อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 1 วันที่ 14 เม.ย.61

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 1 วันที่ 14 เม.ย.61

เจ้าจอมอำพันกับพวกฟังแล้วอึ้งที่ถูกคนของเจ้าจอมเพ็ญข่มกลับว่าเอาของหายากมาให้ มิใช่ของดาดๆที่ใครมีอัฐมีเบี้ยก็หาซื้อได้ เจ้าจอมเพ็ญยิ้มข่มเจ้าจอมอำพัน ซ้ำยังอวดอ้างเป็นคนโปรดว่า หากแม่อำพันมีสิ่งใดขาดเหลือก็บอกได้ตนจะกราบทูลพระพุทธเจ้าอยู่หัวให้

“ขอบน้ำใจจ้ะ” เจ้าจอมอำพันเอ่ย ข่มความไม่พอใจไว้

เจ้าจอมเพ็ญยิ้มบางๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความสาแก่ใจ เมื่อออกจากศาลาในวังแล้ว เจ้าจอมเพ็ญเอ่ยแก่ขันทองและแน่นว่า



“หิ่งห้อยไม่ควรแข่งแสงกับพระจันทร์ ครานี้แม่อำพันคงจะได้รู้แล้วกระมัง” แน่นบอกว่าคงเข็ดไปอีกนาน ดีไม่ดีอาจจะไม่กล้าอีกเลย “ท่านขุนพูดถูกใจฉัน เอาไว้ฉันจะบำเหน็จให้ท่านทั้งสองเอง โดยจำเพาะ

คุณหลวงครานี้มีความชอบนักฉันจะบำเหน็จให้อย่างงาม”

“เป็นพระคุณเจ้าค่ะ”

หลวงศรีขันทินกับแน่นเดินตามเสลี่ยงที่เจ้าจอมเพ็ญนั่งไป ท่ามกลางสายตาของหลวงศรีมะโนราช ขุนเทพรักษาและขุนเทพชำนาญมองตามอย่างเกลียดชัง ที่ขันทองมาแย่งเอาความชอบไป

“ถ้าไม่ใช่เพราะออกพระราชาข่านคอยปกป้องมันละก็ มีรึมันจะอยู่ถึงป่านฉะนี้ แต่เอ็งคอยดูไปเถิด ข้าจะทำให้มันถูกส่งกลับโต้ระกี่ให้จงได้” หลวงศรีมะโนราชพูดเต็มไปด้วยความเจ็บใจและเกลียดชัง

ooooooo

เมื่อกลับถึงเรือนขันทองในวัง แน่นคุยสบายๆ เยี่ยงแน่นคุยกับขันทองปกติเพราะคิดว่าอยู่กันลำพังไม่มีใครได้ยิน แต่แล้วก็สะดุ้งเฮือกเมื่อออกพระราชาข่านเอื้อมมือมาตะปบไหล่หน้าตาถมึงทึง

ออกพระราชาข่านหยิบมีดโกนหนวดออกมากระแทกลงบนโต๊ะตะคอก

“ข้าบอกแล้วใช่หรือไม่ว่าต้องรอบคอบ จะให้ใครรู้ไม่ได้เป็นอันขาดว่าพวกเอ็งไม่ใช่ขันที แล้วที่ข้าเจอตรงหัวนอนนี่คือกระไร ขันทีต้องใช้มีดโกนเพื่อโกนหนวดด้วยรึ”

แน่นหน้าจ๋อยยอมรับว่าเป็นความผิดของตนเองอย่าโทษขันทองเลย สัญญาว่าคราหน้าจะเก็บให้มิดชิด ไม่หลงลืมอย่างนี้อีก ออกพระราชาข่านไอโขลกๆ พูดอย่างเครียดหนักว่า

“เป็นเพราะเรื่องครานั้นแท้ๆ ข้าถึงต้องตกกระไดพลอยโจนมากับพวกเอ็ง ไม่น่าเลย...ไม่น่าเลยจริงๆ”

ออกพระราชาข่านยิ่งเครียดเมื่อนึกถึงเรื่องในคืนนั้น...คืนที่ตนเผลอฆ่าสิขันทินตายในเรือนแพ...

ooooooo

คืนนั้นที่เรือนแพ ออกพระราชาข่านยื้อแย่งกริชกับสิขันทินจนสิขันทินถูกกริชแทงท้องสิ้นชีวิต ออกพระราชาข่านตกใจกลัวละล่ำละลักบอกว่า “ข้าไม่ได้ตั้งใจ...ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ มัน...มัน...”

ขันทองตั้งสติได้ก่อนบอกออกพระราชาข่านให้ใจเย็นๆ ตอนนี้เราต้องหาทางแก้ไขมิใช่ตื่นกลัว ถามว่าโทษทัณฑ์เรื่องนี้หนักเพียงใด ออกพระราชาข่านบอกว่า ฆ่านักเทศน์ขันทีของราชสำนัก แม้จะยังไม่ได้ถวายตัวรับใช้แต่ก็ต้องถูกตัดหัวสถานเดียว

ขันทองออกอุบายว่าท่านผู้นี้ยังไม่เคยเข้าวัง ถ้าตนปลอมตัวเป็นขันทีผู้นี้เข้าวังไป มิเพียงแต่จะยังสืบความลับได้ต่อไปตามเดิม หากยังช่วยคุณพระให้มิต้องรับโทษได้อีกด้วย แต่หากมิทำเช่นนั้นคุณพระก็ต้องรับโทษและพวกเราก็หมดโอกาสที่จะสืบความลับด้วย

พันหาญเห็นพ้องกับขันทองแต่ขันทีที่มาใหม่คราวนี้มีสองคนไม่ใช่หรือ ขันทองตกใจบอกพันหาญว่าเราจะฆ่าคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยไม่ได้เป็นอันขาด

“แต่ถ้าไม่ทำ แผนนี้ก็ไม่มีทางสำเร็จ พ่อขันทองคิดรึว่าขันทีอีกคนจะยอมปกปิดเรื่องนี้ให้เรา” พันหาญติง ขันทองจะทักท้วง พันหาญชิงตัดบทว่า “บาปกรรมทั้งหมด น้าจะรับไว้เอง นับแต่นี้ไป พ่อขันทองกับอ้ายแน่นตั้งใจสืบความลับให้ดีก็แล้วกัน”

พันหาญหยิบกริชเปื้อนเลือดเดินออกจากห้องไป ขันทองไม่สบายใจอย่างยิ่งที่การทำงานครั้งนี้ทำให้ต้องมีผู้บริสุทธิ์ตายเยี่ยงนี้ ส่วนออกพระราชาข่านเหลือบมองศพสิขันทินอย่างหวาดกลัว...

ออกพระราชาข่านคิดถึงเหตุการณ์คืนนั้นแล้ว

ยิ่งเครียดหนัก บอกว่าตนไม่ควรรับสินบนแต่แรกเลย ทุกวันนี้ไม่เคยข่มตาหลับสนิทได้เลยแม้สักคืนเดียว ขันทองเอ่ยอย่างไม่สบายใจว่าพวกเราทำให้คุณพระเดือดร้อน แต่เราพยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว กฎเกณฑ์ในวังพวกเราก็มิเคยผิดพลาด พูดเหมือนสัญญาว่า

“แลหากวันใดได้รู้ความลับที่ต้องการ พวกเราก็จะไปเอง มิให้ภัยมาถึงคุณพระเป็นอันขาด”

ออกพระราชาข่านโบกมือไปมาคร้านที่จะฟัง เดินออกไปจากห้องอย่างยังหวาดระแวงไม่หาย

ooooooo

ม่วงกับอินเมียคนที่สองที่เป็นน้องเมียคนแรกคืออิ่มซึ่งตายไปแล้ว อินออกเรือนมากับม่วงหลายปีแล้ว แต่อินกลัวผีพี่สาวจะมาฆ่าหาว่าแย่งผัวตน จึงไม่กล้ามีสัมพันธ์กับม่วงฉันสามีภรรยา คืนนี้ก็เช่นกัน อินทำท่าจะยอมแต่แล้วก็หวีดร้องหวาดกลัว ม่วงถามว่าเห็นผีแม่อิ่มอีกหรือ อินพยักหน้า ม่วงโมโหตะคอกใส่

“เมื่อเอ็งไม่รักไม่ชอบข้าก็ไม่ต้องฝืนใจ แต่เลิกเอาเรื่องผีแม่อิ่มมาอ้างได้แล้ว ข้าไม่มีวันเชื่อดอกว่าคนอย่างแม่อิ่มจะกลายเป็นผีหึงหวงข้ากับเอ็งได้...จะมีก็แต่เอ็งยังไม่ลืมอ้ายทิดคล้อยคนรักเก่าของเอ็งเสียมากกว่า ข้าผิดเองที่คิดว่าเอ็งมีใจให้ข้า หากรู้ว่าเอ็งรังเกียจข้าถึงเพียงนี้ ข้าจะไม่จับแม้แต่ชายสไบเอ็งเสียด้วยซ้ำ”

ม่วงสะบัดจากอินเปิดประตูออกไปด้วยความโมโห อินร้องไห้หนักที่ตนกับม่วงไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ และนับวันมีแต่ยิ่งแย่ลง

เช้าวันรุ่งขึ้น มิ่งกับชื่นต้อนรับคุณท้าวที่มาเรือนอย่างพินอบพิเทา ชื่นถามคุณท้าวว่าคนที่จะมาดูตัวแมงเม่ายังไม่มาอีกหรือ

“อีกประเดี๋ยวก็คงมา อย่าห่วงเลย ฉันดูแล้วพ่อคนนี้เป็นคนขยันขันแข็ง เอาการเอางาน แลมั่งมีไม่แพ้พ่อมิ่ง นับว่าสมกันราวอิเหนากับบุษบาเทียว”

มิ่งแปลกใจว่าถ้าคนที่มั่งมีเท่าตนและเป็นพ่อค้าตนรู้จักทุกคน ถามว่าผู้ใดกัน พอดีม่วงเดินขึ้นเรือนมา มิ่งถามว่า “อ้ายม่วง นี่เอ็งเพิ่งกลับเอาป่านฉะนี้รึ ไปค้างอ้างแรมที่ใดมา”

ขณะม่วงกำลังอึกอัก กล้าที่เดินขึ้นเรือนมาก็โพล่งยิ้มเยาะว่า

“ลุงมิ่ง อยากรู้จริงรึว่าเมื่อคืนอ้ายม่วงไปค้างที่ใด”

ม่วงตกใจแล้วกลายเป็นโกรธจัดเพราะกล้าเป็นนักเลงหัวไม้จากบ้านริมโรงฆ้องเป็นไม้เบื่อไม้เมากับม่วงตลอดมา ตวาดถาม

“อ้ายกล้า นี่เอ็งเหิมเกริมถึงขั้นเหยียบเรือนข้าเชียวรึ จะมากเกินไปเสียแล้วโว้ย”

กล้าหัวเราะเยาะเดินเข้าไปไหว้คุณท้าว บอกม่วงว่าวันนี้ไม่ได้มาท้าตีท้าต่อย แต่มาสู่ขอแม่แมงเม่าต่างหาก ม่วงกับมิ่งตกใจมากเมื่อรู้ว่าคนที่มาดูตัวแมงเม่าคือกล้า ชื่นตั้งสติได้ก่อนโวยวายว่า วันนี้แค่มาดูตัว มิใช่สู่ขอ พ่อกล้าเข้าใจผิดแล้วกระมัง

“อ้าว...ถ้าดูตัวแล้วถูกอกถูกใจก็สู่ขอกันไปเสียวันนี้เลยสิ จะได้ไม่ต้องมาอีก หรือพ่อมิ่งกับแม่ชื่นเห็นว่าฉันมียศศักดิ์ไม่พอ ไม่คู่ควรจะสู่ขอก็ว่ามา”

มิ่งหน้าเสียเกรงจะทำให้คุณท้าวไม่พอใจ ขณะกำลังอึกอักนั้น แมงเม่าก็แต่งตัวสวยออกมาจนทุกคนตะลึง แมงเม่าทักกล้าเสียงหวานว่า

“ช่างเป็นบุญของฉันนัก ที่พี่กล้ามาสู่ขอฉันถึงเรือน”

เห็นกล้าตะลึงอยู่ถามว่า จะเปลี่ยนใจหรือไม่กล้าบอกว่าถ้าแมงเม่าไม่รังเกียจตนก็เรียกสินสอดมาเถิดเท่าใดตนก็ยอมจ่าย

“เมื่อพี่กล้าให้ฉันเรียกสินสอด ฉันก็จะเรียก แต่ฉันไม่ขอสินสอดเป็นแก้วแหวนเงินทองดอกนะ เพราะบ้านฉันก็มีมากโข ให้ใช้จนตายก็ไม่หมดแล้ว ฉันขอเพียงพี่กล้าคลานเข่ามากราบฉันแทนสินสอดก็พอ”

“จะมากไปแล้วนะโว้ยนังแมงเม่า ถึงกับจะให้ข้าคลานไปกราบเอ็งเชียวรึ” กล้าโมโหมาก

ม่วงชิงตัดบทว่าเมื่อกล้าไม่ทำก็ถือว่าสิ้นสุดการดูตัวไล่ให้กลับเรือนไปได้แล้ว กล้าเสียหน้าหันพึ่งคุณท้าวว่า พวกมันทำเช่นนี้เท่ากับไม่ไว้หน้าคุณท้าวเลย ถึงจะร่ำรวยเพียงใดก็เป็นแค่ไพร่ โอหังบังอาจนัก

แมงเม่าลุกยืนพรวดเสียงเข้มเฉียบขาดว่า

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 1 วันที่ 14 เม.ย.61

ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ