อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 3 วันที่ 22 เม.ย.61

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 3 วันที่ 22 เม.ย.61

แมงเม่าเปลี่ยนเป็นยิ้มบอกว่ากลัวคุณหลวงโกรธ เอ่ยยอกย้อนล้อเลียนว่า “ฉันก็ไม่เคยพบเห็นผู้ใดโกรธเคืองได้น่าเอ็นดูเท่าคุณหลวงมาก่อนเลยเจ้าค่ะ”

“ยังจะมาย้อนอีกรึ ฉันโกรธก็เพราะสิ่งที่เจ้าทำน่ะแหละ”

“แต่ฉันว่าคุณหลวงไม่ได้โกรธฉันจริงดอกเจ้าค่ะ มิเช่นนั้นก็คงปล่อยให้ฉันเดินกลับมาเอง ไม่ตามมาส่งฉันถึงเรือนคุณท้าวโสภาดอก”

แมงเม่าเอาดอกไม้จากชายพกดอกหนึ่งให้ขันทองบอกว่ามันขึ้นอยู่ริมอ่างแก้วเลยเด็ดมา กะว่าพรุ่งนี้จะดูว่าดอกกระไรแต่เปลี่ยนใจให้คุณหลวงแทน ถือว่าแทนคำขอขมา แล้วไหว้ลาเลย



ขันทองมองตามแมงเม่าที่วิ่งเข้าเรือนไป หัวใจเริ่มหวั่นไหวเมื่ออยู่ใกล้แมงเม่ามากขึ้นทุกที...ทุกที...

ooooooo

เมื่อแมงเม่าวิ่งเข้าเรือนแล้ว ขันทองเดินกลับมาจนถึงบริเวณทางระบายน้ำที่ตนใช้แอบออกจากวังด้วยหัวใจว้าวุ่น มองดอกไม้และนึกถึงสัมผัสที่แมงเม่าจับมือเอาดอกไม้ให้แล้วหัวใจก็เต้นไม่เป็นส่ำ...

ขันทองเก็บดอกไม้ไว้ในอกเสื้อ สูดลมหายใจลึกๆแรงๆ พยายามตั้งสติเตือนใจตัวเองว่า

“จำไว้ขันทอง เจ้าเป็นจารบุรุษ หน้าที่ของเจ้าคือความลับแลล้างแค้นให้พ่อกับแม่ อย่าคิดเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น”

เมื่อตั้งสติได้แล้วสีหน้าขันทองกลับสู่ความสงบ เย็นชา ก่อนที่จะลงไปในทางระบายน้ำเพื่อออกจากวังอีกครั้ง

ooooooo

ที่ทางเปลี่ยว...พวกพันหาญเดินเอะอะเมาแอ๋กันมา จู่ๆก็ถูกพวกขุนแผลงฤทธิ์ที่ซ่อนอยู่จู่โจมเข้าทำร้ายจนล้มกลิ้ง พลันก็มีเสียงร้องอย่างหวาดกลัว ขุนแผลงฤทธิ์ชะงักเมื่อเห็นหน้าพวกนั้นชัดๆ เอาดาบชี้หน้าถาม

“ไม่ใช่อ้ายหาญรึ”

คนหนึ่งบอกว่าตนชื่อชื่น กลับจากเที่ยวที่โรงรับชำเรา มีคนเลี้ยงพวกตนแล้วให้ออกมารอที่สวนผลไม้ตรงหัวโค้ง พอพวกนั้นออกมาก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากับพวกตนแล้วให้พวกตนเดินมาทางนี้ ขุนแผลงฤทธิ์จึงรู้ว่าหลงกลแล้ว จึงย้อนกลับไปตามล่าพันหาญกับพวกทันที

ขุนแผลงฤทธิ์ตามมาทัน พันหาญจึงสู้เปิดทางให้ลูกน้องแยกกันหนีจนถึงสะพานข้ามคลอง แต่เพราะพวกขุนแผลงฤทธิ์มีมากกว่าและการต่อสู้มีวิชาจึงเข้าล้อมพวกพันหาญไว้ พันหาญถูกขุนแผลงฤทธิ์ฟันที่ขาจนทรุดและเข้าเตะต่อยซ้ำจนเลือดกบปากนอนแน่นิ่งอยู่กลางสะพาน

ขุนแผลงฤทธิ์จะเข้าจับเป็นเพื่อหาตัวผู้บงการ พลันก็มีไม้ไผ่ลำหนึ่งพุ่งเข้าใส่จนขุนแผลงฤทธิ์ต้องถอยจากสะพานเพื่อตั้งหลัก เห็นชายคนหนึ่งโพกผ้าปิดบังใบหน้าเดินขึ้นสะพานมาจากอีกฟากหนึ่ง พันหาญอุทาน

“พ่อขันทอง”

ขันทองยืมดาบจากพันหาญเข้าสู้กับขุนแผลงฤทธิ์ ขุนแผลงฤทธิ์มีประสบการณ์เหนือกว่าแกล้งทำเป็นเสียเปรียบ ขันทองหลงกลบุกเข้าไปถูกฟันที่ไหล่ขวา จึงเปลี่ยนดาบมามือซ้ายบุกสวนสู้กับขุนแผลงฤทธิ์ จนฟันเข้าที่หัวไหล่ขุนแผลงฤทธิ์เช่นกัน ขุนแผลงฤทธิ์บาดเจ็บ ตะโกนสั่งลูกน้อง “รุมมัน ฆ่ามันให้จงได้”

พันหาญเห็นขันทองถูกรุมจึงพยายามลุกไปช่วย ขุนแผลงฤทธิ์ลำพองใจตะโกนให้ฆ่าตายเสียทั้งคู่เลย พลันก็มีเสียงชายคนหนึ่งขัดขึ้นอย่างห้าวหาญว่า

“ก็ไม่แน่นักดอก”

เขาคือหลวงพิชัยอาสาในวัย 22-23 ปี ดูล่ำสันแข็งแรง ควงดาบคู่ฟันใส่ลูกน้องขุนแผลงฤทธิ์ บ้างล้มตายที่เหลือตกใจกับฝีมือเพลงดาบจนถูกฟันล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ขันทองทึ่งกับเพลงดาบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“หลวงพิชัยอาสา” พันหาญจำได้ ขันทองถามว่าน้าพันหาญรู้จักรึ แต่พันหาญไม่ทันตอบก็มีเสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังอย่างเยือกเย็นว่า

“ถ้าจำไม่ผิด เราเคยพบกันอยู่สองสามครา ใช่หรือไม่หัวพัน”

“ท่านเจ้าคุณ” พันหาญอุทานอย่างคิดไม่ถึง

ที่แท้ท่านผู้นี้คือ พระยาตากนั่นเอง! พระยาตากมองขันทองบอกว่า

“เจ้าไม่รู้จักเพลงดาบของหลวงพิชัยก็มิแปลก ด้วยหลวงพิชัยอาสาผู้นี้ร่ำเรียนทั้งมวยไทย มวยจีน แลยังเอาวิชาทั้งสองมาประยุกต์รวมกันเป็นทางมวยจำเพาะตัว รวมไปถึงวิชาดาบอีกด้วย ดั่งตำนานที่ว่าดาบคือมวย มวยก็คือดาบ เพลงดาบของหลวงพิชัยจึงเป็นเพลงดาบที่เป็นเอกเทศไม่เหมือนผู้ใด”

ขุนแผลงฤทธิ์เห็นลูกน้องล้มตายมากจึงกัดฟันบุกเข้าใส่หลวงพิชัย ถูกหลวงพิชัยฟันเข้าที่ลำตัวแต่หลบทันจึงถูกปลายดาบเป็นแผลที่หน้าอก

“หนี หนีเร็ว” ขุนแผลงฤทธิ์เริ่มกลัวตะโกนสั่ง ลูกน้องที่เหลือพากันหนีกระเซอะกระเซิงไป

ooooooo

ใกล้รุ่งแล้ว...ขันทองประคองพันหาญเข้าไปในวัดเพื่อทำแผล พระยาตากกับหลวงพิชัยตามไป พระยาตากบอกว่าที่ช่วยพันหาญเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายใช้วิธีหมาหมู่และปกปิดหน้า ส่อให้เห็นว่ากระทำเรื่องไม่ดีงาม

พระยาตากถามว่าพันหาญกำลังทำอะไรอยู่ หากไม่ตอบก็จำเป็นต้องจับตัวกลับไป ขันทองสาบานต่อหน้าองค์พระว่า สิ่งที่พวกตนทำอยู่ไม่ใช่สิ่งผิดทุรยศต่อบ้านเมืองแลหากทำสำเร็จยังเป็นการช่วยบ้านเมืองอีกด้วย

“แต่ด้วยสัจวาจาที่กระผมรับมาจากผู้จ้างวาน พวกกระผมจึงไม่อาจบอกได้แม้ว่าหัวจะหลุดจากบ่าเสียตรงนี้ก็บอกไม่ได้ขอรับ”

“แววตาเจ้ามิคล้ายคนโกหก เอาเถิดฉันจะเชื่อสักครา” พระยาตากเอ่ยพลางเอาห่อยาสมานแผลให้

พันหาญถามว่าเหตุใดท่านเจ้าคุณถึงมาอยู่ที่อโยธยาแล้วก็มากันเพียงสองคนเท่านั้น พระยาตากบอกว่ามีข้อราชการสำคัญต้องมาชี้แจงด้วยตนเอง แต่ไม่อยากให้เอิกเกริกจึงมาจากเมืองตากกับหลวงพิชัยสองคนและมาเจอหัวพันพอดี

หลวงพิชัยชมพันหาญว่าฝีมือดาบดีและไหวพริบก็หายากยิ่ง แต่ต่อสู้มาน้อยชั้นเชิงก็เป็นรองอ้ายคนคนนั้น หากเจอกันคราหน้าต้องรีบเอาชัยโดยเร็ว อย่าปล่อยให้มันใช้ชั้นเชิงเช่นนี้อีก พันหาญไหว้บอกว่าจะจำคำสอนของคุณหลวงไว้

เมื่อพระยาตากกับหลวงพิชัยไปแล้ว ขันทองถามพันหาญว่ารู้จักพระยาตากผู้นี้มานานแล้วรึ

“ก็สักสามสี่ปีแล้ว น้าเป็นทหารอาสา มีศึกเกิดขึ้นจึงมีโอกาสได้ร่วมรบกับท่านอยู่บ้าง”

พันหาญเล่าถึงพระยาตากว่า ท่านเป็นคนจีน ก่อนรับราชการก็เป็นพ่อค้าเกวียนขายในแถบหัวเมืองเหนือ เรียกขานกันว่าสิน เมื่อถูกโจรดักปล้นสินนั่งอยู่บนหลังม้าชำนาญในพิชัยสงครามเป็นที่เลื่องลือในหัวเมืองเหนือ จึงเอาชนะพวกโจรได้ พันหาญเล่าเหตุการณ์เมื่อ 10 ปีก่อนว่า

“พระยาตากท่านก่อนได้ยินกิตติศัพท์จึงชวนท่านมารับราชการในตำแหน่งยกกระบัตรเมืองตาก ต่อมาพระยาตากท่านก่อนป่วยตาย ท่านเจ้าคุณจึงได้ขึ้นเป็นพระยาตากแทน แต่คนทั่วไปมักจะเรียกท่านว่า ‘พระยาตากสิน’”

ฟังเรื่องพระยาตากจากพันหาญจนจวนรุ่งสาง พันหาญบอกให้ขันทองกลับไปและให้ระมัดระวังด้วยเพราะพวกมันรู้แล้วว่าตนเป็นคนช่วยบุตรสาวเศรษฐีมิ่ง มันจำเพลงดาบของน้าได้ มันอาจจะระแคะระคายเรื่องขันทองขึ้นมาก็ได้

“มันเพิ่งรู้เมื่อประดาบ แสดงว่าการที่พวกมันจะฆ่าน้าพันหาญหาได้เกี่ยวข้องกับเรื่องบุตรสาวเศรษฐีมิ่งไม่ แต่พวกมันต้องการฆ่าเพราะตัวน้าพันหาญเองต่างหาก”

พันหาญถามว่าแล้วออกญาพลเทพจะฆ่าตนเพื่อกระไรเพราะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางต่อกัน ฉุกคิดได้ถาม...หรือว่า...

“ไม่ต้องคิดอีกแล้วน้าพันหาญ ศัตรูที่เราเพียรหามานานปี คนที่หักหลังพ่อ หลอกให้พ่อไปตายด้วยน้ำมือพวกอังวะก็คือนายเก่าของพ่อ ออกญาพลเทพผู้นี้นั่นแหละ!”

ฝ่ายพระยาพลเทพฟังขุนแผลงฤทธิ์รายงาน แล้วถามว่าแน่ใจหรือว่าคนที่ขัดขวางเราไม่ให้ได้หนังสือลับมาคืออ้ายหาญ ขุนแผลงฤทธิ์บอกว่าเพลงดาบโกหก ไม่ได้ แต่คนที่มาช่วยมันมีฝีมือสูงนัก ตนไม่ใช่คู่มือเลย

“เรื่องนั้นฉันจะจัดการเอง แต่ที่อ้ายหาญมันต้องการหนังสือลับเช่นกัน ก็แสดงว่ามันต้องระแคะระคายว่าหนังสือนั่นคือกระไร แลอาจจะรู้ด้วยว่าอ้ายเสือขุนทองลูกพี่มันตายด้วยน้ำมือผู้ใด” พระยาพลเทพบอกขุนแผลงฤทธิ์ที่อาสาจะตามไปฆ่าพันหาญว่า “เรื่องอ้ายหาญเป็นเรื่องรองไปแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดเพลานี้คือเราต้องได้หนังสือลับกลับคืนมาก่อน ไม่ว่าจะต้องฆ่าผู้ใดมากเท่าไหร่ก็ตาม”

พระยาพลเทพสั่งสีหน้าเหี้ยมเกรียม

ooooooo

อ่านละคร หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ตอนที่ 3 วันที่ 22 เม.ย.61
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทประพันธ์โดย วรรณวรรธน์
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว บทโทรทัศน์โดย เอกลิขิต
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ