อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 4 วันที่ 26 เม.ย.61

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 4 วันที่ 26 เม.ย.61

ขันทองเมายาไม่อาจช่วยตัวเองได้แต่ยังพอขยับได้บ้าง ออกพระราชาข่านรอให้ยาออกฤทธิ์เต็มที่เพื่อขันทองจะได้เจ็บน้อยลง ขันทองรวบรวมกำลังพยายามร้องบอก “อย่า!”

“ยังพูดได้อีกรึ คนที่กินยาตำรับนี้ไปแม้กระดิกนิ้วยังทำไม่ได้ แต่เอ็งกลับเปล่งเสียงเป็นคำได้ ช่างมีใจสู้นัก” ออกพระพูดพลางเอามีดสั้นคมกริบออกมาลนไฟ บอกว่า “ข้าเตรียมการไว้หมดแล้ว หลังจากความเป็นชายของเอ็งสิ้นไป ข้าจะบอกทุกคนว่าเอ็งเป็นไข้ป่าหนักแลรีบพาเอ็งกลับไปรักษาตัวที่อโยธยา ไม่นานเอ็งก็จะหายเหมือนเดิม”

ออกพระราชาข่านเอามีดลนไฟสักพักก็เดินกลับมาหาขันทอง



“อย่าโกรธเคืองข้าเลยนะ เพราะข้าไม่ได้ทำร้ายเอ็ง ข้ารับเงินทองของเอ็งมาก็ช่วยเหลือเอ็งให้เข้ามาในวังตามที่รับปาก แลเพลานี้ข้ากำลังช่วยเอ็ง เมื่อใดที่ข้าสะบั้นความเป็นชายของเอ็ง เอ็งก็จะอยู่ในวังได้นานเท่านาน แลข้าก็ไม่ต้องกังวลว่าผู้ใดจะล่วงรู้ความลับอีกต่อไป”

ooooooo

บริเวณกระโจมที่แมงเม่าอยู่เหลือข้าหลวงอยู่ไม่กี่คนเพราะส่วนใหญ่ต้องไปรับเสด็จ แมงเม่าคุยกับเป้าอยู่เห็นแน่นกับขุนรักษ์เทวาเดินคุยกันมาว่าจะไปดูสัตว์เพราะออกป่ามายังไม่เห็นสัตว์สักตัว

แมงเม่าหูผึ่งขอไปด้วย ออดอ้อนจนขุนรักษ์เทวากับแน่นใจอ่อนยอมให้ไป

เข้าป่าไปซุ่มอยู่ค่อนคืน แมงเม่าบ่นว่าเห็นมีแต่นกกระจิบกระจอกไม่ได้ต่างจากที่เรือนเลย

ทันใดนั้น มีเสียงช้างร้องอย่างบ้าคลั่งดังไปทั่วพร้อมกับเสียงช้างบุกทำลายกระโจมพังระเนระนาด

ออกพระราชาข่านกำลังจะลงมือเฉือนความเป็นชายของขันทองชะงักตกใจเสียงช้างคลั่ง กลัวตาย จึงหนีออกไปนอกกระโจมและถูกช้างจับเหวี่ยงกระแทกอย่างแรงมีดหลุดจากมือเจ็บหนักถูกช้างเหยียบซ้ำ จนเมื่อขันทองพยายามลุกออกมาดูก็พบว่าออกพระราชาข่านตายแล้ว

พวกแมงเม่าซุ่มอยู่ในป่าได้ยินเสียงช้างคลั่งอาละวาด แมงเม่าเป็นห่วงกรมขุนวิมลละล้าละลังว่าจะทำอย่างไรดีในที่สุดตัดสินใจวิ่งกลับไป ทหารที่เอายาให้ช้างกินตามมาซุ่มดูเพื่อฆ่าแมงเม่าแต่เห็นผู้คนยังพลุกพล่านจึงรอจังหวะ

ฝ่ายเจ้าจอมเพ็ญได้ยินเสียงช้างคลั่งก็ตกใจ เลื่อนพยายามพาหนี แต่เจ้าจอมเพ็ญก็แท้งเสียก่อน

แมงเม่าวิ่งกลับมาเจอขันทองจึงวิ่งเข้าไปจะช่วย เห็นทหารสองคนจึงเอ่ยขอแรงให้ช่วยประคองขันทอง มันทั้งสองเดินเข้าหาแมงเม่าบอกกันว่า “ถึงจะมีคนอื่นอยู่ ก็คงต้องลงมือแล้ว” พลางชักดาบออกมา

“หนีไป มันจะฆ่าเอ็ง” ขันทองร้องบอกแมงเม่า ก็พอดีทหารทั้งสองฟันดาบลงมาแต่แมงเม่าหลบได้ทัน หันไปคว้าไม้ใกล้มือสู้แต่ไม้หรือจะสู้ดาบ ขันทองเห็นดังนั้นจึงพยายามคลานไปหยิบมีดสั้นของออกพระราชาข่านที่หล่นอยู่เข้าไปปักใส่หลังเท้าทหารคนหนึ่ง มันร้องลั่นพยายามดึงมีดออก

ทหารอีกคนหันมองเพื่อน แมงเม่าได้ทีเตะเข้าหว่างขามันจังๆจนมันทรุด

“หนีเจ้าค่ะคุณหลวง” แมงเม่าร้องบอกวิ่งเข้าประคองขันทองพาหนีไป

ooooooo

แม้จะเหนื่อยอ่อนเพราะฤทธิ์ยาแต่ขันทองก็พยายามตั้งสติบอกให้แมงเม่าทำตามที่ตนแนะเพื่อสู้กับทหารทั้งสองที่ตามมา ขันทองบอกให้แมงเม่าหนีไปก่อนแต่แมงเม่าบอกว่าถ้าจะตายก็ตายด้วยกัน

ขันทองสอนให้แมงเม่าทำกับดักอย่างง่ายเพื่อดักเล่นงานทหารทั้งสองแล้วก็นั่งพิงต้นไม้อย่างกับคนตายรอเวลา ขันทองบอกแมงเม่าว่าประมาทไม่ได้เพราะทหารทั้งสองผ่านการสู้รบมาไม่น้อยหากมีพิรุธจะเสียแผน เมื่อทหารทั้งสองตามมาเห็นขันทองกับแมงเม่ามัน

หยุดมองอย่างระแวง

“หนี!” ขันทองตะโกนขึ้น แมงเม่าวิ่งตามไปทันที ทหารผลีผลามวิ่งตามจึงถูกไม้แหลมที่ซ่อนในพุ่มไม้

พุ่งแทงตายทันทีคนหนึ่ง อีกคนพยายามวิ่งตามถูกขันทองพุ่งไม้แหลมปักเข้ากลางอกตายคาที่

พอกำจัดศัตรูทั้งสองได้ ขันทองก็หมดสติ แมงเม่าตกใจพุ่งเข้าประคองเรียก

“คุณหลวง...คุณหลวง!”

ooooooo

หลังเหตุการณ์สงบ ควาญควบคุมช้างได้แล้ว มีแต่ความพังพินาศของกระโจมและข้าวของที่ถูกช้างทำลาย แน่นรายงานกรมขุนวิมลว่า

“พวกควาญได้ควบคุมช้างทุกเชือกจนหมดสิ้น แต่เพลานี้ยังไม่รู้แน่ว่าเกิดกระไรขึ้นกระหม่อม ที่รู้ก็มีคนบาดเจ็บยี่สิบเจ็ดคน แลเสียชีวิตหนึ่งคนคือออกพระราชาข่าน ส่วนข้าวของที่เสียหายคงต้องตรวจดูอีกทีกระหม่อม”

“ข้าวของนอกกายช่างมันเถิด แต่ต้องมาเสียคุณพระราชาข่านไป ฉันเสียใจนัก คุณพระถวายกายรับใช้มาหลายสิบปีไม่บังควรต้องมาตายเช่นนี้เลย”

ขณะนั้นเองเป้าเข้ามารายงานกรมขุนวิมลว่าไม่พบเห็นแมงเม่าเลยและก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นด้วย

คุณท้าวโสภาบอกว่าพระพุทธเจ้าอยู่หัวจะเสด็จกลับแล้ว คงต้องให้ทางนี้อยู่หาแมงเม่าแทนไปก่อน

“จะเสด็จกลับแล้วหรือเจ้าคุณท้าว ทำไมรวดเร็วนักเล่า เพิ่งจะพ้นความวุ่นวายไปแท้ๆ ยังมีอีกหลายสิ่ง

ไม่เรียบร้อยเลย” แน่นแปลกใจ

กรมขุนวิมลหน้าเครียดขึ้นมา ขณะที่เจ้าจอมอำพันกลับยิ้มเยาะเอ่ยว่า

“ฉันไม่อยากพูดมาก เกรงจะบาปเสียเปล่าๆ

แต่ของอย่างนี้มันอยู่ที่บุญวาสนาจริงๆ” ถูกกรมขุนวิมลเรียกปรามเจ้าจอมอำพันจึงเงียบ จ๋อย ไม่กล้าพูดอะไรอีก ทำให้แน่นยิ่งงง แต่เป้าก็ตอบไปว่า

“คืออย่างนี้เจ้าค่ะท่านขุน ที่ต้องรีบเสด็จกลับ ก็เพราะเจ้าจอมเพ็ญท่าน...เอ่อ...ท่านแท้งหน่อพระพุทธเจ้าค่ะ”

แน่นตกใจมากคิดไม่ถึงว่าเจ้าจอมเพ็ญจะแท้ง

ooooooo

เจ้าจอมเพ็ญเสียใจที่แท้งลูก ตวาดไล่หมอที่มารักษาออกไปจากกระโจมแล้วจิกทุบหมอนระบายอารมณ์ จนเลื่อนที่เข้าไปปลอบให้กำลังใจก็ยังต้องถอยไปด้วยความหวั่นกลัว

หลวงศรีมะโนราชมาถึงก็ตะคอกขุนรักษ์เทวากับหมอที่ออกจากกระโจมว่าดูแลเจ้าจอมอย่างไรถึงปล่อยให้หน่อพระพุทธเจ้ามีอันตรายได้ ถ้ารู้ว่าเป็นเช่นนี้ก็จะดูแลเจ้าจอมท่านเอง แล้วมองกราดถามว่าหลวงศรีขันทินกับขุนจิตใจภักดิ์อยู่ไหน เหตุใดจึงไม่อยู่รอรับใช้เจ้าจอมท่าน

ขุนเทพรักษายิ้มเยาะว่ามาถึงก็โยนบาปให้คนอื่น คุณหลวงเองมิใช่รึที่อยากตามเสด็จจนตัวสั่นพอเกิดเรื่องก็โทษกัน ถูกขุนเทพชำนาญขู่ว่ากล้าเถียงอีกรึ เงาหัวจะมีหรือไม่ยังไม่รู้เลยยังทำปากดีอีก

“ก็เอาซี้ ฉันหาใช่หลวงศรีขันทินไม่ จะได้สงบปากสงบคำ ผิดนักก็แจงสี่เบี้ยกันเป็นไร ช้างมันคลั่งขึ้นมาเอง แลไม่มีใครบอกพวกฉันว่าเจ้าจอมท่านไม่ได้ไปรับเสด็จ ข้อนี้เป็นความผิดฉันกระนั้นรึ...จะใส่ความคนอื่นทั้งทีก็ใช้ข้อหาที่ฉลาดกว่านี้หน่อยเถิด” ขุนเทพรักษาแว้ดใส่อย่างไม่หวั่นเกรง

ขุนเทพรักษายังว่าขุนรักษ์เทวาผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ยุหลวงศรีมะโนราชว่าอย่างนี้ต้องฟ้องออกพระราชาข่าน จึงรู้จากขุนรักษ์เทวาว่าออกพระราชาข่านสิ้นบุญแล้วเพราะถูกช้างคลั่งทำร้าย

แม้หลวงศรีมะโนราชจะตกใจกับสิ่งที่ได้ยินแต่แล้วก็ยิ้มในหน้าด้วยความดีใจ เพราะออกพระราชาข่านตายคนที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าขันทีคนใหม่ก็ไม่พ้นตนแน่

ooooooo

ที่อีกมุมหนึ่งในป่า แมงเม่าจุดกองไฟเล็กๆ

ผิงไฟไล่ความหนาวเหน็บ ขันทองที่นอนอยู่ใกล้ๆ

เพิ่งรู้สึกตัวถามแมงเม่าว่าศพทหารสองคนนั้นเล่า

แมงเม่าบอกว่าอยู่ที่เดิม ตนจะพาคุณหลวงกลับค่ายก็พาไปไม่ไหว จะอยู่ใกล้ศพนั่นก็ไม่กล้าจึงพามาพักที่นี่ก่อน พลางเอื้อมไปจับมือขันทองแล้วไล่เรื่อยมาถึงซอกคอว่ามีไข้หรือไม่

ขันทองที่บวชมาตลอด พอสึกออกมาก็มาเป็นสายลับไม่เคยใกล้ชิดหญิงขนาดนี้ พยายามปรับอารมณ์ ถามว่ากองไฟนั่นก่อเองรึ ไม่เคยเห็นหญิงผู้ดีคนใดทำเช่นนี้มาก่อน

“เรียกฉันว่าเป็นผู้ดีก็กระดากเหลือเกินเจ้าค่ะ อันที่จริงฉันก็เป็นไพร่คนหนึ่ง เพียงแต่พ่อฉันร่ำรวยเท่านั้นเอง เรื่องก่อไฟไม่ว่าลูกไพร่คนใดวิ่งเข้าออกครัวแต่เล็กก็ทำได้ทุกคนล่ะเจ้าค่ะ”

ขันทองยิ้มรู้สึกดีที่แมงเม่ามีน้ำใจและเข้มแข็ง แต่พอแมงเม่าถามว่ายิ้มกระไรก็เร่งให้นอนเสียพรุ่งนี้เช้าจะพากลับค่าย แมงเม่าบอกว่าตนไม่อาจข่มตาหลับได้เพราะวันนี้เจอเรื่องเฉียดตายมาทั้งวัน อ้อนว่า

“คุณหลวงเล่าเรื่องกระไรให้ฉันฟังก็ได้ค่ะ ฟังพอเพลินๆฉันจะได้นอนหลับ เหมือนตอนฉันเด็กๆ เพลาที่ฉันโยเยไม่ยอมนอน น้าชื่นจะเล่านิทานให้ฉันฟัง ฟังไม่ทันจบก็หลับไปก่อนทุกทีเลยเจ้าค่ะ”

ขันทองงงถามว่าจะให้คนอย่างตนเล่านิทานหรือ แมงเม่ามองตาแป๋วอ้อน

“นะเจ้าคะ เมตตาเด็กนอนไม่หลับด้วยเถิดเจ้าค่ะ”

ขันทองคิดหนักว่าจะเล่าอะไรดีแล้วก็หน้าขรึมลงเมื่อนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้...

ooooooo

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 4 วันที่ 26 เม.ย.61

ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ