำอะไร เขาดันเธอติดผนังห้อง เตือนว่าถ้าไม่อยากโดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดฆ่าคนตายก็อย่ามายุ่ง แล้วเดินลงไปข้างล่าง พร้อมกับคุยมือถือไปด้วย
“คืนนี้ไอ้แจ๊คไปที่ร้านใช่ไหม ดี...ฉันจะเข้าไปเยี่ยมมันสักหน่อย” พงศกรวางสายจะเดินออกจากบ้าน วีรีที่ได้ยินทุกอย่างเข้ามารั้งเขาไว้ ขอร้องให้ใจเย็นๆก่อน เขาเป็นพ่อของลูกในท้องเธอ เธอไม่อยากให้ลูกมีพ่อเป็นฆาตกร ถ้าเขาไม่สงสารใครก็ขอให้สงสารลูกด้วยเถิด เขาไม่สนใจผลักเธอพ้นทางแล้วเดินไปขึ้นรถ ขับออกไปราวจะแข่งกับพายุ วีรีไม่รู้จะทำอย่างไร ตัดสินใจโทร.หาพริมขอให้ช่วยพงศกรด้วย
“ใจเย็นๆนะคะ เกิดอะไรขึ้นคะ”
จากนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็พรั่งพรูออกจากปากวีรี พริมร้อนใจรีบโทร.บอกภูรีที่เพิ่งเดินออกมาจากบ้านปริตาพร้อมกับภควัตอีกทอดหนึ่ง เขาตกใจมาก
“ครับๆผมจะรีบตามไป คุณกับคุณบุสกรระวังตัวด้วยนะ”...
แจ๊คกำลังคุยอยู่กับสมุนที่ด้านหลังผับเจ้าประจำ ตอนที่เห็นพงศกรเดินเข้ามา แจ๊คร้องทักเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พงศกรไม่ทักตอบแต่ชักปืนขึ้นมาจะยิง ด้วยความที่ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนทำให้ลังเล สมุนของแจ๊คที่ย่องมาด้านหลังเอาไม้ฟาดเขาถึงกับทรุด ปืนกระเด็นหายเข้าไปยังมุมมืด แจ๊คย่างสามขุมเข้าหาพงศกรที่นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น เตะเขาซ้ำหลายครั้งอย่างไม่ปรานี
อีกมุมหนึ่งหน้าผับ พริมกับบุสกรลงจากรถแท็กซี่เข้าไปถามคนคุมผับว่าเห็นพงศกรมาที่นี่บ้างไหม พวกเธอเป็นเด็กของเขานัดเขาเอาไว้ คนคุมหลงเชื่อบอกว่าพงศกรมาแล้ว เห็นเดินไปข้างหลังโน่น แล้วชี้นิ้วไปยังทิศทางที่เขาไป สองสาวยิ้มหวานให้แทนคำขอบคุณ ครู่ต่อมาทั้งคู่เดินมาตามทางด้านหลังผับ เห็นแจ๊คกับสมุนสองคนกำลังซ้อมพงศกรที่นอนอยู่กับพื้น พริมเห็นไม่เข้าทีจะไปตามคนมาช่วย บุสกรรั้งไว้
“จะไปตามใครได้ แถวนี้ไม่รู้ว่าคนไหนเป็นคนของพวกเพื่อนไอ้พงศ์บ้าง เกิดไปเจอพวกมันกันเองเราจะยิ่งซวย” บุสกรครุ่นคิดหนักจะทำอย่างไรต่อไปดี จังหวะนั้น ภูรีโทร.เข้ามือถือของพริม บอกว่าใกล้จะถึงทางเข้าผับแล้ว ตอนนี้เธออยู่ไหน พริมอยู่กับบุสกรด้านหลังผับ พวกแจ๊คกำลังจะพาพงศกรเข้าไปข้างใน
“คุณรออยู่ตรงนั้นก่อนนะพริม อย่าเพิ่งไปไหน”
“ค่ะๆ รีบมานะคะ” พริมวางสายแล้วหันไปบอกบุสกรว่าภูรีให้เรารอเขาก่อน เธอไม่เห็นด้วยขืนรอโดยไม่ทำอะไรพงศกรได้ตายก่อนแน่ พริมเป็นห่วงน้องชายต่างมารดา รีบตามไปทันที บุสกรหันไปคว้าไม้แถวนั้นวิ่งตามไปติดๆ
ooooooo
แจ๊คกับพวกแบกพงศกรมาโยนลงพื้นแถวมุมปลอดคนภายในผับ โดยมีพริมกับบุสกรแอบดูอยู่ พงศกรพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่เนื่องจากถูกซ้อมทำให้ขยับตัวลำบากแต่ยังมีแรงโวยวายนี่คิดจะทำอะไรตน
“กูแค่หยอกมึงเล่นนิดหน่อย แต่มึงคิดจะฆ่ากู กูจะเก็บมึงไว้ทำซากอะไรวะ เฮ้ยจับมัน”
สมุนของแจ๊คจับพงศกรขึงพืดกับพื้น ส่วนแจ๊คหยิบเข็มยาเสพติดออกมาฉีดที่แขนเขา แล้วโยนเข็มทิ้ง
“พรุ่งนี้เช้าจะมีข่าวลูกชายนักธุรกิจดัง พี้ยาเกินขนาดตายคาเข็ม...พวกมึงจัดให้มันอีกสักสองเข็ม มันจะได้ตายแบบสบายๆ” สิ้นเสียง สมุนของแจ๊คหยิบเข็มยาเสพติดออกมา พงศกรพยายามดิ้นหนีแต่ไม่มีแรง
พริมทนดูต่อไม่ไหววิ่งออกไปห้าม พงศกรที่เริ่มถูกฤทธิ์ยาเล่นงานเห็นพริมก็แปลกใจ แจ๊คเองก็เช่นกัน
“ฉันถ่ายคลิปไว้หมดแล้ว ถ้าพงศ์เป็นอะไรไปพวกนายไม่รอดแน่ ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้” พริมชูมือถือให้ดูเพื่อยืนยันคำพูด แจ๊คกับสมุนมัวแต่มองเธอ พงศกรสะบัดตัวหลุดวิ่งหนีมาหาพริม พวกคนชั่วตั้งสติตามมารวบตัวทั้งคู่ไว้ พริมพยายามดิ้นหนีแต่สู้แรงผู้ชายไม่ได้ บุสกรค่อยๆย่องมาทางด้านหลังพร้อมกับไม้ในมือ จัดการฟาดพวกแจ๊คล้มกลิ้งล้มหงาย สั่งให้พริมพาพงศกรหนีไปก่อน เธอไม่รอช้ารีบประคองน้องชายออกไป
บุสกรที่เหลือเพียงคนเดียวไม่สามารถสู้ผู้ชายสามคนได้ ถูกจับตัวได้ในที่สุด แจ๊คเลวได้ใจคว้าเข็มมาฉีดยาเสพติดที่แขน บุสกรพยายามดิ้นหนีแต่ไม่เป็นผล
“ช่างหัวนังนี่ก่อน รีบไปจัดการสองคนนั่นก่อน เร็ว” แจ๊ควิ่งนำสมุนออกไปทิ้งบุสกรไว้ตรงนั้น...
พงศกรเริ่มขาขวิดเพราะฤทธิ์ของยาเสพติดพริมต้องช่วยพยุงพาไปซ่อนเพราะรู้ดีว่าสภาพเขาอย่างนี้ไม่มีทางหนีพ้น เขาเริ่มเพ้อร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวจะถูกฆ่า เธอต้องปลอบ
“ไม่ต้องกลัว ไม่มีใครฆ่านายได้” พริมว่าแล้วดึงพงศกรมากอดไว้ อึดใจเขาหมดสติ ทุกอย่างรอบตัวเงียบกริบจนพริมคิดว่าปลอดภัยแล้ว แต่อยู่ๆแจ๊คกระชากเธอออกจากที่ซ่อน พริมพยายามขอร้องอย่าทำร้ายเธอกับน้อง เขาไม่สนใจเงื้อมือจะตบสั่งสอนฐานมาวุ่นวาย ทันใดนั้นภูรีเข้ามาคว้ามือไว้แล้วถีบเขากระเด็น พริมเป็นอิสระรีบไปดูพงศกรที่หมดสติ แจ๊คกับภูรีต่อสู้กัน ขณะที่ภควัตรับบทหนัก ถูกสมุนของแจ๊คสองคนรุม
แรกๆแจ๊คกับพวกรับมือไหว แต่สุดท้ายถูกภูรีกับภควัตเล่นงานกระเจิดกระเจิง จากนั้นสองเพื่อนซี้ช่วยกันหิ้วปีกพงศกรออกจากที่ซ่อน บุสกรซึ่งเริ่มเมายาตามเข้ามาสมทบ ภูรีเร่งให้ทุกคนรีบไปจากตรงนี้ พริมช่วยประคองบุสกรตามพวกหนุ่มๆที่หิ้วปีกพงศกรออกไป
ooooooo
ไม่นานนักพงศกรถูกพามาไว้ที่บ้านของพริม บุสกรเริ่มหนักหัวเพราะฤทธิ์ยาต้องเอามือเท้าคางไว้ไม่ให้หัวทิ่ม พริมโทร.บอกวีรีให้บอกที่บ้านว่าพงศกรไปนอนค้างบ้านเพื่อนจะได้ไม่มีใครสงสัย
“ส่วนไอ้เพื่อนเลวพวกนั้น ผมคิดว่าต้องจัดการให้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพวกมันกลับมาเล่นงานพงศ์แน่”
ภูรีเห็นด้วยกับภควัต แต่คงต้องรอให้พงศกรฟื้นก่อน ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอาอย่างไร มีสายเข้ามาที่มือถือของบุสกร ทางมูลนิธิโทร.มาบอกว่ามีอุบัติเหตุ เธอขอตัวไปจัดการเรื่องนี้ก่อน ภควัตขอร้องจะไปช่วยคนอื่นช่วยดูสภาพตัวเองก่อนได้ไหม บุสกรโวยว่าเธอไม่ใช่เขาโดนอะไรกระทบใจหน่อยก็ง่อยกินทำอะไรไม่ได้ ผลักเขาพ้นทางแล้วเดินออกไป ภควัตเป็นห่วงอาสาจะไปเป็นเพื่อนแล้วลากแขนเธอไปขึ้นรถ...
อ่านละคร เสน่ห์รักนางซิน ตอนที่ 10 วันที่ 14 พ.ค.61
บทประพันธ์โดย จันทริกากำกับการแสดงโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ผลิตโดย บริษัท กู๊ด ฟิลลิ่ง จำกัด
ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ