อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 2 วันที่ 17 เม.ย.61

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 2 วันที่ 17 เม.ย.61

คืนนี้...ขันทองในชุดดำรัดกุมพาแน่นไปยืนที่ประตูผี แน่นกลัวผีจนตัวสั่นถามว่าจะบ้าหรือพาตนมาที่นี่ทำไม ขันทองยิ้มแล้วเดินไปที่พุ่มไม้เอากิ่งไม้ออก เห็นทางแคบๆอยู่ข้างใต้

ขันทองมาออกทางประตูผีที่ไม่มีใครกล้ามากันและเข้าทางท่อระบายน้ำออกไปสู่คลองข้างนอกได้โดยง่าย บอกแน่นว่าคงพาไปด้วยไม่ได้ให้แน่นกลับไปที่เรือน อำพรางให้ตนด้วยอย่าให้ใครจับได้ แล้วลงในท่อระบายน้ำทันที ทิ้งให้แน่นยืนกลัวทั้งผีและคนจนตัวสั่น ก่อนตัดสินใจวิ่งอ้าวกลับไป

ขันทองไปหาสับปะเหร่อที่กระท่อมกลางป่า เอามีดจี้ข้างหลังไม่ให้เห็นหน้าตน บอกว่า



“ข้าไม่ทำร้ายเอ็งดอก แลยังจะมีเบี้ยในถุงนั่นแก่เอ็งด้วย ขอเพียงเอ็งตอบคำถามข้าเท่านั้น” ขันทองถามว่า “เอ็งคือสับปะเหร่ออิ่มใช่หรือไม่” สับปะเหร่อตอบว่าใช่ ขันทองบอกว่า “ข้าอยากรู้เรื่องคุณท้าวสาลิกาที่จมน้ำตายเมื่อสิบปีก่อน”

สับปะเหร่ออิ่มปฏิเสธพัลวันว่าตนไม่รู้กระไรทั้งสิ้น ขันทองเอามีดกดหลังแรงขึ้น เสียงเข้มว่า

“อย่าปด เอ็งเป็นสับปะเหร่อมีหน้าที่ตรวจตราศพ ข้าเพียงแต่ต้องการรู้ว่าคุณท้าวสาลิกาฆ่าตัวตายจริงหรือไม่” ขันทองกดมีดซ้ำเข้าไปอีก

ในที่สุดสับปะเหร่ออิ่มก็บอกว่าไม่จริง เพราะตนพบรอยช้ำที่คอแสดงว่ามีคนบีบคอแลจับกดน้ำจนตาย แต่มีคนขู่ตนมิให้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ตนจึงต้องบอกว่าฆ่าตัวตาย ขันทองถามว่าผู้ใดขู่ สับปะเหร่ออิ่มเสียงสั่นสาบานว่าตนไม่รู้จริงๆ เรื่องเช่นนี้รู้ยิ่งน้อยยิ่งดีถ้าทำได้ตนไม่อยากรู้กระไรเลยด้วยซ้ำไป

สับปะหร่อเห็นขันทองเงียบ ถามว่าพ่อคุณอยากรู้อะไรอีก แต่ไม่มีเสียงตอบ พอหันมองก็ไม่เห็นใครแล้วรีบหันไปคว้าถุงเงินวิ่งเข้ากระท่อมไปด้วยความหวาดกลัว

ooooooo

ฝ่ายกล้าสู้ม่วงไม่ได้หนีไปพึ่งบารมีจมื่นศรี-สรรักษ์ขอยืมทหารไปเล่นงานม่วง จมื่นศรีสรรักษ์ไม่ช่วยแต่พอกล้าเสนอจะยกค่าอากรบ่อนเบี้ยเดือนนี้ให้ จมื่นศรีสรรักษ์ก็ยิ้มเจ้าเล่ห์

คืนนี้กล้าจึงนำกำลังทหารของจมื่นศรีสรรักษ์ไปดักเล่นงานม่วงที่กลับจากโรงรับชำเรา ม่วงกับพวกไม่รู้ว่าเป็นกำลังฝ่ายใด แต่ก็สู้จนลูกน้องถูกทำร้ายไปทีละคนสองคน จังหวะหนึ่งกล้าเตะม่วงล้มลงและเงื้อดาบกะฟันให้ตายในดาบเดียว

ขันทองมาเห็นเหตุการณ์ไม่ชอบพฤติกรรมหมาลอบกัดของกล้าจึงเข้าช่วยม่วง ขันทองปามีดสั้นปักไปที่หัวไหล่กล้าอย่างแม่นยำจนกล้าร้องลั่นผงะถอยออกมา พวกลูกน้องเห็นดังนั้นก็ตกใจ ขันทองตะโกนสั่งลูกน้อง

“พวกมันอยู่นั่น ล้อมเอาไว้แล้วฆ่าเสียให้หมด”

พวกทหารตกใจเลยพากล้าที่บาดเจ็บหนีไป ม่วงแปลกใจมองไปรอบๆไม่เห็นมีใครล้อมเข้ามาสักคน

หลังจากขันทองช่วยม่วงและตะโกนขู่จนพวกกล้าล่าถอยไปแล้ว ก็เร้นกายไปทางอื่นด้วยไม่อยากให้ใครเห็น

แมงเม่าเห็นสภาพม่วงกลับมาตอนเช้าก็ตกใจถามว่าเกิดอะไรขึ้น บ่าวบอกว่าพี่ถูกลอบทำร้ายถึงขั้นจะฆ่าแกงกันเชียวรึ เช่นนี้คงไม่ใช่โจรทั่วไปดอก ม่วงบอกว่าเมื่อหัวค่ำมีเรื่องกับกล้า กล้าจึงเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด

ชื่นตกใจถามว่าครานี้มีเรื่องอะไรกันหรือ ม่วงอึกอัก มิ่งคาดคั้นให้บอกมาว่ามีเรื่องอะไรกัน ม่วงจำต้องรับว่า

“ฉันไปที่โรงรับชำเรามา อ้ายกล้ามันตัดหน้าหญิงที่ฉันจับจองไว้ ก็เลยชกต่อยกันจ้ะ”

ทุกคนตกใจเมื่อรู้ว่าม่วงไปที่โรงรับชำเรา ชื่น ตำหนิว่า

“เมียก็มีทั้งคน ยังจะไปที่สกปรกอีก”

ม่วงอึกอักพูดไม่ออก หันไปมองอิน อินก็กระอัก กระอ่วน ต่างอยู่ในสภาพน้ำท่วมปากพูดไม่ออก

แมงเม่ามองอาการของทั้งสองที่มองหน้ากันนิ่งก็ยิ่งติดใจสงสัย...

ooooooo

ม่วงโดนมิ่งกับชื่นด่าเรื่องไปเที่ยวโรงรับชำเรา เดินเซ็งเข้าข้างใน อินตามมาขออภัยที่ม่วงต้องไปโรงรับชำเราเพราะตนเป็นต้นเหตุ และขอบพระคุณที่ม่วงมิได้บอกเรื่องนี้แก่พ่อกับแม่ สาบานว่าสิ่งที่ตนพูดเรื่องผีพี่อิ่มหึงหวงนั้นเป็นความจริง

ม่วงตัดบทว่าไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาอ้าง เมื่ออินไม่รักไม่อยากหลับนอนกับตนอย่างผัวเมียก็ไม่ต้องฝืนใจดอก พูดแล้วเดินไปเลย แมงเม่าแอบได้ยินทั้งสองคุยกันก็เข้าใจและเห็นใจทั้งสองฝ่าย รู้แล้วยิ่งไม่สบายใจ

ฝ่ายแน่นตกใจเมื่อได้ฟังจากขันทองว่าคุณท้าวถูกฆ่าจริงๆ ขันทองบอกว่าพ่อก็สงสัยเพราะเชื่อว่าคนอย่างแม่ไม่มีวันฆ่าตัวตายเป็นอันขาด แน่นสงสัยว่าใครกันกล้าฆ่าแม่เขาที่เป็นถึงคุณท้าวมีศักดิ์สูงในฝ่ายใน ขันทองเชื่อว่าต้องเกี่ยวข้องกับคดีความของแม่เป็นแน่ คนฆ่าคงต้องการ...

ขันทองหยุดกึกเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงในฝ่ายในร้องด้วยความเจ็บปวดจึงรีบไปดูที่สวนในวัง เห็นหลวงศรีมะโนราชกำลังใช้หวายเฆี่ยนทาสที่ถูกนำมารับใช้ในวังโดยมีขุนเทพชำนาญกับขุนเทพรักษายืนดูอย่างสะใจ

“หยุดประเดี๋ยวนี้” ขันทองไม่พอใจมาก ถูกขุนเทพชำนาญตวาดว่าโกงการกระไรของท่าน อีนี่เป็นทาสของตน ตนจะทำกระไรกับมันก็ได้ ขันทองโต้ทันทีว่า “แต่ที่นี่เป็นเขตพระราชฐาน ควรรึที่จะมีการเฆี่ยนตีกันให้ระคายเคืองคุณข้างใน หรือท่านขุนจะต้องรอให้ถูกตำหนิก่อน”

ออกพระราชาข่านเดินออกมาเห็นหยุดมองด้วยความสนใจ หลวงศรีมะโนราชโต้ขันทองว่าไม่ต้องเอาคุณข้างในมาอ้าง ตนต้องสั่งสอนตามธรรมเนียมเพราะอีทาสมันทำผิดยกน้ำชามาให้ตนแต่กลับทำหกเลอะเทอะคงไม่มีใครว่าตนทำไม่ถูกดอก

แน่นโต้ว่าแม้ตนจะเข้าวังมาหลังออกหลวงท่านแต่ไม่เคยได้ฟังธรรมเนียมเช่นนี้มาก่อน ออกหลวงคงเพิ่งตั้งธรรมเนียนนี้ขึ้นมาเองกระมัง ขุนเทพรักษาชี้หน้าด่าว่าเป็นแค่ขี้ข้าปลายแถวมิรู้จักที่ต่ำที่สูง

“ข้ารับใช้ปลายแถวกับข้ารับใช้หัวแถวมัน

ต่างกันอย่างไร วานท่านขุนช่วยสอนฉันหน่อยเถิด” แน่นยั่ว

ไม่มีใครตอบโต้ แต่หลวงศรีมะโนราชกลับเฆี่ยนเยื้อนหนักกว่าเก่าอีก ขันทองโมโหจะเข้าไปช่วยก็กลัวกระเทือนงานของตน ฉุกคิดได้หันพูดกับแน่นเสียงดังว่า

“ท่านขุน ดีฉันจำได้ว่า วันนี้เจ้าจอมเพ็ญท่านถือศีล หากมีการเฆี่ยนตี เลือดตกยางออกในวันมงคลเช่นนี้ ท่านขุนคิดว่าเจ้าจอมท่านจะว่าอย่างไร”

หลวงศรีมะโนราชชะงักไปทันที แน่นรีบรับลูกขันทองว่าตนไม่กล้าคิดเลยเพราะเจ้าจอมท่านถือสาเรื่องเช่นนี้นัก ยิ่งหากเกิดเหตุร้ายกระไรขึ้น ก็คงเป็นเพราะมีคนก่อบาปกรรมเป็นแน่ หลวงศรีมะโนราชถามว่ากล้าเอาเจ้าจอมมาข่มตนเชียวหรือ ขันทองยิ้มบางๆ เอ่ยอย่างเยือกเย็นว่าตนหรือจะกล้าขู่คุณหลวง รวบรัดว่า

“เอาเช่นนี้เถิด ถือว่าช่วยเหลือกัน เมื่อนางทาสคนนี้มันไม่ดี ดีฉันก็ขอซื้อต่อมาอบรมเองเป็นกระไร ซื้อมาเท่าใด ดีฉันให้เพิ่มเป็นสองเท่า”

หลวงศรีมะโนราชโกรธจ้องหน้าขันทองเขม็งเพราะถ้าขันทองเอาไปฟ้องเจ้าจอมเพ็ญก็จะเป็นเรื่อง ฝ่ายออกพระราชาข่านไม่พอใจมาก เมื่อออกไปที่มุมหนึ่งในวังที่ไม่มีผู้อื่น จึงถามขันทองอย่างไม่พอใจว่า

 “รู้หรือไม่ว่าอีทาสที่ช่วยไว้เป็นผู้ใด...นังคนนั้น ชื่อนังเยื้อน มีพ่อเป็นถึงพระยาผู้ใหญ่ แต่ต้องโทษฟันคอริบเรือน นังเยื้อนจึงต้องตกเป็นทาส เปลี่ยนนายมาก็หลายคน ด้วยนายแต่ละคนเรียกมันไปบำเรอ แล้วเกิดเหตุหึงหวงขึ้น ท้ายสุดจึงส่งมันเข้ามารับใช้นักเทศน์ขันที จะได้ไม่มีเหตุอีก รู้เช่นนี้แล้วก็รีบเอามันไปคืนเสีย จะได้ไม่ต้องรับเคราะห์เพราะกาลกิณีของมัน”

ขันทองดักคอว่าท่านคงไม่ได้เกรงตนจะรับเคราะห์ดอก แต่เกรงว่าตนอยู่ใกล้ผู้หญิงแล้วจะอดใจไม่ได้จนความแตกต่างหาก ออกพระราชาข่านบอกว่าตราบใดที่ขันทองยังเป็นชายแท้ตนก็ไม่มีวันวางใจดอก ให้คืนเยื้อนไป อย่ารับเข้ามาเด็ดขาด

“คืนไปก็ไม่แคล้วถูกเฆี่ยนตีอีก” ขันทองติงยกมือไหว้ “ฉันต้องกราบขออภัยออกพระด้วย ฉันคงทำตามไม่ได้จริงๆ” พอขันทองเดินเลี่ยงไป ออกพระราชาข่านมองตามอย่างเจ็บใจที่ขันทองไม่ยอมทำตามคำสั่ง

ขันทองพาเยื้อนไปอยู่ที่เรือนพักของตน ยังความซาบซึ้งแก่เยื้อนมาก ยกมือไหว้ขอบพระคุณและจะตั้งใจทำงานทดแทนพระคุณคุณหลวงให้ดีที่สุด ขันทองบอกว่าก่อนทำงานก็รักษาตัวเองให้หายก่อนเถิด รอยหวายที่หลังยังมิได้ทายาเลย ให้รออยู่นี่เดี๋ยวจะเอายามาให้

“หลวงศรีขันทิน...” เยื้อนรำพึงด้วยความรู้สึกดีๆ ที่ขันทองดีกับตนและยังรูปงามอีกด้วย...

ooooooo

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 2 วันที่ 17 เม.ย.61

ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ