อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 9 วันที่ 9 พ.ค.61

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 9 วันที่ 9 พ.ค.61

ทุกคนพูดถึงขันทองอย่างไม่อยากเชื่อว่าคนรูปงามและเป็นเกลอกันกับแน่นจะโหดร้ายถึงเพียงนี้ สั่งเฆี่ยนไม่พอยังเอาน้ำเกลือสาดอีก แมงเม่าเห็นใจเป้าที่ต้องมาฟังเรื่องเหล่านี้ให้สะเทือนใจอีก บอกให้เป้าไปพักเสีย ตนทำต่อให้เอง

แต่ขณะเป้าจะออกไปนั่นเอง เจ้าจอมอำพันก็เข้าครัวมาตามอาหาร ส่วนคุณท้าวโสภาเห็นเป้าก็กระหนาบว่าทำตัวให้งามอย่าให้มีเรื่องติฉินนินทามาถึงตนเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นเราขาดกัน แมงเม่าเห็นเป้าถูกว่าอย่างไม่เป็นธรรมก็จะเถียง ถูกเจ้าจอมอำพันปรามว่า เสด็จพระองค์หญิงทรงสอนไว้ว่าอย่างไร จึงเงียบระงับอารมณ์หันไปทำอาหารต่อ

ออกจากห้องครัวแล้ว แมงเม่าเดินไปทางอ่างแก้วเห็นขันทองยืนหน้าเศร้าก็ขวางหูขวางตา เข้าไปถามว่า ได้ยินว่าสั่งเฆี่ยนท่านขุนจิตใจภักดิ์จนหลังแทบขาดจริงหรือไม่ พอขันทองหันมองก็ถามว่า



“มองกระไรเจ้าคะ หรือแทงใจดำ ฉันเคยคิดว่าออกพระกับท่านขุนเป็นเกลอกันเสียอีก เพิ่งมารู้ประเดี๋ยวนี้เองว่าไม่ใช่...มิตรเดือดร้อนก็ต้องหาทางช่วยเหลือกันเท่าที่จะทำได้ถึงจะเรียกว่ามิตร นี่กระไร กลับซ้ำเติมกันได้ เห็นทีฉันต้องระวังตัวเสียบ้างแล้ว”

ขันทองมองแมงเม่านิ่ง ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาเป็นสาย แมงเม่าตกใจหน้าซีดรู้ทันทีว่าขันทองเสียใจมากขนาดไหน เมื่อขันทองเดินหนีจึงตามพลางเอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้สารภาพว่า

“ครั้งนี้ฉันผิดนัก พูดโดยไม่รู้ความจริง ไม่กล้าขอประทานโทษจากออกพระดอกเจ้าค่ะ แต่หากออกพระอยากร้องไห้ก็ร้องมาเถิด ฉันจะไม่บอกผู้ใดแลจะคอยซับน้ำตาให้ออกพระเอง”

ขันทองมองแมงเม่าอย่างซาบซึ้งเกือบเผลอใจกอดแมงเม่าและร้องไห้ออกมาอย่างที่ใจอยากร้อง แต่หน้าที่ในใจสั่งห้ามความรู้สึกไว้ ได้แต่มองแมงเม่าแล้วเบี่ยงตัวเดินจากไป

แมงเม่ากำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น เข้าใจและเห็นใจขันทองอย่างที่สุดและมั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนโหดร้ายอย่างที่คนอื่นนินทากัน วิ่งตามไปขวางหน้าขันทอง ฉีกยิ้มให้ทั้งที่หัวใจอยากร้องไห้

ขันทองบอกว่าตนดีขึ้นแล้ว ให้แมงเม่ากลับไปเสียเดี๋ยวตำหนักเรียกหาขึ้นมาจะถูกตำหนิเอาได้ แมงเม่าถามว่าไม่พักสักหน่อยหรือ งานราชการไม่มีกระไรมากให้คนอื่นทำแทนก็ได้กระมัง

“อย่าเลย หน้าที่ของฉัน ฉันก็ควรทำเอง ไม่ใช่ผลักให้ผู้อื่น แลทำงานให้หนักเข้าไว้จะได้ไม่ต้องจมอยู่กับความทุกข์ด้วย”

แมงเม่ามองขันทองอย่างเข้าใจห่วงใย บอกว่าหากไม่สบายใจก็บอกตนได้ ขันทองถามว่าจะอยู่เป็นเพื่อนตนหรือ แมงเม่าทำหน้าตายบอกว่าจะไปตามออกญาวังมาอยู่เป็นเพื่อน ออกพระเห็นออกญาวังแล้วจะได้มีความสุขได้ พอขันทองชักสีหน้าไม่พอใจแมงเม่าก็หัวเราะทะเล้นบอกว่าตนเย้าเล่นเพราะอยากเห็นคุณพระยิ้มแย้มมากกว่าอมทุกข์

ขันทองเลยฉีกยิ้มแล้วหุบทันทีถามว่าตนยิ้มให้ดูแล้วพอใจแล้วกระมัง พอใจแล้วก็รีบไปเสีย หากโดนทางตำหนักตำหนิจะมาโทษตนไม่ได้นะ

“ไปก็ได้เจ้าค่ะ” แมงเม่านึกได้ว่าเถลไถลมานานแล้ว ยกมือไหว้ลาทิ่มพรวดแล้วรีบเลี่ยงไป เดินแทบจะเป็นวิ่ง ทั้งต้องสำรวมกิริยาแบบนางกำนัลทั้งรีบ จนดูกระโดกกระเดกน่าขำ

ขันทองมองแล้วยิ้มออกมาส่ายหน้าเบาๆ นับวันความรู้สึกกับแมงเม่าก็เอ็นดูและผูกพันมากขึ้นทุกที...

ooooooo

เย็นนี้ขุนรักษ์เทวาเข้าไปทายาหลังที่ถูกเฆี่ยนจนแตกยับเยินให้แน่น มีขุนเทพชำนาญกับขุนเทพรักษานอนเจ็บสาหัสเพราะแผลพุพองจากไฟไหม้ โดยพระยากำแหงยืนดูอยู่ห่างๆด้วยความสังเวชใจ

ขุนรักษ์เทวาบ่นไม่พอใจว่าท่านเจ้าคุณอุตส่าห์จะรับหน้าให้แล้วยังไม่ลดหย่อนผ่อนโทษลงบ้าง น่าจะเห็นว่าเคยคบหากันเสียหน่อย นี่กระไร แน่นยังมีสติรู้สึกตัว พูดทั้งที่เจ็บหนักว่า

“อย่าตำหนิออกพระศรีเลยขอรับ ออกพระทำตามหน้าที่” พระยากำแหงเลยถามจับพิรุธว่าเขาทำถึงขนาดนี้ไม่คิดแค้นบ้างเลยรึ แน่นตอบอย่างยากลำบากเพราะเจ็บหนักว่า “กระผมใกล้ตายแล้ว แค้นเคืองไปจะมีประโยชน์อันใด แลกระผมก็เป็นฝ่ายผิด ยังควรแค้นอีกหรือขอรับ”

ขุนเทพชำนาญพูดอาฆาตจองเวรแน่นทั้งที่สั่นเพราะพิษไข้ ส่วนขุนเทพรักษาร้องไห้ถามพระยากำแหงว่าเมื่อลงโทษตนเสร็จก็จะตัดหัวเลยใช่หรือไม่ ร้องไห้คร่ำครวญว่าตนยังไม่อยากตาย...

ขณะนั้นเองมีทหารเข้ามาคุกเข่ารายงานว่า

“ท่านเจ้าคุณพลเทพให้มาตามท่านเจ้าคุณไปพบขอรับ บอกต้องการปรึกษาเรื่องการสำเร็จโทษวันพรุ่งนี้ขอรับ”

ขุนเทพรักษาได้ยินก็ร้องไห้โฮด้วยความหวาดกลัว ขุนเทพชำนาญตัวสั่นเทากลัวไม่แพ้กัน แต่แน่นรับฟังอย่างสงบ ค่อยๆหลับตาลงอย่างปล่อยวางทุกอย่างได้แล้ว...

ooooooo

ขันทองเดินซึมๆกลับถึงเรือนในตอนกลางคืน ก็ถูกหลวงศรีมะโนราชที่ซุ่มอยู่โผล่พรวดเข้าใช้ไม้ตีที่ศีรษะเต็มแรง แต่ขันทองหลบทันจึงเฉี่ยวถูกหัวคิ้วเล็กน้อย ขันทองถามว่าเหตุใดจึงลอบทำร้ายกันเช่นนี้

หลวงศรีมะโนราชในสภาพที่เมามายตะโกนอย่างโกรธแค้นว่า “กูจะฆ่ามึงให้ตาย อ้ายเจ้าเล่ห์ร้อยลิ้น”

แต่พอเงื้อไม้จะฟาดอีกก็ถูกมือหนึ่งจากข้างหลังจับข้อมือไว้ พระยากำแหงนั่นเอง!

หลวงศรีมะโนราชโวยวายว่าท่านเจ้าคุณห้ามตนทำไม ตนจะฆ่ามันให้ตายตกไปตามกัน แต่ถูกพระยากำแหงบิดข้อมือจนไม้หลุดจากมือและสั่งทหารให้เอาตัวหลวงศรีมะโนราชไปคุมขังไว้ก่อนเดี๋ยวตนจะกลับไปตัดสินโทษเอง

ขันทองพยายามช่วย บอกพระยากำแหงว่าหลวงศรีมะโนราชเมามากทำไปเพราะฤทธิ์สุราและเจ็บแค้นเรื่องขุนชำนาญกับขุนเทพรักษา ขอท่านเจ้าคุณเมตตา แค่คุมตัวไว้ก็พอ อย่าถึงขั้นลงโทษเลย

“ข้อนี้ฉันจะตัดสินเอง ไม่ใช่หน้าที่ของคุณพระ” พระยากำแหงตัดบทแล้วสั่งทหาร “เอาตัวไป”

พระยากำแหงมองแผลที่หัวคิ้วของขันทองอย่างเป็นห่วง ตามไปทำแผลให้ถึงเรือน เตือนขันทองว่า

“อย่างไรก็ระวังด้วย เรื่องครานี้มีคนโกรธแค้นคุณพระไม่น้อย อาจมีเหตุอื่นอีกก็เป็นได้” ขันทองรับคำ ถามว่าคุณพระมาหาตนมีกระไรหรือ พระยากำแหงหน้าเครียดบอกว่า “ฉันรับคำสั่งท่านเจ้าคุณพลเทพให้มาแจ้งคุณพระเรื่องการสำเร็จโทษท่านขุนทั้งสามพรุ่งนี้”

ขันทองเครียดแต่รีบปรับสีหน้าให้เรียบเฉย บอกว่าสำเร็จโทษเมื่อใดตนจะไปรับศพมาจัดการตามประเพณีเอง ท่านเจ้าคุณไม่ต้องห่วง

“มันไม่ใช่แค่นี้น่ะซี...ท่านเจ้าคุณพลเทพต้องการให้คุณพระคุมการประหารด้วยตัวเอง” ขันทองผงะ พระยากำแหงบ่นว่า “ฉันไม่เข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดต้องให้ฝ่ายในทำหน้าที่นี้ด้วย”

แม้พระยากำแหงจะพูดเช่นนั้นแต่ก็สังเกตขันทองตาไม่กะพริบเพราะยังสงสัยในตัวขันทองอยู่

เช้าวันรุ่งขึ้น สามขุนผู้ต้องโทษประหารถูกคุมตัวออกจากคุกเพื่อนำตัวมามอบให้ขันทองที่ยืนรออยู่ ขันทองบอกทหารให้ค้นตัวขุนเทพชำนาญกับขุนเทพรักษา ตนจะค้นตัวขุนจิตใจภักดิ์เอง ขณะเข้าค้นตัว ขันทองกระซิบบอกแน่นว่า “ระหว่างพาเอ็งประจานทางน้ำ ข้าจะหาทางช่วยเอ็งเอง แข็งใจหน่อยเถิด”

ทันใดนั้นขุนแผลงฤทธิ์เดินเข้ามา ทหารถามว่าท่านขุนมีกิจอันใดหรือขอรับ ขุนแผลงฤทธิ์ตอบด้วยเสียงอันดังว่า ตนได้รับคำสั่งจากออกญาพลเทพให้มาช่วยออกพระศรีคุมตัวนักโทษไปประหาร

ขันทองเครียดทันที แน่นกระซิบบอกขันทองว่าอย่าทำอะไรอีกเลย ลำพังขุนแผลงฤทธิ์คนเดียวก็ยากจะรับมือแล้ว จะพาตนที่เจ็บปางตายฝ่าวงล้อมทหารออกไปได้อย่างไร มีแต่จะตายเสียทั้งคู่

“เร่งค้นตัวหน่อยเถิดออกพระศรี ประเดี๋ยวจะไม่ทันฤกษ์ประหาร” ขุนแผลงฤทธิ์เร่งเสียงดังเยาะในที

แน่นจับมือขันทองบีบให้ตัดใจ ขันทองมองหน้าแน่นนิ่งแต่หัวใจเจ็บปวดสาหัสที่ช่วยอะไรเพื่อนไม่ได้

ooooooo

เป้านั่งซึมเศร้าอยู่ที่มุมหนึ่งในตำหนักกรมขุนวิมล แมงเม่าเข้ามาบอกว่าขุนจิตใจภักดิ์กำลังจะถูกพาตัวไป หากไปตอนนี้ก็ยังพอทันเห็นหน้ากัน เป้าถามว่าเห็นแล้วจะได้กระไร มีแต่ทุกข์ใจเพิ่มขึ้นเท่านั้น

แมงเม่าถามว่าหรือยังถือโทษโกรธเคืองที่ขุนจิตใจภักดิ์พูดเมื่อวันก่อน เป้าน้ำตาคลอบอกว่า

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 9 วันที่ 9 พ.ค.61

ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ