อ่านละคร เสน่ห์รักนางซิน ตอนที่ 2 วันที่ 25 เม.ย.61
“ไอ้วัต...เข้าแผนสอง”ภควัตไม่รอช้า รีบตามสามสาวจนทัน ชวนไปหาซื้ออะไรอร่อยมากินกัน บุสกรเห็นว่าตู้เย็นในบ้านไม่มีอะไรจะกินอีกแล้วจึงตกปากรับคำทันที พริมอ้าปากจะคัดค้านแต่บุสกรชิงพูดตัดหน้า
“คุณวัตอุตส่าห์มีน้ำใจ เราก็อย่าขัดศรัทธาสิ แต่ฉันว่าเราเปลี่ยนจากไปซื้อของกินตามร้านอาหารเป็นซื้อของสดมาทำกินกันเองดีกว่า อร่อยกว่าเยอะ” พูดจบ บุสกรเดินนำภควัตออกไปพร้อมกับปริตาและพริม เขารอให้สามสาวเดินไปพ้นก่อนจึงหันไปทำสัญญาณโอเคให้ภูรีที่มองอยู่ ก่อนจะเดินตามสาวๆไป
“แน่ใจเหรอวะภู คุณบุสเพิ่งบอกว่าที่นี่มีกล้องวงจรปิดกับสัญญาณกันขโมย”
“ฉันว่าพวกเขาโกหก แม่ฉันเคยบอกว่าพ่อเป็นคนไม่เคยกลัวอะไร” ภูรีมองไปทางตึกใหญ่อย่างมีแผน
ooooooo
บุสกรเห็นภควัตมองพริมด้วยสายตาเจ้าชู้ตลอดก็ไม่ไว้ใจ บอกให้เธออยู่บ้านดีกว่า ตนกับปริตาจะไปกับภควัตเอง เธออดถามไม่ได้จะให้อยู่บ้านไปทำไม
“ก็เผื่อว่าภูกับทัชต้องการอะไร จะได้มีคนดูแล”
ปริตาอาสาจะอยู่ที่นี่เอง บุสกรไม่ยอมให้อยู่ เธอแรงน้อย เกิดมีอะไรขึ้นมาจะเอาตัวไม่รอด แล้วเชิญภควัตให้ไปกันได้แล้ว เขาจำใจขึ้นรถ ระหว่างที่สองสาวยังไม่ทันขึ้นตาม เขารีบไลน์ไปบอกอินทัชว่าพริมยังอยู่ แต่อินทัชไม่เห็นเนื่องจากเอามือถือวางบนโต๊ะแถมใส่หูฟังเพลงเสียงดังอีกต่างหากก็เลยไม่ได้ยินเสียงเตือน...
ภูรีซึ่งเข้าใจว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านใหญ่ แอบย่องขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน คลาดกับพริมที่เก็บข้าวของอยู่บนชั้นเดียวกันอย่างเฉียดฉิว เขาเดินสำรวจบ้านมาถึงห้องโถงสำหรับเก็บของที่ระลึกสุดรักสุดหวงของปรีชา เดินผ่านเลเซอร์ตรวจจับขโมย ทำให้สัญญาณกันขโมย แผดเสียงดังสนั่น พริมรีบวิ่งไปกดรหัสปิดสัญญาณกันขโมย แล้วหันมาเสียงเขียวใส่ภูรีขึ้นมาที่นี่ทำไม
“ผม...ผมมาหาคุณ จะมาขอหมอนกับผ้าห่ม
สักชุด บ้านโน่นมีอยู่ชุดเดียว”
“เดี๋ยวฉันเอาไปให้ วันหลังถ้ามีอะไรตะโกนเรียกจากข้างนอก อย่าเข้ามาข้างในถ้าฉันไม่อนุญาต”
พริมมองภูรีอย่างไม่ไว้ใจนัก...
เสียงสัญญาณกันขโมยได้ยินไปถึงบ้านหลังเล็ก อินทัชออกมาชะเง้อมอง เห็นภูรีกลับมาจากบ้านใหญ่ แดกดันไหนแม่ของเขาบอกว่าพ่อของเขาเป็นคนประมาทไม่ใช่หรือ
“พ่อแม่ฉันเลิกกันมาเป็นยี่สิบปี พ่ออาจจะเปลี่ยนไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นถึงขั้นรู้รหัสสัญญาณกันขโมย ฉันว่าเขาไม่ได้เป็นแค่แก๊งมิจฉาชีพแล้วล่ะ” ภูรีมัวแต่คุยกับอินทัชไม่ทันเห็นพริมแอบมองอยู่...
ด้านบุสกรช็อปปิ้งของกินของใช้ไม่ยั้งเพราะจะให้ภควัตเป็นคนออกเงินให้ แคชเชียร์คิดเงินออกมา
ปริตาลมแทบจับเบ็ดเสร็จเป็นเงินเกือบแปดพันบาท
บุสกรทำเป็นจะเปิดกระเป๋าจ่ายเงิน ภควัตรีบบอกว่าไม่ต้องเขาจะจ่ายให้เอง แล้วทำทีล้วงกระเป๋าทั้งเสื้อและกางเกงแต่หากระเป๋าสตางค์ไม่เจอ หัวเราะแฮ่ๆ
“ผมลืมเอากระเป๋าสตางค์มา ผมขออนุญาตซื้อของให้พวกคุณเป็นครั้งหน้านะครับ”
ปริตากับบุสกรมองหน้ากันเลิ่กลั่ก จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย บุสกรเจ้าเล่ห์แกล้งหายใจไม่ออก โรคหืดหอบกำเริบหมดเรี่ยวแรงจะเป็นลม ขอให้ปริตาพา
ออกไปจากตรงนี้
“เป็นโรคทรัพย์จางล่ะสิ” ภควัตมองตามอย่างรู้เท่าทัน...
บุสกรยังตีเนียนทำท่าไม่สบายจะเป็นจะตาย ภควัตหมั่นไส้จับเธอพาดบ่าพาไปวางไว้ที่เบาะหลังรถ อาสาจะพาไปโรงพยาบาล เธอปฏิเสธทันทีว่าไม่ต้อง นั่งพักสักพักก็จะหายเอง ภควัตเสนอตัวถ้าหายใจไม่ออกจะผายปอดให้ บุสกรอ้าปากจะด่าแต่ปริตาเอานิ้วแตะปากตัวเองเป็นทำนองให้เงียบๆไว้ สักพักพนักงานของห้างฯเข็นรถเข็นใส่ของจนเต็มคันรถเข้ามา ภควัตสั่งให้เอาไปใส่ไว้ท้ายรถ
“พอดีผมเจอคนที่โรงแรมก็เลยให้เขาช่วยจ่ายให้แทน” ภควัตโกหกหน้าตาย...
ในเวลาต่อมา ระหว่างสาวๆช่วยกันเอาของที่ซื้อมาเก็บใส่ตู้ พริมเตือนให้ทุกคนระวังตัวไว้ ภูรีดูท่าไม่น่าไว้ใจ เขาอาจจะไม่เชื่อก็ได้ว่าเราเป็นเจ้าของที่นี่...
ตกดึกสามสาวถือไฟฉายคนละกระบอกคอยส่องพื้นระหว่างที่ตัวเองทำความสะอาดไปตามมุมต่างๆของบ้าน พริมทำความสะอาดด้านในเสร็จจัดแจงออกไปรดน้ำต้นไม้ ภูรียังไม่นอนคุยโทรศัพท์อยู่กับแม่ เห็นแสงจากไฟฉายวูบวาบอยู่ในบ้านคิดว่าขโมยรีบออกมาดู
พริมยืนรดน้ำต้นไม้ไปพลางสะบัดแขนสะบัดขาไล่ยุงไปด้วย ลุงฟักโทร.ทางไกลมาหา เนื่องจากโทร.มาหลายครั้งแต่เธอไม่รับสาย พริมทำมือถือตกเพิ่งซ่อมเสร็จ บอกกับลุงฟักว่าไม่ต้องเป็นห่วง เธอกับเพื่อนเฝ้าบ้านให้เขาอย่างดี ภูรีได้ยินเสียงเธอคุยโทรศัพท์รีบหลบมุมแอบฟัง เสียงเธอออดอ้อนกับปลายสายทำให้เขาคิดว่าเธอคุยกับพ่อของเขา ยิ่งได้ยินเธอส่งจูบไปให้ทางโทรศัพท์ยิ่งทำให้เข้าใจผิดว่าเธอเป็นเมียน้อยของพ่อ
พลันสายตาของภูรีเหลือบไปเห็นสายยางรดน้ำท่ามกลางความมืดคิดว่าเป็นงูตกใจร้องลั่น พริมได้ยินเสียงร้องว่างูก็ตกใจร้องกรี๊ดๆตาม พลางโดดหนีไปชน
กับเขาเสียหลักจะล้ม เขารวบตัวเธอไว้ได้ทัน สองคนยืนใกล้กันมากใบหน้าเกือบจะชนกัน เธอได้สติผลักเขาออกห่าง เสียงเขียวใส่มาที่นี่ทำไม เขาเห็นแสงจากไฟฉายก็เลยมาดู พริมสั่งห้ามเขาออกมาเดินเพ่นพ่านอีกไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน
ooooooo
ณ อพาร์ตเมนต์หรูของพงศกรที่อเมริกา วีรีทนคิดถึงพงศกรไม่ไหวรอจนพัชรากับวิกกี้ออกไปแล้วรีบขึ้นมาหา เขาเปิดรับเธอเข้ามาแม้จะเบื่อหน่ายแล้วก็ตาม แต่ไม่วายปากหวานว่ายังรักเธอเหมือนเดิม
“แต่เราสองคนต้องห่างกันสักพัก ระหว่างนี้วีก็จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยนะครับ” พงศกรมองที่ท้องวีรีเพื่อย้ำสิ่งที่ตัวเองพูด เธอยืนกรานจะไม่ยอมทำแท้ง แม่ทิ้งเธอไปเธอไม่มีวันเป็นเหมือนท่าน เธอจะเก็บลูกไว้
จังหวะนั้นวิกกี้กลับมากับพัชราเนื่องจากลืมกระเป๋าเงินไว้ในห้องพัก เคาะประตูเรียกน้องชายให้มาเปิด พงศกรหันมองประตูสีหน้าตกใจ วีรีจะถือโอกาสนี้คุยกับพัชราเองจะขอให้ท่านเห็นใจความรักของเรา แล้วขยับจะไปเปิดประตู เขาร้องห้ามเสียงหลงคว้าตัวเธอไว้ วิกกี้ได้ยินเสียงแปลกๆเรียกแม่มาฟัง
พัชราตัดสินใจทุบประตูเรียกให้เขาเปิดเดี๋ยวนี้ พงศกรพยายามกล่อมให้วีรีเลิกมองโลกสวย ไม่มีใครเห็นใจในความรักของเราโดยเฉพาะกับแม่ของเขา ดังนั้นเราต้องทำเหมือนว่าวีรีมาตื๊อขอคืนดีกับเขา
“ไม่ค่ะ วีเชื่อว่าคุณแม่ต้องเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ด้วยกัน วีจะพูดกับท่าน” วีรีผลักพงศกรพ้นทางแล้วตรงไปที่ประตูห้อง เขาโมโหที่พูดไม่ฟังจับเธอเหวี่ยงกระเด็นไปกระแทกกับขอบโต๊ะไม่แรงมากนัก เป็นจังหวะเดียวกับวิกกี้และพัชราใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้ามาเอง วีรีจุกถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้นกุมท้องไว้ วิกกี้หน้าเสีย
“แม่คะ ถ้าน้องเขาแท้ง พ่อเขาต้องลากพงศ์เข้าคุกแน่ๆ”
“วิกกี้โทร.เรียกรถพยาบาล ตาพงศ์มานี่” พัชราลากแขนลูกชายเข้าไปเก็บเสื้อผ้าข้าวของจำเป็นใส่กระเป๋าเดินทางสั่งให้หนีกลับเมืองไทย ส่วนเรื่องวีรีปล่อยให้เป็นหน้าที่ท่านเอง...
ขณะที่พงศกรมุ่งหน้าสู่สนามบินเพื่อเดินทางกลับเมืองไทย พริมซึ่งอยู่ที่บ้านปรีชาในภูเก็ต ตั้ง
ข้อสังเกตว่าที่ภูรีมองเธอด้วยสายตาแปลกๆต้องคิดจะจีบเธอแน่ๆหวังจะเป็นหนูตกถังข้าวสาร ก็เลยตั้งแง่รังเกียจและชังน้ำหน้า บุสกรแนะให้ไล่เขากับอินทัชออกจากที่นี่ แล้วอาสาจะไปบอกพวกนั้นให้ออกไปเดี๋ยวนี้เลย พริม
เอาพวกนั้นออกไปแน่แต่ขอเวลาอีกสักวันหนึ่งก่อน รอให้ภควัตพาตนไปรู้จักกับเจ้าของ P.PAUL ก่อน
“เกิดฉันให้คนของเขาออกไปตอนนี้ เขาไม่พอใจขึ้นมา ทุกอย่างที่เราทำไปสูญเปล่านะแก”
บุสกรจำใจยอมตามเพื่อนว่า...
พริมไม่รอช้ารีบมาดักรอภควัตที่หน้าตึกใหญ่ พอเขาขับรถมาจอด ชวนไปเดตคืนนี้ เขาตอบรับโดยไม่ต้องคิด แล้วเดินผิวปากอารมณ์ดีไปหาภูรีกับอินทัชที่เรือนเล็ก เห็นทั้งคู่กำลังเก็บเสื้อผ้าข้าวของยัดใส่กระเป๋า ภควัตงงจะเก็บกระเป๋าไปทำไม ภูรีเลิกข้องใจเรื่องที่
พริมกับพวกเป็นแก๊งต้มตุ๋นแล้ว สั่งให้อินทัชเก็บของไวๆ ภควัตอ้อนวอนหากรักกันจริงอย่าเพิ่งกลับตอนนี้เพราะพริมเพิ่งจะชวนตนไปดินเนอร์ที่โรงแรมสองต่อสอง
“ไปดินเนอร์!! กล้ามากนะยัยตัวแสบ ฉันรู้แล้วที่พวกนั้นทำตัวอวดรวยที่แท้ก็จะทำให้ลูกชายเจ้าของโรงแรมมุกทะเลตายใจ...พ่อนะพ่อ ทำไมต้องไปยุ่งกับผู้หญิงคนนี้”
ภควัตขอร้องให้ภูรีใจเย็นๆก่อน ถ้าไม่อยากให้ตนไปกับคุณพริมตนก็ไม่ไป ภูรีไม่ได้ห้าม ยุให้เขาไปกับเธอเพราะตนจะได้เก็บหลักฐานให้พ่อเห็นกับตาว่าเมียน้อยของท่านกำลังอ่อยเหยื่อชิ้นใหม่
ooooooo
ตกค่ำ พริมในชุดกระโปรงสไตล์วินเทจของป้ารำไพออกมาขึ้นรถภควัตที่จอดรออยู่ ชายหนุ่มตะลึงในความสวยของเธอ ครั้นตั้งสติได้รีบเปิดประตูให้เธอขึ้นรถ ทันทีที่รถของเขาแล่นออกจากบ้าน ภูรีกับอินทัชที่นั่งรออยู่ในรถอีกคันแล่นตาม โดยทิ้งระยะห่างพอสมควรไม่ให้เป็นที่สังเกต
จากนั้นไม่นาน ภควัตพาพริมมาที่ห้องอาหารหรูของโรงแรมมุกทะเล บรรยากาศในนั้นมืดสลัว เธอไม่ลืมเอาแฟ้มประวัติของตัวเองติดมาด้วย เขาเลื่อนเก้าอี้ตัวที่หันหลังให้ประตูให้เธอนั่ง เพื่อให้ภูรีกับอินทัชที่ตามมาด้านหลังเข้ามาในร้านได้สะดวก ทั้งคู่เดินแอบๆเข้าไปนั่งโต๊ะด้านในที่ยังมองเห็นโต๊ะที่พริมนั่ง ภควัตเห็นเธอไม่ได้สนใจจะมองไปด้านหลัง ถอนใจ
โล่งอก เดินมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับเธอ
นั่งได้สักพัก พนักงานของโรงแรมเอากล้องถ่ายรูปชนิดซูมได้เข้ามาให้ภูรี เพื่อที่พ่อของเขาจะได้เห็นรูปพริมชัดๆเอาแบบให้ดิ้นไม่หลุด แล้วยกกล้องขึ้นเล็งไปที่พริมลองปรับเลนส์ดู ความสวยของเธอทำให้เขาเผลอบ่นเสียดายออกมา อินทัชงงเสียดายอะไร เขาโกหกเนียนๆเสียดายที่นั่งห่างไปหน่อย
“ไอ้บ้า เอาใกล้กว่านี้ต้องนั่งโต๊ะเดียวกันกับ
พวกเขาแล้วล่ะ”
ภูรีไม่สนใจ กดชัตเตอร์ทันที แสงแฟลชสว่างวาบเพราะลืมปิดแฟลช แสงของมันทำให้พริมหันขวับไปมอง สองหนุ่มไวทายาดยกเมนูขึ้นมาบังหน้าไว้ทัน ภควัตตีเนียนว่าเป็นเรื่องปกติ แขกในโรงแรมมักจะชอบถ่ายรูปในร้านอาหาร พริมพยักหน้ารับรู้ไม่ได้ติดใจอะไร แล้วแกล้งเจ็บเท้า หวังจะโชว์รองเท้าฝีมือออกแบบตัดเย็บด้วยตัวเอง เขามองรองเท้าที่เธอใส่อย่างตื่นเต้น นี่ตัดรองเท้าเป็นด้วยหรือ
“เชื่อเถอะค่ะว่าโลกนี้มีสิ่งเดียวที่พริมหลงใหลก็คือรองเท้า โดยเฉพาะรองเท้ายี่ห้อ P.PAUL เนี่ยถ้าพริมได้เจอเจ้าของแบรนด์นี้ พริมจะเข้าไปบอกเขาว่าพริมชื่นชมเขามากที่เขานึกถึงคนอื่นไม่ใช่คิดแค่เรื่องธุรกิจ”
“คุณพริมอยากพบเจ้าของ P.PAUL เหรอครับ”
พริมออกตัวว่าคงไม่โชคดีขนาดนั้น แล้วมองภควัตหวังจะให้บอกว่าจะพาเธอไปหาเจ้าของ P.PAUL แต่เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น พุดดิ้งหนึ่งในสาวของภควัตเดินเข้ามา เจ้าตัวไม่เห็น ภูรีกับอินทัชเห็นก่อนรีบโทร.เตือน ภควัตมองไปทางประตูเข้าร้านเห็นพุดดิ้งก็ตกใจ พริมเห็นสีหน้าเขาจะหันไปมอง เขาคว้ามือเธอดึงไว้ไม่ให้หัน พุดดิ้งเห็นพอดีคิดว่าพริมเป็นกิ๊กอีกคนหนึ่งของเขาจะเข้าไปเอาเรื่อง ภควัตเห็นท่าไม่ดีรีบดึงพุดดิ้ง
ออกไป
“อีกนิดเดียวเอง ทำไมต้องมีมารผจญด้วย”
พริมมองตามภควัตที่ลากพุดดิ้งออกไปด้วยความเสียดาย อึดใจ มิสเตอร์พีเดินผ่านหน้าห้องอาหารไป เธอจำเขาได้จากข่าวในทีวี คว้ากระเป๋าใส่แฟ้มประวัติตัวเองรีบวิ่งตาม ภูรีกับอินทัชตามออกมา เห็นเธอวิ่งไปทางที่พ่อเลี้ยงของภูรีเดินไป ก็เร่งฝีเท้าตามไปติดๆ พริมเห็นมิสเตอร์พีแวะทักทายชายคนหนึ่งรีบหลบมุมหยิบแป้งมาเติมหน้าเช็กดูความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง
ภูรีเห็นพริมทำแบบนั้นก็คิดว่าจะไปอ่อยพ่อเลี้ยงตัวเอง บอกอินทัชว่าจะไปเตือนเธอไม่ให้ไปยุ่งกับท่าน อินทัชดึงตัวเพื่อนไว้ บอกให้ใจเย็นๆก่อน อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดก็ได้ ภูรีหันมาหงุดหงิดใส่
“จะไม่ใช่ได้ยังไงเราก็เห็นๆกันอยู่” บ่นเสร็จ
ภูรีหันไปทางที่พริมอยู่ แต่เธอหายไปแล้ว
ooooooo
มิสเตอร์พีมาที่สระว่ายน้ำของโรงแรมเพราะนัดกับนิสาที่เพิ่งว่ายน้ำเสร็จ พริมตามมาทันรีบวิ่งไปหา รองเท้าเจ้ากรรมส้นดันติดเข้าไปในร่องระบายน้ำริมสระ ทำให้เธอเสียหลักพลัดตกลงไปในน้ำ เธอร้องขอความช่วยเหลือเสียงลั่นเพราะว่ายน้ำไม่เป็น ภูรีโดดน้ำลงไปช่วยเธอขึ้นจากสระได้อย่างปลอดภัย
นิสาเข้ามาถามภูรีว่าเป็นอย่างไรบ้าง พริมมองภาพนั้นเขม็ง อินทัชกลัวความลับจะแตก บอกให้ภูรีพา พริมไปพักตรงโน้นก่อน ภูรีรู้งานรีบอุ้มพริมออกไป ส่วนอินทัชพานิสากับมิสเตอร์พีแยกไปอีกทางหนึ่ง พริม
ดิ้นหนีจะไปหามิสเตอร์พีจนล้มลงไปด้วยกันทั้งคู่ เธอไม่ยอมแพ้ตะกายจะลุกขึ้นตามเขาให้ได้
“อย่าไปยุ่งกับเขา” ภูรีคว้าตัวพริมไม่ทัน คว้าได้แต่กระโปรง เป็นจังหวะที่เธอลุกขึ้นวิ่งพอดี กระโปรงขาดดังแควกเป็นรูโบ๋ พริมอายมากรีบหมุนกระโปรงไม่ให้เห็นก้น รูขาดก็เลยมาอยู่ด้านหน้าแทน ยิ่งอายหนัก ภูรีสงสารถอดเสื้อตัวเองให้เธอพันรอบกระโปรงเอาไว้ ภควัตตามเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณวัตมาแล้ว ผมขอตัว” ภูรีเดินออกไปเลย พริมหันไปเห็นกระเป๋าใส่แฟ้มเดินไปหยิบมากอดไว้ ถึงจะอดเจอมิสเตอร์พี แต่เธอก็ไม่ท้อ วันพรุ่งนี้ยังมีจะต้องสู้ต่อไปจนกว่าจะได้เจอกับเขา ภควัตได้แต่มองงงๆ...
ภูรีเดินพ้นบริเวณสระว่ายน้ำ เจออินทัชเดินสวนมาพอดี เขาถามถึงพริมว่าเป็นอย่างไรบ้าง พอรู้ว่ากลับไปกับภควัตแล้ว อดชื่นชมเธอไม่ได้ขนาดว่ายน้ำไม่เป็นยังเสี่ยงชีวิตลงทะเลไปช่วยเขาคืนนั้น ภูรีดักคอ
“อย่าบอกนะว่าเจอแม่ของลูกคนใหม่”
อินทัชยังไม่ยกตำแหน่งนี้ให้พริมต้องขอดู
ไปก่อน ภูรีเตือนถ้าเป็นผู้หญิงคนนี้คงต้องดูนานหน่อยแล้วผละจากไป อินทัชอยากได้พริมมาเป็นแม่ของลูกใจแทบขาดแต่ติดที่ว่าเธอเป็นเมียน้อยพ่อของภูรี...
ที่ห้องพักของภูรีในโรงแรมมุกทะเล นิสาเข้ามาบอกภูรีว่าท่านรู้เรื่องที่ปรีชาพาเมียน้อยมาอยู่ในบ้านจากอินทัชแล้ว และท่านยังโทร.ไปถามปรีชาแล้วด้วย แต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่ลูกไปอยู่ที่นั่น หวังจะช่วยลูกหาคำตอบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียของปรีชาจริงหรือเปล่า ท่าน
ก็เลยแกล้งถามว่าตอนนี้มีใครอยู่ที่บ้านได้ความว่าให้พี่ฟักกับพี่รำไพเฝ้าอยู่ ภูรีสงสัยสองคนนั่นเป็นใคร
นิสาเล่าว่าเป็นชาวบ้านแถวนั้นรู้จักกับปรีชามานาน
“เวลาพ่อไม่อยู่บ้านก็ได้เขาสองคนช่วยเฝ้าบ้านให้ สมัยแม่มาอยู่กับพ่อที่นี่ แม่ก็เคยเจอพวกเขา”
ภูรีไม่เจอใครเจอแต่พวกสาวๆ นิสาอดเป็นกังวลไม่ได้ไม่รู้ว่าพี่ฟักกับพี่รำไพหายไปไหนกันแน่
ooooooo
เช้าวันถัดมา ภูรีไม่รอช้าชวนอินทัชกับภควัตไปที่บ้านลุงฟัก แต่ไม่เจอใคร ถามจากเพื่อนบ้านของแกได้ความว่าแกกับเมียไปเที่ยวต่างประเทศ
อีกนานกว่าจะกลับหรือถ้ามีธุระด่วนก็ให้ทิ้งเบอร์โทร.ไว้ เผื่อหลานสาวของแกมาจะให้โทร.ไปหา เมื่อวานเธอก็เพิ่งมา แต่อย่าถามว่าเธอชื่ออะไรตนเองก็
จำไม่ได้เหมือนกัน
อินทัชเห็นว่าไหนๆก็เอากระเช้าของฝากมาแล้ว ห้อยไว้ให้ที่ประตูบ้านก็แล้วกัน เผื่อหลานสาวแกมาจะได้เอาไปกินได้ แล้วเอากระเช้าผลไม้ห้อยไว้ที่ลูกบิดประตู ปรากฏว่าประตูแง้มออกเพราะไม่ได้ล็อกแถมปิดประตูไม่สนิท ภูรีถือโอกาสเปิดเข้าไปสำรวจด้านในโดยไม่ฟังเสียงห้ามปรามของภควัต
อ่านละคร เสน่ห์รักนางซิน ตอนที่ 2 วันที่ 25 เม.ย.61
บทประพันธ์โดย จันทริกากำกับการแสดงโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ผลิตโดย บริษัท กู๊ด ฟิลลิ่ง จำกัด
ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ