อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 2 วันที่ 15 เม.ย.61
แมงเม่าลุกยืนพรวดเสียงเข้มเฉียบขาดว่า“รู้หรือไม่ว่าชื่อแมงเม่าของฉันมาจากผู้ใด เมื่อตอนยังเล็กฉันป่วยหนักเจียนตาย กรมขุนวิมลภักดีท่านทรงเมตตาให้ฉันชื่อเดียวกับพระนามเดิมของท่านเป็นการแก้เคล็ด ฉันจึงรอดมาได้ คิดจะสำแดงอำนาจบาตรใหญ่ก็ไปเข้าเฝ้ากรมขุนท่านพร้อมกันเลย”
“จริงรึพ่อมิ่ง” คุณท้าวตกใจหน้าเสีย มิ่งพยักหน้ารับ
กล้าแค้นมากแต่อยู่เรือนคนอื่นทำอะไรไม่ได้
ชี้หน้าแมงเม่ากล่าวอาฆาตก่อนผลุนผลันลงจากเรือน
“เอ็งจำไว้นะนังแมงเม่า ชาตินี้ข้าต้องได้เอ็ง
เป็นเมียให้จงได้”
แมงเม่าเรียกไว้ พอกล้าหันมาก็เดินเข้าไปหา มองเลยไปข้างหลังกล้าทำหน้าตกใจ กล้าเอะใจหันมอง แมงเม่าถือจังหวะนั้นถีบก้นกล้าจนเซถลากลิ้งตกบันไดเรือนไป ม่วงหัวเราะสาแก่ใจในขณะที่มิ่งกับชื่นตกใจแทบช็อก แมงเม่าหันมายิ้มระรื่นให้พ่ออย่างมีความสุข
มากที่ได้ถีบกล้ากลิ้งตกบันไดอย่างหมดท่า
ooooooo
เมื่อทำผิดมหันต์แล้ว แมงเม่ารีบไปหากรมขุนวิมลที่หอพระในวัง กรมขุนวิมลกราบพระแล้วพูดกับแมงเม่าที่นั่งพับเพียบอยู่ใกล้ๆอย่างรู้ทันว่า
“พอก่อเรื่องเสร็จก็วิ่งมาหาฉัน ป่านฉะนี้ฉัน
มิถูกนินทาป่นปี้ไปแล้วรึว่าให้ท้ายเจ้าจนเป็นเช่นนี้”
“ใครจะกล้านินทาเสด็จกันเพคะ แลที่หม่อมฉันมาเข้าเฝ้าก็เพราะเสด็จทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่สัตว์ผู้ยาก หม่อมฉันไม่เห็นใครอีกแล้วที่จะมีเมตตาให้หม่อมฉันเหมือนที่เสด็จทรงมี”
แมงเม่าออดอ้อนจนกรมขุนวิมลบอกว่า
“เอาเถิด กลับไปบอกพ่อเจ้าว่า ครานี้ถึงเจ้าจะทำเกินเลยไป แต่ถือว่าฉันขอ ให้พ่อเจ้ายกโทษให้เจ้าก็แล้วกัน” แมงเม่าดีใจก้มกราบแต่ยังไม่อยากกลับขออยู่ถวายรับใช้เสร็จก่อน “วันนี้ไม่ได้ดอก เจ้ารีบกลับไปเถิด”
“ทำไมเล่าเพคะ หม่อมฉันไม่ได้อ่านกลอนถวายมานานแล้วนะเพคะ ไม่หมือนตอนที่เสด็จทรงบวชเป็นรูปชี หม่อมฉันอยากเข้าเฝ้าที่วัดเมื่อใดก็ได้ ได้ฟังเสด็จทรงสอนเรื่องกาพย์กลอนเป็นสุขเหลือเกินเพคะ”
กรมขุนวิมลลูบหัวแมงเม่าอย่างเอ็นดูบอกว่า
“มีเรื่องอีกมากที่เจ้ายังไม่รู้ เชื่อฉันเถิด กลับไปเสีย
อย่าดื้อดึงอีกเลย”
แมงเม่าหน้าจ๋อย เดินตามกรมขุนวิมลออกจากหอพระ ก็เจอขันทองกับพวกนางข้าหลวงมายืนรออยู่
ขันทองกับพวกนางข้าหลวงเห็นกรมขุนวิมลก็หมอบกราบทันที ขันทองจำแมงเม่าได้ สงสัยว่ามาอยู่กับกรมขุนวิมลได้อย่างไร
กรมขุนวิมลถามขันทองว่ามาได้อย่างไรกัน ขันทองบอกว่าตนออกเวรผ่านมาทราบว่าเสด็จทรงไหว้พระอยู่ จึงรอเพื่อถวายรับใช้ กรมขุนวิมลขอบน้ำใจ
เหล่มองแมงเม่าแล้วขอไหว้วานออกหลวงสักนิดเถิด
กรมขุนวิมลให้ขันทองไปส่งแมงเม่าแต่ให้ส่ง
ที่หลังวังซึ่งอ้อมกว่าออกทางหน้าวังมาก
ขันทองเดินเร็วๆนำแมงเม่าออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แมงเม่าตัดพ้อลอยๆว่า
“บางคนก็แปลกพิกล เคยพบเจอกันมาก่อนแท้ๆแต่กลับทำเป็นจำกันไม่ได้” แต่ขันทองไม่สนใจ
เดินนำลิ่วไป แมงเม่าทนไม่ได้ถามว่า “ออกหลวงศรีขันทินใช่หรือไม่เจ้าคะ”
ขันทองตอบหน้าเครียดขรึมว่าใช่ แมงเม่าหาเหตุเจรจาต่อ ถามว่าทราบหรือไม่ว่าเหตุใดเสด็จท่านถึงให้ออกหลวงมาส่งทางหลังวัง ขุนทองตอบหน้าตึงว่าตน
ไม่ควรรู้ หน้าที่ของบ่าวไพร่คือทำตามที่นายสั่งไม่ใช่ถาม
“หรือเจ้าคะ” แมงเม่าน้ำเสียงประชดในที ถามว่า “หากเสด็จท่านทรงใช้ให้ออกหลวงฆ่าตัวตาย ออกหลวงก็คงจะทำโดยไม่ถาม” แมงเม่าปั้นหน้ายิ้ม รำพึงสมเพช “พุทโธ่...ช่างตายโดยไม่รู้กระไรเลย”
ขันทองถูกยั่วจนสุดทน หันขวับจ้องหน้าเอาเรื่อง บอกว่าตนคาดเดาว่าเสด็จคงไม่อยากให้เจ้านายพระองค์อื่นทอดเนตรเห็นเจ้าจึงให้กลับมาทางหลังวัง แมงเม่าลอยหน้าถามอีกว่า เหตุใดจึงไม่อยากให้ทอดพระเนตรเห็นตน ขันทองถอนใจพรืด ตอบเสียงกระด้างว่า
“ฉันบอกแล้วว่าคาดเดา จะให้ตอบทั้งหมด
ไม่ได้ดอก เข้าเฝ้าเสด็จเมื่อใดก็ทูลถามเอาเองก็แล้วกัน ช่างถามนักไม่ใช่รึ”
“การถามเป็นสิ่งดีนะเจ้าคะ” แมงเม่าตีหน้าตายยอกย้อน “ไม่รู้สิ่งใดก็ไต่ถาม ปัญญาก็จะพอกพูนขึ้น หากทำตามอย่างเดียวโดยไม่ถาม ก็คงดักดานไม่ได้รู้สิ่งใดใหม่เพิ่มขึ้นมาเลยนะเจ้าคะ”
ขันทองยิ่งหน้าเครียด เบี่ยงตัวเดินนำลิ่วไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แมงเม่ามองตามขำๆ รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งหลวงศรีขันทิน ยิ้มขี้เล่นแล้วเร่งเดินตามไปติดๆ
ooooooo
ขันทองมาส่งแมงเม่าที่ประตูหลังวัง แมงเม่าไหว้เป็นพระคุณที่มาส่ง ขันทองพูดหน้านิ่งว่าไม่จำเป็น ตนทำตามคำสั่งของกรมขุนวิมลท่าน
“ไม่จำเป็นหรือเจ้าคะ” แมงเม่ายิ้มใสซื่อถาม “ออกหลวงคิดว่าถ้าฉันเดินกลับไปโดยไม่ไหว้ลา ไม่ขอบพระคุณสักคำ ออกหลวงจะไม่คิดตำหนิฉันในใจหรือเจ้าคะ”
ขันทองพยักหน้ารับบอกว่า “ฉันก็คงนึกในใจว่า
นอกจากเจ้าจะปากกล้าแล้วยังไร้มารยาทอีก ดีที่เจ้ายังมีมารยาทอยู่บ้าง”
แมงเม่าหน้าตึงทันทีถามว่า “อยู่บ้างหรือเจ้าคะ”
“หรือเจ้าเห็นว่าการเถียงผู้ใหญ่คำไม่ตกฟากเช่นนี้ เรียกว่ามีมารยาท”
“ไม่เจ้าค่ะ...แต่เรียกว่าเฉลียวฉลาด รู้จักเจรจาถามไถ่” แมงเม่าเชิดใส่ ขันทองขำพรืด ถูกมองขวับถามอย่างอยากมีเรื่องต่อ “มีกระไรขำเจ้าคะ”
“ฉันเพิ่งรู้...ว่านอกจากเจ้าจะเฉลียวฉลาด รู้จักเจรจาถามไถ่แล้ว ยังมีความสามารถยกตัวเองได้อีกด้วย” ขันทองเดินยิ้มๆจากไปอย่างสะใจที่ได้เอาคืนแมงเม่า
แมงเม่ามองตามอย่างเจ็บใจที่ตอบโต้แพ้ขันทองจนได้ พอกลับถึงเรือนเล่าให้มิ่งฟัง มิ่งตกใจถามว่าไปพูดกับพวกนักเทศน์ขันทีอย่างนั้นได้อย่างไร แมงเม่าทำหน้าตายถามว่าออกหลวงผู้นี้เป็นนักเทศน์ด้วยหรือ เทศน์กัณฑ์กระไรล่ะ พอถูกมิ่งเรียกปรามอย่างรู้ทันก็ปั้นหน้าจ๋อยเสียงอ่อยว่า
“ฉันเย้าเล่นน่ะพ่อ ฉันรู้ว่านักเทศน์คือคนด่างด้าวไม่ใช่คนไท”
ม่วงเห็นทีแมงเม่าจะเล่นลิ้นไม่สิ้นความ เลยพูดแทรกว่า
“ที่พ่อไม่อยากให้เอ็งทำอย่างนี้เพราะออกหลวงศรีขันทินผู้นี้เป็นผู้มีอำนาจฝ่ายใน แลพวกขันทียังมีอาญาสิทธิ์สามารถลงโทษผู้อื่นได้ จึงเกรงว่าเจ้าจะถูกลงโทษเอาน่ะสิ”
ชื่นเสริมว่าเราเป็นหญิงต่อล้อต่อเถียงกับชายมันไม่งาม คนจะค่อนแคะได้ว่าปากคอเราะราย แมงเม่าไม่วายแย้งว่าขันทีไม่ถือว่าเป็นชายเพราะตัดทิ้งแล้ว ชื่นตกใจที่แมงเม่ากล้าพูดขนาดนี้ มิ่งที่กำลังกินข้าวถึงกับสำลักไอโขลกๆ แมงเม่าเห็นท่าไม่ดีบอกให้น้าชื่น
เอาสำรับข้าวไปให้ตนที่ห้องด้วยแล้ววิ่งจู๊ดไปเลย
แมงเม่าวิ่งไปด้านหลังสวนกับอินที่ออกมาจากด้านใน พอม่วงเห็นอินก็หน้าตึงทันทีบอกมิ่งกับชื่นว่าตนอิ่มแล้วขอตัวก่อนแล้วลุกไปทันที อินมองตามม่วงเศร้า ไม่รู้จะแก้ปัญหาครอบครัวยังไงดี...
ooooooo
เจ้าจอมเพ็ญ แม้จะอายุ 30 แล้วแต่ยังสวยสดงดงาม แต่เพราะใจมีแต่ความอิจฉาริษยาอยากมีอำนาจบารมีและเป็นแม่หยั่วเมือง จึงทำทุกวิถีทางแม้กระทั่งการพึ่งทางคุณไสย
ค่ำนี้ เจ้าจอมเพ็ญและพระยาพลเทพกับลูกน้องแต่งกายในชุดชาวบ้านเดินไปในกลางป่า พระยาพลเทพกับลูกน้องถือดาบไล่ฟันไล่ฆ่าชาวบ้านที่ออกมาจับกบจับปลาอย่างโหดเหี้ยม
จมื่นศรีสรรักษ์ ญาติผู้น้องของเจ้าจอมเพ็ญเป็นขุนนางหน้าใหม่ที่เพิ่งได้รับยศจากการสนับสนุนของเจ้าจอมเพ็ญเดินมาติงพระยาพลเทพว่า
“ก็แค่พวกไพร่มาจับกบจับปลาตอนกลางคืนกลางค่ำเท่านั้น ท่านเจ้าคุณไม่น่าต้องทำขนาดนี้เลย”
“ฉันทำเช่นนี้ก็เพื่อพี่สาวของคุณพระนายเอง นั่นล่ะ เรื่องเช่นนี้จะให้ใครเห็นไม่ได้เป็นอันขาด หรือคุณพระนายไม่เข้าใจว่ากำลังทำกระไรอยู่”
จมื่นศรีสรรักษ์ไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่กล้ากับพระยาพลเทพ ขณะนั้นเจ้าจอมเพ็ญในชุดชาวบ้านมีผ้าคลุมหน้าเดินออกมาถามว่าทุกอย่างพร้อมแล้วหรือ พระยาพลเทพว่าพร้อมแล้ว รับรองว่านอกจากคนของเราแล้วจะ
ไม่มีใครรู้เห็นเรื่องนี้เป็นอันขาด เจ้าจอมเพ็ญยิ้มพอใจ บอกว่า “ถ้าเช่นนั้นก็พาฉันไปได้แล้ว”
อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 2 วันที่ 15 เม.ย.61
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ