อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 8 วันที่ 6 มี.ค.61

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 8 วันที่ 6 มี.ค.61

“คอร์รัปชัน...ขี้โกงหรือ คนอย่างออกญาโกษาเหล็กจะขี้โกงจริงเหรออาจ๊าน...อาจารย์ มันเป็นประวัติศาสตร์ อาจจะถูกเขียนสมัยหลังก็ได้ ความจริงคืออะไร...” เกศสุรางค์บ่นแล้วนึกต่อที่อาจารย์เล่าว่า สาเหตุที่ท่านต้องอาญาโบยจนตาย คือมีผู้ไปทูลพระนารายณ์ว่าท่านรับสินบนพวกไพร่ที่ไม่อยากสร้างป้อมปราการตามรับสั่งให้สร้าง แต่ใครเป็นคนไปทูลไม่ปรากฏข้อมูลในประวัติศาสตร์ ...คิดแล้วให้อยากรู้ยิ่งนัก

ขณะที่ออกญาโหราธิบดีนั่งทำงานอยู่หอกลาง มีขุนศรีวิสารวาจาและจ้อยช่วยอยู่ข้างๆ เกศสุรางค์ถือสมุดที่จดเดินฉับๆออกจากห้องมานั่งตรงหน้าออกญา ทำเอาท่านสะดุ้งลูบอก



“ลุงแก่แล้วหนาออเจ้า กะพรวดกะพราดเข้ามาอย่างนี้ ลุงตกใจแค่ไหนออเจ้านึกฤาไม่”

“คุณลุงไม่ตกใจหรอกค่ะ คุณลุงเก่ง” เห็นออกญาทำหน้างง “คืออย่างนี้นะคะคุณลุง ข้าอยากเรียนถามคุณลุงว่า นายคอนสแตนตินกับออกญาโกษาเหล็กเนี่ย...”

ทันใดเห็นปริกเดินขึ้นเรือนมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น ตรงไปรายงานจำปาซึ่งนั่งห่างออกไป พลันจำปาก็เรียกจิก จวงให้ตามลงเรือนไปทันที...เกศสุรางค์อ้าปากค้าง

ท่านขุนรู้ใจแย็บว่า

“แม่การะเกด ถ้าออเจ้าไม่ตามลงไป ข้าจะแปลกใจเป็นอันมาก”

เกศสุรางค์ลุกพรวดเดินเร็วไปทันที ออกญาและท่านขุนหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินตามไป ที่ลานบ้านข้างล่างปริกรายงานจำปาว่า บ่าวรุ่งกับบ่าวใบและบวบลูกสาวสองขวบ มีอาการหายใจหอบตัวโยน หนาวสั่น เหลือเพียงบุญลูกสาวหัวปีที่ไม่มีอาการ พูดไม่ทันขาดคำ บ่าวชายช่วยกันหามศพสามพ่อแม่ลูกห่อด้วยเสื่อออกมา บุญเดินตามร้องไห้ จำปาตกใจสั่งจิกกับจวงดูแลบุญ

จวงรายงานว่ามีอีกหลายคนที่ป่วย เกศสุรางค์ฟังแล้วโพล่งขึ้นว่าเป็นอาการของโรคมาลาเรีย ทุกคนหันมองไม่เข้าใจ เธอจึงพูดใหม่ว่าไข้ป่า วิธีแก้ต้องไม่ให้มียุง ปริกสวนทันที

“ฟังดูมันง่ายเหลือเกินนะคะแม่หญิง จะทำยังไรเจ้าคะ”

บ่าวคนอื่นๆซุบซิบไม่เชื่อถือ เกศสุรางค์จึงให้มาช่วยกัน ปริกจะไม่ไป จำปาสั่งไปดูให้รู้แจ้ง เกศสุรางค์แกล้งเร่งให้ปริกเดินตามเร็วๆ พลาดแล้วจะหาว่าไม่เตือน ปริกฟังไม่เข้าใจถามผินกับแย้มว่าแม่นายพูดอะไรชอบกล ผินกับแย้มจะเถียงก็พอดีเกศสุรางค์จงใจทำเสียงดังให้หยุดทะเลาะกันพร้อมกับชี้นิ้วว่า...เจอแล้ว พื้นดินที่เป็นแอ่งมีน้ำขังแล้วสั่งให้กลบให้หมด

หม้อดินหรือกระถางที่แตกให้คว่ำน้ำทิ้ง พอมาเจอโอ่งหลายใบไม่มีฝาปิด ก็ถามว่าใครดูแล ทุกคนชี้ไปที่ปริก จึงบอกให้หาฝามาปิดและเปิดเวลาที่ใช้ ปริกหาว่ายุ่งยาก ทำไมต้องทำ เกศสุรางค์เสียงเข้มว่า

ตนสั่ง บ่าวทุกคนกุลีกุจอทำตามคำสั่ง

พอกลับขึ้นเรือน ปริกตามมากระแทกตัวนั่งข้างจำปา จำปาถามเป็นอะไรหน้าเป็นตวัก ปริกฟ้องว่ามาสั่งให้ตนปิดฝาโอ่ง จำปาย้อนถามไม่ได้ปิดทุกวันหรือ พอปริกตอบว่าเปล่า

“ทำไมล่ะ ขี้ฝุ่นขี้ผงมิลงไปลอยฟ่องฤา แล้วเอ็งก็ตักมาต้มแกงให้ข้ากิน” จำปาเสียงเข้ม ปริกจ๋อยลง บ่าวคนอื่นหัวเราะ ปริกหันไปโวยเบาๆหัวเราะอะไร จำปาเอ็ด “มันก็หัวเราะเอ็งนั่นแหละ หน็อย เดินหน้าตั้งขึ้นมาหมายจะฟ้องข้า ต่อไปจะปิดฝาโอ่งไหม”

“ปิดเจ้าค่ะ...ปิดแล้วเจ้าค่ะ” ปริกก้มหน้ารับคำขมีขมัน

“คุณป้าเจ้าคะ ที่ไม่สบายเพราะกลางคืนนอนไม่กางมุ้ง ยุงกัดเจ้าค่ะถึงเป็นไข้ป่ากันทั่ว”

จำปาว่าไม่มีมุ้งแล้วพวกบ่าวจะเอามุ้งที่ไหน

เกศสุรางค์รีบบอกว่าตนจะซื้อให้ ทุกคนหันขวับมามอง ออกญาบอกแก่ลูกชายว่า

“เอากับนางสิพ่อเดช”

“ข้ามิแปลกใจเลยขอรับคุณพ่อ”

“จะซื้อมุ้งให้บ่าว ออเจ้าวิปลาสไปจริงๆ ไม่มีผู้ใดทำกันหรอกหนา แม่การะเกด ออเจ้าอย่าให้มากเกินไปนักเลย” จำปาเอ็ดซ้ำ

เกศสุรางค์จ๋อย...ค่ำนั้นเมื่อทุกคนหลับหมด เธอย่องออกจากห้องเดินตรงมายังห้องขุนศรีวิสารวาจา เปิดประตูแล้วค่อยๆชะโงกเข้าไปกวาดตามอง เห็นไฟตะเกียงตั้งไว้ดวงหนึ่ง ไม่เห็นตัวก็บ่นว่าไปไหน ทันใดเสียงท่านขุนดังขึ้นข้างหลังว่าอยู่นี่ เธอสะดุ้งหันกลับมาเผชิญหน้าใกล้ๆ ใจเริ่มสั่นไหวจนต้องเตือนตัวเองว่าอย่าเพิ่งเล่นบทคู่จิ้น แล้วคว้าข้อมือเขา

“คุณพี่...มาตรงสว่างๆค่ะ เอ้า คุณพี่ซื้อมุ้งให้บ่าวนะเจ้าคะ นี่เงินค่ะ” วางห่อเงินในมือเขา เห็นท่านขุนนิ่งมองก็ย้ำ “คุณพี่...ไม่ได้ยินเหรอเจ้าคะ”

“ได้ยิน...ไม่แปลกใจอันใด คิดอยู่แล้วว่าออเจ้าต้องหาทางจนได้ ก็มีข้าคนเดียวนี่แหละที่ออเจ้าจะมาบังคับขู่เข็ญให้ทำตามที่ออเจ้าอยากทำ”

เกศสุรางค์ตบมือเบาๆ “คุณพี่เก๊ง...เก่ง น่ารักที่สุดเลย งั้นข้ากลับห้องนะเจ้าคะ อยู่นานไม่ดีเดี๋ยวใครเห็นเป็นเรื่องอีก”

ท่านขุนแกล้งว่ารู้ว่าไม่ดีแต่ยังทำ เกศสุรางค์ย้อนว่าแป๊บเดียวไม่เป็นอะไร ท่านขุนส่ายหน้าฟังไม่เข้าใจ หญิงสาวพูดขำๆว่าฟังไปเรื่อยๆก็รู้เอง แต่แล้วท่านขุนจับมือเธอไว้แล้วคืนห่อเงินให้ รุนหลังเธอให้ออกไปพ้นห้องพร้อมบอกว่าตนจะใช้เงินของตนซื้อเอง...

ท่านขุนปิดประตู เกศสุรางค์อมยิ้มบ่นว่า...แมนจริงๆ ท่านขุนได้ยินแต่ไม่เข้าใจตามเคย

ooooooo

รุ่งเช้า เกศสุรางค์ยังไม่หยุดเรื่องซื้อมุ้ง ซักถามผินกับแย้มว่ามุ้งราคาหลังละเท่าไหร่ แล้วให้ช่วยนับเบี้ยในถุงของตนว่ามีเท่าไหร่ ผินนับแล้วบอกว่าไม่พอซื้อ เธอจึงให้อีกหนึ่งบาทและถามแลกเบี้ยได้เท่าไหร่ แย้มบอกหนึ่งบาทมี 8 เฟื้อง เฟื้องหนึ่งมี 800 เบี้ย ซื้อมุ้งได้ 4 หลัง

“เฟื้องหนึ่งได้มุ้งตั้ง 4 หลัง บาทนึงก็ได้มุ้งตั้ง 32 หลัง โห...ซื้อมาถมที่เลยนะเนี่ย บาทเดียว เดี๋ยวนี้น้ำแข็งเปล่ายัง 2 บาท” เห็นสองบ่าวงง เกศสุรางค์จึงเร่งให้เอาเงินไปแจกบ่าวซื้อมุ้ง

เกศสุรางค์ยืนมองห่างๆ ดูผินกับแย้มแจกเงินบ่าว ทุกคนยกมือไหว้มาทางเธอ สักพักผินวิ่งมาบอกว่าเงินไม่พอ ขาดอีกสิบกว่าหลัง เกศสุรางค์จะวิ่งกลับขึ้นเรือนก็ชนโครมเข้ากับขุนศรีวิสารวาจา  เธอโวยว่าเขามายืนขวาง แต่เขาย้อนว่าเธอวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือเอง “ไหนม้า...ไหนเรือ” เกศสุรางค์กวน

ท่านขุนทำตาดุก่อนจะพูดดีด้วย “ประเดี๋ยวเหอะ...ข้ารู้ออเจ้ามีเงินมากโขอยู่ แต่เรื่องซื้อของให้บ่าวในบ้านเป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้าน”

“ไม่เป็นไรค่ะ ข้า...” เกศสุรางค์พูดไม่ทันจบ ท่านขุนสวนว่าจำปาเรียกหา เธอแกล้งกวน “เรียกข้ารึ...”

“บอกเจ้า...จะให้เรียกใคร”

“เอ๊า คุณพี่บอกเรียกคนชื่อหา ไงคะ” ท่านขุนทำตาดุใส่ เธอหัวเราะเบาๆ “ไปสิคะ รออะไรอยู่...ไปโลด” ว่าแล้วก็วิ่งปรู๊ดออกไป ท่านขุนมองตามอย่างหน่ายใจไม่เข้าใจคำพูด

จำปายื่นห่อเงินให้เกศสุรางค์เป็นค่ามุ้งสองบาท เธอก้มกราบด้วยความซาบซึ้งใจแล้วประจบว่า รักคุณป้า จำปาทำหน้าไม่ถูก โบกมือไล่ให้ไปแต่แอบอมยิ้มนิดๆ...

เกศสุรางค์หันมาเจอขุนศรีวิสารวาจาก็ชะงัก รู้ว่าเขาจัดการให้ ท่านขุนเน้นย้ำ

“ภายหน้าอย่าทำเช่นนี้ บ่าวของข้า ของคุณพ่อ ของคุณแม่ เราจักเป็นคนดูแล”

“แป๊บนะคะเอาตังค์ให้พี่ผินก่อน” เกศสุรางค์ยิ้มแต้ก่อนจะวิ่งออกไป

“กระโดกกระเดกเหลือทน ถึงวันแต่งจะกำราบปราบปรามให้สงบลงได้ฤาพ่อเดช”

“คุณแม่ไม่ต้องเร่งนางนะขอรับ ข้ารู้สึกว่านางยังไม่อยากแต่งกับข้า”

จำปาย้อนถามความรู้สึกของท่านขุน เขากลับบอกว่าไม่พะวงถึงตัวเอง พะวงแต่นาง...เกศสุรางค์แอบฟังรู้สึกหวั่นไหวในใจ

ooooooo

เช้าวันใหม่ ฟอลคอนมาพบออกญาโกษาธิบดีที่เรือน จันทร์วาดแอบได้ยินหลวงสรศักดิ์มาฟ้องออกญาว่า ฟอลคอนสมคบกับฝรั่งอังกฤษโกงบริษัทที่ค้าขายของตัวเอง คุณหญิงนิ่มใคร่รู้

“ฝรั่งสองคนทำงานให้บริษัทค้าขายอังกฤษ มาซื้อสินค้าจากพระคลังสินค้า บอกว่าจะซื้อให้บริษัท นายก็องสตังซ์ก็ขายให้ แต่ฝรั่งสองคนเอาไปขายส่วนตัวเจ้าค่ะ” จันทร์วาดเล่า

แต่แล้วฟอลคอนก็เอาตัวรอดได้ โดยทำทีตกใจเมื่อรู้เรื่องจากออกญาโกษาธิบดี ท่านเชื่อสนิทใจว่าฟอลคอนเป็นคนดีซื่อตรง ฟอลคอนแอบยิ้มกระหยิ่มใจ พอลากลับเห็นชาวบ้านมากันหลายคน หอบเครื่องทองเหลือง แพรพรรณและตะลุ่มใส่ผลไม้มากมายมากำนัลออกญา โดยคุณหญิงนิ่มต้อนรับเชื้อเชิญอย่างดี ก็ยิ้มในหน้า

วันต่อมา เกศสุรางค์คลานเข่าเข้ามานั่งตรงหน้าออกญาโหราธิบดี ขณะที่ท่านกำลังบอกให้ทนายหน้าหอจดงาน ท่านมองอย่างเอ็นดู รู้ว่าเธออยากคุยเรื่องที่ค้างไว้วันก่อน

“เจ้าค่ะ วันนั้นข้าจะเรียนถามคุณลุงว่า เมอซิเออร์ก็องสตังซ์เขาซื่อสัตย์ต่อท่านออกญาโกษาธิบดีหรือไม่เจ้าคะ”

อ่านละคร บุพเพสันนิวาส ตอนที่ 8 วันที่ 6 มี.ค.61

ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทประพันธ์โดย รอมแพง
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส บทโทรทัศน์โดย ศัลยา
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส กำกับการแสดงโดย ภวัต พนังคศิริ
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ