อ่านละคร คมแฝก ตอนที่ 12 วันที่ 24 เม.ย.61

อ่านละคร คมแฝก ตอนที่ 12 วันที่ 24 เม.ย.61

ยาของตะโพนได้ผล อาการอัญชันดีขึ้นมาก ยาพิษของดอกไม้ทำอะไรเธอไม่ได้ กัลป์เฝ้าดูแลด้วยความเป็นห่วงและยินดีมากที่เห็นรอยยิ้มของเธออีกครั้ง

 “คุณปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องห่วงนะอัญชัน คุณเป็นอะไรรึเปล่า”

ท่าทางอ่อนโยนของเขาทำให้อัญชันน้ำตาคลอ สะเทือนใจกับชะตาชีวิตตัวเองเหลือเกิน

“ไม่รู้ชาติก่อนเราเคยทำบาปทำกรรมอะไรเอาไว้ ชาตินี้ถึงต้องเจอกันในสภาพแบบนี้”

กัลป์อึ้งไปอึดใจ อัญชันกุมมือเขาพลางเอ่ยเสียงสั่นเครือ



“บางครั้งฉันรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยกับ

ทุกอย่างจนอยากยอมแพ้แล้วปล่อยให้มันเป็นไปตามชะตากรรม เราอาจไม่ใช่เนื้อคู่กัน คุณไม่เคยคิดบ้างเหรอ... ที่เราต้องพลัดพรากกันเสมอคงเพราะพรหมลิขิตถูกกำหนดไว้แล้ว”

อัญชันสะอื้นตัวโยน กัลป์ใจอ่อนยวบ ยืนยันหนักแน่นตามความรู้สึกตัวเอง

“ต่อให้พรหมลิขิตมีจริง มันก็เปลี่ยนหัวใจผมไม่ได้หรอกอัญชัน อย่าว่าแต่ต้องพรากกัน ต่อให้ผมต้องตาย ผมก็ไม่เสียใจที่รักคุณ และนั่นคือสิ่งที่สวรรค์หรือนรกก็ไม่มีวันลบล้างมันได้”

สภาพจิตใจของอัญชันอ่อนแอเหลือเกิน ไม่ต่างจากองอาจที่ห่วงน้องสาวคนเดียวมาก กระรอกเฝ้าดูแลไม่ห่างและพยายามปลอบให้เขามีสติและทำใจให้ผ่อนคลาย

“ฉันเป็นห่วงนายนะ นายรู้ใช่ไหม”

องอาจพยายามทำตัวเข้มแข็งทั้งที่ใจแทบแหลกสลาย พลันก็เกิดฮึดเพราะห่วงน้อง

“ดวงใจน้องพี่...ไอ้แสน...กูไม่ยอมให้มึงทำร้ายน้องสาวกูเป็นอันขาด ถ้าดวงใจเป็นอะไรล่ะก็...มึงตายแน่!”

แสนมั่นใจว่าองอาจต้องทำทุกอย่างแลกกับดวงใจ ซึ่งก็คาดไม่ผิดองอาจติดต่อมาเพื่อเจรจาในเวลาไม่นาน

“กูต้องการตัวน้องสาวกูคืน”

“กูรู้...แต่มันคงไม่ง่ายอย่างที่มึงคิด”

“จะเอาอะไรก็ว่ามา กูยอมแลกทุกอย่าง มึงต้องการอะไร”

“อันที่จริงสิ่งที่กูต้องการคือชีวิตไอ้กัลป์เพื่อนรักมึง แต่ดูๆแล้วน้ำหน้าอย่างมึงคงลงมือไม่สำเร็จ เอาอย่างนี้ดีไหม...กูจะให้โจทย์ง่ายกว่านั้นสำหรับมึง...กูอยากได้คมแฝกแสงอัคคีของไอ้กัลป์”

องอาจนิ่งไปเพราะลังเลและแสนก็รู้ดี “ไม่เอาน่า องอาจ น้องสาวมึงถึงจะเพี้ยนแต่ก็สวยไม่เบา ถ้าพวกลูกน้องกูมันเกิดอดใจไม่ไหวแล้วทำอะไรชั่วๆขึ้นมา

มีหวังคงได้เป็นบ้าจนกู่ไม่กลับแน่”

แสนขู่ก่อนสำทับทิ้งท้าย

“รุ่งสางวันพรุ่งนี้กูจะรอคำตอบที่โกดังไร่ราชสีห์ ถ้าไม่เห็นคมแฝกแสงอัคคี...น้องสาวมึงมีหวัง...”

ooooooo

นอกจากจะขู่ให้องอาจขโมยคมแฝกแสงอัคคีของกัลป์ แสนยังส่งหมวดนิตย์ไปสืบประวัติองอาจด้วยเพราะเห็นนามสกุลของดวงใจจากแฟ้มประวัติแล้วพบว่าไม่ใช่นามสกุลชาตินักรบ

องอาจยังไม่รู้ตัวว่าจะถูกแฉ แบกหน้าเครียดๆกลับไปหาพวกกัลป์ที่ป่านอกเมืองพลและตัดสินใจทำตามข้อแลกเปลี่ยนของแสน แต่กระนั้นเพื่อไถ่ถอนโทษเขาจึงมอบมีดไสยดำซึ่งได้มาตอนปะทะกับรังสีให้กัลป์ไว้ป้องกันตัว

กัลป์เอะใจท่าทางแปลกๆขององอาจ “ของมีอาถรรพณ์แบบนี้ มันคงไม่เหมาะกับฉันหรอก”

“แต่บางทีนายอาจต้องใช้...นายรับไว้เถอะ”

หมวดนิตย์รับเงินสินบนก้อนโตจากแสนไปค้นประวัติขององอาจในห้องเอกสารศาลากลางจนพบว่ามีเอกสารลับสุดยอดสองชุดซึ่งทำให้เขาตาโต ตำรวจหนุ่มกังฉินไม่รอช้าต่อสายถึงแสนทันที

“ไอ้องอาจมันตุ๋นพวกเราซะเปื่อย มันไม่ได้เป็นคนฉายหนังขายยาอย่างที่เราเห็นแต่มันเป็นสายทางการ...

ผมจะบอกให้นะว่าไอ้หมอนี่ไม่ใช่สายข่าวธรรมดา

แต่มันเป็นถึงปลัดปราบปรามคนใหม่ของเมืองพล!”

แสนผงะ หมวดนิตย์รู้ดีเหยียดยิิ้มเป็นต่อ “อย่าเพิ่งรีบตกใจนายแสน ผมยังมีข้อมูลสำคัญจะบอกให้รู้ เอกสารที่ผมเจอในนี้มีสองชุด ชุดแรกเป็นของไอ้องอาจ ส่วนอีกชุดนึง...เอ...เป็นของใครน้า นายแสนต้องคาดไม่ถึงแน่ๆ”

น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ของหมวดนิตย์ทำให้แสนใจไม่ดี คาดคั้นให้บอกตอนนี้แต่อีกฝ่ายไม่ยอม “ใจเย็น...

ผมบอกแน่แต่เงินค่าจ้างที่ตกลงผมขอเพิ่มเป็นสองเท่า เอ...ไม่สิ ขอเป็นสามเท่าดีกว่า ไม่ทราบว่านายแสนจะขัดข้องรึเปล่า”

“ได้คืบจะเอาศอก ทำแบบนี้มันไม่สวยเลยนะหมวด”

“ก็แล้วแต่จะคิด นายแสนเตรียมเงินให้พร้อมก็แล้วกัน อีกสักครู่ผมจะไปเยี่ยม”

หมวดนิตย์ลำพองใจมากแต่ไม่ทันก้าวออกจากศาลากลางก็เจอกับใครบางคน...

“เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ กรุณาปรานีต่อประชาชน อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ไม่มักมากในลาภผล มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ดำรงตนในยุติธรรม กระทำการด้วยปัญญา รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต...หมวดไม่เคยได้ยินบ้างหรือไง”

เพลิงในคราบอินทรีย์นั่นเองที่ปะติดปะต่อเรื่องราวจากคำสั่งของแสนที่ให้มาเอาเอกสาร

“นายแสนให้มารับเอกสารสิท่า รู้สึกว่ามึงจะมาสายไปหน่อยนะ”

“ใช่...มาสายไปก้าวนึง”

“เอกสารอยู่นี่แต่กูยังไม่ได้อ่าน มารับไปสิ”

เพลิงไม่รับแต่แกล้งถามลอยๆ “มันคุ้มกันแล้วเหรอหมวดที่ทำอยู่ตอนนี้”

หมวดนิตย์นิ่งไปอึดใจ มั่นใจว่าอีกฝ่ายรู้ความลับของตนจึงโพล่งอย่างเหลืออด

“กูเป็นตำรวจมาสิบปี กูได้อะไรบ้าง ไม่มีเส้นมีสายถูกย้ายมาต๊อกต๋อยที่เมืองพล กูเคยได้ลืมตา

อ้าปากกับเขาที่ไหน คนอื่นประจบเลียแข้งเลียขาเจ้านาย ไม่ถึงปีก็มีบ้านหลังใหญ่มีรถฝรั่งขี่ ส่งลูกไปเรียน

ต่างประเทศ แล้วกูมีอะไร นอกจากศักดิ์ศรีแล้วกูได้อะไร เออ...กูขายศักดิ์ศรีแล้วมันผิดตรงไหน ถ้าศักดิ์ศรีมันกินได้ กูกินยาไส้ไปนานแล้ว ตอนกูลำบากมีใครเห็นใจกูบ้าง มีใครสงสารกูบ้างไหม...ไม่มี!”

“แล้วที่เป็นอยู่ตอนนี้มันดีกว่าเดิมงั้นเหรอหมวด ดูสภาพหมวดซะก่อน ตอนนี้หมวดเป็นตัวอะไรกันแน่ หมวดกินอิ่ม นอนหลับตาลงรึเปล่า ถามตัวเองบ้างเถอะว่าวันข้างหน้า...หมวดจะอยู่ยังไง”

เพลิงตอกไม่ไว้หน้า หมวดนิตย์หน้าเสียแต่เพลิงไม่สนตอกย้ำเสียงเข้ม

“ไม่ใช่หมวดคนเดียวที่ลำบาก ข้าราชการทุกคนก็ลำบากด้วยกันทั้งนั้น แต่ที่ทุกคนยังยืนหยัดอยู่ได้

ก็เพราะเขาภูมิใจในสิ่งที่เขาเป็น ถึงไม่มีสมบัติล้นฟ้าแต่เขาก็สามารถบอกลูกหลาน บอกทุกคนได้อย่างไม่ละอายว่าเขาไม่เคยทรยศแผ่นดินเกิดสักครั้ง และไม่เคย เป็นหมาแทะเศษกระดูกเหมือนที่หมวดเป็นตอนนี้”

หมวดนิตย์หลบตา แอบละอายใจแต่ไม่สำนึก เพลิงพยายามกล่อมอีกครั้ง

“ทำดีได้ดี มันอยู่ที่ใจ ไม่ใช่ฐานะหรอกหมวดตามผมกลับไปเถอะ...ผมจะพาหมวดไปหารองเพชร”

“มึงพูดถูก...แต่ยังมีอีกเรื่องที่มึงพูดถูกกว่าเรื่องนี้ ...มึงมาสายไปก้าวนึง”

ขาดคำ หมวดนิตย์ก็โยนเอกสารทิ้งและฉวยจังหวะนี้ฆ่าเขาแต่เพลิงเบี่ยงตัวหลบทันและเป็นฝ่ายฆ่าเสียเอง!

ooooooo

องอาจขโมยคมแฝกแสงอัคคีของกัลป์ไปให้แสนแลกกับดวงใจน้องสาวคนเดียว กัลป์รู้ตัวทุกอย่างแต่ไม่โกรธเพื่อนรักและคิดว่าเข้าใจเหตุผลของอีกฝ่าย

แสนเห็นองอาจถือคมแฝกมาพบตามนัดก็หัวเราะลั่นด้วยความสะใจ

“ในที่สุดเอ็งก็โผล่หัวมาจนได้ไอ้องอาจ อ๋อไม่ใช่สิ...ต้องเรียกคุณปลัดองอาจถึงจะถูก ถ้าไม่มีคนบอกก็คงไม่รู้ หลงโง่อยู่ตั้งนาน ใครจะคิดว่าปลัดเมืองพลจะปลอมตัวเป็นคนฉายหนังขายยาเร่ ตบตาได้ไม่เลว”

“ไม่ต้องพูดมาก...คมแฝกแสงอัคคีอยู่นี่ ปล่อยตัวดวงใจมาได้แล้ว”

สิงโตพาดวงใจไปแลกกับคมแฝก เพลิงเฝ้ามองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาลุ้นระทึกแต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงอย่างที่นึกกลัว แสนยิ้มร่าเมื่อมีคมแฝกในมือ

“คมแฝกแสงอัคคี...ในที่สุดก็เป็นของกู ขอบคุณมากท่านปลัด ทีนี้ก็พาน้องสาวไปได้แล้ว”

เหล่าสมุนตกตะลึงเพราะไม่คิดว่าแสนจะปล่อยองอาจกับดวงใจง่ายๆ เช่นเดียวกับกัลป์ซึ่งยกพวกมาพร้อมกับรองเพชรเพื่อคุ้มกันตัวประกันอย่างดวงใจ

แสนโกรธมากที่ถูกพวกกัลป์ลูบคมถึงถิ่น

“ไอ้กัลป์มันมาหากูเองแท้ๆแต่มันยังรอดไปได้อีก ไม่มีฝีมือกันสักตัวพวกมึง”

สิงโตสมุนเอกหน้าซีด หลบคมแฝกอันใหม่ของแสนพัลวัน

“ใครจะไปรู้ล่ะครับว่าพวกมันจะมีไอ้รองเพชรมาช่วยครับนาย”

“ตำรวจพวกนี้ไว้ใจไม่ได้สักตัว แล้วไอ้หมวดนิตย์มันหายหัวไปไหน มีใครได้ข่าวมันหรือยัง”

“นายครับ...มีคนรายงานว่าหมวดนิตย์ถูกฆ่าตายที่ศาลากลางครับนาย”

มั่นรายงานหน้าตื่น แสนเจ็บใจมากชี้คมแฝกไปที่อินทรีย์

“มันมีอยู่สองคน คนนึงไอ้องอาจแต่ยังมีอีกตัวนึง มึงรีบไปบอกผู้การเจมส์ให้รีบหาตัวมันมาให้ได้!”

สภาพเปราะบางของดวงใจทำให้ทุกคนเป็นห่วงโดยเฉพาะองอาจ กัลป์ไม่ถือสาเรื่องขโมยคมแฝกแถมพาสองพี่น้องไปพักและให้ตะเภากับจงอางช่วยดูแล อัญชันเห็นดวงใจแล้วสงสาร กระรอกก็รู้สึกไม่ต่างกัน

“น้องสาวของนายองอาจค่ะคุณอัญชัน ต้องไปบำบัดจิตที่โรงพยาบาล”

“ฝีมือนายแสนอีกแล้วเหรอ”

“คุณอัญชันอย่าเครียดไปเลยค่ะ ถึงยังไงคุณอัญชันก็ไม่ใช่คนของพวกราชสีห์อีกแล้ว”

กัลป์เรียกประชุมกลางป่านอกเมืองพลหลังจากนั้น มีเพลิงและรองเพชรมาสมทบ องอาจจึงถือโอกาสนี้ขอโทษกัลป์ต่อหน้าทุกคนเรื่องคมแฝกแสงอัคคีที่เขาขโมยไปให้แสน

“ช่างมันเถอะ แค่น้องสาวนายปลอดภัยก็พอแล้ว”

ตะโพนยังเคืององอาจ โวยวาย “เฮ้ย...จะช่างมันได้เหรอวะไอ้กัลป์ คมแฝกแสงอัคคี...เราเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายแค่ไหนกว่าจะได้มา แล้วแบบนี้เอ็งจะสู้ไอ้แสนมันได้ยังไง”

“อาจารย์อัคนีพูดไว้เสมอว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจ

คมแฝกแสงอัคคีก็แค่ไม้พิเศษอย่างนึงแต่มันไม่ใช่ของวิเศษเทียบกับชีวิตคนไม่ได้หรอกลุง เพื่อนตาย...ตายแทนกันได้ นายอย่าคิดมากเลยองอาจ”

องอาจซึ้งใจมากแต่มีอีกเรื่องที่เขาต้องปรับความเข้าใจกับทุกคน รองเพชรรู้ดีว่าคือเรื่องตัวตนแท้จริงขององอาจซึ่งไม่ใช่พ่อค้าเร่ขายยาฉายหนัง แต่เป็นปลัด

มือปราบคนใหม่ของเมืองพล!

กัลป์ก็ข้องใจเรื่องนี้จนอดต่อว่าไม่ได้

“เรื่องนี้ฉันว่ามันน่าโมโหกว่าเรื่องอื่น นายก็รู้ว่าฉันเป็นศัตรูกับไอ้แสนแล้วทำไมถึงไม่บอกฉันแต่แรก”

ตะโพนพลอยโกรธด้วย องอาจต้องรีบอธิบาย “ผมบอกไม่ได้จริงๆครับลุง มันเป็นคำสั่งจากเบื้องบนที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ขนาดสายสืบอีกคน

ผมยังไม่รู้เลยครับว่าเขาเป็นใคร”

ทุกคนมองหน้ากันเครียดๆ เพลิงจึงตัดสินใจเผยตัวตนบ้าง

“คุณปลัดพูดถูกแล้วครับลุง...ถ้าไม่รักษาความลับก็ปฏิบัติภารกิจลับไม่ได้ แต่น่าเสียดาย...ตอนนี้ภารกิจถูกเปิดเผยซะแล้ว ดังนั้นคุณปลัดต้องไปจากเมืองพลโดยด่วน”

รองเพชรรอจังหวะอยู่แล้ว ลุกยืนทำความเคารพ เพลิง “กระผมร้อยตำรวจโท เพชร ไพบูลย์ ทำหน้าที่รักษาการแทนสารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองพลรายงานตัวครับ”

ทุกคนอึ้งไปอึดใจกับการปรากฏตัวของสารวัตรคนใหม่เมืองพล เพลิงส่ายหน้าอ่อนใจก่อนประกาศปฏิเสธตำแหน่งเพราะเขากับองอาจต้องกลับพระนครโดยเร็วที่สุด!

ooooooo

คำสั่งสายฟ้าฟาดที่เดาไม่ยากว่าเป็นเพราะแสนกับเจมส์ส่งคนไปกดดันทางพระนครให้เรียกตัวสายสืบอย่างเพลิงกับองอาจกลับกะทันหันทำให้สถานการณ์พวกกัลป์ตกเป็นรองทันที ตะเภารับไม่ได้ที่เขาโกหกมาตลอดแถมจะหนีกลับพระนครทั้งที่ยังกำจัดแสนไม่สำเร็จ

เพลิงเข้าใจความรู้สึกตะเภาดีแต่ด้วยหน้าที่ตำรวจก็ทำให้เขาขัดคำสั่งไม่ได้

“อย่ามาอ้างหน่อยเลย เรื่องแค่นี้นายรายงานไปก็ได้นี่ว่าชาวบ้านเมืองพลกำลังเดือดร้อน ทำไมนาย

ไม่ยอมพูด”

“ไม่ว่าที่ไหนก็มีคนชั่ว ที่ไหนก็เป็นแบบนี้ ข้าราชการอย่างฉันต้องทำตามแบบแผน ต้องมีขั้นตอน”

“ไม่จริง...นายกลัวต่างหาก นายกลัวถูกไอ้แสนจับได้ก็เลยคิดเผ่น นายมันขี้ขลาดตาขาวนายเพลิง”

“ผมมันสายลับสองหน้า ถึงคุณด่าให้ตายก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆผมเป็นใครหรือว่าชื่อแซ่อะไร หรืออันที่จริงผมไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ ทุกอย่างเกี่ยวกับผมคือคำโกหก”

“แม้แต่กับฉันใช่ไหม”

ตะเภาโกรธมากตบหน้าเขาฉาดใหญ่

“แต่สำหรับฉันทุกความรู้สึกที่ฉันมีกับนาย มันคือความจริง!”

เพลิงไม่ตอบโต้แต่ดึงเธอมาจูบราวจะถ่ายทอดความในใจว่าเขารู้สึกไม่ต่างกัน...

ไม่ใช่แค่ตะเภาที่เป็นเดือดเป็นร้อน อัญชันก็เครียดมากที่กัลป์ถูกทิ้งให้สู้ลำพัง

“เพลิงกับองอาจต้องทำตามคำสั่ง คุณอย่าโกรธพวกเขาเลยนะ”

“ผมไม่ได้โกรธ แต่ผมแค่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะต้องไปกันตอนนี้”

อัญชันทอดสายตามองเขาด้วยความเป็นห่วงสุดหัวใจ “กัลป์...ฉันคุยกับรองเพชร เขาเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้คุณคงสู้นายแสนไม่ได้แน่ เขาแนะนำให้พวกเราหลบไปจากเมืองพลก่อน”

“ผมไม่ไป...ผมควรจะถอย ผมควรจะยอมแพ้งั้นเหรออัญชัน”

คำถามของกัลป์บาดใจอัญชันจนต้องเบือนหน้าหนี

“สุดท้ายพี่ชายคุณก็เป็นฝ่ายชนะ มันถูกต้องแล้วเหรอ”

“นายแสนไม่ใช่พี่ชายของฉันและฉันเองก็ไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนั้นคุณก็รู้ แต่ฉันแค่ไม่อยากให้มีคนล้มตายอีกโดยเฉพาะคุณ กัลป์คุณมาถึงทางตันแล้วนะ”

“ทางตันของผมมีแต่ความตาย ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”

“กัลป์...แต่ทุกอย่างมันจบแล้ว คุณทำเพื่อเมืองพลมาพอแล้ว คุณไม่ควรต้องเสี่ยงตายแบบนี้”

อัญชันสะอื้นไห้ กัลป์สะเทือนใจมากชี้ไปทางภูผาเพลิง

“ศพพ่อแม่ผมฝังอยู่ที่นั่น ศพของอาจารย์อัคนีก็ถูกฝังอยู่หน้าถ้ำมหากาฬ ผมหนีไม่ได้หรอก คุณพาพวกเราทุกคนหนีไปเถอะอัญชัน...คำพูดเดียวที่ผมอยากจะฝากกับคุณก็คือ...ถ้าผมตาย...ศพของผมจะต้องฝังอยู่บนแผ่นดินนี้...ผมต้องการทวงความยุติธรรมให้คนที่ผมรัก”

ท่าทางหนักแน่นของกัลป์ทำให้อัญชันปวดใจมาก ประกาศกร้าว

“คุณต้องการแบบนี้ใช่ไหม ถ้าคุณไม่ไป ฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น!”

ooooooo

เพลิงอาสาไปส่งองอาจกับดวงใจที่พระนคร โดยสร้างเรื่องหลอกแสนว่าจะไปสืบข่าวพวกกัลป์

“คนอย่างนายเพลิง ต่อให้ระยำแค่ไหนก็

ไม่ขายเพื่อน...คิดไม่ถึงเลยนะว่าภารกิจของเราสองคนจะจบแค่นี้”

“ถ้าเลือกได้ ฉันคงสู้ต่อ แต่เรื่องนี้มันห้ามไม่ได้จริงๆ”

“ไม่มีพวกเรา ทุกอย่างคงกลับไปที่จุดเริ่มต้น

อีกครั้ง เมืองทั้งเมืองต้องกลายเป็นของไอ้แสน”

องอาจเสียใจมากต้องจากเมืองพลก่อนภารกิจสำเร็จ แต่ความปลอดภัยของน้องสาวและคำสั่งจากเบื้องบนก็ทำให้เขาหลบเลี่ยงไม่ได้ กระรอกเข้าใจดีแต่ยังทำใจไม่ได้

อ่านละคร คมแฝก ตอนที่ 12 วันที่ 24 เม.ย.61

ละครเรื่อง คมแฝก ประพันธ์โดย เสนีย์ บุษปะเกศ
ละครเรื่อง คมแฝก บทโทรทัศน์ คฑาหัสต์ บุษปะเกศ/ ณพุทธ สุศรีฯ
ละครเรื่อง คมแฝก ผู้สร้าง เมตตาและมหานิยม จำกัด
ละครเรื่อง คมแฝก ผู้จัด นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช
ละครเรื่อง คมแฝก กำกับการแสดง ปิยะพันธ์ ชูเพ็ชร
ละครเรื่อง คมแฝก ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ